I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

The Lazy Swordmaster ตอนที่ 13 – ป็อปคอร์น(3)

| The Lazy Swordmaster | 1173 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เธอถูกขับไล่

และไม่ได้ใส่เสื้อผ้าที่ดูหรูหราอีกต่อไปแล้ว

โอไรลีย์โดนขับไล่ออกจากตระกูลไอเฟลเลต้าต่อหน้าบุตรชายทั้งสองของเธอ

 

“ไม่สิ มันต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ ๆ …”

 

เทสผู้เป็นพ่อโอไรลีย์เดินตามหลังเธอ และมองดูเธอก้าวเดินด้วยความสิ้นหวัง

คลื่นแห่งความเสียใจได้ถาโถมเข้ามาในหัวสมองของเขา

การที่เธอถูกเลี้ยงดูมาผิดวิธีได้ย้อนกลับมาทำร้ายพวกเขาในภายหลัง

 

<…ถอนกำลัง>

 

เทสส่งโทรจิตพร้อมแสดงสีหน้ากลุ้มใจออกมา

เขาสั่งให้เหล่านักฆ่าที่บุกรุกคฤหาสน์ถอยเต็มกำลัง

 

“มัน… ต้อง… เป็นความฝันแน่ ๆ เมื่อฉันลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ฉันต้องนอนอยู่บนเตียงแน่ ๆ ใช่… ใช่แล้ว!”

 

เทสเม้มริมฝีปาก ขณะมองบุตรสาวของตนเองที่พยายามหลีกหนีจากความเป็นจริง

แล้วจู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว

ถ้าเขาตัดสินใจไม่บุกคฤหาสน์วันนี้ พวกเขาจะหลีกเลี่ยงเรื่องพวกนี้ได้ไหมนะ?

เขาได้ลองพิจารณามันดู…

แต่ในท้ายสุด เขาก็ได้แต่ส่ายหัวและทิ้งความคิดเหล่านั้นไป

 

‘ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่วันนี้ แต่เรื่องแบบนี้มันก็ต้องเกิดขึ้นสักวันอยู่ดี ไม่ช้าก็เร็ว’

 

ไม่มีสิ่งใดถูกซ่อนได้ตลอดไป

เทสรู้เรื่องนั้นดี

ไม่ว่ายังไงบุตรสาวของเขาก็ต้องถูกขับไล่ในสักวัน

สุดท้ายแล้วความจริงก็ต้องถูกเปิดเผยให้โลกรับรู้

 

‘นี่เป็นเรื่องที่ดีแล้ว’

 

ดีแล้วล่ะ ที่ถูกขับไล่ออกมาตั้งแต่เนิ่นๆ

ถ้าพวกเขาได้เรียนรู้จากบทเรียนในครั้งนี้ล่ะก็ ต่อไปพวกเขาก็คงสามารถผ่านสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างสบายๆ

และเทสเองก็เป็นชายผู้ที่มั่งคั่งและมีอำนาจมากพอที่จะทำให้มันเป็นจริงได้

 

‘พวกเขาคงไม่กล้ากระจายข่าวไปทั่วหรอก เพราะมันจะส่งผลต่อชื่อเสียงของพวกเขาเช่นกัน’

 

เทสที่ยื่นมือออกไปจับไหล่ของบุตรสาวตน หลังจากวางแผนการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปเสร็จแล้ว

 

“ท่านพ่อ นี่มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมคะ? มันไม่มีทางหรอก ที่สามีของหนูจะทอดทิ้งหนูแบบนี้! แล้วเขาก็ไม่มีทางทำเช่นนี้ต่อหน้าไรอันกับลอยด์เช่นกัน!”

 

“ไม่เป็นไรหรอกโอแรลีย์ลูกพ่อ เรายังสามารถกู้สถานการณ์กลับมาได้อยู่”

 

เทสที่พยายามใช้เหตุผลกับเธอ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว

 

“ทั้งหมด… ทั้งหมดนี่ เป็นความผิดของยัยนั่น”

 

คำพูดของพ่อเธอไม่เข้าหูเธอเลยแม้แต่น้อย เธอสาบานด้วยว่าจะแก้แค้นให้ได้

ในแววตาของเธอลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความโทสะ

 

“ไอริส… เป็นเพราะนังสารเลวนั่นล่อลวงเขา!”

 

โอไรลีย์คิดเช่นนั้นอย่างแรงกล้า

เพราะภรรยาคนที่สองของเคาท์สไตน์ ฟินน์ ไอเฟลเลต้า นั่นจึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องถูกขับไล่

โอแรลีย์นั้น มั่นใจว่าตนเองไม่ได้ทำสิ่งใดที่ผิดจนต้องได้รับผลเช่นนี้

 

“ถ้าแกตายล่ะก็… แกมันสมควรต้องตาย! ใช่แล้ว!”

 

โอแรลีย์ได้แผ่ความกระหายเลือดออกมารอบกายเธอ

ความเศร้าใจได้ปรากฏบนใบหน้าเทสเมื่อได้เห็นสภาพอันน่ากลัวของบุตรสาวตน

 

‘เธอได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากแน่ๆ’

 

ต้องทำให้เธอกลับมามีสติ

ต้องเริ่มสั่งสอนเธอใหม่ตั้งแต่เริ่มแรก

ต้องเปลี่ยนจิตใจอันเปี่ยมล้นไปด้วยความรักของเธอ

เทสเองก็ถึงกับต้องถอนหายใจ เมื่อคิดได้ว่าไม่มีสิ่งใดที่ทำได้ง่าย ๆ เลย

 

“…อ่า”

 

ไกลแค่ไหนแล้วนะ ที่พวกเขาเดินออกมาจากคฤหาสน์?

เสียงของเด็กชายดังมาจากด้านหน้าของพวกเขาอย่างกะทันหัน

 

“…?”

 

ทั้งโอแรลีย์ผู้ซึ่งเดินพร้อมกับแสดงใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยโทสะ และเทสที่เดินตามหลังเธอก็ได้หยุดเดินลง

 

“หือ นี่มันอะไรกัน? เรื่องสนุกๆ จบไปแล้วงั้นเหรอ?”

 

ก็ได้มีคำถามที่ถามมาจากนอกระยะการรับรู้ของพวกเขา

มันได้ถามมายังโอแรลีย์และเทส

 

“…นั่นใครกัน?”

 

ตอนนี้เป็นตอนกลางคืนจึงยากที่จะมองเห็นสิ่งรอบตัว

เทสซึ่งขมวดคิ้วจนเส้นเลือดปรากฏบนหน้าผากถามออกไป

 

“หืม…”

 

เสียงพุ่มไม้และเสียงต่างๆ ดังออกมาเมื่อมีคนเดินเหยียบพวกมัน

ภายในความเงียบสงัด เสียงนั้นดังออกมาราวกับกำลังค้นหาอะไรบางอย่างอยู่

เป็นเสียงที่ฟังดูไม่เร่งรีบ แต่ก็ไม่ได้นิ่มนวล

 

“ดูเหมือนจะจบไปแล้วสินะ”

 

เสียงดังขึ้นมาจากด้านหน้า มันเต็มไปด้วยความผิดหวังจากการที่พลาดเหตุการณ์สนุกๆไป

จากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นอีกครั้ง

 

แกร็บ แกร็บ

 

“เดี๋ยวนะ เสียงนี้มัน… ฉันเคยได้ยินมาจากไหนกันนะ?”

 

เทสขมวดคิ้วขณะยืนหน้าบุตรสาวของตน

เขาจำได้ว่าเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน

แต่จากไหนกันล่ะ?

ที่ไหนกัน…

 

‘…’

 

ร่างกายของเทสแทบจะแข็งเป็นหินเมื่อเขานึกมันออก

เสียงนั้นเป็นเสียงเดียวกันกับเสียงโทรจิตที่เขาได้ยินก่อนเริ่มการบุกรุกในตอนบ่าย

 

“เฮ้อ ท่านพ่อล่ะก็… เขาเองก็มีด้านที่อ่อนโยนจนหน้าตกใจเลยแฮะ น่ารำคาญจริง ๆ”

 

เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

 

เมื่อเสียงฝีเท้าดังออกมาอีกครั้ง เด็กชายผู้มี ‘ฝ้ายสีขาว’ เต็มถุงปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา

 

“แก… แกมัน!?”

 

โอแรลีย์ซึ่งอยู่ข้างหลังเทสชี้พร้อมเบิกตากว้างเมื่อเธอรู้ว่าเด็กชายคนนั้นเป็นใคร

เขาเป็นคนที่โอแรลีย์รู้จักเป็นอย่างดีทีเดียว

 

“ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่ได้!?”

 

เด็กชายคนนั้นคือไรลีย์

ในประวัติศาสตร์ของตระกูลไอเฟลเลต้า เขาเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ที่สุด เกียจคร้านที่สุด และสันหลังยาวที่สุดจนถูกขนานนามว่า ‘ดาบขี้เกียจ’ เขาคือบุตรชายคนที่สามของตระกูล

เด็กชายที่แม้แต่ดาบไม้ก็ยังใช้ไม่ได้เรื่อง

 

“หืม…”

 

ก้อนฝ้ายเหลืออยู่ในถุงนิดหน่อย

ไรลีย์ได้ตอบกลับไปหลังจากที่ไรลีย์หยิบ ‘ก้อนฝ้าย’ ที่เหลืออยู่ในถุงกินจนหมด

 

“…ก็ฉันอยากเห็นอะไรที่มันน่าสนใจนี่นา”

 

“อะไรนะ…”

 

โอแรลีย์มองเด็กชายตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

 

‘แกอยากพบกับจุดจบของแกมากสินะ?’

 

โอแรลีย์อยากจะถามแบบนั้น แต่คำถามเหล่านั้น ดันกลับไม่ออกจากปากของเธอมาซักคำ

เทสชักมีดสั้นพร้อมปล่อยจิตสังหารที่ต้องการจะฆ่าเด็กชายคนั้นอย่างเต็มที่

แถมยังสามารถรู้สึกได้ถึงจิตสังหารจากบริเวณรอบๆ อีกด้วย

จิตสังหารเหล่านั้นมาจากเหล่านักฆ่าที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเทสนั่นเอง

 

“ฉันต้องแยกปัญหาส่วนตัวของฉันสินะ”

 

ไรลีย์ขยับมือขณะพูดต่อ

 

แกร๊บ!

 

ไรลีย์โยนถุงไปข้างหลังและบิดคอซ้ายขวา สายตาของเขาเริ่มเปี่ยมไปด้วยความกระหายเลือด

เขาได้เตือนพวกนั้น

 

“พวกแก… ฉันจะยกโทษให้เพราะพวกแกไม่ได้มายุ่งกับฉัน ดังนั้นฉันจะปล่อยพวกแกไปเพราะพวกแกฟังคำเตือนของฉันก่อนหน้านี้”

 

เป็นความจริงที่ว่าไรลีย์ได้ฆ่าชายผ้าคลุมซึ่งพยายามใช้เขาเป็นตัวประกัน

แต่ความจริงเรื่องนั้นก็ไม่ได้สำคัญมากนัก

 

“…มันน่ารำคาญเหมือนกันแฮะ”

 

ไรลีย์แบมือและกำมือสลับกันขณะพูดต่อ

 

“แต่… ไม่ใช่สำหรับท่านหญิงโอแรลีย์”

 

เขาพูดเสริมในตอนท้าย เพราะท่านหญิงโอแรลีย์ไม่สามารถหลุดรอดจากการลงโทษได้

 

“อ๊ะ! เดี๋ยวก่อน ตอนนี้คุณไม่ใช่ท่านหญิงโอแรลีย์อีกต่อไปแล้วสินะ”

 

ไรลีย์ที่สังเกตถึงความผิดพลาดของตนได้อย่างรวดเร็ว

เขาเชื่อว่าการเรียกเธอว่า ‘ท่านหญิง’ หลังจากถูกขับไล่ออกมา มันคงเป็นมารยาทที่ไม่เหมาะสม

 

“ผมควรเรียกคุณว่าอะไรดีนะ หืม ?…”

 

แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ ไรลีย์ก็ยังคิดจากนั้นก็ถามด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายพร้อมกับรอยยิ้ม

 

“คุณโอแรลีย์?”

 

“…แก!”

 

ด้วยโทสะ โอแรลีย์ชักมีดสั้นสำรองจากเข็มขัดของเทสแล้วปาไปที่ไรลีย์

ราวกับว่าเธอได้รับพรสวรรค์ของนักฆ่าจากพ่อเธอด้วย มีดสั้นพุ่งตรงไปยังริมฝีปากของไรลีย์

ทั้ง ๆ ที่มันควรจะเป็นการผ่าปากอันโสโครกของเขาออกเป็นสองส่วน แต่ทว่า

 

“โอ๊ะ ฉันไม่ปล่อยให้คุณโอแรลีย์ผ่านไปได้ง่าย ๆ หรอกนะ”

 

ไรลีย์พูดต่อขณะหลบมีดสั้นโดยการเอนหัวเพียงเล็กน้อย

 

‘ด-ได้ยังไงกัน…?’

 

การหลบมีดสั้นสำหรับเด็กขี้เกียจ นั่นมันต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนกันแน่?

โอแรลีย์อ้าปากกว้าง เธอไม่สามารถปกปิดความตกใจของเธอได้อีกต่อไป

ในขณะเดียวกัน ถึงแม้จะถูกล้อมรอบไปด้วยนักฆ่า แต่ไรลีย์ยังคงผ่อนคลายอยู่

 

“แก… ต้องชดใช้ที่บังอาจมาทำร้ายแม่ของฉัน แน่นอนว่าแกสามารถกลับมาแก้แค้นฉันได้เสมอ”

 

ไรลีย์ลดเสียงต่ำลงในทันที

บรรยากาศสบาย ๆ รอบตัวไรลีย์เริ่มเปลี่ยนไป และลมหนาวก็ค่อย ๆ พัดมาแทนที่

มันบาดลึกเข้าไปในสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ราวกับเป็นมีดสั้นอันคมกริบ

 

“อะไร… กัน…?”

 

โอแรลีย์และเทสยังคงยืนอยู่นิ่ง ๆ พวกเขาแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนเห็น

ทันใดนั้น เด็กชายก็ได้ถือดาบไม้เล่มนึงเอาไว้ในมือขวาแล้ว……!

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments