ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปผ่านไปกี่นาทีแล้วนะ?
1 นาที?
3 นาทีงั้นเหรอ?
บางทีอาจจะผ่านไป 10 นาทีแล้วก็ได้
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนการต่อสู้จะไม่มีทางจบสิ้นเลยแม้แต่น้อย
‘เวรเอ๊ย ไอเวรเอ๊ย!’
เส้นเลือดที่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าผากของเอียน และใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ
ร่างกายอันชราภาพของเขาได้มาถึงขีดจำกัดจากการต่อสู้อย่างรุนแรงเป็นเวลานานแล้ว
‘ฉันจะมัวเสียเวลาไม่ได้อีกแล้ว!’
มันก็เพื่อความปลอดภัยของไรลีย์
เมื่อพิจารณาจากสภาพเขาแล้ว หากปล่อยให้การต่อสู้ยืดเยื้อ มันจะเป็นอันตรายต่อตัวเขาเอง
‘การฟันครั้งต่อไป… ฉันจะจบเรื่องนี้ด้วยการฟันในครั้งต่อไป’
เอียนจับดาบอย่างแน่นหนา
เขากำลังเตรียมพร้อมกับการเสี่ยงอันตราย
หากเขาแพ้ มันอาจเสี่ยงถึงชีวิตของเขาได้ แต่มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
‘หากไม่เสี่ยง ก็ไม่ได้ผลตอบแทน!’
เอียนมุ่งความสนใจไปที่เขา และถีบตัวไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่ต่างจากก่อนหน้านี้
ชายสวมผ้าคลุมสังเกตเห็นความสิ้นหวังของเอียน และตอบโต้โดยไม่ลังเล
“ปึก!?”
ในท้ายสุด การตัดสินใจของเอียนกลายเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
ศัตรูได้คาดการณ์ถึงการเคลื่อนไหวนั้นก่อนแล้ว
ดาบของเอียนฟันโดนเพียงความว่างเปล่า ชายสวมผ้าคลุมเคลื่อนผ่านการป้องกันของเขาและโจมตีจากด้านหลัง
‘เวรเอ๊ย!’
นี่จะเป็นจุดจบของชีวิตเขางั้นเหรอ?
เหงื่อของเอียนหยดลงในอากาศ
ในจังหวะนั้น เอียนรู้สึกราวกับว่าโลกได้หยุดหมุน
บางทีมันอาจเป็นการย้อนกลับสินะ? สมองของเอียนยอมรับความตายที่กำลังจะมาถึง และเริ่มฉายภาพในอดีตของเขา
วันเวลาที่ทำงานในฐานะทหารรับจ้าง…
เกษียณและทำงานในตระกูลไอเฟลเลต้า…
ได้พบกับไรลีย์
มันเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยอันตรายและความตื่นเต้น
‘นายน้อย โปรดอภัยให้ผมด้วย…’
เอียนขอโทษเพราะเขากำลังตายก่อนจะได้ปกป้องไรลีย์
เอียนยอมแพ้ให้กับชีวิตของตนเองแล้ว
“…!”
ฟิ้วววว!
มีดสั้นเล่มหนึ่งบินมาจากทิศทางปริศนาและปักเข้าที่ไหล่ชายสวมผ้าคลุม
“อึ๊ก!?”
ชายสวมผ้าคลุมตกใจ
มีดสั้นเล่มนั้นเป็นของสหายเขา
มีคนทรยศงั้นเหรอ?
…แล้วใครกันล่ะ?
ก่อนจะคิดเรื่องนั้น… บุคคลที่สามที่เขามองไม่เห็นและตรวจจับไม่พบสามารถปามีดสั้นใส่เขาได้ยังไง?
มันเป็นสิ่งที่แม้แต่หัวหน้าของเขาก็ไม่สามารถทำได้
‘…เปิดช่องว่าง!’
เอียนไม่พลาดช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ตาของเขาเปล่งประกายด้วยความหวัง
ในการต่อสู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญ การตัดสินใจที่ต่างกันเพียงเล็กน้อยก็สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้
ช่วงเวลานี้เปลี่ยนกระแสของการต่อสู้
“…อั๊ก!”
ทันใดนั้น
ดาบของเอียนได้ฟันเข้าที่คอของชายสวมผ้าคลุม
ชายสวมผ้าคุมกุมคอตัวเอง
เลือดไหลผ่านนิ้วของเขา และเขาก็คุกเข่าลง
จากนั้นเขาก็เสียชีวิตแล้วล้มลงบนพื้น
“แฮ่ก ฟู่ๆ …”
เอียนผู้ซึ่งรอดจากความตายเริ่มควบคุมลมหายใจตัวเอง
เขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญคือเป้าหมายของเขา
ในตอนนี้เขาไม่มีเวลามากพอที่จะคิดถึงการต่อสู้ที่ผ่านมา
“…นายน้อย!”
เอียนวิ่งผ่านโถงทางเดินไป เขาถูกผลักดันโดยความกังวลในตัวเจ้านายผู้ขี้เกียจของเขา
————————————————-
หืมมมมมม…
เสียงพึมพำดังมาจากโถงทางเดิน
ไรลีย์เป็นคนส่งเสียงนั้นออกมา
“แปลกจริง…”
ไรลีย์มองไปยังมือตัวเองที่เพิ่งปาบางสิ่งออกไปด้วยแรงทั้งหมดของเขา
ผลลัพธ์ไม่เหมือนที่เขาคาดไว้
“พลาดได้ยังไงกันน้า~ ?”
การปามีด
มันคือสิ่งที่ถูกเรียกในสถานการณ์ปกติ แต่สิ่งที่ไรลีย์ได้ทำไปนั้นคงเรียกได้ว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์
“ฉันว่าฉันปาไปที่หัวใจของเขานะ…”
มีดสั้นที่ไรลีย์ปาออกไปนั้นแฉลบกำแพง…
…สองครั้ง
เขาคำนวณมุมสำหรับการปาไว้แล้ว ดังนั้นจึงมีเพียงส่วนด้ามจับเท่านั้นที่จะกระแทกผนัง
หลังจากนั้นมันก็พุ่งเข้าเป้าหมาย แต่มันไม่ใช่ส่วนที่เขาเล็งไว้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ไรลีย์ไม่พอใจในผลลัพธ์
“ฉันคาดหวังมากเกินไปรึเปล่านะ?”
การปามีดนั้นเป็นทักษะที่เขาใช้บ่อยที่สุดในชีวิตที่แล้ว
แม้ว่าเขาจะได้รับพรสวรรค์แห่งดาบ แต่เขากลับไม่มีพรสวรรค์ในทักษะการต่อสู้ระยะไกลอย่างการยิงธนูหรือเวทมนตร์เลย
ดังนั้นมันจึงเป็นหนึ่งในทักษะที่เขาคาดหวัง
“ร่างกายนี้ต่างจากเมื่อก่อน และยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งต่าง”
ไรลีย์กำและแบมือสลับกันไปเรื่อยๆ ขณะพูดกับตัวเอง
ถ้าคนทั่วไปได้ยินสิ่งที่เขาพูด พวกเขาคงกลายเป็นคนบ้าแน่นอน
มันคงมีการ ‘ปาเพื่อทักทาย’ อีกครั้งถ้าเขาพลาด แม้ระยะห่างระหว่างศัตรูกับเขาจะห่างกันมากขนาดไหน
เขาก็มั่นใจว่าเขาไม่มีวันปาโดนเอียนที่กำลังต่อสู้อยู่และมันจะโดนชายสวมผ้าคลุมแน่นอน
เขามั่นใจเพราะได้รับการช่วยเหลือจากทักษะและประสบการณ์
แม้ทั้งหมดจะเป็นของตัวเขาในชีวิตที่แล้วก็ตาม
“ก็นะ อย่างน้อยมันก็เป็นมีดสั้นเหมือนกันล่ะนะ”
ไรลีย์มองไปยังพื้นเบื้องล่างของเขา
เจ้าของมีดสั้นคนก่อนและสหายของเขาทั้งหมดกำลังนอนอ้าปากค้างอยู่บนพื้น
พวกเขาทั้งหมดนั้นตายแล้ว
‘อุ๊บ คิดเรื่องไร้สาระมากไปหน่อยแฮะ’
ไรลีย์ถูร้องเท้าบนพรมเพื่อเช็ดคราบเลือดโดยตระหนักว่าเอียนอาจมาหาเขาได้ทุกเวลาหากเขายังยืนขี้เกียจอยู่เช่นนี้
มันคือการกำจัดหลักฐาน
หากคนในคฤหาสน์เห็นไรลีย์ยืนอยู่บนกองศพหรือพบหลักฐานว่าเขาเป็นคนลงมือสังหาร ชีวิตอันสงบสุขของเขาจะจบลงในทันที
มันไม่ใช่สิ่งที่เขาหวังไว้
“อะแฮ่มๆ !”
ไรลีย์กระแอมออกมาเพื่อลบบรรยากาศและออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว
———————————————————–
“…หืม? เอียน?”
“น-นายน้อยครับ!”
ในตอนนี้ เอียนจึงได้รู้ว่าทำไมเขาถึงได้มั่นใจอยู่
ต้องขอบคุณเด็กชายผู้กำลังเดินผ่านมุมๆ หนึ่งในคฤหาสน์
เขารู้สึกยินดีมากที่ได้พบกับเจ้านายผู้เคยทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
“มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ? นายเหงื่อออกนิดหน่อยนะ”
“นายน้อยครับ…”
“อะไร? นายวิ่งมางั้นเหรอ?”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร”
ไรลีย์ถามด้วยรอยยิ้มอันสดใส เอียนส่ายหัวพร้อมกับน้ำตาในดวงตาของเขา
ไรลีย์เอียงหัวตอบสนองต่อใบหน้าของชายชราที่เพิ่งรอดชีวิตมา
เขาทำตัวราวกับไม่รู้เรื่องอะไรแม้แต่นิดเดียว
“…?”
“ท่านไปที่ไหนมาครับ? ก่อนหน้านี้ท่านอยู่ที่สวนไม่ใช่เหรอครับ?”
“หืม? เอ่อ คือ…”
ไรลีย์สะดุดเพราะคำถามที่ไม่คาดคิด แต่เอียนไม่ได้สังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย
“ฉันไปห้องน้ำมาน่ะ ทำไมเหรอ? มีอะไรเกินขึ้นงั้นเหรอ?”
ไรลีย์ถามราวกับกังวลเรื่องเอียนผู้มีเหงื่อเต็มใบหน้า
เอียนมองหน้าไรลีย์อย่างจริงจังพร้อมตอบกลับไป
“มีนักฆ่าบุกรุกเข้ามาในคฤหาสน์ครับ”
“นักฆ่างั้นเหรอ?”
เอียนพยักหน้าให้กับไรลีย์ที่กำลังแปลกใจ
“ครับ มันต้องเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้แน่ครับ”
มันต้องเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน
การพบศพของนักฆ่าต้องเป็นเหตุผลที่พวกเขามายังคฤหาสน์หลังนี้
“สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้วครับ ในตอนนี้การอยู่คนเดียวอาจเป็นอันตรายได้ครับ”
“นี่… ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”
“ผมจริงจังครับ”
ไรลีย์เริ่มมองไปรอบๆ ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน
คฤหาสน์ดูเหมือนจะเงียบเกินไป แต่มีบางครั้งที่ได้ยินเสียงดาบปะทะกันดังมาจากระยะไกล
มันเป็นหลักฐานว่าสิ่งที่เอียนพูดนั้นเป็นความจริง
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่…”
ไรลีย์กลืนคำพูดลงไป เขาหันหัวอย่างรวดเร็วและถามเอียน
“เอียนแล้วท่านแม่ล่ะ? ท่านปลอดภัยดีหรือเปล่า?”
มันเป็นสิ่งแรกที่เขากังวล
แม้ข่าวลือที่กล่าวว่าเขาขี้เกียจจะกระจายออกไป แต่ความรักที่เขามีต่อแม่นั้นไม่เป็นสองรองใคร
ใบหน้าของเอียนช่วยผ่อนคลายความกังวลของเด็กชาย
“เซร่ากำลังปกป้องท่านหญิงอยู่ครับ ไม่กังวลหรอกครับเพราะเธอค่อนข้างแข็งแกร่งเลยทีเดียว”
“งั้นเหรอ? เฮ้อ ดีแล้วล่ะ”
ไรลีย์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ในตอนนี้เราควรกลับไปรวมตัวกับเซร่านะครับ”
เอียนกล่าวหลังจากสังเกตโถงทางเดิน
ความกระหายเลือดในคฤหาสน์เริ่มหนาขึ้น
มีแนวโน้มว่าสไตน์จะเข้าร่วมการต่อสู้แล้ว
ทั้งไรอันและลอยด์ก็สามารถใช้ดาบได้ดีแล้วด้วย
“ในตอนนี้เราเป็นกลุ่มที่อ่อนแอที่สุดในคฤหาสน์ครับ”
ไรลีย์นั้นอ่อนแอที่สุดในตระกูลไอเฟลเลต้า
แต่ว่า!
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาต้องได้รับการคุ้มครอง
เพื่อปกป้องเมล็ดพันธุ์แห่งความสามารถที่ยังไม่งอกเงย
มันเป็นสิ่งหนึ่งที่เขาอยากเห็นด้วยตาทั้งสองข้างในตอนที่มันบานออกมา
ขณะที่เอียนยืนยันความตั้งใจของตัวเอง เขามองไปยังไรลีย์ด้วยความอ่อนโยน
“ผมจะนำหน้าเองครับ อยู่ข้างหลังผมให้ตลอดนะครับเพราะผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
เมื่อเอียนกำลังจะเคลื่อนที่พร้อมกับดาบของเขา ไรลีย์ก็ยกมือเพื่อหยุดเขา
“ตอนนี้ฉันกำลังนึกถึงมันอยู่… ฉันเห็นบางสิ่งแปลกๆ ในห้องน้ำด้วยน่ะ”
“บางสิ่งแปลกๆ ?”
“บางทีมันอาจเกี่ยวข้องกับผู้บุกรุกในคฤหาสน์ก็ได้นะ”
เอียนเริ่มสนใจหลังจากได้ยินสิ่งที่เด็กชายกล่าวออกมา
เอียนคอยดูแลไรลีย์ตั้งแต่เขายังเป็นทารก
บางที่เขาอาจชี้ไปยังบางสิ่งที่พิเศษก็เป็นได้ เหมือนกับการเล่น ‘ซ่อนหา’ ของเขาในอดีต
ความคิดเหล่านั้นไหลเข้ามาในจิตใจเขา
“ฉันเอามันมาด้วยน่ะ”
มือของไรลีย์ขยับไปยังประเป๋ากางเกงข้างซ้ายของเขา
สิ่งที่เด็กชายพบคืออะไรกันนะ?
ขณะที่เอียนพยายามเดาว่าสิ่งที่เขาพบคืออะไร
“…นายน้อยครับนี่มัน…?!”
คิ้วของเอียนกระตุกเมื่อได้เห็นวัตถุชิ้นนั้น