ตอนที่แล้วตอนต่อไปตอนที่214 ป่าเทพสัตว์สวรรค์
“ออกเดินทางเถอะ”
“ขอรับท่านจ้าวนิกาย”ผมกล่าวออกมาอย่างจริงจัง นั้นทำให้ผู้คนของผมทั้งร้อยสิบคนต่างกล่าวออกมาอย่างฮึกเหิมจนวิหารของนิกายเทพนภาสั่นสะเทือนอย่างน่าหวาดหวั่น นั้นทำให้ผมยิ้มออกมาอย่างมีความสุขแต่ผู้คนของนิกายเทพพิภพนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึงและสับสน
พิภพนั้นเดินพุ่งนำทางพวกผมไปด้วยความเร็วสูง เมื่อพวกเราเดินมาถึงลานกว้างก็พบรถม้าจำนวนมากอยู่พวกผมต่างแยกย้ายไปขึ้นรถม้า รถม้าของผมนั้นนั่งอยู่คนเดียวเพราะไม่มีใครกล้านั่งกับผมเพลิงและแสงนั้นเป็นเผ่ายักษ์แห่งสงครามนั้นทำให้พวกมันต้องลอยไปเอง
สามวันต่อมา ณ หมู่เกาะเทพสัตว์สวรรค์
“พวกเราต้องเดินทางกันอีกหน่อยเพื่อไปยังป่าเทพสัตว์สวรรค์ขอรับ”
“ไปต่อเถอะ”เพลิงนั้นกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังผมไม่ได้คิดสิ่งใดมากและกล่าวตอบมันไป พวกเราเดินทางมาได้ราวสองชั่วโมงก็มาถึงป่าเทพสัตว์สวรรค์ ผมจึงจ้องมองออกไปพร้อมกับปลดปล่อยประสาทสัมผัสทั้งหมดออกไป เพื่อตรวจสอบล้อมรอบป่า
“เพลิง แสงมีฝูงสัตว์อสูรระดับเทพแห่งจุดจบขั้นหนึ่งถึงสองกำลังพุ่งมาทางเราจำนวนมาก”
“เตรียมพร้อม”ผมสัมผัสได้ถึงสัตว์อสูรจำนวนมากกำลังพุ่งมาทางพวกผม ผมจึงหันไปกล่าวกับเพลิงและแสงทันที นั้นทำให้เพลิงและแสงตื่นตัวผมกล่าวออกมา นั้นทำให้ศิษย์จากนิกายเทพนภานั้นเตรียมตัวสู้รบทันที แต่คนของนิกายพิภพนั้นกับงุนงง นั้นเพราะพิภพนั้นไม่ได้สั่งการสิ่งใดพวกมันเลย พิภพนั้นขมวดคิ้วเข้าหากันมันไม่อาจที่สัมผัสได้ถึงสิ่งใดเลย
“โฮกกกก”เสียงสัตว์อสูรดังออกมาแต่ไกลเลยนั้นทำให้ทุกคนตื่นตัว ผมเดินลงมาจากรถมาและปลดปล่อยอำนาจที่ยิ่งใหญ่ออกมาปรากฏสายฟ้าสีดำห่อหุ้มร่างกายของผม จากนั้นผมก็หายไปจากสายตาและสัมผัสของผม นั้นทำให้เพลิงแสงและพิภพตกตะลึง
“โฮก อาก โฮก”เสียงกรีดร้องของสัตว์อสูรดังขึ้นมามากมายนั้นทำให้ทุกคนที่มาตกตะลึงและหวาดกลัวไปพร้อมกัน ผมเดินกลับมาหลังจากผ่านไปไม่นานไม่มีเลือดสักนิดที่ติดตัวผมเลย มีหนังอสูรจำนวนมากเต็มแหวนมิติของผม ผมเดินกลับมาโดนที่ไม่ได้สนสายตาที่ทุกคนจองมองมาที่ผม ผมเดินขึ้นไปนั่งบนรถม้าอีกครั้ง นั้นทำให้ทุกผู้คนงุนงง
“ไปกันต่อเถอะสัตว์อสูรชั้นต่ำพวกนี้ไม่มีค่าพอที่จะเสียเวลา”
“ไปต่อได้”ผมกล่าวออกมาจากรถม้านั้นทำให้ถูกคนสามารถเรียกสติคืนมาได้ เพลิงจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ทำให้ทุกคนอกเดินทางต่อซึ่งผมไม่ได้สนสนใจจากนั้นทุกคนก็ออกเดินทางต่อเพื่อที่จะค้นห้าอสรพิษสิบหัวคนที่สามารถนำทางได้มีเพียงแค่พิภพเท่านั้น
เมื่อเดินทางมาได้ชั่วโมงกว่าๆบรรยากาศก็เต็มไปด้วยพิษร้ายนั้นทำให้ผมขมวดคิ้วเข้าหากันผมสะบัดมือส่งยาจำนวนมากไปให้ถูกผมถึงยาที่ผมให้ไปมันจะสามารถป้องกันพิษทางอากาศแต่ถ้าโดนพิษเต็มๆ ก็ตายได้เช่นเดิน ผู้คนของนิกายเทพนภาโยนยาเข้าปากไปโดยไม่ลังเล ส่วนนิกายเทพพิภพนั้นลังเลมาก แต่พิภพก็สั่งให้ทุกคนกิน
“ถึงจะกินายาของข้าแล้วก็ระวังอย่าโดนมันโจมตีด้วยพิษละยาของข้าป้องกันได้แค่พิษในอากาศเท่านั้น”
“ขอรับท่านจ้าวนิกาย”ผมจึงได้กล่าวออกมาเพื่อเตือนทุกคน ทุกคนต่างกล่าวตอบพวกเราเดินทางมาด้วยความเร็วสูงในที่สุดก็มาถึงบ่อพิษขนาดใหญ่เหล่าม้ากำลังจากตายผมจึงสั่งให้ปล่อยพวกมันกลับไป จากนั้นผมเลยก็เดินไปตามอากาศเพื่อที่จะได้ไม่ถูกพิษ
“วงแหวนจักรพรรดิแห่งภัยพิบัติทำงาน”
ผมสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่อยู่ในบ่อผิด ผมจึงเปิดใช้ทักษะปรากฏวงแหวนสีทองลายสีดำของมังกรเหนือหัวของผม จากนั้นบรรยากาศที่รุนแรงอย่างมหาศาลก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของผม นั้นทำให้ทุกคนตกตะลึง ยักษ์แห่งสงครามทั้งสิบของผมเตรียมตัวรับมือกับทุกอย่างทันที
ปรากฏสิ่งมีชีวิตที่มีพลังอำนาจระดับเทพแห่งจุดจบขั้นที่เจ็ดเลื่อยไปตามพื้นใต้บ่อพิษ ผมขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนที่จะเอาลูกแก้วสีทองดำออกมานับสิบลูก ผมโยนมันทั้งสิบลูกไปทุกด้านหน้าของบ้างสิ่งที่กำลังเลื่อยอยู่ แต่เหมือนมันจะรู้มันสามารุเลื่อยหลบได้ และเมื่อลูกแก้งสัมผัสพื้น
ตูมมมมมม
ก็เกิดระเบิดที่รุนแรงขึ้นและระเบิดนั้นก็สามารถที่จะทำให้สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่นั้นโดนผลกระทบได้ นั้นทำให้มันโกรธมันพุ่งออกมาจากจากบ่อพิษอย่างรวดเร็ว มันมีขนาดที่ใหญ่มากและน่าหวาดหวั่นเป็นอย่างมากมันมีสิบหัวและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ปรากฏรอยยิ้มที่หน้าของผม เคี้ยวแห่งฮาเดสในมือขวาของผมนั้นปลดปล่อยพลังอำนาจมหาศาลออกมา
“คุณได้รับทักษะเสริมจากเคี้ยวแห่งฮาเดส ฟาดฟันวิญญาณ”
“ฟาดฟันวิญญาณทักษะระดับเทพเจ้าขั้นสูงสุด สามารถฟาดฟันได้ทุกสภาพสิ่งแม้แต่มิติหรือการเวลาก็ตาม”
“ฟาดฟันวิญญาณทำงาน”
เมื่อผมส่งอำนาจพลังเข้าไปในเคี้ยวแห่งฮาเดสก็ทำให้ผมได้รับทักษะใหม่ซึ่งมันทรงพลังมากผมใช้งานทันที ผมเหวี่ยงเคี้ยวออกไปทันที คลื่นพลังอำนาจที่รุนแรงพุ่งออกไปรูปร่างของคลื่นพลังนั้นเปลี่ยนรูปร่างเป็นโครงกระดูกขนาดใหญ่สวมชุกคลุมสีดำถือเคี้ยวขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่อสรพิษสิบหัว
ตูมมมมมม
อสรพิษสิบหัวนั้นไม่ได้หวาดกลัวเลยมันนั้นปลดปล่อยพลังอำนาจออกมาที่หน้าผากของอสรพิษสิบหัวปรากฏดวงตาที่สาม จากนั้นมันก็ปลดปล่อยคลื่นพลังอำนาจที่รุนแรงออกมาราวกับปืนใหญ่พุ่งเข้าใส่ คลื่นพลังของผม จนเกิดเป็นระเบิดขึ้น
นั้นทำให้ผมขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อดวงตาที่สามของอสรพิษสิบหัวเปิดออกพลังอำนาจของมันก็พุ่งสูงขึ้นจนเข้าสู่ระดับเทพเจ้าแห่งจุดจบขั้นที่แปดซึ่งมันรุนแรงมาก ผมปลดปล่อยพลังอำนาจของดวงตาราชันย์อสรพิษออกมาและปลดปล่อยพลังอำนาจของเพชรสีดำที่หัวของผมออกมาเช่นกัน นั้นทำให้อสรพิษนั้นสะดุ้งเล็กน้อยแต่พลังอำนาจของทั้งสองทักษะของผมนั้นไม่อาจที่จะส่งผลกับมันได้เลยพลังอำนาจของผมและมันต่างกันเกินไป
“รัศมีหยุดราชันย์ทำงาน”
ฟุมมมมมม
ผมปลดปล่อยพลังอำนาจของทักษะทันทีนั้นทำผู้คนที่มากับผมต่างหยุดลง พลังอำนาจของอสรพิษสิบหัวนั้นช้าลงเป็นอย่างมาก ผมจึงยิ้มออกมาและฟาดฟันเคี้ยวออกไปอีกครั้ง ปรากฏคลื่นพลังสีดำพุ่งออกไป นั้นทำให้อสรพิษสิบหัวนั้นเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก
“อย่าอวดดีไปจอมมาร”
“เจ้ารู้จักข้าด้วยหรือ”อสรพิษสิบหัวนั้นคำรามออกมาเป็นภาษาที่ผมสามารถเข้าใจได้นั้นทำให้ผมงุนงงผมจึงกล่าวออกมา แต่นั้นไม่ได้ทำให้มันสนใจ มันปลดปล่อยอำนาจออกมาทำลายรัศมีหยุดราชันย์ของผม จากนั้นมันก็เลื่อยเข้ามาหาผมด้วยความเร็วสูง
ตูมมมมมม
มันพุ่งเข้าใส่ผมเคี้ยวในมือของผมปลดปล่อยพลังอำนาจออกมาจากนั้นผมก็พุ่งเข้าหามันและฟันเข้าใส่มันเมื่อพลังอำนาจของผมปะทะกับคลื่นพละกำลังของอสรพิษสิบหัวผมก็ถูกส่งปลิวออกไป คนจากนิกายนภาและนิกายพิภพจึงได้เข้ามาร่วมต่อสู้อย่างรวดเร็วในทันที
สามาติดตามตอนล่าสุดได้ที่ fictionlog หรือ thainovel ได้เลยครับ ตอนละ3บาทเท่านั้น
เพจอย่าลืมไปกดไลน์นะเพื่อมีกิจกรรมสนุกเพิ่มตอน
หรือ นิยาย เทพมารหรอข้านี้แหละจ้าวโลก