I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

The Lazy Swordmaster ตอนที่ 49 – (50%)

| The Lazy Swordmaster | 1044 | 2336 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

….

 

….

 

….

 

นอกจาก เย่ ซิงหยู่ จะใช้เทคนิคที่ได้มาจากจักรพรรดิเกราะทองแล้ว  เขายังพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะหลบหลีกการโจมตีของชายคนนี้อีกด้วย  แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถหลบการโจมตีของชายวัยกลางคนได้  เมื่อชายวัยกลางคนหยุดลงมือเขาก็ยิ้มพึงพอใจ  เพราะร่างกายของ เย่ ซิงหยู่ นั้นเต็มไปด้วยรอยปูดบวมและสภาพรอยปูดบวมเหล่านั้นก็ดูจะแย่กว่าเมื่อวานเสียอีก

 

ตึงง…!  ประตูสีดำได้ปิดอย่างแน่นหนา

 

ภายในลานแห่งนั้น เหลือเพียง เย่ ซิงหยู่ ที่หน้าตาบูดบึ้งด้วยความเจ็บปวด เขาถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง

 

“โอ๊ยยย…เจ้าแก่นี่…ช่างไร้ความปราณีจริงๆ…” เย่ ซิงหยู่ พูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่รอยปูดบวมตามร่างกายของเขา  เขารู้สึกว่าการถูกทุบตีเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการเป็นคนบ้าเลย  แต่เขาก็ยังอยากรู้ให้มั่นใจว่าสิ่งที่เขาคิดเมื่อวานนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่

 

เขานั่งไขว้ขาและใช้ปราณหยวนภายในรักษาบาดแผลของเขา  ภายในโลกที่อยู่ในจุดตันเถียนพลังงานปราณหยวนจากจิตก่อเกิดเริ่มก่อตัวเป็นฟองขึ้นแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานปราณหยวนภายในที่ไหลไปทั่วร่างของ เย่ ซิงหยู่  นอกจากมันจะกระจายไปตามรอยปูดบวมตามร่างกายเขาแล้ว  มันยังไหลมาหล่อเลี้ยงกระดูกและเนื้อของเขาอีกด้วย

 

การรักษาบาดแผลในครั้งนี้ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นอาการบาดเจ็บทั้งหมดก็หายไป  เขาค่อยๆลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ  เขารู้สึกถึงปราณหยวนภายในที่เปลี่ยนไป   ใบหน้าของเขาดูประหลาดใจกับสิ่งที่ได้เปลี่ยนแปลง

 

“มันเป็นเรื่องจริง  ความรู้สึกที่ข้ารู้สึกเมื่อวานมันเป็นเรื่องจริง  ปราณหยวนภายในกับร่างกายของข้านั้นมันเข้ากันได้ดีกว่าเดิม  รอยปูดบวมตามร่างของข้าที่ชายวัยกลางคนสร้างขึ้นมันต้องไม่ใช่รอยปูดบวมธรรมดาแน่นอน!”  เย่ ซิงหยู่ ครุ่นคิดอยู่ในใจ

 

ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมที่ดูโหดร้ายและทารุณเขา  แต่เขากลับไม่เคยสัมผัสได้ถึงจิตสังหารเลย  และพลังงานประหลาดบนนิ้วของเขามันอาจจะดูเป็นพลังงานที่มากมายมหาศาลที่แม้แต่เกราะเหล็กก็ไม่อาจต้านทานได้  แต่มันกลับสร้างได้แค่รอยปูดบวมตามร่างกายของเขา…

 

ตั้งแต่เมื่อวาน เย่ ซิงหยู่ ก็สงสัยไว้แล้วว่าชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมคนนั้นไม่น่าจะเป็นศัตรูของเขาแต่เป็นมิตรมากกว่า

 

ในตอนนี้ เย่ ซิงหยู่ รู้สึกมั่นใจแล้วว่าชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมคนนั้นทำไปเพื่อช่วยเหลือเขา  ด้วยทักษะการใช้นิ้วที่แปลกประหลาดที่เขาใช้กับ เย่ ซิงหยู่ นั้น  มันทำให้ เย่ ซิงหยู่ สามารถขจัดสิ่งสกปรกออกมาจากเส้นลมปราณของเขาได้ง่ายขึ้น

 

และเมื่อ เย่ ซิงหยู่ ครุ่นคิดดูแล้ว  ในขณะที่การบ่มเพาะของเขายังอยู่ในระดับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามัญนั้นสิ่งสกปรกพวกนี้ยังคงปนเปื้อนและไม่สามารถชำระล้างได้เลย  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขานั้นเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นๆต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะทำได้  ในขณะที่ตัวของเขานั้นกลับใช้เวลาเพียงไม่ถึง 3 เดือน  แม้ว่าเขาจะมีพลังมากมายถึงเพียงใดก็ตาม  แต่สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เช่นกัน   สถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ เย่ ซิงหยู่ เพียงแค่คนเดียว

 

โดยปกติแล้วเมื่อผู้ฝึกยุทธ์สามารถฝึกยุทธ์ในขั้นสามัญได้สำเร็จ  พวกเขาจะไม่ได้ทำการฝึกฝนร่างกายในทุกๆส่วนจนถึงขีดสุด  มันยังคงมีจุดอ่อนหรือจุดตายบางจุดที่พวกเขายังไม่สามารถฝึกฝนได้  และเมื่อผู้ฝึกยุทธ์เข้าสู่ระดับจิตก่อเกิดแล้วพวกเขาจะสามารถควบคุมพลังงานปราณหยวนได้  แต่พวกเขาก็ต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าพวกเขาจะปิดจุดอ่อนเหล่านั้นได้สำเร็จ

 

ทักษะการใช้นิ้วที่ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมคนนั้นใช้มันช่างลึกลับเป็นอย่างมากและการสังเกตเห็นของเขาก็ช่างเฉียบคม  แค่เพียงเขาจ้องมองเขาก็สามารถบอกได้แล้วว่ามีจุดไหนในร่างกายของ เย่ ซิงหยู่ บ้างที่ยังไม่บริสุทธิ์เต็มที่  และเขายังได้ใช้พลังงานปราณหยวนของเขาบอกตำแหน่งเหล่านั้นไว้อีกด้วย  

 

หรือจะเรียกได้ว่าเขากำลังแอบช่วย เย่ ซิงหยู่ อยู่  แต่วิธีการที่เขาใช้นั้นออกจะดูโหดร้ายไปซักเล็กน้อย  โดยเฉพาะนิ้วของเขาที่โจมตีมานั้น  มันทำให้ เย่ ซิงหยู่ ต้องรู้สึกเจ็บปวดจนทำให้เขาต้องร้องโอดครวญออกมาเหมือนกับหมาป่าที่กำลังหอนอยู่ด้วยความสลดใจ

 

“ตาแก่คนนี้เหมือนจะไม่ชอบหน้าข้าซักเท่าไหร่  แล้วทำไมเขาถึงยอมช่วยข้ากันนะ?” เย่ ซิงหยู่ รู้สึกสับสนเล็กน้อย

 

…..

 

หลังจากนั้นไม่กี่วันเหตุการณ์เช่นเดิมก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง  

 

ในทุกๆวันชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมคนนั้นจะมาปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับอาหาร  และทุกๆครั้งที่เขามาเขาก็จะโจมตี เย่ ซิงหยู่ จนทำให้ เย่ ซิงหยู่ ถูกทารุณอย่างหนักจนทำให้ร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยรอยปูดบวมราวกับว่าเขาต้องการที่จะทุบตี เย่ ซิงหยู่ ให้ตาย…

 

เย่ ซิงหยู่ ก็ไม่อาจทนได้  เขาทำได้แค่เพียงยอมรับการรักษาด้วยวิธีนี้อย่างเศร้าสลดใจ

 

หลายครั้งที่ เย่ ซิงหยู่ ด่าทอกลับไป  เขาอดไม่ได้ที่จะไม่พูดถากถางชายวัยกลางคน  แต่ผลลัพธ์ที่เขาได้กลับมาก็คือชายวัยกลางคนเกือบทำฟันของเขาร่วงหมดปาก 

 

นับตั้งแต่นั้นมา เย่ ซิงหยู่ ก็ไม่กล้าที่จะพูดถากถางเขาอีกต่อไป

 

ทุกครั้งที่ เย่ ซิงหยู่ ถูกทุบตี  เขาจะใช้พลังงานปราณหยวนภายในของเขารักษาบาดแผลและอาการบาดเจ็บ  เวลาที่เขาใช้ในการรักษาก็จะน้อยลงในทุกๆครั้งที่เขาทำการรักษา  หลังจากนั้นเขาก็พบว่าร่างกายของเขานั้นเริ่มจะโปร่งแสงขึ้นเรื่อยๆ  และสิ่งสกปรกที่ขวางทางปราณหยวนภายในของเขามันก็ค่อยๆลดลงและหายไปในที่สุด

 

เหตุการณ์เช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ

 

เย่ ซิงหยู่ ยังคงปากเสีย ถูกทุบตี  รักษาบาดแผล และเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาขึ้นในทุกวัน  เขารอคอยว่าเมื่อไหร่ชายวัยกลางคนจะเห็นว่าร่างกายของเขาบริสุทธิ์ซักที

 

เวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว..

 

ในวันนี้มันเป็นวันสุดท้ายของการถูกกักบริเวณของ เย่ ซิงหยู่

 

เมื่อแสงรุ่งอรุณยามเช้าโผล่เข้ามาทางกำแพงทิศตะวันตกเฉียงเหนือ  เมื่อนั้นเวลาแห่งการถูกจองจำของ เย่ ซิงหยู่ ก็จะสิ้นสุดลง

 

เขาถูกจองจำอยู่ในสถานที่แสนประหลาดและโดดเดี่ยวที่ซึ่งสามารถมองเห็นได้แค่เพียงกำแพงสีดำและท้องฟ้ามาเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว  มันยังคงมีสีอีกหลายสีที่เขาสามารถมองเห็นได้นอกจากสถานที่คุมขังแห่งนี้  แม้ว่า เย่ ซิงหยู่ จะเคยชินกับการที่ต้องอยู่คนเดียวแล้ว  แต่เขาก็ต้องรู้สึกเบื่อและกระสับกระส่ายเมื่อถูกขังอยู่ที่นี่เป็นเวลนาน

 

ในวันนี้ เย่ ซิงหยู่ ไม่ได้ทำการฝึกฝนใดๆ  เขานั่งไขว้ขาแล้วครุ่นคิดถึงสิ่งต่างๆที่เขาจะได้ทำเมื่อออกไปจากสถานที่แห่งนี้แล้ว 

 

ในตอนนี้เขาได้เข้าสู่ระดับจิตก่อเกิดที่แท้จริงแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องกังวลต่อเรื่องเล็กน้อยอีกต่อไป โดยเฉพาะกับพวกที่ก่อปัญหาให้กับเขา  เขาต้องการที่จะยุติมันลงโดยเร็ว

 

อะไรที่ครอบครัวของเขาได้สูญเสียไปเมื่อ 4 ปีก่อน  เขาจะค่อยๆเอามันกลับคืนมา  ไม่ว่าจะเป็นดาบประจำตระกูลหรือทรัพย์สมบัติบางอย่าง  หรือแม้กระทั่งคฤหาสน์ของตระกูลเย่…   ถึงสิ่งเหล่านั้นจะไร้ความหมายกับเขาในวันนี้  แต่เขาก็รู้ดีว่าเขาจะต้องนำมันกลับคืนมาให้จงได้

 

แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่มีเหตุผลที่ทำให้เขาต้องเอามันคืนมา  แต่มันเป็นเพราะศักดิ์ศรี…และอารมณ์

 

แต่มันก็ช่างน่าเสียดายที่เฉพาะนักเรียนชั้นปีที่ 2 ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะได้รับอนุญาตให้ออกไปนอกสำนักกวางขาวได้  ส่วนนักเรียนชั้นปีที่ 1 นั้นยังคงอยู่ในการควบคุมอย่างเข้มงวดและถูกแยกออกจากบริเวณของชั้นปีอื่นๆ.. 

 

ดังนั้นแล้วสิ่งสำคัญที่ เย่ ซิงหยู่ ต้องการจะทำหลังจากที่เขาได้ออกไปจากสถานที่แห่งนี้แล้ว  นั่นก็คือการเลื่อนระดับชั้นเรียน!

 

เขาต้องรีบเรียนวิชาของชั้นเรียนปี 1 ให้จบเพื่อที่จะได้ขึ้นไปเป็นนักเรียนของชั้นปีที่ 2 ได้

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments