I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

The Lazy Swordmaster ตอนที่ 8 – นั่นใคร…(2)

| The Lazy Swordmaster | 1152 | 2360 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

มันเป็นสถานการณ์ที่น่าหวาดหวั่น

ข่าวที่ส่งมาถึงนั้นกล่าวถึงเอียนผู้เป็นพ่อบ้านได้นำมีดสั้นที่ถูกพบไปแสดงแก่เคาท์สไตน์

เป็นเรื่องธรรมดาที่สมาคมนักฆ่าต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ แม้มันจะไม่ถูกพบในตัวศพ แต่ก็ไม่สามารถใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างได้

 

‘เพื่อความปลอดภัย… งานต้องเสร็จภายในวันนี้เท่านั้น’

 

ท่านหญิงโอแรลีย์ ภรรยาคนแรกแห่งตระกูลไอเฟลเลต้า

แม้จะไม่เป็นที่รู้จัก แต่พ่อของเธอเป็นหัวหน้าสมาคมนักฆ่าแบบลับๆ

ถ้าจะกล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้… ก็คงต้องพูดถึงความจริงที่ว่าตระกูลไอเฟลเลต้านั้นเกลียดชังคนเหล่านี้ และสำหรับโอแรลีย์ ความลับของตระกูลเธอนั้นกำลังมีความเสี่ยงที่จะถูกเปิดเผย

จะเป็นอย่างไรถ้าข้อมูลเหล่านี้ถูกรู้เข้า?

เมื่อเวลานั้นมาถึง สถานการณ์ก็จะแย่ลงจนน่าหวาดหวั่น

การแต่งงานระหว่างโอแรลีย์และสไตน์นั้นเป็นเพียงการแต่งงานทางการเมืองเท่านั้น

 

‘ถะ-ถ้าพวกเขารู้ว่ายาพิษที่ไอริสกินเข้าไปมากจากฉันล่ะก็…’

 

โอแรลีย์กลืนน้ำลายลงไป

ถ้าคำเหล่านี้หลุดออกไปล่ะก็ ความสัมพันธ์อันเปราะบางระหว่างเธอกับบุตรชายทั้งสองคงสลายไปอย่างสิ้นเชิง

เธอไม่อยากเสียชายอย่างสไตน์ไป

เธอไม่ยอมเสียเขาให้กับไอริสอย่างแน่นอน

นั่นเป็นสิ่งที่เธอกังวลมากที่สุด เธอกังวลในเรื่องนี้มากว่าการที่ความลับของเธอจะถูกเปิดเผยเสียอีก

 

“-ม่ครับ?”

 

‘ไม่ เรื่องแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นได้หรอก’

 

“ท่านแม่!”

 

บุตรชายคนที่สองแห่งตระกูลไอเฟลเลต้า ลอยด์ กำลังเขย่าไหล่เธออยู่

 

“หืม? มีอะไรเหรอจ๊ะ?”

 

“เรากำลังคุยเรื่องไรลีย์กันอยู่ครับ ท่านแม่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”

 

ใบหน้าเธอแสดงออกถึงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด

บางทีอาจเป็นเพราะแม่ของเขาดูสภาพไม่ค่อยดีก็เป็นได้

 

“เปล่าจ้ะ แม่สบายดี”

 

“ดูเหมือนท่านแม่จะมีไข้นิดหน่อยนะครับ”

 

“อาจเป็นเพราะแม่นอนไม่พอก็ได้จ้ะ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานมันหนักเกินไปสำหรับแม่น่ะจ้ะ”

 

โอแรลีย์โกหกออกไปราวกับเธอไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่นิด

เธอไม่ได้บอกบุตรชายทั้งสองของเธอว่าศพที่ถูกพบหน้าห้องเธอนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ

 

“แม้เขาจะตายแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นอันตรายต่อเราครับ มีที่อื่นตั้งเยอะ แต่กลับมาตายหน้าห้องท่านแม่”

 

ลอยด์กัดฟัน

 

“พักผ่อนสักหน่อยเถอะครับ ท่านแม่ ผมจะอยู่กับท่านแม่เอง”

 

เธอจะบอกเขาได้อย่างไรว่าเธอเป็นลูกสาวของนักฆ่าผู้โหดเหี้ยม?

ไม่มีทาง

 

“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ แม้สนใจเรื่องที่เราคุยกันก่อนหน้านี้มากกว่า เกี่ยวกับเรื่องของไรลีย์ใช่ไหมจ๊ะ?”

 

โอแรลีย์ยิ้มให้กับบุตรชายของเธอที่กำลังกังวล

 

“ใช่ครับ”

 

ลอยด์พยักหน้า

 

“จริงๆแล้ว เมื่อวานนี้ไรลีย์จับดาบแล้วครับ”

 

“โอ้ ไรลีย์จับดาบงั้นเหรอจ๊ะ?”

 

“มันเป็นเรื่องก่อนที่ศพจะถูกพบน่ะครับ”

 

ลอยด์เกาหัวตัวเอง

 

“อาจเป็นเพราะท่านหญิงไอริสโดนยาพิษก็เป็นได้ครับ ผมคิดว่ามันสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว ผมคิดว่าในตอนนั้นเจ้าเด็กขี้เกียจนั่นต้องโกรธมากแน่ๆเลยครับ ฮ่าๆ”

 

“แล้วเป็นอย่างไรบ้างล่ะจ๊ะ?”

 

หางตาของโอไรลีย์กระตุกเล็กน้อย

เธอรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อวานจากชายสวมผ้าคลุมแล้ว

แต่การได้ยินจากบุตรชายของเธอนั้นให้ความรู้สึกแตกต่างจริงๆ

 

“…มันแย่จนเกินบรรยายเลยครับ”

 

ตอนนี้ รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นมาบนริมฝีปากของเธอ

 

“โอ้ อย่างนั้นเหรอจ๊ะ?”

 

ใช่แล้ว

หลักฐานที่จะแสดงว่าเธอนั้นเหนือกว่าภรรยาน้อยอย่างไอริสคือเธอควรเป็นคนได้รับความรักมากที่สุด

บุตรชายของไอริสนั้นน่าสังเวช และเป็นเพียงไพร่ที่ไร้ประโยชน์ ในขณะที่บุตรชายทั้งสองของเธอเกิดมาเพื่อเดินบนเส้นทางแห่งดาบอย่างแท้จริง

เพียงสิ่งนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าเธอนั้นมีความสำคัญต่อตระกูลนี้

 

“โฮะๆ เรื่องเป็นอย่างนี้นี่เอง”

 

สายตาของโอไรลีย์นั้นมองออกไปนอกหน้าต่าง

ข้างนอกนั่น เธอเห็นไรลีย์นอนอยู่ใต้ต้นแอปเปิ้ลภายในสวน

ราวกับความคิดที่จะให้เขาเรียนวิชาดาบนั้นไม่มีทางเป็นจริง

 

———————————————————————————————————————

 

ยามบ่ายแก่ๆ ณ หมู่บ้านอิฟฟา

ด้วยเหตุบางประการ ในหมู่บ้านมีขบวนรถม้าวิ่งเรียงกันอยู่

พวกมันช่างดูหรูหรายิ่งนัก

 

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ? ทำไม ‘ขบวนรถมิธริล’ ของเทสแห่งสมาคมการค้าถึงได้มาที่หมู่บ้านนี้กัน?”

 

ชาวบ้านคนหนึ่งถามออกมาพร้อมชี้ไปยังรถม้าที่ดูหรูหรามากที่สุด

 

“ใครจะไปรู้ล่ะ?”

 

“พวกเขาพบเหมืองทองใกล้ๆนี้หรือเปล่า?”

 

“ถ้าพวกเขาพบเหมืองทองสักแห่งล่ะก็ ข้าจะยกเมียข้าให้แกเลย”

 

“การเดิมพันนี้เหมือนจะเป็นประโยชน์กับแกเลยนะ?”

 

ดูเหมือนไม่มีชาวบ้านคนไหนรู้เหตุผลเลย

ชาวบ้านทำได้เพียงมองอย่างสงสัย

สมาคมการค้าเป็นหนึ่งในสมาคมที่ใหญ่ที่สุดในทวีป

การที่ขบวนรถม้าส่วนตัวของหัวหน้าสมาคมมาที่นี่นั้นเป็นเรื่องใหญ่สำหรับชาวบ้านในหมู่บ้านอิฟฟา

 

“อืม… ข้าได้ยินข่าวลือว่าพวกเขามาหาภรรยาของตระกูลไอเฟลเลต้าน่ะ”

 

“หืม?”

 

เหล่าชาวบ้านกระซิบกระซาบเกี่ยวกับข่าวลือกันโดยใช้มือป้องปาก

 

“ภรรยาคนแรกชื่ออะไรนะ… อ๋อ! ท่านหญิงโอแรลีย์นี่เอง ข้าเคยได้ยินว่าเธอเป็นลูกสาวของหัวหน้าสมาคม”

 

“อะไรนะ? ข้าพึ่งได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรกเลย!”

 

“เฮ้ ลองคิดดูสิว่าทำไมท่านเคาท์สไตน์ถึงได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ค่อยสวยอย่างท่านหญิงโอแรลีย์กันล่ะ? ถ้าเธอไม่ได้เป็นลูกสาวหัวหน้าสมาคมล่ะก็ เขาคงไม่ยอมแต่งงานด้วยหรอกจริงไหม?”

 

ชาวบ้านที่คุยกันเรื่องท่านหญิงโอแรลีย์กำมือแล้วนำนิ้วหัวแม่มือไปสอดใต้นิ้วชี้

 

“เรื่องมันต้องเป็นอย่างนี้แน่ๆ”

 

“ว้าว…”

 

ชาวบ้านร้องออกมาเมื่อได้ยินเรื่องเหล่านี้ เหล่าพนักงานของสมาคมการค้าหันมาทางชาวบ้านเมื่อยินได้เสียงเหล่านั้น

 

“ชู่ พวกแกน่ะระวังปากหน่อย”

 

“…”

 

แม้พวกเขาจะคุยกันอย่างเงียบๆ แต่พวกเขายังคงได้ยินอีกกระนั้นหรือ?

เมื่อเห็นว่าพ่อค้าเทสกำลังมองมาทางพวกตน ชาวบ้านทั้งสองจึงยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วเดินออกจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว

 

“แล้วทำไมขบวนรถมิธริลถึงได้มาที่นี่กันล่ะ?”

 

“ก็นะ? บางทีเขาคงคิดถึงลูกสาวล่ะมั้ง?”

 

เมื่อออกจากระยะสายตาของพ่อค้าเทสแล้ว ชาวบ้านทั้งสองยังคงนินทาต่อ

 

“ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาถึงมาจอดรถม้าในหมู่บ้านแทนที่จะไปยังคฤหาสน์ล่ะ? ไปที่นั่นด้วยรถม้าใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีเลยด้วยซ้ำ”

 

“การจะเข้าพบตระกูลไอเฟลเลต้ามันยากแค่ไหนนายรู้ไหม แม้จะเป็นขุนนางชั้งสูงก็ยังต้องมีการขออนุญาตก่อนเข้าพบเลย”

 

“อ่า งั้นเหรอ”

 

“ที่พวกเขาหยุดรถม้าในหมู่บ้านเพราะพวกเขากำลังส่งคนไปส่งจดหมายให้แก่คฤหาสน์เพื่อขอเข้าพบล่ะมั้ง”

 

ชาวบ้านทั้งสองที่กำลังคุยเกี่ยวกับโอแรลีย์และตระกูลไอเฟลเลต้าไม่สามารถรู้สึกได้ถึงสายตากระหายเลือดที่จับจ้องมาทางพวกตนแม้แต่น้อย

 

——————————————————————————————————————————–

 

“ฝันแบบนั้นอีกแล้วเหรอ…”

 

ไรลีย์ถอนหายใจออกมาเมื่อเขาตื่นจากการนอนอันยาวนาน เขานอนจนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน

 

“…ฮาววววว”

 

เขากำลังอารมณ์เสีย

มีเหตุผลสามประการที่ทำให้เขาอารมณ์เสียอย่างนี้

หนึ่ง ‘มุมที่สมบูรณ์แบบ’ ของเขาได้หายไปแล้ว

สอง เป็นเพราะ ‘ความฝันเกี่ยวกับชาติที่แล้วของตัวเขา’

และสาม…

 

<หมายเลข 2 เข้าไปก่อน ตามด้วยหมายเลข 4 และ 5 อย่าทำพลาดล่ะ>

 

เขาได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยอยู่ภายในหัวของเขา

มันเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตื่น

 

“ชิ… ไม่ชอบแบบนี้เลยแฮะ”

 

ไรลีย์ขมวดคิ้วแล้วพึมพำออกมา

สิ่งที่เขาคาดหวังไว้คือมีดสั้นที่เอียนนำไปแสดงให้แก่สไตน์จะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ซึ่งจะป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดมาทำอะไรในคฤหาสน์มากกว่านี้

โดยทั่วไปแล้วมันคือการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์อื่นๆเกิดขึ้นอีก แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นดั่งแผนที่เขาวางไว้

 

“ก็นะ ยังไงมันก็มีโอกาส 50/50 อยู่แล้ว”

 

ไรลีย์ลุกขึ้นแล้วปัดฝุ่นออกจากกางเกง

 

<พวกแกพร้อมหรือยัง?>

 

‘「โทรจิต」สินะ’ 

เขามีทักษะในการในการดักฟัง 「โทรจิต」ระหว่างผู้คน เขาสามารถได้ยินในสิ่งที่เข้าต้องการได้ยิน

 

<อย่างแรก ตอนข้าเข้าไปต้องทำให้มั่นใจว่าเครื่องมือพร้อมทุกเมื่อ เราต้องทำงานให้เสร็จอย่างรวดเร็ว และต้องเร็วกว่าครั้งก่อนๆด้วย>

 

คำเหล่านั้นที่ไรลีย์ได้ยินจะสามารถส่งผ่านได้เฉพาะผู้ที่ควบคุมมานาได้เท่านั้น มันเหมือนการสื่อสารทางจิต

[TLN: โดยทั่วไปแล้ว「โทรจิต」นั้นเป็นทักษะที่ต้องใช้มานา มันทำให้ผู้ร่ายสามารถสื่อสารกับคนอื่นได้โดยไม่ต้องขยับปาก ไรลีย์สามารถดักฟังสิ่งเหล่านี้ได้ บทสนทนาที่ใช้「โทรจิต」จะถูกครอบด้วยเครื่องหมาย < > ครับ]

 

<เป้าหมายของเรามีเพียงสิ่งเดียว คือการนำศพของหมายเลข 3 กลับมา>

 

มีเพียงเสียงเดียวที่เขาได้ยิน

ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นหัวหน้าของผู้บุกรุก

 

<พยายามอย่าถูกตรวจพบโดยข้ารับใช้ภายในคฤหาสน์ พวกนั้นไม่ได้เป็นเพียงสาวใช้หรือพ่อบ้าน… ก่อนมาทำงานที่นี่พวกเขาต่างก็เคยเป็นนักรบมาก่อน>

 

“ชิ…”

 

ไรลีย์เดาะลิ้นอีกครั้ง

ดูเหมือนผู้นำกลุ่มผู้บุกรุกจะค่อนข้างคุ้นเคยกับตระกูลไอเฟลเลต้า

 

<ถ้าพร้อมแล้ว เริ่มภารกิจได้>

 

<เดี๋ยวก่อน… ก่อนจะเริ่มภารกิจน่ะ>

 

ไรลีย์เข้าร่วมบทสนทนาก่อนพวกเขาจะเริ่มภาระกิจ

โดยการใช้ 「โทรจิต」ซึ่งเป็นทักษะที่ต้องใช้มานา

 

<…?!>

 

ความเงียบได้เข้าปกคลุม

ได้ยินเพียงเสียงใบไม้สั่นไหว

แม้ขณะไรลีย์กำลังคิดว่าจะพูดอะไรออกไปดี ผู้บุกรุกกลับไม่ส่งข้อความใดๆกลับมาเลย

เมื่อตระหนักได้ว่าบทสนทนาของพวกตนโดนดักฟัง พวกเขาก็ตั้งท่าป้องกัน

 

<ฉันอยากบอกอะไรพวกนายอย่างหนึ่ง>

 

<…>

 

<ฉันไม่สนว่าพวกนายจะทำอะไรในคฤหาสน์นี้ แค่อย่าทำอะไรให้ฉันต้องเคลื่อนไหวด้วยตัวเองก็พอ พิจารณาคำเตือนนี้ด้วย>

 

ไม่มีคำตอบใดๆกลับมา แต่「โทรจิต」ได้ถูกส่งแล้วออกไปอย่างแน่นอน

หลังจากไรลีย์เตือน บรรยากาศรอบๆก็เปลี่ยนไป

 

<อย่า>

 

ไรลีย์พูดต่อขณะกำลังเดิน

 

<รบกวนฉัน>

 

เขาเดินตรงไปยังห้องไอริส

 

<ก็นะ ขอแค่เพียงเคารพพื้นที่ส่วนตัวของกันและกันก็พอ !>

 

แม้ไรลีย์จะไม่แน่ใจว่าพวกเขารู้ถึงความหมายของพื้นที่ส่วนตัวหรือไม่ แต่เขาเพียงแค่ต้องการถ่ายทอดออกไปว่าให้เคารพซึ่งกันและกันและจากไป

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments