ตอนที่แล้วตอนต่อไป….
….
….
นอกจาก เย่ ซิงหยู่ จะใช้เทคนิคที่ได้มาจากจักรพรรดิเกราะทองแล้ว เขายังพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะหลบหลีกการโจมตีของชายคนนี้อีกด้วย แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถหลบการโจมตีของชายวัยกลางคนได้ เมื่อชายวัยกลางคนหยุดลงมือเขาก็ยิ้มพึงพอใจ เพราะร่างกายของ เย่ ซิงหยู่ นั้นเต็มไปด้วยรอยปูดบวมและสภาพรอยปูดบวมเหล่านั้นก็ดูจะแย่กว่าเมื่อวานเสียอีก
ตึงง…! ประตูสีดำได้ปิดอย่างแน่นหนา
ภายในลานแห่งนั้น เหลือเพียง เย่ ซิงหยู่ ที่หน้าตาบูดบึ้งด้วยความเจ็บปวด เขาถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง
“โอ๊ยยย…เจ้าแก่นี่…ช่างไร้ความปราณีจริงๆ…” เย่ ซิงหยู่ พูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่รอยปูดบวมตามร่างกายของเขา เขารู้สึกว่าการถูกทุบตีเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการเป็นคนบ้าเลย แต่เขาก็ยังอยากรู้ให้มั่นใจว่าสิ่งที่เขาคิดเมื่อวานนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่
เขานั่งไขว้ขาและใช้ปราณหยวนภายในรักษาบาดแผลของเขา ภายในโลกที่อยู่ในจุดตันเถียนพลังงานปราณหยวนจากจิตก่อเกิดเริ่มก่อตัวเป็นฟองขึ้นแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานปราณหยวนภายในที่ไหลไปทั่วร่างของ เย่ ซิงหยู่ นอกจากมันจะกระจายไปตามรอยปูดบวมตามร่างกายเขาแล้ว มันยังไหลมาหล่อเลี้ยงกระดูกและเนื้อของเขาอีกด้วย
การรักษาบาดแผลในครั้งนี้ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นอาการบาดเจ็บทั้งหมดก็หายไป เขาค่อยๆลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ เขารู้สึกถึงปราณหยวนภายในที่เปลี่ยนไป ใบหน้าของเขาดูประหลาดใจกับสิ่งที่ได้เปลี่ยนแปลง
“มันเป็นเรื่องจริง ความรู้สึกที่ข้ารู้สึกเมื่อวานมันเป็นเรื่องจริง ปราณหยวนภายในกับร่างกายของข้านั้นมันเข้ากันได้ดีกว่าเดิม รอยปูดบวมตามร่างของข้าที่ชายวัยกลางคนสร้างขึ้นมันต้องไม่ใช่รอยปูดบวมธรรมดาแน่นอน!” เย่ ซิงหยู่ ครุ่นคิดอยู่ในใจ
ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมที่ดูโหดร้ายและทารุณเขา แต่เขากลับไม่เคยสัมผัสได้ถึงจิตสังหารเลย และพลังงานประหลาดบนนิ้วของเขามันอาจจะดูเป็นพลังงานที่มากมายมหาศาลที่แม้แต่เกราะเหล็กก็ไม่อาจต้านทานได้ แต่มันกลับสร้างได้แค่รอยปูดบวมตามร่างกายของเขา…
ตั้งแต่เมื่อวาน เย่ ซิงหยู่ ก็สงสัยไว้แล้วว่าชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมคนนั้นไม่น่าจะเป็นศัตรูของเขาแต่เป็นมิตรมากกว่า
ในตอนนี้ เย่ ซิงหยู่ รู้สึกมั่นใจแล้วว่าชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมคนนั้นทำไปเพื่อช่วยเหลือเขา ด้วยทักษะการใช้นิ้วที่แปลกประหลาดที่เขาใช้กับ เย่ ซิงหยู่ นั้น มันทำให้ เย่ ซิงหยู่ สามารถขจัดสิ่งสกปรกออกมาจากเส้นลมปราณของเขาได้ง่ายขึ้น
และเมื่อ เย่ ซิงหยู่ ครุ่นคิดดูแล้ว ในขณะที่การบ่มเพาะของเขายังอยู่ในระดับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามัญนั้นสิ่งสกปรกพวกนี้ยังคงปนเปื้อนและไม่สามารถชำระล้างได้เลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขานั้นเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นๆต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะทำได้ ในขณะที่ตัวของเขานั้นกลับใช้เวลาเพียงไม่ถึง 3 เดือน แม้ว่าเขาจะมีพลังมากมายถึงเพียงใดก็ตาม แต่สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เช่นกัน สถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ เย่ ซิงหยู่ เพียงแค่คนเดียว
โดยปกติแล้วเมื่อผู้ฝึกยุทธ์สามารถฝึกยุทธ์ในขั้นสามัญได้สำเร็จ พวกเขาจะไม่ได้ทำการฝึกฝนร่างกายในทุกๆส่วนจนถึงขีดสุด มันยังคงมีจุดอ่อนหรือจุดตายบางจุดที่พวกเขายังไม่สามารถฝึกฝนได้ และเมื่อผู้ฝึกยุทธ์เข้าสู่ระดับจิตก่อเกิดแล้วพวกเขาจะสามารถควบคุมพลังงานปราณหยวนได้ แต่พวกเขาก็ต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าพวกเขาจะปิดจุดอ่อนเหล่านั้นได้สำเร็จ
ทักษะการใช้นิ้วที่ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมคนนั้นใช้มันช่างลึกลับเป็นอย่างมากและการสังเกตเห็นของเขาก็ช่างเฉียบคม แค่เพียงเขาจ้องมองเขาก็สามารถบอกได้แล้วว่ามีจุดไหนในร่างกายของ เย่ ซิงหยู่ บ้างที่ยังไม่บริสุทธิ์เต็มที่ และเขายังได้ใช้พลังงานปราณหยวนของเขาบอกตำแหน่งเหล่านั้นไว้อีกด้วย
หรือจะเรียกได้ว่าเขากำลังแอบช่วย เย่ ซิงหยู่ อยู่ แต่วิธีการที่เขาใช้นั้นออกจะดูโหดร้ายไปซักเล็กน้อย โดยเฉพาะนิ้วของเขาที่โจมตีมานั้น มันทำให้ เย่ ซิงหยู่ ต้องรู้สึกเจ็บปวดจนทำให้เขาต้องร้องโอดครวญออกมาเหมือนกับหมาป่าที่กำลังหอนอยู่ด้วยความสลดใจ
“ตาแก่คนนี้เหมือนจะไม่ชอบหน้าข้าซักเท่าไหร่ แล้วทำไมเขาถึงยอมช่วยข้ากันนะ?” เย่ ซิงหยู่ รู้สึกสับสนเล็กน้อย
…..
หลังจากนั้นไม่กี่วันเหตุการณ์เช่นเดิมก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง
ในทุกๆวันชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมคนนั้นจะมาปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับอาหาร และทุกๆครั้งที่เขามาเขาก็จะโจมตี เย่ ซิงหยู่ จนทำให้ เย่ ซิงหยู่ ถูกทารุณอย่างหนักจนทำให้ร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยรอยปูดบวมราวกับว่าเขาต้องการที่จะทุบตี เย่ ซิงหยู่ ให้ตาย…
เย่ ซิงหยู่ ก็ไม่อาจทนได้ เขาทำได้แค่เพียงยอมรับการรักษาด้วยวิธีนี้อย่างเศร้าสลดใจ
หลายครั้งที่ เย่ ซิงหยู่ ด่าทอกลับไป เขาอดไม่ได้ที่จะไม่พูดถากถางชายวัยกลางคน แต่ผลลัพธ์ที่เขาได้กลับมาก็คือชายวัยกลางคนเกือบทำฟันของเขาร่วงหมดปาก
นับตั้งแต่นั้นมา เย่ ซิงหยู่ ก็ไม่กล้าที่จะพูดถากถางเขาอีกต่อไป
ทุกครั้งที่ เย่ ซิงหยู่ ถูกทุบตี เขาจะใช้พลังงานปราณหยวนภายในของเขารักษาบาดแผลและอาการบาดเจ็บ เวลาที่เขาใช้ในการรักษาก็จะน้อยลงในทุกๆครั้งที่เขาทำการรักษา หลังจากนั้นเขาก็พบว่าร่างกายของเขานั้นเริ่มจะโปร่งแสงขึ้นเรื่อยๆ และสิ่งสกปรกที่ขวางทางปราณหยวนภายในของเขามันก็ค่อยๆลดลงและหายไปในที่สุด
เหตุการณ์เช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
เย่ ซิงหยู่ ยังคงปากเสีย ถูกทุบตี รักษาบาดแผล และเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาขึ้นในทุกวัน เขารอคอยว่าเมื่อไหร่ชายวัยกลางคนจะเห็นว่าร่างกายของเขาบริสุทธิ์ซักที
เวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว..
ในวันนี้มันเป็นวันสุดท้ายของการถูกกักบริเวณของ เย่ ซิงหยู่
เมื่อแสงรุ่งอรุณยามเช้าโผล่เข้ามาทางกำแพงทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เมื่อนั้นเวลาแห่งการถูกจองจำของ เย่ ซิงหยู่ ก็จะสิ้นสุดลง
เขาถูกจองจำอยู่ในสถานที่แสนประหลาดและโดดเดี่ยวที่ซึ่งสามารถมองเห็นได้แค่เพียงกำแพงสีดำและท้องฟ้ามาเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว มันยังคงมีสีอีกหลายสีที่เขาสามารถมองเห็นได้นอกจากสถานที่คุมขังแห่งนี้ แม้ว่า เย่ ซิงหยู่ จะเคยชินกับการที่ต้องอยู่คนเดียวแล้ว แต่เขาก็ต้องรู้สึกเบื่อและกระสับกระส่ายเมื่อถูกขังอยู่ที่นี่เป็นเวลนาน
ในวันนี้ เย่ ซิงหยู่ ไม่ได้ทำการฝึกฝนใดๆ เขานั่งไขว้ขาแล้วครุ่นคิดถึงสิ่งต่างๆที่เขาจะได้ทำเมื่อออกไปจากสถานที่แห่งนี้แล้ว
ในตอนนี้เขาได้เข้าสู่ระดับจิตก่อเกิดที่แท้จริงแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องกังวลต่อเรื่องเล็กน้อยอีกต่อไป โดยเฉพาะกับพวกที่ก่อปัญหาให้กับเขา เขาต้องการที่จะยุติมันลงโดยเร็ว
อะไรที่ครอบครัวของเขาได้สูญเสียไปเมื่อ 4 ปีก่อน เขาจะค่อยๆเอามันกลับคืนมา ไม่ว่าจะเป็นดาบประจำตระกูลหรือทรัพย์สมบัติบางอย่าง หรือแม้กระทั่งคฤหาสน์ของตระกูลเย่… ถึงสิ่งเหล่านั้นจะไร้ความหมายกับเขาในวันนี้ แต่เขาก็รู้ดีว่าเขาจะต้องนำมันกลับคืนมาให้จงได้
แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่มีเหตุผลที่ทำให้เขาต้องเอามันคืนมา แต่มันเป็นเพราะศักดิ์ศรี…และอารมณ์
แต่มันก็ช่างน่าเสียดายที่เฉพาะนักเรียนชั้นปีที่ 2 ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะได้รับอนุญาตให้ออกไปนอกสำนักกวางขาวได้ ส่วนนักเรียนชั้นปีที่ 1 นั้นยังคงอยู่ในการควบคุมอย่างเข้มงวดและถูกแยกออกจากบริเวณของชั้นปีอื่นๆ..
ดังนั้นแล้วสิ่งสำคัญที่ เย่ ซิงหยู่ ต้องการจะทำหลังจากที่เขาได้ออกไปจากสถานที่แห่งนี้แล้ว นั่นก็คือการเลื่อนระดับชั้นเรียน!
เขาต้องรีบเรียนวิชาของชั้นเรียนปี 1 ให้จบเพื่อที่จะได้ขึ้นไปเป็นนักเรียนของชั้นปีที่ 2 ได้