เหล่าชายสวมผ้าคลุมที่แอบเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลไอเฟลเลต้า
 
ไม่สามารถขยับต่อไปได้อีก
 
ทั้งนี้เป็นเพราะคนแปลกหน้าลึกลับผู้ซึ่งส่งโทรจิตให้กับพวกเขา
 
 
 
‘เมื่อไหร่กัน…’
 
 
 
การที่คนแปลกหน้าสามารถตรวจพบและดักฟังโทรจิตของพวกเขาได้ก็มากพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาตกใจ
 
 
 
‘ได้ยังไง…’
 
 
 
เขาสามารถส่งโทรจิตไปหาทุกคนที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนได้
 
พวกเขาเข้าใจเรื่องนี้ดี มันจึงทำให้พวกเขาตกใจ
 
 
 
‘…จากไหนกัน?’
 
 
 
หัวหน้าของชายสวมผ้าคลุม เทส รีบกวาดสายตาไปรอบ ๆ ทันที
 
ไม่ว่าเขาจะมองไปยังที่ใดก็ตาม เขาไม่สามารถหาจุดที่โทรจิตถูกส่งออกมาได้เลย
 
มันหมายความว่า ความสามารถระหว่างพวกเขาและคนแปลกหน้านั้นห่างกันมาก
 
 
 
‘ตระกูลไอเฟลเลต้ามีคนที่สามารถซ่อนตัวได้ดีขนาดนี้ด้วยงั้นเหรอ?’
 
 
 
เท่าที่เทสรู้ ตระกูลไอเฟลเลต้านั้นไม่คิดว่าจะมีนักฆ่าเทียบเท่ากับตน
 
ในความเป็นจริงแล้ว ตระกูลนี้ดูถูกพวกนักฆ่า และหากพวกเขาเห็นนักฆ่าสักคนพวกเขาก็จะฆ่าโดยไม่ลังเลเลย
 
 
 
‘มันราวกับว่า…’
 
 
 
เทสกลืนน้ำลายด้วยความกังวล
 
ดูจากทักษะการส่งโทรจิตแล้ว อย่างน้อยคนแปลกหน้าคนนั้นก็มีทักษะและพลังพอ ๆ กับเขา
 
มันไม่ง่ายเลยที่จะสามารถลบตัวตนได้อย่างสมบูรณ์
 
แต่… เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงตัวตนของคนแปลกหน้าเลย
 
 
 
‘ฉันกำลังเห็นผี…’
 
 
 
ร่องรอย มานา
 
หรือทุก ๆ สิ่ง
 
พลังเหล่านั้นจะทิ้งร่องรอยที่แตกกันโดยสิ้นเชิงเอาไว้ พวกเขาสามารถแยกพวกมันออกจากกันได้
 
แต่ว่า แม้แต่ร่องรอยเหล่านั้นก็หาไม่พบ ราวกับมันเป็นผีจริง ๆ
 
นี่เป็นความสามารถของนักฆ่าที่มีทักษะสูงสุดเท่านั้น
 
 
 
‘ชิ’
 
 
 
เทสขมวดคิ้วภายใต้หน้ากาก
 
เขาไม่ชอบสถานการณ์เช่นนี้เลย
 
ในความจริงแล้วลูกสาวของเขากำลังจนมุม แต่เขากลับกลัวคนแปลกหน้าเพียงคนเดียว
 
 
 
‘ฉันไม่รู้ว่าเจ้านั่นมันเป็นใคร แต่การที่เขาตัดสินใจซ่อนตัวเช่นนี้ต้องมีบางสิ่งที่รั้งมันไว้แน่’
 
 
 
ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีเหตุผลให้เขาซ่อนตัวอยู่ในเงามืด
 
ถ้าเขาต้องการข่มขู่พวกเขา เขาควรส่งจิตสังหารมาด้วย
 
นั่นเป็นสิ่งที่เทสเชื่อ
 
 
 
‘อย่า… รบกวนฉันงั้นเหรอ?’
 
 
 
เทสจับมีดสั้นของเขาเมื่อจำคำพูดเหล่านั้นได้
 
เขาไม่มีเจตจำนงที่จะรบกวนเขา
 
ในความจริงแล้ว เขาเกลียดสถานการณ์เช่นนี้จริง ๆ
 
เขาต้องการเพียงนำศพและมีดสันกลับไปเท่านั้น
 
ถ้าเงียบเข้าไว้
 
ภารกิจของพวกเขาในคฤหาสน์หลังนี้ก็จะสำเร็จได้อย่างแน่นอน
 
 
 
<เรากำลังจะไปต่อ>
 
 
 
เขามาที่นี่เพื่อช่วยลูกสาวของเขาที่กำลังมีปัญหา
 
พวกเขาต้องเคลื่อนไหวได้แล้ว ไม่เชนนั้นภารกิจจะไม่มีทางสำเร็จก่อนที่พวกเขาจะได้เริ่ม
 
ไม่มีคำเตือนจากโทรจิตก่อนหน้านี้อีกเลย
 
พวกเขาจะเสียเวลาไม่ได้แล้ว
 
 
 
<ฉันจะไปที่ ‘ห้องทำงานของลูกชาย’ ที่ ๆ มีดสั้นถูกเก็บไว้>
 
 
 
เทสกระโดดออกจากพุ่มไม้ที่ซ่อนตัวอยู่
 
เมื่อเขาหลุดเข้าไปในคฤหาสน์ราวกับสายลมแล้ว สมุนของเขาก็ได้ใจแล้วตามเขาไป
 
ร่างของชายสวมผ้าคลุมเคลื่อนที่ไปตามซอกตามมุมของคฤหาสน์ราวกับหนู
 
 
 
<หมายเลข 2 ถึง 10 ไปนำศพมา>
 
 
 
เทสสั่งผ่านโทรจิต
 
 
 
<ส่วนที่เหลือจะส่งเสียงเพื่อดึงดูดความสนใจจากคนในคฤหาสน์ ถ้าอยู่ในอันตรายล่ะก็ ทำลายหลักฐานแล้วฆ่าตัวตายซะ>
 
 
 
ตู้มมมมม!
 
หลังจากสั่งคำสั่งที่สองออกไป เสียงระเบิดก็ดังออกมาจากที่ไหนสักแห่งในคฤหาสน์
 
ดูเหมือนว่าการต่อสู้ได้เริ่มขึ้นแล้ว
 
 
 
———————————————————————————————————————
 
 
 
“ไอ้สารเลว!”
 
 
 
ชายแก่ตะโกนออกมา
 
เขาสวมเสื้อพ่อบ้านและถือดาบไว้ในมือข้างหนึ่ง
 
มันเป็นดาบธรรมดา แต่มันถูกตีขึ้นมาจากเหล็กชั้นยอดและแข็งกว่าดาบทั่วไป
 
ชายแก่เหวี่ยงดาบออกไป
 
 
 
“อั๊กกก!”
 
 
 
“คึ๊กกก!”
 
 
 
ชายแก่อายุ 50 แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?
 
ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ชายสวมผ้าคลุมสองคนกระเด็นกลับไป
 
 
 
“พวกแกคิดว่าที่นี่เป็นที่ไหนกัน!”
 
 
 
ชายแก่เหวี่ยงดาบอีกครั้งหนึ่ง
 
ดาบส่องแสงสีน้ำเงินออกมา มันแสดงให้เห็นถึงความห่างชั้นของพลังระหว่างพวกเขา
 
 
 
“…!”
 
 
 
คลื่นดาบ
 
ลำแสงสีน้ำเงินที่ถูกปล่อยออกมาจากดาบตัดผ่านดาบและร่างของชายสวมผ้าคลุมทั้งสอง
 
 
 
“หืม! เหมือนมันจะโกรธอยู่นะ?”
 
 
 
“คุณเอียนคะ!”
 
 
 
 
 
“เซร่า!”
 
 
 
เซร่า
 
เธอเป็นหนึ่งในสาวใช้ในคฤหาสน์นี้
 
ดูเหมือนจะเป็นการพูดคุยสั้นๆ เพราะดาบของเธอมีเลือดติดอยู่
 
 
 
“ฉันจะป้องกันห้องท่านหญิงไอริสเองค่ะ ท่านเอียนควรไปปกป้องนายน้อยนะคะ!”
 
 
 
มันหมายถึงให้หาและนำตัวไรลีย์กลับมาจากสวน
 
เอียนเข้าใจและพยักหน้าเห็นด้วย แล้ววิ่งออกไปทันที
 
 
 
“เข้าใจแล้ว อย่าฝืนล่ะ! ฉันจะรีบกลับมา!”
 
 
 
สำหรับเอียนแล้วจากห้องท่านหญิงไอริสไปถึงสวนใช้เวลาเพียง 10 วินาทีเท่านั้น
 
ถ้าไม่มีอุปสรรคใดๆล่ะก็
 
 
 
‘นายน้อยได้โปรด…’
 
 
 
ในช่วงเวลาที่อันตรายเช่นนี้ ไรลีย์มักจะเล่น ‘ซ่อนหา’ เสมอ
 
เอียนวิ่งผ่านทางเดินยาว
 
โดยภาวนาให้ไรลีย์แสดงความสามารถออกมาอีกครั้งเพื่อปกป้องตัวเอง
 
 
 
‘ได้โปรดช่วยปลอดภัยทีเถอะ!’
 
 
 
1 วินาทีผ่านไป
 
5 วินาทีผ่านไป…
 
ในวินาทีที่ 7 เอียนก็ได้พบกับอุปสรรค
 
 
 
“ชิ”
 
 
 
เอียนขมวดคิ้ว
 
ดูจาการปรากฏตัวของเขาก็สามารถบอกได้เลยว่าเขาไม่ใช่นักสู้ทั่วไป
 
มันอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย
 
เวลาที่อาจตัดสินความเป็นความตายของไรลีย์ได้
 
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เอียนต้องการ
 
 
 
“ฉันไม่ชอบใช้ปากเท่าไหร่ แต่ถ้าแกกลับไปฉันจะปล่อยให้แกมีชีวิตอยู่”
 
 
 
เอียนขู่ชายสวมผ้าคลุม
 
ดาบของเขากำลังเปล่งแสงสีน้ำเงินและเต็มไปด้วยจิตสังหาร
 
 
 
“…”
 
 
 
ถึงอย่างนั้น ชายสวมผ้าคลุมก็ยังคงยืนเงียบอยู่
 
เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย และชักมีดสั้นออกมา
 
เขาไม่รู้ถึงเจตนาของเอียน แต่เขาไม่มีวันปล่อยให้เอียนผ่านไปได้
 
 
 
“ไอ้สารเลว”
 
 
 
ดูจากการเปลี่ยนแปลงในดวงตาของเขา ชายสวมผ้าคลุมไม่ได้หูหนวก
 
เอียนกัดฟันด้วยความโกรธเมื่อชายสวมผ้าคลุมไม่สนใจคำเตือนของเขา
 
 
 
“ฉันไม่มีเวลา-…”
 
 
 
เอียนหยุดพูดกลางคันแล้วพุ่งเข้าหาชายสวมผ้าคลุม แล้วดาบกับมีดสั้นก็ปะทะกัน
 
เคร้ง!
 
ประกายไฟปลิวว่อน
 
 
 
“…-มาเล่นกับแกหรอก!”
 
 
 
เอียนตะโกนออกมาขณะบิดตัว
 
เมื่อมีระยะห่างระหว่างทั้งสองเพียงเล็กน้อย เอียนและชายสวมผ้าคลุมก็ฟันอาวุธออกไปในมุมที่ต่างกัน
 
โดยหวังคร่าชีวิตของกันและกัน
 
 
 
‘ปึก?’
 
 
 
เป็นเพราะคมดาบทั้งสองที่อัดแน่นไปด้วยมานาปะทะกันงั้นเหรอ?
 
วิถีดาบซึ่งเต็มไปด้วยมานาถึงถูกผลักกลับมา
 
หลังจากนั้น เท้าของเอียนก็ไถลลงบนพรม
 
 
 
“เวรเอ๊ย!”
 
 
 
เอียนสบถออกมาเมื่อเขาถูกผลักกลับมา
 
การปะทะจบลงที่การเสมอกัน
 
ในด้านความแข่งแกร่ง และทุกสิ่ง
 
 
 
‘ชายแก่คนนั้นเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกัน…’
 
 
 
เช่นเดียวกับชายสวมหน้ากาก
 
เขาก็แปลกใจเช่นเดียวกับเอียน
 
ในฐานะหนึ่งในห้าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในสมาคม เขาไม่คาดหวังว่าเขาจะถูกผลักกลับมาเช่นนี้
 
ต้องขอบคุณหน้ากากที่ซ่อนอารมณ์ของเขาในตอนนี้ได้
 
 
 
“หลีกไปไอเศษสวะ!”
 
 
 
“…”
 
 
 
เอียนระวังคำพูดของตัวเองมาตั้งแต่เริ่มทำงานเป็นพ่อบ้าน แต่ตอนนี้เขาเริ่มแสดงนิสัยจากตอนที่เขาเป็นทหารรับจ้างออกมา
 
 
 
“หลีกไป… ขยับก้นเงียบๆ ของแกออกไปจากที่นี่ซะ! ไอเวรเอ๊ย!”
 
 
 
ณ จุดๆนี้เขาได้สบถออกมาเหมือนในอดีตแล้ว
 
หน้าของเขากลายเป็นสีแดงราวกับเป็นหน้าของปีศาจ
 
นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาหมดหวังแค่ไหน
 
ทุกวินาทีที่เสียไป มันอาจเกิดอะไรบางอย่างกับไรลีย์ก็เป็นได้
 
 
 
‘ฉันปล่อย… ชายคนนี้ไปไม่ได้’
 
 
 
ชายสวมผ้าคลุมเกร็งข้อมือที่สั่นจากการประดาบก่อนหน้านี้  และยังคงอยู่ท่าเดิม
 
เขาเชื่อว่าชายแก่คนนี้ไม่ได้วิเศษอะไรมากนัก
 
 
 
‘ไอ้ชาติชั่ว…’
 
 
 
เอียนเดาะลิ้น
 
ถ้าเขาสามารถฆ่าคนได้ด้วยการจ้อง ชายสวมผ้าคลุมคนนั้นคงตายเป็นร้อยครั้งแล้ว
 
น่าเสียดายที่เขาไม่มีพลังแบบนั้น
 
ชายสวมผ้าคลุมค่อนข้างเป็นศัตรูตัวฉกาจเลย
 
 
 
‘นายน้อย! รอผมก่อนนะครับ… ช่วยรอผมอีกสักหน่อยนะครับ!’
 
 
 
เอียนกัดฟัน
 
 
 
‘ชายแก่คนนี้กำลังจะไปหาท่านแล้วครับ’
 
 
            
            
            ตอนที่แล้ว
            
            
            ตอนต่อไป