ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“เจ้าโง่. ใครบอกเจ้าว่าอสูรวิญญาณไม่สามารถแยกจากเจ้านายของตนได้ หากพวกมันไม่สามารออกจากร่างเจ้านายตนได้ แล้วพวกมันจะช่วยเจ้านายของพวกมันได้อย่างไร “
‘ต้านต้าน’ พูด
“ถ้าเป็นตามที่เจ้ากล่าวอสูรวิญญาณสามารถแยกตัวออกจากร่างเจ้านายตนและมีตัวตนเป็นของตัวเองอย่างนั้นหรือ”
‘ชูเฟิง’ถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น เพราะเขาหวังว่าจะได้เห็นต้านต้านออกมายังโลกภายนอก
“แน่นอน ว่าทำได้แต่มีเงื่อนไขอยู่ เงื่อนไขที่ว่านั่นคือความแข็งแกร่งของเจ้านายตน “
” ถ้าเจ้าต้องการให้อสูรวิญญาณออกจากโลกแห่งจิตวิญญาณและเข้าสู่โลกของเจ้าและมีตัวตนเป็นของตนเองเจ้าต้องสร้างประตูที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งจิตวิญญาณของเจ้า ประตูนี้ เรียกว่า ประตูโลกวิญญาณ “
“เป็นธรรมดาถ้าเจ้าต้องการที่จะสร้างประตูนั้นเจ้าต้องเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดคลุมฟ้าเป็นอย่างน้อยและต้องเข้าใจรูปแบบวิญญาณของระดับชุดคลุมฟ้าด้วย “
‘ต้านต้าน’พูด
“ถ้างั้นถ้าข้าเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดฟ้าแล้วข้าสามารถแยกเจ้าออกจากโลกแห่งจิตวิญญาณมาอยู่โลกของข้าได้อย่างนั้นสินะ”
ในตอนนั้นชูเฟิงดีใจมากเขารู้ว่า’ต้านต้าน’ไม่ชอบอยู่ในโลกแห่งจิตวิญญาณ ถ้าเขาสามารถช่วยเธอได้เธอคงจะดีใจไม่น้อย
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ’ชูเฟิง’นั้น หัวใจของ’ต้านต้าน’ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที เพราะเธอเข้าใจว่านั่นเป็นความตั้งใจของ’ชูเฟิง’จริงๆ เธอยิ้งและพูดว่า
“ใช่ เพื่อเสรีภาพของข้า เจ้าต้องทำมันให้ได้!”
ในเวลานั้น ‘จื่อ หลิง’ ได้สร้างรูปแบบวิญญาณรูปแบบภูติเสร็จแล้ว มันส่องประกายด้วยแสงสีทอง สิ่งที่น่าแปลกคือแสงสีทองนั้นทำให้ประตูปรากฏขึ้นบนผนังและเปิดขึ้นอย่างช้าๆ
“ไม่เลวนี่ แม่สาวน้อย!”
‘ชูเฟิง’พูดและหัวเราะ
“หุบปาก แล้วรีบตามมาซะ “
หลังจากเปิดเสร็จอสูรวิญญาณของเธอก็กลับเข้าไปในโลกแห่งจิตวิญญาณของเธอ
หลังจากนั้น ‘จื่อ หลิง’ ก็เดินผ่านประตูไปอย่างรวดเร็วและ’ชูเฟิง’ก็รีบตามไป
*ตูม*
หลังจากเดินเข้าประตูก็ปิดลงทันทีและในตอนนั้นทั้งสองพบว่าทางเดินข้างหน้านั้นมีผนังที่สวยงามมาก
ผนังนั้นถูกสร้างด้วยหินแบบพิเศษ และพวกมันถูกแกะสลักมาอย่างสวยงามมาก ที่สำคัญที่สุดคือ’ชูเฟิง’รู้สึกว่ามีอำนาจวิญญาณเล็ดลอดมาและมันเหมือนกับอำนาจวิญญาณของอสูรฟ้า
“คนที่สร้างที่นี่คงเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณที่มีความเกี่ยวข้องกับอสูรฟ้า “
‘ต้านต้าน’ พูด
“หรือว่ามันคืออสูรมหึมาในหอคอยอสูรฟ้า”
‘ชูเฟิง’ถามถาม
“ข้าก็ไม่แน่ใจ “
‘ต้านต้าน’พูด
ทางเดินต่อไปข้างหน้านั้นกว้างขึ้นและพวกเขาพบว่ามีกลไกบางอย่างอยู่แต่ในตอนนี้กลไกเหล่านี้ไม่ได้ทำงานแล้ว พวกเขาจึงคิดว่า ‘เจียง หวู่ชาง’ เป็นคนทำมัน
ในตอนนี้ ‘ชูเฟิง’ และ ‘จื่อ หลิง’ ได้แต่รีบมุ่งหน้าเร็วขึ้นเพราะกลัวว่า ‘เจียง หวู่ชาง’ จะพบและเอาสมบัติไปก่อนหน้าพวกเขา
“ตามมาเร็วเข้า “
ในตอนนั้นตา ‘จื่อ หลิง’ก็ประกายวาบราวกับรู้บางอย่าง เธอเรียกใช้ทักษะที่เร็วที่สุดของเธอและเคลื่อนตัวไปด้านหน้า
‘ชูเฟิง’เรียกใช้ทักษะของจักรพรรดินภาและพุ่งตามไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความเร็วที่สูงมากทั้งคู่ได้มาหยุดที่ ด้านหน้าของวิหารที่สร้างขึ้นจากหยกทองคำที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา วิหารนี้เปล่งประกายไปด้วยแสงสีทองของหยกทองคำ
นอกจากนี้ในส่วนกลางของวิหารหยกทองคำนั้นมีพื้นที่ใหญ่มาก และมีสมบัติมากมาย เช่น ยาแก่นแท้วิญญาณและยากำเนิดวิญญาณวางซ็อนกันเป็นภูเขาเป็นภูเขาขนาดเล็ก
ภายในภูเขาขนาดเล็กนั่นเกิดจากซ้อนกันจากสมบัติมากมายมีแม้กระทั่งหนังสือโบราณจำนวนมาก วางอยู่ตรงกลางและเห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ทักษะเร้นลับแต่เป็นทักษะทั่วไป
“ฮ่า ๆ ในที่สุดข้าก็เจอพวกมันแล้ว!”
หลังจากที่ได้เห็นสมบัติเหล่านั้น ‘จื่อ หลิง’ กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
“เด๊ยวก่อน!”
ในตอนนั้น’ชูเฟิง’บอกให้เธอหยุด เพราะเขาพบว่าในวิหารนี้ไม่มีร่องรอยของ ‘เจียง หวู่ชาง’อยู่เลย ทั้งๆที่เป็นจุดสุดท้ายของทางเดิน
‘จื่อ หลิง’ ก้าวเข้าไปในวิหาร และ ในตอนนั้นพระราชวังได้บิดเบือนไป และ ภาพในสายตาพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มันจับตัวกันเป็นก้อนและล้อมรอบ ‘จื่อหลิง’ไว้“ชูเฟิงช่วยข้าด้วย!”
ในตอนแรก ‘จื่อ หลิง’พยายามหลบ แต่ความพยายามของเธอก็สูญเปล่าเพราะมันได้บิดตัวและล้อมรอบตัวเธอไว้ทำให้เธอไม่สามารถหนีได้
“นี่มันช่างเป็นภาพลวงตาที่ทรงพลังเสียจริง “
หลังจากภาพวิหารที่แสนอุดมสมบูรณ์ได้หายไป ก็เกิดภาพจริงๆปรากฏในสายตาของ’ชูเฟิง’
ในตอนนั้นด้านหน้า’ชูเฟิง’นั้นไม่มีสิ่งที่เรียกว่า วิหารหยกทองคำ อยู่เลย มันเหลือเพียง หลุมพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งมาก และภายในหลุมพลังวิญญาณนั้น มี’จื่อ หลิง’ ที่พยายามดิ้นรน แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากหลุมพลังวิญญาณนั้นได้
“เป็นเจ้าเองหรือ”
ในตอนนั้น ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังออกมา มันเป็นเสียงของ ‘เจียง หวู่ชาง’ ในตอนนั้น’เจียง หวู่ชาง’ ได้จมลงไปในหลุมพลังวิญญาณกว่าครึ่งตัวแล้ว และหลังจากที่ได้เห็น’ชูเฟิง’ กับ ‘จื่อ หลิง’ ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจ
* วูบวูบวูบ*
‘ชูเฟิง’ไม่ชักช้า รีบวางรูปแบบวิญญาณอย่างรวดเร็ว และซ้อนฝ่ามือของเขาชี้ไปข้างหน้าและตะโกนดังลั่นว่า,
“ทำลาย!”
หลังจากสิ้คำพูดนั้น แสงพลังวิญญาณ2เส้นก็ถูกยิงออกมา
หลังจากนั้นแสง ทั้ง 2 เส้นก็ได้พุ่งไปใส่ พลังวิญญาณที่หุ้มตัว ‘จื่อ หลิง’ และ’เจียง หวู่ชาง’อยู่และทำให้ความเร็วในการจม ชะลอตัวลง
หลังจากนั้น’ชูเฟิง’ก็เล็งมือทั้ง2ข้างออกไปด้านหน้าและมันทำให้เกิดโซ๋พลังวิญญาณลอยออกมา และพลันลอบตัว ‘จื่อ หลิง’ และ’เจียงหวูชาง’ไว้
“ฮ่าาา !!!!”
‘ชูเฟิง’ตะโกนอีกครั้งและและกำฝ่ามือแน่นหหลังจาก’ชูเฟิง’ก็เกร็งตัวเขารีดพลังทั้งหมดเพื่อดึงทั้ง 2 ขึ้นมา ในตอนนั้นใบหน้าของเขาเริ่มซีด และ มีเหงื่อเม็ดโป้งไหลอยู่บนหน้าเขาเต็มไปหมด
แต่ยังโชคดีที่’ชูเฟิง’ นั้นได้ใช้พลังทั้งหมดของเขาแล้วยังสามารถดึง ‘จื่อ หลิง’ และ’เจียงหวู่ชาง’ขึ้นมาจากหลุมได้อย่างช้าๆ
ในตอนนั้นมันทำให้ ‘จื่อ หลิง’ และ’เจียง หวู่ชาง’ ดีใจมากเพราะมันหมายความว่า’ชูเฟิง’นั้นสามารถช่วยทั้งสองคนได้ได้
สุดท้าย ‘จื่อ หลิง’ก็ถูกดึงขึ้นมาเป็นคนแรก และ เมื่อปราศจากภาพลวงตานั่นร่างกายของเธอก็กลับสภาพเดิม เธอเดินมาด้านหน้า’ชูเฟิง’
หลังจากที่เธอเดินมาข้างหน้า เธอก็กำมือแน่นและปรากฏดาบพลังวิญญาณในมือของเธอ และเธอฟันไปที่โซ่วิญญาณที่’ชูเฟิง’กำลังดึง ‘เจียง หวู่ชาง’ขึ้น
“เจ้าทำอะไรน่ะ!”
‘ชูเฟิง’ที่เห็นการกระทำของ’จื่อ หลิง’ก็ตกใจมาก
ในทาง ‘จื่อ หลิง’ก็เงียบ และหลังจากเธอสลายดาบพลังวิญญาณในมือของเธอ เธอก็ลูบมือของเธอเบาๆและพูดว่า
” เจ้าไม่จำเป็นต้องไปช่วยเขา “
@
ที่มา: