I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

The Lazy Swordmaster ตอนที่ 5 – แขกยามวิกาล

| The Lazy Swordmaster | 1509 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ในสนามฝึกของตระกูลไอเฟลเลต้า

เด็กชายผู้มีผมเส้นผมสีดำขลับกำลังยืนอยู่ท่ามกลางความมืดมิด

ท่าทางการจับดาบของเขาดูงุ่มง่ามเล็กน้อย

“ฟู่…”

เด็กชายถอนหายใจออกมาขณะมองไปที่หุ่นฝึกซ้อม

มันเป็นหุ่นฝึกซ้อมที่ทำมาจากฟาง มันมีไว้ให้นักดาบฝึกหัดมาฝึกซ้อม

‘ฉันควรจะลองดีไหม?’

เขาพึมพัมกับตัวเองขณะที่เท้าทั้งสองข้างของเขาห่างกันหนึ่งช่วงไหล่

การตั้งท่าของเขาต่างจากพี่ชายทั้งสองอย่างมาก

หลังจากควบคุมลมหายใจได้แล้ว เขาพุ่งตัวเข้าหาหุ่นฝึกซ้อม แล้วฟันมัน

“ฮึบ!”

ตุบ!

การฟันของเขาก่อให้เกิดเสียงทึบๆ

“…”

สามารถมองเห็นรอยดาบรอยใหม่บนผิวของหุ่นซ้อมได้

รอยดาบนั้นไม่ลึกมาก แต่ถึงกระนั้นมันก็เป็นการฟันที่ยอดเยี่ยม แม้มันจะเป็นการเหวี่ยงดาบครั้งแรกของเขาก็ตาม

แต่ถึงกระนั้น มันก็ยากที่จะนับรอยดาบบนหุ่นซ้อมของตระกูลไอเฟลเลต้าที่มีพรสวรรค์ในเชิงดาบ

“นะ-นายน้อยครับ?”

เอียนที่เห็นการฟันนั้นกล่าวออกมาอย่างติดๆขัดๆ

มันช่าง… รุนแรงและเฉียบขาดเกิดความคาดหมายของเขาจริงๆ

เท่าที่เอียนเห็น ไรลีย์นั้นมีความสามารถพอที่จะกุดหัวของหุ่นซ้อมได้ภายในดาบเดียว

น่าแปลกประหลาดจริงๆ

“ดะ-ได้โปรดลองอีกครั้งเถอะครับนายน้อย!”

เอียนส่ายหัวของเขาแล้วอ้อนวอนต่อไรลีย์

เขาย้ำกับตัวเองหลายต่อหลายครั้งว่าเขามองคนไม่ผิดจริงๆ

“มันควรจะ…”

ไรลีย์พึมพัมด้วยเสียงอันแผ่วเบา

ทันใดนั้นเขาก็ทิ้งดาบไม้ลงบนพื้น

“นายน้อยครับ?”

“พอแล้ว ผมเบื่อแล้ว”

เอียนตกใจอย่างมาก เขารีบยื่นแขนไปหาไรลีย์

“นะ-นายน้อยครับนายน้อย”

“จะไปไหนเหรอครับ?”

“ห้องสมุดน่ะ ผมจะไปหาอะไรมาอ่านให้ตัวเองหลับ”

“นายน้อยครับ! ได้โปรดลองอีกครั้งเถอะครับ!”

แลนเม้มปากของเขาเมื่อมองไปที่ดาบไม้ซึ่งถูกวางอยู่บนพื้น

“อึก…”

นักดาบโยนดาบของตัวเองทิ้งงั้นเหรอ?

แม้ไรลีย์จะไม่รู้สึกถึงความหมายของการกระทำนั้นก็ตาม

แต่เอียนรู้สึกถึงน้ำหนักในการกระทำนั้นดี

————————————————————————————————————————————-

“เขาเปลี่ยนใจง่ายราวกับผู้หญิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยครับ”

“จริงเหรอ?”

ในห้องซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด

หญิงสาวคนหนึ่งในชุดกระโปรงสีขาวหันหน้ากลับมา

ข้างหลังเธอมีชายสวมเสื้อคลุมสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้ากำลังคุกเข่าก้มหัวให้อยู่ ชายคนนั้นติดตามเธอจนเปรียบเสมือนเงาของเธอ

“แล้วทักษะของเขาเป็นไงบ้าง?”

หญิงสาวถามขณะมองแสงจันทร์นอกหน้าต่าง

“ทักษะของเขา…”

ชายสวมเสื้อคลุมหยุดครู่หนึ่ง

“น่ากลัวมากครับ”

“…”

“ผมไม่รู้ว่าคำๆนี้จะเหมาะกับคนที่อยู่ในตระกูลไอเฟลเลต้าหรือไม่ แต่เขาไม่มีพื้นฐานในเชิงดาบสักนิดเดียว แต่การฟันของเขาสามารถเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบให้แก่นักดาบฝึกหัดได้ครับ”

หญิงสาวยิ้มเยาะออกมาเมื่อได้ฟังรายงานจากชายสวมเสื้อคลุม

“แล้วนายคาดหวังอะไรจากตัวเขาล่ะ? เขาคือจอมดาบขี้เกียจที่โด่งดังเชียวนะ”

ขณะที่เธอกล่าวกับตัวเอง ชายสวมเสื้อคลุมเอียงหัวขณะถามออกมา

“ถ้างั้นข่าวลือเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอครับ? ข่าวลือที่ว่าเขาไม่เคยเหวี่ยงดาบซักครั้ง?”

“ใช่ มันเป็นเรื่องจริง”

“เฮ้อ”

ชายสวมเสื้อคลุมถอนหายใจออกมา ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน

เขาเป็นนักฆ่าที่ถูกหญิงสาวว่าจ้างมา

ทุกคนในตระกูลไอเฟลเลต้านั้นกลายเป็นผู้ประสบความสำเร็จด้วยการกวัดแกว่งดาบ

ในตระกูลนั้น เขาเป็นบุตรชายคนที่สามผู้ซึ่งไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง

และเมื่อเขาเปลี่ยนใจตอนอายุ 18 ปี เขากลับโยนดาบทิ้งไปโดยไม่สนใจใยดีเลยสักนิด

ช่างไร้ประโยชน์

ช่างเป็นเด็กที่น่าสงสารเหลือเกิน

“รู้สึกว่าร่างกายของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอเลยแม้แต่น้อย ช่างไร้ยางอายจริงๆ”

ชายคนนั้นลุกขึ้น

ภารกิจของเขาเสร็จแล้ว

ภารกิจแรกคือใส่ยาพิษลงไปในซุป

ภารกิจที่สองคือสอดแนมบุตรชายคนที่สามอย่างลับๆ

ภารกิจเหล่านั้นเป็นภารกิจที่เขารับมา

“ถ้างั้น ผมขอตัวลาครับ”

“ทำงานได้ดีมาก ฝากแสดงความนับถือแก่ท่านพ่อด้วยนะ”

“ท่านบอกว่าท่านคงจะไม่ได้มาพบท่านหญิงบ่อยนักครับ”

“เข้าใจแล้ว ไว้เจอกัน”

ขณะที่หญิงสาวส่ายมือของเธอ ชายคนนั้นพยักหน้าแล้วหายตัวไปราวกับว่าละลายหายไปในพื้น

หญิงสาวหัวเราะขณะมองไปบนดวงจันทร์

“ฉันคงกังวลเกินเหตุ โง่จริงๆตัวฉัน”

โอแรลีย์ยิ้มเยาะออกมา

ไฟแห่งความริษยาในใจเธอนั้นดูเหมือนจะสงบลงเล็กน้อยแล้ว

————————————————————————————————————————

ณ ทางเดินยาวในคฤหาสน์ไอเฟลเลต้า

หลังออกจากห้องท่านหญิงโอแรลีย์ ชายสวมเสื้อคลุมวิ่งผ่านโถงทางเดินยาวอย่างเงียบเชียบ เขาได้รับคำสั่งว่าให้หลีกเลี่ยงจากการตรวจจับของเจ้าบ้าน

เขาหันหัวกลับไปเมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารจากข้างหลัง

‘นั่นมันอะไรกัน?’

เขาเป็นหนึ่งในสามของผู้ที่เก่งกาจที่สุดในองค์กร

แม้แต่เคาท์สไตน์ผู้เป็นเจ้าบ้านก็ไม่สามารถตรวจพบเขาได้

“…”

ถ้าท่านหญิงโอแรลีย์พูดถูกล่ะก็ เขาน่าจะยังอยู่ในสำนักงานของเขา อยู่ท่ามกลางกองเอกสารที่ต้องเซ็น

ชายสวมเสื้อคลุมใช้มานาทั้งหมดของเขาในการตรวจจับสิ่งมีชีวิตภายในคฤหาสน์

เหมือนอย่างที่เขาคาดหวัง สไตน์ยังคงอยู่ในสำนักงานของเขา

เมื่อเขาได้รับรู้เรื่องนี้ แสดงว่าจิตสังหารที่ไล่อยู่ข้างหลังต้องไม่ใช่ของสไตน์แน่นอน

“นั่นใครกัน?”

ชายคนนั้นหันกลับไปแล้วพูดออกมา

ไม่มีคำตอบใดๆกลับมา

“ฉันพลาดหรอ? ไม่สิ ไม่น่าเป็นไปได้”

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในงานสายนี้ ไม่มีทางที่เขาจะจับจิตสังหารพลาด

ชายสวมเสื้อคลุมก้มตัวลงแล้วตั้งท่าป้องกัน

บนโถงทางเดินยาวเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความตึงเครียด

เมื่อถึงขอบเขตที่ทนไหวชายสวมเสื้อคลุมก็ขมวดคิ้ว

จิตสังหารที่ทิ่มแทงเขาอยู่ค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

‘เจ้าโง่นั่นเป็นใครกัน? นี่มันพยายามจะเรียกท่านเคาท์มาด้วยงั้นเหรอ?’

ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยจิตสังหารนี้ ไม่เพียงแต่สไตน์เท่านั้น บุตรชายคนแรกและคนที่สองก็จะรู้สึกตัวแล้ววิ่งมาที่นี่ด้วยเช่นกัน

พวกนั้นจะฟันตนให้ขาดเป็นสองท่อนอย่างแน่นอน

“เฮ้ย ถ้าแกยังทำอย่างนี้ต่อไป พวกเรา-”

ชายสวมเสื้อคลุมพยายามพูด แต่เขาก็ต้องกลั้นหายใจในทันที

“อ้าาา…”

“…!”

เสียงที่ดังมาจากสุดโถงทางเดินยาวทำลายความเงียบงัน

“ฉันคิดว่ามีหนูแอบเข้ามานะ”

กึก กึก

เสียงฝีเท้าเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ

“หืม แขกในยามวิกาลเหรอ?”

“…”

“ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ ในเวลาแบบนี้ไม่น่าจะมีแขกมานิ”

มีเหตุผลเดียวที่ชายสวมเสื้อคลุมกลั้นลมหายใจพร้อมกับเบิกตากว้าง

เนื่องจากเขาคิดว่าไม่มีทางที่ใครจะตรวจจับเขาได้ แม้เสียงและเสียงฝีเท้าของเขาจะถูกได้ยิน

‘มะ-มีคนอื่นเหมือนฉันอีกงั้นหรอ?’

เป็นไปได้ยังไง หรือว่าฉันใช้มานาตรวจจับเขาไม่พบ?

ชายสวมเสื้อคลุมคิดว่าบางทีอาจมีผู้อาวุโสที่เก่งกาจในสายงานของเขามาทำงานในที่นี้เหมือนกับเขาก็เป็นได้

“ดูเหมือนว่านายจะออกมาจากห้องท่านหญิงโอแรลีย์สินะ”

ชายเจ้าของเสียงปรากฎตัวออกมา

เขานั้นมีท่าทางที่สงบนิ่งและเยือกเย็น

“กะ-แกคือ!?”

แสงจันทร์จากหน้าต่างเผยให้เห็นเท้า เสื้อผ้า และใบหน้าของเขา

ชายสวมเสื้อคลุมอ้าปากค้างเมื่อเขาได้ตระหนักว่าชายผู้นั้นเป็นใคร แม้เขาจะมีหน้ากากปกปิดใบหน้าของเขาก็ตาม

“มาคุยกันหน่อยดีกว่า”

ชายสวมเสื้อคลุมไม่อาจเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ได้

‘ไรลีย์?’

ตาของเขาเบิกกว้าง เขาไม่อยากเชื่อเหตุการณ์ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา

********

คอมเมนต์ ติ ชม ได้นะครับ

จะมาลงให้เรื่อยๆ

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments