I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Upgrade Specialist in Another World (异界之装备强化专家) ตอนที่ 5 : การตายของผู้เฒ่าอู๋และการกลายร่าง

| Upgrade Specialist in Another World (异界之装备强化专家) | 1016 | 2336 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

หมาป่าวิบัติสืบเท้าเข้าทั้งคู่ทีละก้าว เลือดยังคงหยดจากร่างมันลงพื้นไม่หยุด เบื้องหลังมันเศษอวัยวะกระจายอยู่ทั่วพื้นที่เล็กๆนั้น ยามนั้นมันไม่เพียงดูคลับคล้ายปีศาจที่ขึ้นมาจากบ่อโลหิต หากแต่มันเป็นปีศาจร้ายจริงๆ

เมื่อหมาป่าวิบัติจับจ้องมาที่มัน’ไป่หยุนเฟย’รู้สึกถึงแรงกดดันอันอำมหิตพุ่งมาปะทะใบหน้า อาการสั่นจากส่วนลึกของวิญญาณเป็นเหตุให้ร่างมันแข็งทื่อ จิตใจมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวที่ไม่อาจคาดคำนวณได้ ที่มันมองเห็นมีเพียงลานสีแดงฉานราวโลหิตและปีศาจร้ายที่ก้าวเท้าเข้าหามันทีละก้าว

“แย่แล้ว หนีเร็วหยุนเฟย! รีบแยกกันหนีไป!”

เมื่อเห็นหมาป่าวิบัติเข้ามาใกล้’ผู้เฒ่าอู๋’ก็ฝืนระงับความหวาดกลัวในใจร่ำร้องแก่’ไป่หยุนเฟย’ และรีบวิ่งไปอีกด้าน

หลังจากวิ่งออกห่างไปกว่า 10 เมตร ผู้เฒ่าอู๋เหลียวกลับมาก็พบเห็นไป่หยุนเฟยยังคงยืนจ้องอย่างงุนงงไปยังเจ้าคนคลุ้มคลั่งที่เข้าหามันทีละก้าว

“หยุนเฟยรีบหนีเร็วเข้า!”

‘ผู้เฒ่าอู๋’ร่ำร้องเสียงดังแต่’ไป่หยุนเฟย’ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใด ยามนี้จิตใจของ’ไป่หยุนเฟย’มีเพียงความหวาดกลัว ไม่มีความคิดจะหนีแม้แต่น้อย การตายอย่างสยดสยองของคนเหล่านั้นยังคงฉายชัดในจิตใจมัน จากนั้นราวกับภาพนั้นแปรเปลี่ยนตัวมันเอง ตาย มันจะต้องตาย ต้องตายแน่นอน!

หมาป่าวิบัติใกล้เข้ามาทุกที

‘ผู้เฒ่าอู๋’ยังตะโกนอีกหลายคราแต่ก็ไร้ผล มองเห็นหมาป่าวิบัติก้าวเข้าหา’หยุนเฟย’จึงก้มดูขวานในมือ จากนั้นมองไปยัง’หยุนเฟย’ ดวงตามันฉายแววเด็ดเดี่ยวหันกลับมายังหมาป่าวิบัติและขว้างขวานออกไปสุดกำลัง

“เจ้าปีศาจ! มาฆ่าข้าสิ!”

มิคาด’ผู้เฒ่าอู๋’กลับใช้ตนเองเห็นเหยื่อล่อหมาป่าวิบัติเพื่อยื้อเวลาให้’ไป่หยุนเฟย’หลบหนี หมาป่าวิบัติเบี่ยงตัวเล็กน้อยหลบเลี่ยงขวานนั้น มันหันไปมอง’ผู้เฒ่าอู๋’แต่ก็ไม่ได้ไล่ตามอย่างที่คิด กลับมองไปยัง’ไป่หยุนเฟย’อีกคราราวกับครุ่นคิดบางอย่างจากนั้นส่งยิ้มขบขันอย่างบ้าคลั่งจางๆ…

มันยกค้อนทองแดงซึ่งหล่นอยู่ข้างเท้าและ…ขว้างไปยัง’ไป่หยุนเฟย’

‘ไป่หยุนเฟย’ยังคงยืนกับที่ด้วยใบหน้างุนงง หากถูกค้อนทองแดงขว้างมากระแทกมันย่อมไม่อาจรอดชีวิตอย่างแน่นอน

“ปัง!”

เสียงดังทึบของวัตถุหนาหนักกระแทกร่างคน ผู้ชมด้านนอกลานส่งเสียงโห่ร้องอย่างพร้อมเพรียง แต่พวกมันต้องประหลาดใจ ที่ค้อนนี้ไม่ได้กระแทกถูกผู้ที่มันคาดคิด แต่ค้อนนี้กระแทกถูก…’ผู้เฒ่าอู๋’แทนที่จะเป็น’ไป่หยุนเฟย’ที่ยังคงยืนอยู่กับที่

มิคาดท้ายที่สุด’ผู้เฒ่าอู๋’กลับพุ่งมาถึงข้างกาย’ไป่หยุนเฟย’และผลักมันออกไป แต่ก็ถูกค้อนที่ลอยมากระแทกทรวงอกมันอย่างถนัดถนี่

“พรวด!”

เลือดอุ่นระอุทะลักจากปากของ’ผู้เฒ่าอู๋’กระเซ็นซ่านในอากาศและชโลมค้อนทองแดงก่อนจะร่วงลงสู่พื้น ใบหน้าของ’ไป่หยุนเฟย’และยิ่งกว่านั้นคือจิตใจของมัน — เย็นเยียบดุจน้ำแข็ง

ชั่วพริบตาสำเนียงรอบข้างล้วนหายวับไป ยาม’ไป่หยุนเฟย’แลเห็น’ผู้เฒ่าอู๋’ที่ล้มเข้าหาและใบหน้าเปี่ยมด้วยความห่วงกังวลของมัน…พละกำลังที่หายไปก็กลับคืนสู่ร่าง มันคว้า’ผู้เฒ่าอู๋’ที่ล้มลงขึ้นมาอย่างเก้งก้าง วางลงนอนราบกับพื้น คุกเข่าลงด้านข้างและกล่าวอย่างสับสน

”ผู้เฒ่า…ผู้เฒ่าอู๋?”

เหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้ทุกผู้คนงุนงง พวกมันหยุดร่ำร้องไปชั่วขณะและจับจ้องไปยัง’ไป่หยุนเฟย’ในลานกว้างขณะกระซิบพูดคุยกัน หมาป่าวิบัติก็ชะงักเท้า มันกลับไม่ได้เคลื่อนกายไปเบื้องหน้าต่อแต่จับจ้องไปยังสองคนเบื้องหน้าอย่างสนใจยิ่ง

เลือดยังทะลักออกมาจากปาก’ผู้เฒ่าอู่’ไม่หยุด ทรวงอกมันยุบลงไปเป็นหลุมกว้าง เลือดที่ไหลพุ่งออกมาย้อมเสื้อผ้ามันจนแดงฉานทั้งร่าง

“หยุนเฟย…แค่ก แค่ก…ในที่สุดเจ้าก็รู้สึกตัว รีบหนี เจ้าต้องรีบหนี…”

“ผู้เฒ่าอู๋ ผู้เฒ่าอู๋…อย่าได้กล่าว อย่าได้กล่าวแล้ว…ผู้เฒ่าอู๋…ท่าน…ท่านต้องไม่ตาย…ต้องไม่ตาย…”

‘ไป่หยุนเฟย’ปาดเช็ดเลือดที่ทะลักจากปากของ’ผู้เฒ่าอู๋’ เช่นเดียวกับน้ำตาของมันที่ไหลหยดลงบนใบหน้า’ผู้เฒ่าอู๋’ไม่หยุด

“ฮ่า ฮ่า…อย่าได้เสียใจแล้ว หยุนเฟย ข้าไม่สำนึกเสียใจ…ดีแล้วที่ช่วยเจ้ารอดชีวิตมาได้”

“เจ้ารู้หรือไม่? เด็กเอย ยามข้ามองเห็นแววตากระจ่างใสของเจ้า ข้านึกถึงว่าหากหลานสาวข้ายังมีชีวิตอยู่ หากเจ้าทั้งคู่อาศัยอยู่ด้านนอก ข้าจะชักนำให้เจ้ากับเสี่ยวยู่เอ๋อร์ได้พบปะกันแน่นอน พวกเจ้า…ต้องกลายเป็นคู่รักที่เปี่ยมสุข ฮ่า ฮ่า…แค่ก แค่ก!”

อาจเพราะมันนึกถึงเรื่องราวอันเป็นสุข หรือเพราะเป็นช่วงสติแจ่มใสก่อนสิ้นลม ผู้เฒ่าอู๋เปล่งคำพูดเหล่านี้ในคราเดียว จากนั้นกระอักเลือดอย่างหนักหน่วงกระทั่งเศษอวัยวะภายในยังปะปนกับเลือดออกมาจากปากของมัน

“ผู้เฒ่าอู๋ ผู้เฒ่าอู๋…”

‘ไป่หยุนเฟย’เจ็บปวดใจราวถูกมีดกรีดบิด มันไม่ทราบจะกล่าวอันใด ได้แต่ตะโกนเรียก’ผู้เฒ่าอู๋ซำ’แล้วซ้ำเล่า

‘ผู้เฒ่าอู๋’ยกมืออย่างยากลำบากปาดเช็ดน้ำตาบนใบหน้า’ไป่หยุนเฟย’ แววตามันปี่ยมด้วยความรักเมตตา

“หยุนเฟย…เจ้าต้องมีชีวิตต่อไป…ไม่ว่าจะยากเย็นเพียงใดเจ้าต้องไม่ละทิ้งความหวัง…จำคำข้าให้ดี…เจ้าต้องมีชีวิตต่อไป…อย่างสัตย์ซื่อ!”

“น่าอนาถนัก สุดท้าย…ข้ายังคงไม่อาจ…แก้แค้นให้แก่การตายของ…หลานสาวสุดที่รักของข้า…”

มือที่ลูบใบหน้าของ’ไป่หยุนเฟย’แผ่วเบา ปล่อยลงอย่างอ่อนล้าและไม่อาจเคลื่อนไหวอีก…

”ผู้เฒ่าอู๋…ผู้เฒ๋าอู๋…”

‘ไป่หยุนเฟย’พึมพำราวเครื่องจักรยามเพ่งมองชายชราที่มันเพิ่งรู้จักไม่ถึงครึ่งวันผู้นี้ จารึกท่าทางสุดท้ายของมันไว้ในดวงใจ

“อ๊าก!”

“อ๊าก!”

“อ๊าก!”

‘ไป่หยุนเฟย’แหงนหน้าร่ำร้องสุดเสียง แต่ก็ยังไม่อาจบรรเทาความเศร้าโศกในใจมันได้ ริ้วรอยสีแดงฉานสองเส้นพาดผ่านใบหน้ามันลงมา…หยาดน้ำตาโลหิต!

บนอัฒจันทร์ ‘จางหยาง’จับจ้อง’ไป่หยุนเฟย’ภายในลานด้วยยิ้มเย็นเยียบที่มุมปาก ดวงตามันฉายแววอิ่มเอมและพึงพอใจ

คุณชาย’รองเจิ้ง’นั้นก็จับจ้อง’ไป่หยุนเฟย’เช่นกัน ท่าทางมันเปลี่ยนไปอยู่บ้าง

ยามนี้แม้แต่ชายในชุดคลุมสีดำก็ยังเลยหน้าขึ้น ราวกับกำลังสังเกตเหตุการณ์ภายในลาน…หมาป่าวิบัติมองไป่หยุนเฟยเบื้องหน้าอย่างเย็นชา มันรู้สึกว่าชมดูเหตุการณ์ฉากนี้เพียงพอแล้ว มันเตรียมจะยกเท้าก้าวไปเบื้องหน้า

แต่กลับพบเห็นว่า’ไปหยุนเฟย’หยุดการร่ำไห้ มันยืนขึ้นช้าๆแล้วเดินเข้าหามันทีละก้าวขณะที่มือยังคงกำก้อนอิฐเอาไว้  หมาป่าวิบัติคาดไม่ถึงว่ามันมันจะบังเกิดความหวาดกลัวอยู่บ้าง ยามคู่ต่อสู้มันจับจ้องมาด้วยดวงตาที่หลั่งเลือดสีแดงฉาน

“หวาดกลัว? เป็นไปได้อย่างไร…”

หมาป่าวิบัติสั่นศีรษะเล็กน้อยและเดินเข้าหา’ไป่หยุนเฟย’ มันติดสินใจจะทรมานคู่ต่อสู้คนสุดท้ายของมันช้าๆจนตาย… พวกมันอยู่ไม่ไกลจากกันนัก เพียงไม่กี่อึดใจพวกมันก็มาเผชิญหน้ากัน หมาป่าวิบัติยกกำปั้นขวาขึ้นชกไปยังใบหน้าของ’ไป่หยุนเฟย’

‘ไป่หยุนเฟย’ก็ยกก้อนอิฐขึ้นเหวี่ยงปะทะกับกำปั้นของหมาป่าวิบัติ ด้วยทักษะของหมาป่าวิบัติ มันสามารถหลบเลี่ยงก้อนอิฐได้โดยง่ายแต่มันกลับไม่ทำ ก้อนอิฐ? กระทั่งกำแพงมันยังทลายได้ด้วยหมัดเดียว ขยี้ก้อนอิฐแล้วหักแขนเด็กหนุ่มนี่เสียก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวนัก หมาป่าวิบัติยิ้มเย็นเยียบที่มุมปาก

“พลั่ก!”

“กร๊อบ!”

เสียงแรกเป็นเสียงก้อนอิฐกระทบกับหมัด แต่เสียงที่สองกลับไม่ใช่เสียงก้อนอิฐถูกบดขยี้ กลับเป็นเสียงกระดูกนิ้วมือแหลกละเอียด   หมาป่าวิบัติมองที่นิ้วมือที่หักบิดเบี้ยวจนผิดรูป มันลืมเลือนกระทั่งความเจ็บปวดและการเคลื่อนไหวถัดไป…แต่’ไป่หยุนเฟย’กลับไม่ได้ลืมเลือน

หลังจากบดขยี้กำปั้นของหมาป่าวิบัติด้วยก้อนอิฐแล้ว มันสืบเท้าไปเบื้องหน้ายกก้อนอิฐอีกคราและเหวี่ยงมันไปที่หน้าผากของหมาป่าวิบัติ

ยามก้อนอิฐกระแทกลงมาหมาป่าวิบัติก็คืนสติ แต่ก็สายเกินไปที่จะเบี่ยงศีรษะหลบ — ศีรษะมันจะถูกขยี้ดั่งนิ้วมือมันหรือไม่

“อย่ามาล้อข้าเล่นนะ?!”

ทันใดหมาป่าวิบัติรู้สึกถึงพลังในร่างที่มันเคยสัมผัสได้เลือนรางพลันกระเพื่อม พลุ่งพล่านภายในร่าง แล้วพุ่งขึ้นสู่ศีรษะ ผิวหนังบนใบหน้าและศีรษะมันกระตุกแล้วแปรเปลี่ยนเป็นเป็นชั้นที่แข็งดั่งเขาสัตว์ ดูเหมือนว่า…มันจะแข็งแกร่งขึ้น?

“โอ้?”

บนอัฒจันทร์จางหยางกล่าวด้วยท่าทางยินดี

”ทะลวงผ่านแล้ว?”

“พลั่ก!”

เสียงแว่วมาเบาๆ นั่นคือเสียงก้อนอิฐกระทบศีรษะ ยามนี้กลับไม่มีเสียงกระดูกแตกหัก

“ข้ากลับไม่บาดเจ็บ! อีกทั้ง…ข้าทะลวงผ่านแล้ว!”

หมาป่าวิบัติตื่นเต้นสุดขีด มันระงับความปีติในใจและกลับสู่ท่าทางดุร้าย แต่ยามที่มันจะยกแขนขึ้นสวนกลับ ทันใด…ศีรษะมันวิ่งเวียนไปชั่วครู่

ผลกระทบเพิ่มเติมระดับ +10 : เมื่อจู่โจมมีโอกาส 1% ที่จะทำให้เป้าหมายมึนงงระยะเวลาสูงสุด 3 วินาที(เมื่อโจมตีศีรษะโอกาสทำให้มึนงงเพิ่มเป็น 5%)

การกระตุ้นสัมฤทธิ์ผล!

“โอ้?”

บนอัฒจันทร์เสียงโห่ร้องอย่างประลาดใจดังมาเบาๆอีกครา ยามนี้กลับมาจากชายในชุดคลุม

“เกิดอะไรขึ้นท่านลุงฉิน?”

คุณชาย’รองเจิ้ง’ด้านข้างสอบถามอย่างงุนงง

“เมื่อครู่ข้ารู้สึกราวกับอิฐก้อนนั้น…มีพลังวิญญาณสั่นกระเพื่อม…”

“ว่ากระไร? เป็นไปได้หรือ….ที่อิฐก้อนนั้นเป็นวัตถุวิญญาณ? นี่เป็นไปได้อย่างไร…?”

“โอ…อาจบางทีเพราะหมาป่าวิบัตินั้นตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ การกระเพื่อมของพลังวิญญาณยามมันก้าวสู่ด่านนวกะวิญญาณอาจทำให้สัมผัสข้าผิดพลาด… อีกอย่างพลังวิญญาณของเด็กหนุ่มนั้นก็ตื่นขึ้นเช่นเดียวกัน แม้จะยังไม่เข้มแข็งแต่พลังวิญญาณมันเปลี่ยนแปลงไปแล้วจริงๆ… หรือบางทีข้าอาจจะผิดพลาด”

ภายในลาน ความวิงเวียนในทันใดส่งผลให้หมาป่าวิบัติรู้สึกสมองกลวงเปล่า มันไม่อาจควบคุมพลังวิญญาณได้ การแปรเปลี่ยนบนศีรษะมันจึงหายไปอย่างฉับพลัน      แต่การจู่โจมด้วยก้อนอิฐระลอกที่สองของ’ไป่หยุนเฟย’ติดตามมาแล้ว!

“พลั่ก!”

“กร๊อบ!”

อืม ครานี้กลับเป็นเสียงกระดูกแตกหัก

หนึ่งวินาที! ร่างของหมาป่าวิบัติถูกกระแทกถอยไปหนึ่งก้าว แต่การจู่โจมด้วยก้อนอิฐคราที่สามกลับตามมาในทันที

ยามนี้นอกจากเสียงกระดูกแตกหัก เลือดก็หลั่งไหลออกมา

สองวินาที! ในที่สุกหมาป่าวิบัติที่กำลังมึนงงก็ไม่อาจทรงตัวอีกจึงหงายหลังล้มลง

‘ไป่หยุนเฟย’ที่ตาแดงฉานก็ไม่หยุดมือ มันสืบเท้าไปนั่งคร่อมหมาป่าวิบัติที่หว่างเอว ยกก้อนอิฐขึ้นและกระแทกลงอีกครา

สามวินาที! ในที่สุดหมาป่าวิบัติก็ฟื้นจากอาการวิงเวียน สิ่งแรกที่มันรู้สึกคือ — ศีรษะของมันปวดแทบตาย…จากนั้นมันฟื้นคืนสายตากลับมาและได้เห็น…ก้อนอิฐ!      แล้วมันก็สิ้นสติไป — ยามนี้มันหมดสติไปจริงๆ — ซึ่งหมายถึงมันไม่มีโอกาสจะตื่นขึ้นอีกตลอดกาล

ในการทุบเป็นครั้งที่สาม ‘ไป่หยุนเฟย’ขยี้ใบหน้าของหมาป่าวิบัติในทันทีและกระแทกมันสิ้นสติจนไร้การป้องกันโดยสิ้นเชิง

จากนั้นมันกระแทกก้อนอิฐลงครั้งแล้วครั้งเล่าไม่หยุด ทั้งสมรภูมิตกอยู่ในความเงียบงัน ผู้คนทั้งหมดมองอย่างงุนงงไปยังชายหนุ่มที่กวัดแกว่งก้อนอิฐภายในลาน รวมทั้ง’จางหยาง’ คุณชาย’รองเจิ้ง’ แม้แต่ท่านลุง’ฉิน’…ยากจะบอกได้ว่าหมาป่าวิบัติตายหลังจากถูกทุบไปกี่ครั้งแม้แต่’ไป่หยุนเฟย’ก็ไม่ทราบ

อย่าว่าแต่ผู้คนรอบด้าน ไม่ทราบว่าผ่านไปเท่าใดในที่สุด’ไป่หยุนเฟย’ก็หยุดมือ เนื่องเพราะ…มันไม่อาจรู้สึกได้ว่า”ทุบศีรษะ”อีก… น้ำตาของมันหยุดไหลแต่ดวงตามันยังคงแดงฉาน มันยกมือขึ้นขยี้ดวงตา ผ่านไปเนิ่นนานมันจึงสงบสติได้

มันก้มลงมองหมาป่าวิบัติที่นอนอยู่ใต้ร่างมัน หลังจากขบคิดชั่วขณะมันก็ยืนขึ้น มันเดินไปอุ้มร่างของ’ผู้เฒ่าอู๋’แล้วหันไปกล่าวกับ’จางหยาง’อย่างสงบ

“ข้าชนะแล้ว ปล่อยข้าเป็นอิสระ…”

เมื่อถูกจ้องด้วยสายตาเย็นชาราวน้ำแข็งของมัน ‘จางหยาง’พลันรู้สึกกังวลและเผยท่าทีหวาดหวั่นอย่างไม่อาจควบคุม

มันมองไปยังศพของหมาป่าวิบัติภายในลานจากนั้นก็มองไปยัง’ไป่หยุนเฟย’ ทันใดมันชี้ไปยัง’ไป่หยุนเฟย’ด้วยท่าทางอำมหิตและตะโกนอย่างคลุ้มคลั่ง

“ยาม! ยาม! ฆ่ามันให้กับข้า! ฆ่ามัน!”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments