I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

The Lazy Swordmaster ตอนที่ 16 – ซ่อนหา

| The Lazy Swordmaster | 1182 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

“น… นายน้อยครับ?”

 

“ทำไมนายถึงได้มองแบบนั้นล่ะ?”

 

เอียนหันหลังและมองไปยังไรลีย์ที่มาปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของเขา

ไรลีย์ยักไหล่ให้กับเอียนและเซร่าที่มองมา พวกเขาทำตัวราวกับว่าเห็นผียังไงยังงั้น

 

“ดูเหมือนว่าพวกนายกำลังคุยเรื่องของผมอยู่นี่…”

 

ไรลีย์มองผ่านไหล่เอียนไปที่สไตน์

พ่อของเขายืนกอดอกพร้อมกับทำสีหน้าจริงจัง ราวกับว่ากำลังรำคาญอะไรสักอย่าง

 

“นายน้อยครับ!”

 

ใบหน้าของเอียนและเซร่าเข้ามาในสายตาของไรลีย์ ในขณะที่เขากำลังมองพ่อของตนอยู่

ไหล่ของไรลีย์สั่นเล็กน้อยจากการที่พวกเขารีบเข้ามาหา

 

“หือ? มีอะไรงั้นเหรอ?”

 

“น… นายน้อยไปอยู่ที่ไหนมาครับ!?”

 

“ใช่แล้วค่ะ! นายน้อยรู้ไหมคะ ว่าฉันกับคุณเอียนกังวลเรื่องนายน้อยมากแค่ไหน?”

 

ตอนนี้ใบหน้าของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความกังวลใจ

แต่สิ่งที่น่าขันก็คือ ท่าทางของเอียนและเซร่า ดันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ใบหน้าของเอียนนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง ราวกับว่ากำลังจะร้องไห้อยู่รอมร่อ

ส่วนใบหน้าของเซร่านั้นกลายเป็นสีน้ำเงิน และเต็มไปด้วยความหวาดผวา

ริมฝีปากของไรลีย์เริ่มสั่น เพราะใบหน้าที่พวกเขากำลังทำอยู่ตอนนี้นั้น ต่างจากที่เขาคิดไว้ลิบลับ

 

“…ฮ่า ๆ ๆ !”

 

จู่ ๆ ไรลีย์ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

ราวกับว่าเขานั้นไม่รู้สึกถึงความกังวลของพวกเขาเลยสักนิด มือของเอียนที่กำลังหน้าแดงอยู่ สั่นริก ๆ ได้เปิดปากพูด

 

“ห-หัวเราะงั้นเหรอครับ? นี่นายน้อยหัวเราะอย่างงั้นเหรอครับ!?”

 

“นายน้อยคะ นี่ยังจะใช่เวลามาหัวเราะได้อีกเหรอคะ!?”

 

“ฮ่า ๆ ๆ ! ‘โทษทีนะ แต่ว่า… ตอนนี้หน้าของพวกนายนี่มันตลกจริง ๆ”

 

เซร่าพองแก้มด้วยความโกรธ

 

“หยาบคายค่ะ!”

 

“ในสถานการณ์แบบนี้ยังจะหัวเราะได้อีกนะครับ… นี่นายน้อยกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่-”

 

รู้ไหมว่าหัวใจของผมเกือบหยุดเต้นมาแล้วกี่ครั้ง?

 

ในขณะที่ได้คิดว่า ถ้าหัวใจยังเต้นด้วยความเร็วขนาดนี้อยู่ล่ะก็…

 

ร่างกายของเอียนก็เริ่มส่งสัญญาณอันตรายออกมา

 

“…อึก!?”

 

เอียนได้รีบเอามือขวาไปจับที่ท้ายทอยตนทันที

 

“ค-คุณเอียนคะ!”

 

“เอียน!”

 

มีคำกล่าวไว้ว่า ‘เวลานั้น จะเก็บค่าผ่านทางจากทุกคน’

ขณะที่เอียนกำลังจะหมดสติและล้มลง เพราะไม่สามารถทนกับความตื่นเต้นของเรื่องในวันนี้ได้ เซร่าที่อยู่ข้าง ๆเอียนก็รีบพุ่งตัวเข้าไปช่วย

 

“ข-เขาเป็นอะไรมากไหม?”

 

ไรลีย์ที่แลดูกังวล ก็ก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกับถามเซร่า

 

เซร่าเองก็ช่วยประคองตัวเอียนและลองตรวจสอบชีพจรของเขาดู จากนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมา ด้วยความโล่งอก เพราะได้ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้แล้ว

 

“เฮ้อ เขาแค่หมดสติไปน่ะค่ะ…”

 

พ่อบ้านแก่ ๆ คนหนึ่งที่พ่นคำสถบราวกับว่าเป็นกุ๊ยข้างถนนในตอนไม่มีใครเห็น เป็นลมไปเพราะเจ้านายตนเองหัวเราะเนี่ยนะ?

เซร่าที่ตกใจจนลืมที่จะดุไรลีย์ ก็ค่อย ๆ หันไปมองที่ด้านหลังเธอ

 

“…”

 

เพราะเคาท์สไตน์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

เซร่าแสดงความเคารพด้วยการน้อมตัวลง

เพื่อเป็นการขออภัยให้กับกิริยาที่น่าละอายของเอียน

 

“ไรลีย์”

 

“ครับ”

 

ในการตอบสนองต่อเสียงเรียกของสไตน์ ไรลีย์หุบยิ้มตนเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และตอบกลับไปในทันที ซึ่งนี่มันไม่เหมือนกับตัวเขาในยามปกติ

เป็นเพราะเขาคิดว่า ถ้าพ่อของเขาโกรธตอนนี้ล่ะก็มันคงน่ารำคาญน่าดู

 

“นั่นมันอะไร?”

 

“หือ? อ๊ะ นี่เหรอครับ?”

 

สไตน์ถามถึงถุงกระดาษที่ไรลีย์ถือไว้ในมือซ้าย

ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน เพราะมีเสียงดังออกมาตอนมันขยับ

สิ่งนั้นก็คือ…

 

“มันคือป๊อปคอร์นน่ะครับ”

 

“ป๊อป… คอร์น?”

 

สไตน์ถึงกับเอียงหัวเมื่อเขาได้ยินคำที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน

 

“มันเป็นขนมขบเคี้ยวที่ทำจากข้าวโพดน่ะครับ แล้ววันนี้ผมก็อยากกินขึ้นมาพอดี เลยไปทำเอาไว้นิดหน่อย และก็ตั้งใจจะเอาไปให้ท่านแม่ลองทานดู… หรือท่านพ่อก็อยากลองทานเหมือนกันเหรอครับ?”

 

“นายน้อยคะ… เพื่อสิ่งนั้นแล้วนายน้อยถึงกับต้องไปที่ครัว…”

 

เซร่าที่กำลังประคองเอียนเห็นไรลีย์ถือถุงป๊อปคอร์นด้วยใบหน้าไร้เดียงสา ก็พึมพำด้วยความเศร้าเล็กน้อย

ความคิดที่ว่า ‘ดีแล้วล่ะที่คุณเอียนหมดสติไป’ แล่นเข้ามาในหัวเธอ

เพราะมันดูเหมือนว่า เรื่องนี้คงไม่จบง่าย ๆ หากเขายังมีสติอยู่

 

“แต่ตอนที่ฉันไปที่ห้องครัว ฉันก็ไม่เห็นใครเลยนะคะ… เดี๋ยวนะคะนายน้อย นั่นมันอะไรกันคะ?”

 

เธอเอียงหัวด้วยความสงสัยขณะที่พูดออกมา

เพราะมันดูเหมือนมีคราบสกปรกอะไรบางอย่างอยู่บนแขนเสื้อของไรลีย์

 

“อ้อ นี่มัน… เพราะฉันกินเร็วมากไปหน่อยน่ะ ก็เลยเผลออ้วกออกมาจนได้”

 

ไรลีย์ตอบด้วยใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับกำลังอายอยู่ พร้อมกับหลบสายตาจากเซร่า

จากนั้นก็ยังเสริมไปอีกว่า ‘ก็เลยเช็ดปากด้วยเสื้อ’ ออกมา และรีบขอโทษก่อนที่จะโดนเซร่าดุ

 

“บางทีเธอคงจะคิดถึงตอนที่ฉันอยู่ในห้องน้ำสินะ ขอโทษนะ ที่ฉันพยายามกินมันคนเดียวให้หมด”

 

“นายน้อยไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกค่-”

 

“…พอได้แล้ว”

 

เธอโดนขัดก่อนที่เธอจะพูดกับไรลีย์จบ

คนที่ขัดเธอก็คือ สไตน์ ที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างหลังเธอนั่นเอง

 

“เธอกลับไปที่ห้องได้แล้ว เซร่า”

 

“แต่ว่า…”

 

เซร่าเม้มริมฝีปากเพราะกังวลว่าไรลีย์จะโดนท่านเคาท์ลงโทษอย่างหนัก

เธอเริ่มกระวนกระวายเพราะอยากจะอยู่และช่วยพูดปกป้องนายน้อยของเธอ แต่สไตน์ก็ไม่มีทางที่จะให้เธอทำอย่างงั้น

 

“เธอคงจะไม่แบกเอียนไปตลอดหรอก ใช่ไหม?”

 

“…”

 

เซร่ากรอกตามองสไตน์ที่อยู่ด้านหน้า จากนั้นก็ตามด้วยไรอัน และลอยด์ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา

โดยเฉพาะสายตาของสองพี่น้องนั้น มันดูอันตรายกว่าสไตน์มาก

คงเป็นเพราะการที่ท่านหญิงโอแรลีย์โดนขับไล่ออกจากคฤหาสน์ก่อนหน้านี้แน่ ๆ

 

“ใช่ไหมล่ะ?”

 

สไตน์ย้ำคำถามกับเซร่าอีกครั้ง

 

“…”

 

ด้วยความเป็นห่วง

แม้ว่าเธออยากจะอยู่ช่วย

แต่ว่า… เธอเองก็ไม่สามารถขัดคำสั่งของเจ้านายเธอได้

…ต่อให้นายน้อยของเธอต้องเจ็บปวดเพราะการกระทำของเธอก็ตาม

 

“…รับทราบค่ะ”

 

สุดท้าย เซร่าก็พยักหน้าตอบรับและเริ่มขยับออกไป

 

“นายน้อยคะ ได้โปรดอย่าไปโกรธพวกเขามากเลยนะคะ… นายน้อยรู้ใช่ไหมคะ ว่าดิฉันหมายถึงอะไร?”

 

ขณะที่เดินผ่าน เซร่าก็กระซิบกับไรลีย์

ไรลีย์ตอบเธอว่าไม่เป็นไรด้วยรอยยิ้มอันแจ่มใส

 

“…ไรลีย์”

 

หลังจากเซร่าจากไป ไรลีย์ที่ยืนอยู่ลำพังบนทางเดินก็ได้หยุดยิ้ม และตอบกลับด้วยใบหน้าจริงจัง

 

“ครับ”

 

“ฉันได้ยินมาว่า ‘กระดาษ’ ที่เอียนเอามาให้ฉัน… แกเป็นคนพบมันสินะ”

 

ยังไงมันก็ไม่ได้เป็นความลับอะไรอยู่แล้ว ไรลีย์จึงตอบไปแบบตรง ๆ

 

“ใช่แล้วครับ”

 

ไรลีย์ยืนเอามือไขว้หลังไว้ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพอย่างสูดสุด

พอไรลีย์ขยับมือก็จะมีเสียงป๊อบคอร์นดังออกมา

 

“แก…”

 

ราวกับว่ากำลังรำคาญเสียงของป๊อปคอร์น บุตรชายคนที่สองก็ก้าวมาข้างหน้าด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง

 

“ท่านแม่ของพวกเราเพิ่งจะโดนขับไล่ไปแท้ ๆ แกกลับมีหน้ามากินขนมอีกเรอะ!?”

 

‘ท่านแม่’

ถ้าพูดถึงแม่ล่ะก็ ลอยด์คงจะหมายถึงโอแรลีย์ ที่ไรลีย์เพิ่งจะ ‘จัดการ’ ไป

ดูเหมือนพวกเขาจะลืมว่าเธอนั้น ชอบหายตัวไปอยู่คนเดียว แต่ไรลีย์ก็ได้วางแผนแสร้งทำเป็นไม่รู้ไว้แล้ว

อย่างไรก็ตาม เขาก็เบิกตากว้างแล้วตอบกลับไป

 

“ข-ขับไล่? ท่านหญิงโอแรลีย์น่ะหรอ?”

 

“อย่ามาทำเป็นโง่นะ ไรลีย์!”

 

“ไม่ใช่นะ มันเกิดอะไรขึ้-”

 

“ไรลีย์!!!!!!!!”

 

“…”

 

ไหล่ของไรลีย์ที่กระตุกนั้น ราวกับว่าได้ตกใจเสียงตะโกนของลอยด์ที่เปี่ยมไปด้วยความเดือดดาล

ถ้ามีคนที่ไม่รู้จักไรลีย์มาเห็นฉากนี้ล่ะก็ เขาก็คงคิดว่า ไรลีย์นั้นเป็นเด็กขี้เกียจคนหนึ่งที่กำลังหวาดกลัวพี่ชายตนอยู่เท่านั้นเอง

 

“กระดาษนั่นน่ะ แกเป็นคนเขียนขึ้นมาเองใช่ไหม?”

 

แต่ว่า…

กับลอยด์ที่ตอนนี้คงจะเป็นบ้าไปเพราะความโกรธ ไม่ว่าจะเหตุผลหรือตรรกะอะไรก็คงจะไม่ได้ผล

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments