I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

The Lazy Swordmaster ตอนที่ 18 – ซ่อนหา(3)

| The Lazy Swordmaster | 1556 | 2533 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

‘นี่เราคิดฟุ้งซ่านเรื่องกระดาษนั่นมากเกินไป จนได้ยินผิดอย่างนั้นเหรอ?’

 

ไรลีย์ไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเพิ่งจะได้ยิน และถามกลับไปว่า

 

“เดี๋ยวครับ… ท่านพ่อพูดว่าอะไรนะครับ? ออกไป?”

 

“…”

 

สไตน์ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา

เขาเพียงรอคำตอบของไรลีย์ โดยที่ยังคงยื่นมือขวาออกมาเช่นเดิม

 

“เดี๋ยวครับ ผม…”

 

ไรลีย์ที่ขมวดคิ้วด้วยความตกใจ หรี่ตาลงและจ้องไปยังกระดาษที่สไตน์ยื่นให้

 

“นั่นมันอะไรเหรอครับ?”

 

สไตน์ไม่กล่าวอะไร เขาทำเพียงส่ายกระดาษที่ยื่นออกมาเท่านั้น

ดูเหมือนแต่เดิมมันถูกม้วนมา เขาเห็นเพียงขอบกระดาษที่ม้วนเข้า

 

“หืม เมืองหลวงงั้นรึ?”

 

ไรลีย์พึมพำกับตัวเอง มันเป็นคำที่โดดเด่นที่สุดในกระดาษ

เมืองหลวง

เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่อยู่นอกเขตปกครองของตระกูลไอเฟลเลต้า

ใจกลางเมืองมีปราสาทขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ ภายนอกมีกำแพงสีขาวสะอาดตาล้อมรอบเมือง

ชาวเมือง พ่อค้า และขุนนาง อาศัยอยู่ภายในเมืองที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม

 

[รายละเอียดในการแข่งขันงานประลองฝีมือที่ถูกจัดขึ้นในเมืองหลวง]

[การแข่งขันครั้งที่ 17 จะเริ่มในสัปดาห์หน้า ทางเราขอเชิญหนึ่งในบุตรชายแห่ง ‘ตระกูลไอเฟลเลต้า’ ซึ่งได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในเชิงดาบ จะเป็นเกียรติอย่างยิ่งหากท่านเข้าร่วม และแสดงฝีมือเป็นตัวอย่างในงานนี้]

 

ข้อความบนกระดาษนั้นมองไกล ๆ แล้วเห็นไม่ชัด

ไรลีย์จึงเข้าไปใกล้โต๊ะทำงานของสไตน์ และหยิบกระดาษมาเพื่อดูเนื้อหา

 

“…”

 

ข้อความบนกระดาษมีสิ่งที่ไรลีย์เกลียดที่สุดอยู่

‘ออกจากคฤหาสน์นี้ไปซะ’

ดูเหมือนว่านี่จะเป็นเหตุผลที่สไตน์กล่าวถ้อยคำเหล่านั้นออกมา

เพื่อให้ไปลงแข่งขันในการแข่งขันการประลองฝีมือ

 

‘ถึงแม้เขาจะเป็นคนพูดน้อยก็เถอะ…’

 

แกไปเข้าร่วมการแข่งขันการประลองฝีมือซะ

หากเขาพูดเช่นนั้นจะง่ายกว่า เขาไม่จำเป็นต้องกล่าวว่า ‘ออกจากคฤหาสน์นี้ไปซะ’ ก็ได้นี่?

ไรลีย์ที่บ่นอุบอิบในใจ วางกระดาษบนโต๊ะ และค่อย ๆ เดินกลับไปที่เดิม

 

“ฮ่า ๆ ๆ …”

 

“ไรลีย์”

 

“ท่านพ่อคงรู้คำตอบของผมดีใช่ไหมครับ?”

 

“มันจะเป็นประสบการณ์ที่ดีแน่”

 

“แต่ผมไม่เอาประสบการณ์พวกนั้นได้ไหมครับ?”

 

“พี่ชายของแกต่างก็เคยไปกันมาแล้ว”

 

“แล้วทำไมไม่ให้พวกท่านพี่ไปอีกครั้งหนึ่งล่ะครับ? ผมว่าแบบนั้นดีกว่ากันเยอะ”

 

“จดหมายมันส่งมาถึงแก”

 

“อะไรนะครับ ไม่มีทางหรอกครับ”

 

“พวกเขาอ้างว่ามันเป็นการกระชับมิตร”

 

“…”

 

เขาพูดว่าอะไรนะ?

กระชับมิตรงั้นเหรอ?

ถ้อยคำเหล่านั้นออกมาจากปากของคนหัวแข็งอย่างสไตน์

เมื่อไรลีย์หยุดเดิน และชะงักราวกับสะดุดอะไรบางสิ่ง สไตน์ดันเก้าอี้ไปด้านหลัง และยืนขึ้น

 

“ผม…ไม่..ไปครับ”

 

ขณะที่เสียงขาเก้าอี้ถูกับพื้นดังขึ้น สติของไรลีย์ก็กลับมา เขาส่ายหน้าและกล่าวถ้อยคำเหล่านั้นออกมา

จะร้องไห้ไม่อยากไปก็ใช้ไม่ได้อีก เพราะเขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว

ดังนั้นเขาจึงต้องระบุความตั้งใจของตนให้ชัดเจน

 

“ผมไม่มีทางลงแข่งขันในการประลองฝีมือแน่นอนครับ”

 

“นี่แกเลิกใช้ชีวิตเน่า ๆ เอาแต่อารมณ์ส่วนตัวเป็นศูนย์กลางนี่ซักทีได้ไหม? แกควรจะหยุดการใช้ชีวิตแบบนั้นได้แล้ว”

 

“ผมไม่มีความสามารถในเชิงดาบหรอก”

 

ไรลีย์มองมือตนเองและตอบกลับด้วยน้ำเสียงอันเบื่อหน่าย

 

“ครั้งก่อนผมได้ลองพยายามด้วยดาบไม้แล้ว ผมกังวลเรื่องท่านแม่มาก อยากจะปกป้องท่าน แต่… ความสามารถของผมมันช่างน่าสังเวช ฮ่ะ! ท่านพ่อควรจะได้เห็นสายตาของเอียนในตอนนั้นนะครับ มันเป็นสายตาแบบนั้นแหละครับ!”

 

ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องจริง แต่อีกส่วนเป็นเรื่องโกหก

ไม่รู้ว่าสไตน์จะสามารถจับส่วนที่เขาโกหกได้หรือเปล่า

 

“…”

 

“ผมรู้นะ… รู้มาตลอดว่าผมไม่มีความสามารถในเชิงดาบเลยซักนิด ผมถึงได้ยอมแพ้ ปล่อยผมไปเถอะครับ ได้โปรดอย่าบีบบังคับให้ผมเดินบนเส้นทางนี้อีกเลย…”

 

‘เพราะผมชอบการอ่านหนังสือยังไงล่ะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ผมจะหาทางเป็นจอมเวทย์เอง’ ไรลีย์กล่าวเสริมภายในใจ

เขารู้สึกว่าสไตน์จะยอมแพ้หลังจากได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น

‘ฉันแค่อยากใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ เท่านั้นแหละ ไม่อยากรับความหวังอันสูงส่งของคนอื่นอีกแล้ว’

ไรลีย์เม้มริมฝีปากเพราะคำสัตย์สาบานที่เขาให้ไว้ตั้งแต่ลืมตาดูโลกใบนี้

 

“ไรลีย์”

 

ไรลีย์สะดุ้งเพราะเสียงของสไตน์

คนทั่วไปคงไม่สังเกต แต่ภายใต้เสียงอันแหบแห้งของสไตน์นั้นมีความหวังเล็ก ๆ ซ่อนอยู่

 

“…”

 

ไรลีย์เริ่มกำหมัด

มือของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

 

‘หากเป็นท่านล่ะก็…’

‘เราเชื่อในตัวท่าน…’

‘ท่านสามารถทำได้ เพราะเป็นท่านนั่นแหละ!’

‘ท่านทำได้แน่นอน! ท่านผู้กล้า!’

 

เสียงของเหล่าสหายในชีวิตที่แล้วดังก้องอยู่ในหูของเขา

เขายังคงจำร่างที่ถูกย้อมไปด้วยเลือดพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายของเหล่าสหายได้

ไรลีย์กลืนน้ำลายเสียงดัง

 

‘อย่ามองแบบนั้นนะ…’

 

อย่ามองมาที่ฉันด้วยสายตาแบบนั้น

ปากของไรลีย์สั่นเมื่อเขาคิดกับตัวเอง

ไรลีย์เริ่มเดินถอยหลังช้า ๆ พร้อมหลั่งเหงื่อเย็นบนใบหน้า

 

“ไรลีย์… การแข่งขันประลองฝีมือนักดาบรุ่นเยาว์กับประลองในเมืองหลวงมันต่างกัน เมื่อเราบอกให้แกเข้าร่วมการแข่งประลองฝีมือนักดาบรุ่นเยาว์… แกก็ชักแม่น้ำทั้งห้าเพื่อไม่เข้าร่วม”

 

สไตน์คว้ากระดาษที่มีหัวข้อ ‘การแข่งขันประลองฝีมือแห่งเมืองหลวง’ และเดินมาหาไรลีย์

 

“แต่ตอนนี้มันต่างออกไป แกน่ะโตแล้ว ฉันจะไม่ปล่อยไปง่าย ๆ แน่ แกต้องเข้าร่วม อย่างน้อยก็ไปแสดงหน้าค่าตาให้องค์ราชาให้เห็-”

 

แกร๊ก

สไตน์ลืมตาด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูขณะเทศน์ใส่ไรลีย์อยู่

ก็เป็นเพราะเจ้าเด็กนั่นค่อย ๆ เดินไปที่ประตูโดยที่เขาไม่ทันสังเกต

 

“…อุหวา!?”

 

หลังจากมีเสียงประตูดังแอ๊ดขึ้นมา เอียนก็ร้องตกใจ

 

“อ๊ะ เปล่าครับ! ผมไม่ได้แอบฟังนะครับ! ผมแค่รู้สึกว่าประตูมันสร้างขึ้นมาดีมาก ผมก็เลยเข้าไปดูมันใกล้ ๆ เท่านั้นเองครับ!”

 

ดูเหมือนเอียนจะสงสัยเกี่ยวกับบทสนทนา และพยายามแอบฟัง เห็นได้เลยว่าใบหน้าอีกฝั่งของเขามีรอยแดงฉาบอยู่

 

“หือ? น-นายน้อยครับ? จะไปไหนงั้นเหรอครับ?”

 

เอียนเอียงหัว และถามออกมา เมื่อเห็นไรลีย์ค่อยๆถอยหลัง โดยไม่ลดการป้องกันลง

 

“เอียน ฉันฝากท่านพ่อไว้กับนายด้วย!”

 

“นายน้อย!?”

 

ดูเหมือนว่าประตูจะสามารถเก็บเสียงได้ดีมาก เอียนจึงไม่ได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสอง จึงทำให้เอียนสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น

การที่เขาแนบหูกับประตูนั้นเป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์

 

“เอียน จับตัวไรลีย์ไว้!”

 

‘ฉันจะลงโทษเขาในภายหลัง’

สไตน์สั่งเอียนที่ล้มอยู่

 

“อะไรนะครับ?”

 

เอียนตอบกลับมาอย่างสับสน และสไตน์ก็ตะโกนออกมา

 

“จับตัวไรลีย์ไว้!”

 

ให้มันได้อย่างนี้สิ

เจ้าเด็กนั่นกำลังจะเริ่มเล่นซ่อนหาอีกครั้งแล้ว

สไตน์รู้ดีว่าเมื่อใดก็ตามที่ไรลีย์จนมุม เขาจะซ่อนตัวในคฤหาสน์ราวกับสัตว์กินพืช และปรากฏตัวอีกครั้งหลังจากเรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว

ดังนั้น เขาจึงจำเป็นต้องจับตัวไรลีย์ก่อนที่เขาจะหายตัวไป

 

‘นี่มันเหมือนกับ-’

 

มันเหมือนกับนักฆ่าที่คนในคฤหาสน์เหยียดหยามเลยไม่ใช่เหรอ?

สำหรับลูกของภรรยาของตนที่ทำตัวราวกับนักฆ่า

สไตน์ขมวดคิ้ว และกัดฟันด้วยความเดือดดาล

 

“ไรลีย์ หยุดเดี๋ยวนี้!”

 

เด็กผู้มีไหวพริบ

เมื่อพิจารณาจากการที่เขาไม่มีความสนใจในวิชาดาบ เขาก็เป็นเด็กที่สดใสจนผิดปกติ

บุตรชายคนที่สามคนนี้ไม่มีจุดอ่อนใด ๆ เลย

เว้นแต่แม่ของเขา ไอริส

แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่สไตน์ไม่สามารถจับต้องได้เช่นกัน

ไรลีย์รู้เรื่องนั้นดี

ดังนั้น-

 

“ไรลีย์!”

 

-เขาจึงสามารถเมินเฉยต่อคำพูดของพ่อ และวิ่งหนีเช่นนี้ได้

 

“เวรเอ๊ย! เซร่า!!!”

 

สไตน์ตะโกนเรียกเซร่าที่ชนกับไรลีย์ในมุม ๆ หนึ่ง

เซร่าสะดุ้งเพราะความตกใจ

 

“ค่ะ!? นายท่าน!?”

 

“ไรลีย์ จับตัวไรลีย์ไว้!”

 

เธอไม่รู้ว่าทำไม แต่มันเป็นคำสั่งของเจ้านายเธอ

เธอไม่สามารถละเลยคำสั่งได้ จึงหันกลับไปเพื่อจับตัวไรลีย์ แต่เธอก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความช็อก

 

“หือ? เมื่อกี้เขาอยู่ตรงนี้…”

 

เมื่อ 3 วินาทีที่แล้ว เขายังยืนอยู่ข้าง ๆ เธออยู่เลย

จู่ ๆ ไรลีย์ก็หายตัวไป

 

“พ-เพียงครู่เดียวเนี่ยนะ?”

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments