I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

The Lazy Swordmaster ตอนที่ 48 (60%)

| The Lazy Swordmaster | 1120 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

….

 

….

 

….

 

“ใช่แล้ว มีเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง  เมื่อสามวันก่อนสำนักวิหคฟ้าที่มีความแข็งแกร่งเป็นอันดับ 3 ของแคว้นเชว่ได้มาที่สำนักกวางขาวพร้อมกับผู้ช่วยเจ้าสำนัก  พวกเขามาที่นี่เพื่อประลองฝีมือและแลกเปลี่ยนทักษะการต่อสู้กัน  หลังจากที่ได้ประลองกันไป 10 ครั้งแล้ว  สำนักกวางขาวก็พ่ายแพ้ถึง 7 ครั้งด้วยกัน…” เด็กสาวตัวน้อยยังคงพูดต่อไป “พวกอัจฉริยะทั้งสามจากสำนักวิหคฟ้าได้พูดไว้ว่า  ภายในเวลาเพียงครึ่งเดือนสำนักกวางจะต้องอยู่ภายใต้การปกครองของพวกเขา!”

 

เมื่อได้ฟังเช่นนั้น เย่ ซิงหยู่ ก็กรอกตาไปมา   ดูเหมือนว่า 3 เดือนที่เขาถูกจองจำอยู่ในนี้ได้มีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นมามากมาย

 

เวลาที่ทั้งสองพูดคุยกันได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว  เพียงแค่พริบตาเดียวเวลาก็ผ่านมาแล้วถึง 2 ชั่วโมง

 

เด็กสาวตัวน้อยลุกขึ้นยืนอย่างไม่เต็มใจนัก  เธอพูดขึ้นว่า “ใกล้ครบกำหนดเวลาเข้าเยี่ยมแล้ว  ศิษย์พี่ซิงหยู่ข้าคงต้องขอตัวก่อน  ท่านต้องรีบออกมาให้ได้นะ  เมื่อใดที่ท่านสยบพวกเขาจนพวกเขาต้องฉี่ราดกางเกงแล้วหล่ะก็  พวกเขาจะได้รู้ว่าสำนักกวางขาวไม่ใช่สำนักที่จะสามารถข่มเหงได้” เด็กสาวตัวน้อยเหวี่ยงกำปั้นเล็กๆของเธอไปมา

 

“ข้าไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอก” เย่ ซิงหยู่ เหยียดหลังแล้วพูดขึ้นอย่างขี้เกียจ 

 

“ในสำนักกวางขาวนั้นมีอัจฉริยะตั้งมากมาย  มันไม่จำเป็นต้องให้ข้าออกไปจัดการหรอก  อีกทั้งเรื่องนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องที่นักเรียนชั้นปีที่ 1 จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้  ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่ควรจะเป็นเถอะ”

 

“แต่ข้าชอบดูศิษย์พี่ซิงหยู่ทำให้ทุกคนหวาดกลัวและทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้านี่นา” เด็กสาวตัวน้อยเก็บปิ่นโตอาหารและบิดนิ้วของเธอไปมาอย่างน่าสงสาร

 

“รีบกลับไปได้แล้ว” เย่ ซิงหยู่ ยกมือขึ้นมาและกำลังจะเขกหัวเธออีกครั้งหนึ่ง

 

เด็กสาวตัวน้อยรีบเก็บปิ่นโตอาหารที่เหลืออยู่และหลบมือที่กำลังจะเขกมาที่หัวของเธอแล้วรีบเดินไปพร้อมกับพูดทิ้งท้ายไว้ว่า

 

“ก็ได้  ข้าจะไม่สนใจท่านอีกต่อไปแล้ว”

 

เธอรีบหันหลังและเดินไปที่ทางประตูทางเข้าแต่ทว่าสีหน้าของเธอนั้นกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างชัดเจน 

 

เห็นได้ชัดว่าความสนิทสนมระหว่างเธอ กับ เย่ ซิงหยู่ นั้นนับวันจะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ

 

เย่ ซิงหยู่ ยิ้มแล้วส่ายหัว  

 

เด็กสาวตัวน้อยคนนี้เธอยังอายุน้อยนัก  เธอเพิ่งอายุเพียง 10 ปีเท่านั้นเอง  แต่เธอก็ช่างเป็นเด็กที่ใสซื่อบริสุทธิ์  และนั่นก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงทำดีกับเธอนัก

 

เมื่อเด็กสาวตัวน้อยเดินมาถึงที่ประตู  เธอก็หันหน้ามาแล้วโบกมือพร้อมกับยิ้มให้ เย่ ซิงหยู่ ก่อนที่จะเดินจากไป

 

เย่ ซิงหยู่ ยิ้มอารมณ์ดีขึ้นมาทันที   เขาตีไปที่ท้องของเขาเบาๆพร้อมกับเรอออกมา  จากนั้นเขาก็เริ่มที่จะฝึกต่อ  เขานั่งไขว้ขาอยู่ในลานและดูดซับพลังงานปราณหยวนเพื่อเพิ่มพลังงานให้กับปราณหยวนภายในของเขา 

 

เพียงแค่พริบตาเดียวเวลาก็ผ่านไปถึง 1 ชั่วโมงแล้ว  

 

ท้องฟ้าเริ่มมืดลงในขณะที่ เย่ ซิงหยู่ กำลังจะกลับไปที่บ้านหลังเล็กๆเพื่อพักผ่อน 

 

แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังของประตูอีกครั้งหนึ่ง  อักขระโบราณได้ส่องสว่างขึ้นแล้วประตูก็ได้เปิดออก  ชายวัยกลางคนรูปร่างผอมสวมชุดเสื้อคลุมสีดำของอาจารย์จากแผนกลงทัณฑ์ค่อยๆเดินเข้ามา

 

“หืม?”  เย่ ซิงหยู่ มองไปที่คนๆนั้น  เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงได้ขนลุกไปทั้งตัวราวกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับสัตว์ป่าที่ดุร้ายอยู่

 

“ได้เวลาอาหารแล้ว” ชายวัยกลางคนรูปร่างผอมวางอาหารไว้ที่พื้น

 

เขาก็คืออาจารย์จากแผนกลงทัณฑ์ที่นำอาหารมาให้นั่นเอง

 

เย่ ซิงหยู่ รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย   ดูเหมือนว่าได้มีการเปลี่ยนอาจารย์จากแผนกลงทัณฑ์ที่เป็นคนนำอาหารมาให้  เพราะอาจารย์จากแผนกลงทัณฑ์คนก่อนหน้านี้ที่คอยส่งอาหารให้กับเขามาตลอด 2 เดือนไม่ใช่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้

 

“อาจารย์หวังไปไหนกัน?” เย่ ซิงหยู่ ถามขึ้นด้วยเสียงเรียบ

 

“โอ๊ะ ตาเฒ่าหวังหน่ะหรือ?  เขาลาหยุดหน่ะ  มันมีบางอย่างเกิดขึ้นกับครอบครัวของเขา” ชายวัยกลางคนรูปร่างผอมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เรียบเฉย

 

ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ  สายตาของ เย่ ซิงหยู่ ก็เปลี่ยนไปเป็นสายตาที่เยือกเย็น 

 

เขากวาดมือออกแล้วหอกสยบพ่ายทั้ง 2 ส่วนก็ปรากฏขึ้นมาอยู่ในมือของเขา  เขาหัวเราะและพูดขึ้นว่า “ฮ่าฮ่า เจ้าโง่  พ่อของเจ้าจะทำให้เจ้าบอกมาเองว่าที่แท้จริงแล้วเจ้าเป็นใคร?”

 

ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมคนนั้นตะลึงไป “เจ้าหมายความว่ายังไงกัน?”

 

เย่ ซิงหยู่ ยิ้มขึ้น “อาจารย์คนก่อนที่เป็นคนนำอาหารมาให้ข้าชื่อฉินไม่ใช่หวัง  ทำไมเจ้าถึงไม่รู้หล่ะ?  ยิ่งไปกว่านั้นในวันนี้ได้มีคนเอาอาหารมาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว… ฮ่าฮ่า บอกมา เจ้าเป็นใคร?”

 

ทำไมเจ้าถึงลอบเข้ามาที่นี่?  ใครเป็นคนสั่งเจ้ามา?  เจ้ามาเพื่อฆ่าข้างั้นรึ?  ด้วยไหวพริบและสติปัญญาของเจ้าแล้วเจ้ามาที่นี่เพื่อที่จะลอบฆ่าข้าจริงๆงั้นหรือ?”

 

เรื่องที่อาจารย์จากแผนกลงทัณฑ์คนก่อนนั้นชื่อ ฉิน มันเป็นเรื่องที่ เย่ ซิงหยู่ ค้นพบในระหว่างที่เขากำลังเบื่อๆและไม่มีอะไรทำ  เขาจึงคอยพูดก่อกวนอาจารย์จากแผนกลงทัณฑ์คนก่อนที่ไม่ค่อยพูดอะไร  จนทำให้อาจารย์จากแผนกลงทัณฑ์คนนั้นแทบจะเป็นบ้าและได้บอกเรื่องราวต่างๆมากมายพร้อมกับให้ข้อมูลบางอย่างกับเขา

 

ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมยืนนิ่งไปชั่วครู่หนึ่ง  จากนั้นจิตสังหารก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา  พลังงานที่รุนแรงแผ่ออกมาจากผิวหนังของเขาในทันที

 

“นักฆ่า? เจ้าโง่?” ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมหายตัวไปราวกับลำแสง  ทันใดนั้นเขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างๆตัวของ เย่ ซิงหยู่  ราวกับแรดที่กำลังโกรธจัด  เขายกมือของเขาขึ้นแล้วตบไปที่หน้าผากของ เย่ ซิงหยู่ อย่างแรง

 

พลั่ก!

 

รอยปูดบวมสีแดงได้ปรากฏขึ้นมาให้เห็นในทันที

 

เย่ ซิงหยู่ :  “เอ๋? เจ้ากล้าลอบโจมตีข้างั้นหรือ… หน้าไม่อาย!”

 

“ลอบโจมตี? หน้าไม่อาย?” ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมทำหน้าเหมือนกับฟ้าที่กำลังพิโรธ 

 

เสียงพลั่กดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง 

 

เขาตบไปที่หัวของ เย่ ซิงหยู่ อีกครั้งจนทำให้เกิดรอยแดงปูดบวมขึ้นมาบนหัวของ เย่ ซิงหยู่ ถึง 2 ที่ด้วยกัน

 

“เฮ้?” เย่ ซิงหยู่ รู้สึกว่าความแข็งแกร่งของชายคนนี้ช่างน่ากลัวอยู่ไม่น้อย  เขาตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็วว่า “ช้าก่อน ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ด้วยคำพูด มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ความรุนแรงเลย…”

 

“ไม่ใช้ความรุนแรงงั้นรึ?” ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมตะโกนขึ้นพร้อมกับการโจมตีอีกครั้ง

 

ความแข็งแกร่งของเขานั้นยากจะหยั่งถึง  มือของเขานั้นเหมือนกับสายฟ้า  ด้วยความแข็งแกร่งของ เย่ ซิงหยู่ ในตอนนี้มันไม่มีทางเลยที่เขาจะสามารถหลบการโจมพวกนี้ได้ 

 

หลังจากที่มีเสียงพลั่กเกิดขึ้นอีกหลายครั้งหัวของ เย่ ซิงหยู่ ก็เต็มไปด้วยรอยปูดบวมสีแดง

 

เย่ ซิงหยู่ จับไปที่หัวของเขาและเริ่มที่จะวิ่งหนีเหมือนกับหนู

 

แต่ทว่าในตอนนี้ เย่ ซิงหยู่ เริ่มรู้สึกได้แล้วว่าชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมคนนี้ไม่ใช่คนไม่ดีหรือเป็นนักฆ่าแต่อย่างใด  เพราะว่าการโจมตีของเขาแม้จะโหดเหี้ยมแต่มันก็ไม่ได้มีจิตสังหารแฝงอยู่เลยแม้แต่น้อย

 

หลังจากที่เขาได้สัมผัสกับการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในการฝึกในพื้นที่อันรกร้างครั้งก่อนแล้วนั้น เย่ ซิงหยู่ ก็เป็นคนที่ไวต่อจิตสังหารเป็นอย่างมาก

 

พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!

 

เสียงที่ดังขึ้นเหมือนกับปะทัดผสมกับเสียงร้องขอความเมตตาของ เย่ ซิงหยู่ ดังขึ้นในลานเล็กๆแห่งนั้นอย่างต่อเนื่อง…

 

เวลาผ่านไป 10 นาที  ในที่สุดชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมคนนั้นก็หยุดโจมตี

 

เขามองไปที่ เย่ ซิงหยู่ ที่กำลังตัวสั่นเทาอยู่บนพื้น เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยปูดบวมสีแดง  ราวกับว่าเขากำลังชมผลงานชิ้นเอกของเขาอยู่  เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ  และเขาก็หยิบอาหารที่อยู่บนพื้นขึ้นมา  เขาไม่ได้พูดอะไรต่อแล้วเขาก็หันหลังเดินจากไป…

 

…..

 

เย่ ซิงหยู่ กัดริมฝีปากของเขาด้วยความขมขื่น น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองของเขา  ในตอนนี้ไม่มีคำพูดใดๆที่จะสามารถช่วยเขาได้….

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments