ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“เจ้าช่างกลับกระล่อนยิ่งนัก เจ้าไม่ได้สาปแช่งมัน แต่เจ้าติดต่อกับมัน”
“เห็นได้ชัดว่าเจ้าอยู่ข้างเดียวกับมัน นอกจากนี้เจ้ายังมีเด็กหญิงที่แปลกๆอยู่ด้วยอีก”
“เด็กหญิงคนนั้นช่างวิเศษอย่างมาก แม้ว่าเธอจะไม่มีระดับการบ่มเพาะ แต่เธอก็มีพลังที่คนธรรมดาไม่มี นอกจากนี้เป็นไปไม่ได้คนธรรมดาจะเป็นแบบเธอได้ ข้าจึงคิดว่าเธอน่าจะเกี่ยวข้องกับอสูรนั่น”
“แล้ว เธอยังอยู่กับเจ้า นั่นได้บ่งบอกทุกอย่างแล้ว.” หย่า เฟยไม่ใช่คนธรรมดา เธอไม่เชื่อชูเฟิงและเริ่มจับผิดเขา
“เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร เห็นได้ชัดว่าข้าสาปแช่งมัน น้องชายของข้าตายก็เพาะมัน ดังนั้นข้าจึงเกลียดทุกอย่างที่เกี่ยวกับมัน ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถเอาชนะมันได้ ข้าจึงได้แต่สาปแช่งมัน”
“ส่วนเรื่องเสี่ยวยู่ ข้ารู้ว่าเธอนั้นวิเศษมาก แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไมนางถึงมาติดข้า ด้วยบางอย่างข้าจึงไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะมาร้าย”
“เพียงเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าเจ้าพูดใส่ร้ายข้า ว่าข้าอยู่ข้างเดียวกับอสูรนั่น ถ้าเจ้าจะยืนยันเช่นนั้นข้าก็ไม่มีคำพูดอะไร”
“เจ้าเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะประหารแท้ๆแต่เจ้าก็ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย มันจะทำให้คนอื่นมองเจ้าไม่ดีนะ แม่นางหย่า เฟย” ชูเฟิงรู้ว่า หย่า เฟย ไม่สามารถขยายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอสูรนั่นได้ เขาจึงค้านหัวชนฝา
“โฮ่.” แต่หลังจากได้ยินนคำพูดของชูเฟิง หย่า เฟย ก็ไม่ได้พูดอะไร ต่อจากนั้น เธอก็ยิ้มขึ้นมา แต่รอยยิ้มของเธอนั้นแปลกมาก มันทำให้ชูเฟิงที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับขนลุก
“ดี!!! ถ้าเป็นเช่นนั้น ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า ข้าก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แล้วพบกันใหม่นะ.” เมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ชูเฟิงก็ทำท่าจะจากไป
“อ๊ากก!”
อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะได้ไป เขาก็ได้ยินเสียงดัง “ ฉ่า ” และเขาก็เหนว่าหัวไหลของเขาถูกโจมตีโดย หย่า เฟย
แต่นั่นก็ไม่ได้จบเช่นนั้น ชูเฟิงรู้สึกว่ามีพลังไหลเข้ามาตัวเขา และมันได้โจมตีอวัยวะภายในของเขา
“อ๊ากก~~~”
ความเจ็บปวดที่รุนแรงนั้นทำให้ชูเฟิงร้องออกมาดังลั่น เขาต้องการร้องเสียงดังเพื่อให้คนอื่นได้ยิน ที่สำคัญที่สุดเขาต้องการให้อสูรได้ยินและหวังว่ามันจะช่วยเขา
แต่มันก็ไร้ประโยชน์ ไม่มีใครปรากฏขึ้นใกล้เขาเลย หย่า เฟย ไม่ได้หยุดเพราะชูเฟิงร้อง เธอยิ้มอย่างโหดเหี้ยมและเข้าไปกระซิบกับชูเฟิงว่า” เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปเพราะความดื้อรั้นของเจ้าหรือ ข้าจะให้เจ้าได้พูดความจริงออกมา ให้ได้”
“อ๊ากก~~~~”
หลังจาก หย่า เฟย พูด ชูเฟิงก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างหนักในร่างกายเขา มันทำให้เขาเหงื่อไหลอย่างรวดเร็วและเริ่มที่จะหมดแรง ดวงตาของเขาเริ่มพร่ามัว และ เขาเริ่มที่จะครองสติไว้ไม่อยู่
หลังจากเวลาผ่านไป ชูเฟิงก็ได้สติอีกครั้งเมื่อเขาลืมตาขึ้น เขาก็พบว่าเขานั้นนอนอยู่ในวัง และวังนั่นงดงามมาก ราวกับสร้างเพื่อฝังศพพระราชา
แต่ในตอนนั้น เขาก็พบว่าเขาถูกมัดด้วยพลังที่แข็งแกร่งและถูกตรึงไว้ที่ไม้กางเขน
ไม่ไกลจากเขา มีคนคนหนึ่งยืนอยู่ คนคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก หย่า เฟย
“บัดซบ.” หลังจากเห็น หย่า เฟย เขาก็สาปแช่งเธอในใจเขา เขารู้สึกว่าหย่า เฟยนั้นจะทรมาน เพื่อสอบสวนเขา
“โอ้ เจ้าตื่นแล้ว” เมื่อเห็นชูเฟิงตื่น หย่า เฟย ก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม
หลังจากเธอพูดเธอก็ขยับมือขาวๆของเธอและนั่นเผยให้เห็นมีดที่เกิดจากพลังระดับเจ้าแห่งสงครามในมือเธอ
“เจ้าจะทำบ้าอะไร ยายซาดิส”
ชูเฟิงขมวดคิ้วแน่น เขารู้ว่าหย่า เฟย ต้องมีแผนที่จะทำบางอย่างกับเขา ถ้าสิ่งที่เขาคิดถูกต้อง หย่า เฟย นั้นไม่ใช่คนดี เธอนั้นไม่สนใจอะไรนอกจากเป้าหมายของเธอ
เธอเป็นผู้หญิงที่งดงาม และมีความสามารถที่โดดเด่นมาก แต่ลึกๆแล้วที่เธอซ่อนไว้คือพิษร้ายในตัวเธอ
“เอ๋ กลัวอย่างนั้นหรือ” หย่า เฟย ไม่ตอบเขา และเดินเข้าไปที่เขาเธอเริ่มใช้มีดในมือเลื่อนไปรอบๆตัวชูเฟิงและนั่นมันทำให้น่าหวาดเสียวมาก
“กลัวอย่างนั้นหรือ ตั้งแต่เกิดมาข้าไม่เคยรู้สึกถึงคำว่ากลัวซักครั้ง.” ชูเฟิง พูด
“โอ้ เจ้าช่างพูดมากเสียจริง สงสัยข้าต้องทำบางอย่างเพื่อให้เจ้าเงียบเสียแล้ว” หย่า เฟย พูดด้วยรอยยิ้ม
“ข้าเคยบอกไปแล้ว ตอนนี้ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า ถ้าเจ้าจะข้าฆ่าก็เอาเลย ถ้าเจ้าจะลอกหนังข้าก็จัดการเลย ข้า ชูเฟิงจะไม่ส่งเสียงแม้แต่นิดเดียว.”
เมื่อตกอยู่ในเงื้อมมือของ หย่า เฟย ชูเฟิงก็ได้แต่โทษที่เขาประมาท และ ความสามารถที่อ่อนด้อยของเขา แม้ว่าเธอจะข้าเขา เขาก็จะได้ไม่รู้สึกแค้น แต่ในตอนนั้นชูเฟิงรู้สึกว่าผลที่จะมานั้นเลวร้ายอย่างยิ่ง
“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้าจะทนได้แค่ไหน” เมื่อได้ยินคำพูดชูเฟิง ใบหน้าของ หย่า เฟย เปลี่ยนเป็น เย็นวาบ จากนั้นเธอก็แทงมีดไปที่หน้าอกของชูเฟิงดังฉึก
อย่างไรก็ตามเมื่อมีดได้ถูกแทงมาที่หน้าอกเขา เขาก็กัดฟันแน่นและไม่ส่งเสียงร้องใดๆ
“ฮึ่ม.” เมื่อเห็นชูเฟิง หย่า เฟย ก็แค่นเสียงอย่าเย็นชา จากนั้นเธอก็เคลื่อนมือเธอเพื่อสร้างบาดแผลให้ใหญ่ขึ้น
ไม่ว่าเขาจะทนมากแค่ไหน ใบหน้าของเขาก็เริ่มซีดขาวและเย็นยะเยือก จากนั้นก็มีเหงื่อไหลออกมา
แต่ถึงกระนั้น ชูเฟิงก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมา จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “ เจ้าทำได้แค่นี้หรือแม่นาง ยังไงเจ้ามันก็เป็นผู้หญิงอยู่วันยังค่ำ ดูเหมือนเจ้าต้องการให้ข้าสอนเจ้าเรื่องวิธีทรมารคนอย่างนั้นสินะ”
“ฮึ่ม เจ้าคิดว่าจะสามารถสอนข้าได้อย่างนั้นหรือ” หลังจากพูดจบเธอก็หงายฝ่ามือขึ้นและนั่นก็ปรากฏเป็นกล่องไม้บนฝ่ามือเธอ
*ฮึ่ม*
และเมื่อกล่องไม้นั่นปรากฏขึ้น มันก็มีรูปแบบวิญญาณอยู่ และในรูปแบบนั้นก็มีแมลงสีแดง ขนาดพอพอกับมดอยู่
แมลงพวกนั้นน่ารังเกียจมาก แม้มันจะขนาดเล็ก พวกมันก็มีกรงเล็บสีดำและสร้างเสียง ฉี่ฉี่ ทำให้น่าขนลุกมาก
หลังจากแมลงพวกนี้ปรากฏตัวขึ้น หย่า เฟย ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “เจ้าคงจะคิดว่าข้าโง่ที่ใช้มีดกับเจ้าสินะ เจ้าผิดแล้วข้าแค่จะสร้างแผลสดๆเพื่อสนองพวกมัน”
“เจ้ารู้หรือเปล่าว่าพวกนี้คืออะไร พวกมันคือแมลงกลืนวิญญาณ พวกมันจะเข้าไปในร่างเจ้าและเริ่มกินอวัยวะเจ้าและกินสมองเจ้า และสุดท้ายมันก็จะกินวิญญาณเจ้า”
“ในตอนนั้นไม่ว่าข้าจะถามอะไร เจ้าก็จะตอบข้า ไม่ว่าข้าขะให้เจ้าทำอะไร พวกมันก็จะบังคับให้เจ้าทำได้”
“แต่ก่อนหน้านั้นเจ้าก็ต้องได้รับบาดเจ็บอย่างมาก และจากนี้เจ้าจะได้รับการทรมานที่โหดร้ายที่สุดร่างกายของเจ้าจะถูกกลืนกินทีละนิดๆ จนหมดวิญญาณเจ้า”
“แสดงให้ข้าดูหน่อยสิว่าเจ้าจะทนมันได้หรือไม่.”
“จัดมาโลดอีหนู!!!” ชูเฟิงไม่ได้กล่าวไว้
ที่มา :