I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

The Lazy Swordmaster ตอนที่ 12 – ป๊อปคอร์น(2)

| The Lazy Swordmaster | 1118 | 2337 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“อ่าา! เขาอยู่ที่นี่นี่เอง”

 

เวลาได้ผ่านไปเท่าไหร่แล้วนะ?

เอียนลากสังขารตัวเองกลับไปยังห้องไอริส

ไรลีย์ที่นั่งอย่างสบาย ๆ จนกระทั่ง เมื่อกี้ลุกขึ้นและทักทายราวกับเขารอมาสักพักแล้ว

 

“เป็นยังไงบ้าง?”

 

“…”

 

ไรลีย์ถามเอียนซึ่งมองเขาราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น

เอียนไม่สามารถตอบได้ราวกับจิตใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

ทั้งไอริสและเซร่าซึ่งไม่รู้ว่าเด็กชายถามถึงเรื่องอะไร ทำได้เพียงเอียงหัวและแสดงใบหน้างุนงงออกมา

 

“เอียนคะ คุณไปไหนมาเหรอคะ? คุณที่รีบจากไปหลังจากกลับมากับนายน้อย”

 

“เอียน เธอไม่เป็นอะไรนะ? เธอดูไม่ค่อยดีเลยนะ”

 

“คือว่า…”

 

เขาจะอธิบายยังไงดี?

เอียนอ้ำ ๆ อึง ๆ อยู่พักหนึ่ง จนในที่สุดก็พูดออกมา

 

“…มันเป็นเพราะท่านหญิงโอแรลีย์ครับ”

 

“อะไรนะจ๊ะ?”

 

“อะไรเหรอคะ?”

 

“ทั้งหมดเป็นฝีมือของท่านหญิงโอแรลีย์ครับ”

 

เอียนยกมือขึ้นมาปิดใบหน้าอันฉุนเฉียวของเขาแล้วอธิบายต่อ

เอียนทำเช่นนั้นราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้เห็น

 

“ ‘ยาพิษ’ ที่ถูกใส่ลงไปในซุปของท่านหญิงไอริส…”

 

“หืม?”

 

“…?”

 

หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น และจากการหยุดพูดกลางคัน มีเพียงข้อสรุปเดียวเท่านั้นที่สามารถเป็นไปได้

ท่านหญิงโอแรลีย์… เธอเป็นผู้วางยาพิษในอาหารเย็นของท่านหญิงไอริส!

 

“…”

 

เอียนผู้ซึ่งพูดคำเหล่านั้นออกมา

ไอริสผู้ซึ่งได้ฟังคำเหล่านั้น

ทั้งสองต่างยืนเงียบราวกับรูปปั้น

นี่เป็นเรื่องที่สามารถทำให้คฤหาสน์พลิกคว่ำได้เลย

 

“…เรื่องนั้นมันเป็นไม่ได้ใช่ไหมจ๊ะ?”

 

“ท่านหญิงไอริสครับ…”

 

“เอียน… ท่านหญิงโอแรลีย์ไม่มีวันทำเรื่องแบบนั้นหรอกจ้ะ”

 

ไอริสที่นั่งอยู่บนเตียงจับขอบผ้าห่มอย่างแน่นหนา

แม้ว่าเธอมักจะได้รับคำดูถูกจากท่านหญิงโอแรลีย์มา แต่ในฐานะผู้หญิงที่มีสามีคนเดียวกันแล้ว ไอริสเชื่อมั่นว่าโอแรลีย์ไม่ใช่ผู้กระทำผิด เธอจึงกดดันเอียนอีกครั้ง

 

“ไม่เป็นไรครับท่านแม่”

 

ไรลีย์จับไหล่ของแม่ตนเอง

 

“เอียน”

 

ไรลีย์เรียกพ่อบ้านของเขา

 

“…”

 

เอียนเม้มปากและพยักหน้าให้กับการเรียกของเจ้านายของตน

ใบหน้าอันจริงจังของเขานั้นแสดงให้เห็นว่าทุกคำพูดนั้นเป็นความจริง

 

“เป็นไปไม่ได้”

 

ไอริสไหล่ตกเพราะข่าวอันน่าตกใจนี้

ในขณะเดียวกัน เซร่าก็อ้าปากค้าง

ความริษยาและความเกลียดชังของท่านหญิงโอแรลีย์ที่มีต่อท่านหญิงไอริสเป็นสิ่งที่เหล่าสาวใช้ในคฤหาสน์หลังนี้รู้กันดี… แต่พวกเธอไม่เคยคิดเลยว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากพอที่จะพยายามลอบสังหาร

 

“แล้วท่านพ่อล่ะ?”

 

ไรลีย์ถามเอียนด้วยความสงบราวกับคาดการณ์เรื่องนี้ไว้แล้ว

เพราะเขาเป็นคนแรกที่ล่วงรู้ความจริงนี้ด้วยตัวเอง

 

“นายท่านกำลังสนทนากับท่านหญิงโอแรลีย์อยู่ครับ”

 

เอียนตอบด้วยเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความอ่อนเพลีย

เขาไม่ได้ต่อสู้มานานแล้ว

และด้วยข่าวอันน่าตกตะลึงนี้ ทำให้แม้แต่นักดาบผู้มีประสบการณ์โชกโชนเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ

 

“มันเป็นกระดาษครับ นายน้อยไรลีย์ได้พบกับเศษกระดาษในคฤหาสน์และ…”

 

เอียนยันตัวบนประตูและพูดต่อ

ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยเศษกระดาษที่ไรลีย์ ‘พบ’

 

“ลายมือบนกระดาษตรงกับลายมือของท่านหญิงโอแรลีย์ ดังนั้นหลังจากอ่านมันแล้ว…”

 

“ไม่…”

 

“…บนจดหมายมีการขอยาพิษที่จะส่งผลต่อร่างกายของท่านหญิงไอริสได้โดยตรง และ…”

 

“เดี๋ยวก่อนค่ะ! คุณเอียน”

 

เซร่าพูดขัดเอียน

เหงื่อเย็นที่ปรากฏบนใบหน้าเธอ แสดงให้เห็นว่าเธอนั้นกังวลเพียงใด

เธอสามารถเดาได้

สิ่งที่เขาจะพูดต่อไปคงเป็นบางสิ่งที่เลวร้ายกว่าเรื่องยาพิษ

นั่นคือการคาดเดาของเขา

 

“…มันเป็นเรื่องโกหกใช่ไหม?”

 

“…”

 

เอียนนิ่งเงียบ

 

——————————————————————————————————————-

 

บรรยากาศในห้องเย็นยะเยือกราวกับยามราตีในฤดูหนาว

 

“ทำไม?”

 

สไตน์ถามหลังจากมองไปยังกระดาษในมืออย่างว่างเปล่า

โอแรลีย์ไม่สามารถตอบได้

 

“ทำไมเธอถึงได้วางยาพิษในซุปของไอริส?”

 

เคาท์สไตน์ถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงตำหนิ

คำถามนี้ไม่เพียงแต่ถามโอแรลีย์เท่านั้น แต่รวมไปถึงชายสวมผ้าคลุมด้วย

 

“…”

 

คำถามที่สองยังคงพบกับความเงียบงันเช่นเคย

แม้ว่าใบหน้าของชายสวมหน้ากากจะยังปกปิดอยู่ แต่จากการที่ทั้งเขาและโอไรลีย์ยืนอยู่ใกล้กัน มันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นพวกเดียวกัน

 

“ฉันคิดว่าเธอไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้นเลย”

 

“…”

 

โอไรลีย์กำหมัดของเธอและไม่ตอบออกไป

ดูเหมือนเธอจะฉุนเฉียวอย่างมาก

 

“…โอแรลีย์”

 

ในที่สุด ชายสวมผ้าคลุมก็พูดออกมา

ภายในเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความกังวล สไตน์ขมวดคิ้วเพราะน้ำเสียงฟังดูคุ้น ๆ

 

“เสียงนี้… แกคือ-!”

 

เมื่อตระหนักได้ว่าตัวตนถูกเปิดเผยแล้ว ชายสวมผ้าคลุมยกมือขึ้น

ผ้าสีดำที่ปกปิดใบหน้าของเขาค่อย ๆ เลื่อนไปด้านหลังอย่างช้า ๆ

ใบหน้าที่สไตน์รู้จักดี ปรากฏออกมา

ใบหน้าของชายผู้เป็นหัวหน้าสมาคมการค้าเทส และเป็นพ่อตาของเขา

 

“พ่อ…?”

 

“…”

 

ใบหน้าอันสงบของสไตน์บิดเบี้ยวอีกครั้ง

เขารู้สึกราวกับโดนทรยศ

โดยสมาคมการค้าเทสอันเลืองชื่อ…

โดยครอบครัวของเขา…

 

“……”

 

เพราะพวกเขาใกล้ชิดกับสมาคมนักฆ่าที่เกลียดชิงชังมาก…

เพราะเขาไม่ได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้…

 

“ฉันรู้สึกเหมือนคนโง่เลย”

 

“คน…โง่…?”

 

เสียงอันสั่นเครือตอบกลับมาหลังจากคำว่า “โง่”

โอแรลีย์ซึ่งเงียบมาจนกระทั่งตอนนี้พูดออกมา

 

“ฉันเป็นคนที่รู้สึกราวกับตัวเองเป็นคนโง่ ฉันเอง”

 

สไตน์จ้องโอแรลีย์อย่างเย็นชา

โอแรลีย์ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น เธอจ้องสไตน์กลับด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา

ใบหน้าเธอแสดงความโกรธออกมาราวกับเธอไม่สมควรที่จะได้รับสิ่งนี้

 

“ถ้าท่านหันกลับมามองข้าสักครั้ง… หลังจากแต่งงานล่ะก็ ท่านเคยมองข้าด้วยความเสน่หาบ้างไหม?”

 

เธอเริ่มบ่นออกมาราวกับท่อน้ำแตก

เธอพูดพร้อมกับแนบกำปั้นไว้บริเวณหน้าอก มือเธอสั่นไหวยิ่งกว่าน้ำเสียงของเธอ

 

“ไม่ใช่เพียงข้าเท่านั้น แม้แต่ไรอันกับลอยด์ก็เช่นกัน! ท่านเคยทำดีกับบุตรทั้งสองของท่านบ้างไหม!?”

 

สไตน์ไม่สามารถตอบกลับไปได้

เขายังคงมองโอแรลีย์ต่อไป สายตาอันเย็นชาของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย

 

“พวกเขาทำผิดอะไรถึงต้องได้รับสิ่งนั้น! ฉันทำผิดอะไร! เทียบกับเจ้าคนไร้ประโยชน์อย่างไรลีย์ กับนังสารเลวไอริสแล้ว! ฉันดีกว่าตั้งเยอะ!”

 

โอแรลีย์หายใจอย่างหืดหอบราวกับขาดอากาศหายใจ จากนั้นก็เธอพูดเสริมขึ้นมาอีกครั้ง

 

“ฉันได้ทุกสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันต้องได้ทุกสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันจะเอาทุกสิ่งที่ฉันต้องการ ดังนั้น ดังนั้น…”

 

ดวงตาของโอแรลีย์เริ่มสั่น

เธอเลิกพูดแบบเดิม มันถูกแทนที่ด้วยบางสิ่งที่น่าเกลียด อันเป็นผลมาจากการเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กของเธอ

ในฐานะลูกสาวของสมาคมการค้าเทสอันเลื่องชื่อ เธอได้ทุกสิ่งที่เธอต้องการ และทำทุกสิ่งที่เธอต้องการเช่นกัน

ชีวิตอันแสนน่าเกลียดที่ทำให้สามารถแสดงความโลภออกมาได้อย่างเต็มที่ของเธอ ในที่สุดก็หลุดออกมาจากเปลือก

 

“นายได้ยินแล้วใช่ไหม ฉันจะ… ฉันจะ-!”

 

โอแรลีย์ที่พูดคำอันแสนน่าเกลียดออกมาเงียบปากลง

เธอรู้สึกได้ถึงจิตสังหารจากตรงหน้าเธอ

สไตน์ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

 

“จบแล้วใช่ไหม?”

 

“…”

 

ในที่สุด…

ความคิดที่ว่า ‘ฉันเลี้ยงลูกผิดวิธีงั้นเหรอ?’ ได้เข้ามาในหัวเทส

 

“ไม่…”

 

โอไรลีย์ค่อย ๆ ก้าวถอยหลัง ในที่สุดเธอก็รู้สึกตัว

ด้วยใบหน้าอันซีดเซียว เธอได้ตระหนักถึงความผิดพลาดที่เธอทำในหัว

 

“ไม่ ไม่… ไม่! ไม่! ฉัน-!”

 

จากนั้น เธอเริ่มดึงผมของเธอด้วยความฉุนเฉียว

เธอกำผมของเธอแน่นจนเริ่มทำให้เล็บปลอมบนนิ้วเธอล่วงลงไปบนพรม

 

“ฉัน… ฉันไม่เคยต้องการสิ่งเหล่านี้…”

 

สไตน์ออกคำสั่งแก่โอไรลีย์ที่ดูเหมือนกำลังเสียสติ

 

“…ออกไป”

 

ออกไป

ไปให้พ้นจากที่นี่

 

“อะไรนะ?”

 

โอแรลีย์ตอบพร้อมแสดงสีหน้าโง่ ๆ ออกมา

 

“…”

 

สไตน์ไม่ได้ตอบกลับไป

เขาเพียงส่งสายตาที่ราวกับบอกว่า ถ้าเธอไม่ทำตามเขา เขาจะฆ่าเธอที่นี่ในตอนนี้

จิตสังหารแผ่กระจายออกมารอบ ๆ ตัวเขา

 

“ท่านพ่อ! สั่งให้พวกนักฆ่าถอนกำลัง-…”

 

ภายในห้องที่รู้สึกราวกับสามารถเกิดระเบิดได้ทุกเวลา…

บุตรชายคนแรกและคนที่สองแห่งตระกูลไอเฟลเลต้าได้เดินเข้ามาในห้องทำงาน

ดูเหมือนพวกเขาจะต่อสู้จนกระทั่งก่อนหน้านี้ เสื้อผ้าพวกเขายับยู่ยี่

 

“…ท่านพ่อ?”

 

“ท-ท่านแม่ก็อยู่ด้วย แต่… ทำไมบรรยากาศภายในห้องถึงได้ดูแปลก ๆ ล่ะครับ?”

 

———————————————————————————————————

 

“ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มแล้ว”

 

เขาต้องโกรธมากขนาดไหนกันมันถึงได้เป็นแบบนี้?

แม้ว่าจะอยู่ห่างออกไป เอียนก็สั่นเพราะเขารู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่ชัดเจนที่สุดในวันนี้

ในที่สุด ดูเหมือนการตัดสินการกระทำที่ถูกปิดซ่อนไว้ในอดีตได้เริ่มขึ้นแล้ว

 

“นายน้อยครับ?”

 

ที่ ๆ เคาท์สไตน์อยู่…

ขณะที่เอียนจินตนาการถึงภาพที่อยู่หลังกำแพง เขาค่อย ๆ หันกลับมาเพราะเขารู้สึกว่ามีใครบางคนหายไป

 

“นายน้อยครับ?”

 

“ไรลีย์?”

 

เมื่อเห็นว่าไม่มีการตอบกลับจากการเรียกของเอียน ไอริสเริ่มมองรอบห้องเพื่อหาบุตรชายของเธอ

ก่อนหน้านี้เขานั่งเลียริมฝีปากอยู่บนเตียง…

และตอนนี้เขาได้หายไปแล้ว

 

“หือ?”

 

เซร่าก็ตระหนักได้ว่าไรลีย์ได้หายตัวไป เธอเริ่มเบิกตากว้าง

 

“นายน้อยครับ!”

 

“นายน้อยคะ!”

 

“ไรลีย์!”

 

ไรลีย์ได้หายตัวไปในอากาศอันบางเบา

ในขณะที่อาจจะยังมีนักฆ่าหลงเหลืออยู่ในคฤหาสน์หลังนี้

คำว่า ‘ลักพาตัว’ ได้เข้ามาในหัวทั้งสามคน

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments