I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 390 – เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ภายในที่พักของ’ชูเฟิง’ ที่นครอันทรงเกียรติ ‘ชูเฟิง’ได้ปล่อยอำนาจวิญญาณออกมาจากตัวเขา และใจกลางของอำนาจวิญญาณนั้นถูกหุ้มด้วยแสงไว้ใจกลางของรูปแบบนั้น คือขวานอสูรฟ้า

‘ชูเฟิง’นั่งขัดสมาธิอยู่ด้านหน้าขวานนั้น คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อยและบางครั้งมันเขาผ่อนลง ใบหน้านิ่งหงบของเขาก็พบการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

“ฮ่า ๆ สำเร็จแล้ว ต้านต้านเจ้าทำได้ ในที่สุดเจ้าก็ดึงพลังพิเศษออกมาจากขวานนี้จนได้ “

‘ชูเฟิง’ดีใจกระโดดโลดเต้นไปรอบห้องมันเป็นอย่างที่’ต้านต้าน’พูด ขวานอสูรฟ้านั้นถูกผูกมัดด้วยรูปแบบพลังวิญญาณของ’ต้านต้าน’ทำให้อำนาจวิญญาณในตัวนั้นเชื่อมต่อกับบางอย่างในขวานและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอำนาจวิญญาณ

“รูปแบบนี้ในตอนนี้เป็นเพียงแค่รูปแบบชั่วคราว แต่หลังจากจบงานชุมนุมแล้ว รีบไปหาพื้นทีกว้างๆและลับตาคนจากนั้น ก็บ่มเพาะมันซะ แล้วข้าจะวางรูปแบบที่สมบูรณ์ให้อีกที “

‘ต้านต้าน’พูด

“ขอบใจมากต้านต้าน ถ้าไม่ได้เจ้า ข้าคงไม่สามารถรู้ถึงความสามารถของขวานนี้ได้แน่นอน และก็ไม่รู้ว่าเจ้านี่สามารถใช้บ่มเพาะอำนาจวิญญาณได้ด้วย “

‘ชูเฟิง’ พูด เขารู้สึกขอบคุณต้านต้านจากใจจริง

“แน่นอน! จะมีใครที่จะเฉลียวฉลาดและมีความรู้มากไปกว่าข้าอีกล่ะ “

“แต่เจ้าเองก็ไม่ได้โง่ แม้ข้าจะไม่ได้แนะนำเจ้า ข้าก็เชื่อว่าเจ้าจะเรียนรู้ด้วยตัวเองได้และแน่นอนเรื่องพวกนี้เจ้าก็น่าจะรู้ด้วยเช่นกัน “

‘ต้านต้าน’ ยิ้มหวาน พูดชม’ชูเฟิง’

“เมื่อข้าได้กลายเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดฟ้า ข้าจะสามารถช่วย อสูรวานร ในหอคอย อสูรฟ้าได้ และในเวลานั้นก็จะสามารถช่วย ซูรู่ และซูเหม่ยได้ นอกจากนี้ ข้าจะเปิดประตูโลกวิญญาณและคืนเสรีภาพให้กับเจ้า “

ใบหน้า’ชูเฟิง’เต็มไปด้วยความหวัง เพราะเขารู้สึกว่า ขวานอสูรฟ้านั้น ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นและสามารถก้าวไปสู่จุดนั้นได้ในเร็ววัน

“ความคิดของเจ้ามันง่ายเกินไป การเป็นผู้เชื่อมต่อชุดฟ้านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หากร่างกายเจ้าไม่แข็งแกร่งพอ จิตของเจ้าก็ไม่แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน “

“อย่างที่เขาพูดกัน ถ้าเจ้ายังไม่สามารถก้าวเข้าไปสู่อาณาจักรสวรรค์วิญญาณได้ เจ้าก็ไม่สามารถรับแรงกดดันของอำนาจวิญญาณระดับสีฟ้าได้หรอก “

‘ต้านต้าน’พูด

“อะไรนะ อาณาจักรสวรรค์วิญญาณ แต่ข้าคิดว่ามันมีโอกาสที่ข้าจะสามารถไปถึงระดับชุดฟ้าได้ก่อนก้าวเข้าไปในระดับอาณาจักรสวรรค์วิญญาณ “

‘ชูเฟิง’เชื่อมั่นในตนเองมาก แต่เขาไม่ได้คิดว่าเขาจะสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดนี้ไปได้อย่างไรก็ตาม ‘จื่อ หลิง’นั้น ยังอยู่ในระดับแก่นแท้วิญญาณ และสามารถเป็นผู้เชื่อมต่อชุดฟ้าได้ มันเป็นไปได้ว่าร่างกายของเขาจะด้อยกว่ากายศักดิ์สิทธิ์ของ’จื่อ หลิง’

“ร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งมาก และบางที อาจจะแข็งแกร่งกว่าจื่อ หลิงด้วยซ้ำ “

“แต่มันก็ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเทียบอาณาจักรสวรรค์วิญญาณได้ ในเส้นทางของการบ่มเพาะอำนาจวิญญาณนั้น มีขีดจำกัดอยู่เสมอ “

“แน่นอน บางคนสามารถทำลายขีดจำกัดนั้นได้ แต่ก็ยังมีช่วงที่ถึงทางตัน “

“ตามการคำนวณของข้าแล้ว ถ้าเจ้าต้องการเป็นผู้เชื่อมต่อชุดฟ้า เจ้าต้องมีพลังอย่างน้อย ระดับ 7 แก่นแท้วิญญาณ ถ้าเจ้าก้าวไปถึงขั้นนั้นแล้ว เจ้าจะสามารถเชื่อมต่อกับอำนาจวิญญาณระดับสีฟ้าได้ “

‘ต้านต้าน’ พูด

“มันต้องอยู่ในระดับ 7 เลยหรือ ถ้าข้าไปถึงระดับ 5 แล้วใช้พลังของสายฟ้า เลื่อนเป็นระดับ 7 ล่ะจะสามารถทำได้หรือไม่ “

‘ชูเฟิง’ถาม

“แน่นอนว่าไม่ เพราะสายฟ้าศํกดิ์สิทธิ์ถึงจะสามารถเพิ่มพลังให้กับเจ้า แต่ว่ามันไม่ได้ทำให้ร่างกายเจ้าแข็งแกร่งขึ้นอย่างถาวร เจ้าต้องบ่มเพาะตนเองไปถึงระดับ 7 เท่านั้นถึงจะทำได้ “

‘ต้านต้าน’ พูด

“ข้ายังห่างกับระดับ 7 ถึง 4 ระดับ และมันต้องใช้ทรัพยากรในการบ่มเพาะเยอะมาก และ ยิ่งระดับมากขึ้นช่องว่างนี้ก็จะมากขึ้น ข้าคิดว่าอาจจะต้องใช้เวลา 2 ปีถึงจะก้าวไปถึงขั้นนั้นได้ “

‘ชูเฟิง’ ขมวดคิ้วแน่น เขารุ้สึกกดดันมากเพราถ้าเขาทำไม่สำเร็จ ‘ซูรู่’ และ ‘ซูเหม่ย’อาจจะถูกส่งไปยังหลุมศพก็เป็นได้

“เจ้าจะต้องทำได้ เชื่อมันในตัวเองซะ เพราะข้าก็เชื่อในตัวเจ้าเช่นกัน “

‘ต้านต้าน’ ปลอบ

“ขอบใจเจ้ามากต้านต้าน กำลังใจจากเจ้าทำให้ข้าคิดว่าข้าจะทำได้ “

‘ชูเฟิง’ พูดทางเดินของ’ชูเฟิง’นั้น ถ้าไม่ได้’ต้านต้าน’ ‘ชูเฟิง’อาจตายไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน แต่เขาก็ยังเป็นเด็กหนุ่มประสบการณ์ของเขานั้นยังมีน้อย ที่เขารอดมาได้เพราะเขาได้’ต้านต้าน’ช่วยสอน และทำให้เขาเติบโตขึ้น

“ชูเฟิง ชูเฟิง ข้ารู้เจ้าอยู่ที่นี่ รีบเปิดประตูเร็ว!! “

ในตอนนั้นมีเสียงคนมาเคาะประตูและตะโกนเรียกเขา’ชูเฟิง’ก็หยิบขวานขึนมาและ กระจายพลังวิญญาณออกไปด้านหน้าที่พัก และเปิดประตูและในตอนที่ประตูเปิดขึ้น ‘กู๋ โบ่’ ก็รีบวิ่งเข้ามาหา’ชูเฟิง’ในตอนนั้น การแสดงออก ของ’กู๋ โบ่’ นั้น มีท่าทางแตกตื่น และมีเหงื่อไหลเต็มตัว

หลักจากเข้าที่พักมา เขารีบปิดประตูและวางรูปบบอำนาจวิญญาณ แล้วจับไหล่’ชุเฟิง’และพูดว่า

“ชูเฟิง เกิดเรื่องแล้ว เจ้าต้องรีบหนีอย่างรวดเร็ว ถ้าเจ้าไม่หนี เจ้าอาจจะตายก็เป็นได้นะ”

“กู๋ โบ่ เกิดเรื่องอะไรขึ้น? “

‘ชูเฟิง’ถาม

“เรื่องมันยาว ไม่นานมานี้ข้ารู้ว่าเจ้าได้รับขวานอสูรฟ้ามาจากท่านรอง เกา “

“ตอนนี้ เขาให้ข้ารีบมาบอกเจ้าให้รีบหนีไป เพราะมหาอำนาจ 7 ใน 8ต้องการชิง ขวานอสูรฟ้าจากเจ้าไป “

“จริงหรือ แม้ว่าข้าจะเป็นคนของนิกายโลกวิญญาณเนี่ยนะ? พวกเขากล้าเมินนิกายโลกวิญญาณด้วยหรอ “

‘ชูเฟิง’ ขมวดคิ้ว แล้วพูดด้วยความสงสัย

“ความจริงแล้ว เจี่ย หยาน ได้สร้างเรื่องขึ้นมาบอก ว่าขวานอสูรฟ้า ไม่ใช่ยอดยุทธภัณฑ์ ทั่วไปแต่มันยังมีทักษะเร้นลับในนั้นและพลังของมันยังไม่มีวันหมดอีกด้วย “

“เขาบอกว่าถ้าคนใดคนหนึ่งที่จะสามารถเข้าใจความลับเหล่านั้นได้ จะทำให้ได้รับพลังมหาศาล และบางทีอาจจะทะลวงผ่านระดับอาณาจักรสวรรค์วิญญาณเข้าไปยังระดับเจ้าแห่งสงครามเลยก็เป็นได้ “

“เมื่อเขากล่าวเช่นนี้ มหาอำนาจอื่นๆก็เคลื่อนไหว ตอนนี้พวกเขาได้สาบานว่า พวกเขาจะต้องเอาขวานอสูรฟ้ามาจากเจ้าให้ได้ และ ทำความเข้าใจสมบัติชิ้นนั้น ในตอนนี้ นิกายโลกวิญญาณไม่มีพลังพอ ถ้าหากพวกเขาร่วมมือกันโจมตีนิกาย”

‘กู โบ๋’ พูด

แปลโดยคุณ#

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments