I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Upgrade Specialist in Another World (异界之装备强化专家) ตอนที่ 7 : ปะทุ!

| Upgrade Specialist in Another World (异界之装备强化专家) | 1421 | 2359 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ยามนี้’ไป่หยุนเฟย’ถูกชักจูงสำเร็จ จึงกล่าวโดยไม่ลังเล

“ข้ารับปาก”

มุมปากของชายชรากระตุกวูบ มันฉีกยิ้มแทบถึงใบหู…

มันล้วงแหวนสีดำจากออกเสื้อยื่นให้แก่’ไป่หยุนเฟย’พร้อมกับอธิบาย

“นี่คือแหวนช่องมิติซึ่งมีมิติย่อส่วนอยู่ภายในใช้บรรจุสิ่งของได้ ยามที่พลังวิญญาณของเจ้าตื่นขึ้นอย่างเต็มที่ เพียงถ่ายเทพลังวิญญาณลงไปก็จะนำเคล็ดวิชาการฝึกปรือวิญญาณที่อยู่ภายในออกมาได้ เมื่อฝึกฝนวิญญาณตามเคล็ดวิชานี้จะสามารถพัฒนาพลังของเจ้าได้”

หลังจากสังเกตดูแหวนเพียงชั่วครู่’ไป่หยุนเฟย’ก็กำมันไว้ในมือ จากนั้นก็มองไปยังชายชราราวกับมีอันใดแต่ลังเลจะที่จะกล่าวคำ

“มีอันใด? หรือเจ้ายังมีคำถามใดอีก?”

ชายชราถามอย่างยิ้มแย้ม

“ท่านมีเงินทองติดตัวหรือไม่? ขอให้แก่ข้าบ้าง…”

“… … … …”

ชายชรายื่นถุงบรรจุเงินส่งให้’ไป่หยุนเฟย’รับมาเปิดดู มิคาดกลับมีเหรียญทองอยู่เต็มถุงแต่มันเพียงหยิบออกมาสองเหรียญจากนั้นโค้งคำนับแก่ชายชรา

“ผู้อาวุโส หากมีโอกาสข้าจะต้องตอบแทนความเมตตาของท่านอีกสิบเท่าในภายหลังอย่างแน่นอน”

ชายชรามองเงาหลัง’ไป่หยุนเฟย’ลับตาไปด้วยรอยยิ้มเกลื่อนกลาดอยู่ทั่วใบหน้า หลังจากเงียบงันชั่วขณะมันก็ทอดถอนใจ

“อนิจจา… นี่เป็นคนที่สี่แล้ว… มันจะเป็นผู้ปัดเป่าภัยพิบัติให้แก่สำนักชะตาลิขิตของข้าหรือไม่? สหายน้อยผู้นี้แปลกพิเศษอยู่บ้าง น่าเสียดายที่ข้าไม่อาจยุ่งเกี่ยวการพัฒนาตนของมันเกินไปนัก… “

“จงอย่าได้สร้างความผิดหวังให้แก่ข้า เด็กน้อยเอ๋ย…”

หลังจากกลับเข้าเมือง’ไป่หยุนเฟย’ก็เช่าห้องพักที่โรงเตี๊ยม ด้วยอายุเท่านี้ของมันนี่เป็น’ความฟุ่มเฟือย’แรกในชีวิต

“ข้ายังไม่พบความสำเร็จอันใด แต่กลับคิดค้างหนี้บุญคุณถึงสองครั้ง…”

ขณะที่เหยียดกายบนเตียง ‘ไป่หยุนเฟย’ก็พึมพำกับตนเองพลางสัมผัสกับแหวนในอกเสื้อ ความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยสิ้นเรี่ยวแรงเข้าครอบงำมัน ไม่เพียงแค่ทางร่างกายแม้แต่จิตวิญญาณก็รู้สึกสิ้นเรี่ยวแรง มันจึงล้มตัวลงหลับลึกอย่างรวดเร็ว — สำหรับ’ไป่หยุนเฟย’ซึ่งใช้ชีวิตมา 18 ปีด้วยวิถีทางอันธรรมดากระทั่งยัง’ต่ำต้อย’ สิ่งที่มันเผชิญในวันนี้และสิ่งที่มันตัดสินในเลือกเส้นทางที่เลือกเดินในวันข้างหน้าล้วนหนักหนาสาหัส พวกเราปล่อยให้มันได้พักผ่อนสักคืนเถิด…

วันต่อมา’ไป่หยุนเฟย’ซ่อนตัวในเงามืดมองดูครอบครัวของ’ผู้เฒ่าอู๋’ฝังศพมันจากที่ห่างไกล จากนั้นมันขอเช่ากระท่อมธรรมดาไว้อยู่อาศัยที่ริมถนนเล็กๆอันห่างไกลทางมุมด้านใต้ของเมือง มันรับเงินจากชายชรามาสองเหรียญทอง หนึ่งเหรียญทองมีค่าเทียบเท่าหนึ่งร้อยเหรียญเงิน และหนึ่งเหรียญเงินมีค่าเทียบเท่าหนึ่งร้อยเหรียญทองแดง

สำหรับผู้ที่เคยได้รับค่าแรงเพียงยี่สิบเหรียญทองแดงต่อวันอย่าง’ไป่หยุนเฟย’ เงินสองเหรียญทองนี้นับได้ว่ามากมายนัก เพียงพอให้มันใช้ชีวิตได้อีกช่วงใหญ่

ภายในบ้านหลังเล็กที่มีเพียงเตียงตั้งอยู่ข้างหน้าต่างพร้อมด้วยตู้เล็กๆอีกหนึ่งหลัง ‘ไป่หยุนเฟย’นั่งอยู่บนเตียงกำลังถือก้อนอิฐอันแสนพิเศษนั้นอยู่ในมือ

“ระดับไอเทม: ธรรมดา”

“ระดับการอัพเกรด: +10”

“สร้างความเสียหาย: 9”

“สร้างความเสียหายเพิ่มเติม: 16”

“ผลกระทบเพิ่มเติมสำหรับ +10 : เมื่อจู่โจมมีโอกาส 1% ที่จะสร้างความมึนงงให้เป้าหมายเป็นเวลาสูงสุด 3 วินาที(เมื่อโจมตีศีรษะโอกาสสร้างความมึนงงเพิ่มเป็น 5%)”

“สิ่งจำเป็นในการอัพเกรด: แต้มวิญญาณ 12 แต้ม”

มันนึกถึงก้อนอิฐและแถวข้อมูลพลันปรากฏขึ้นในจิตใจอย่างทันใด ‘หยุนเฟย’ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะและกล่าวอย่างแผ่วเบา

“อัพเกรด”

ราวกับบางอย่างในตัวมันถูกดึงออกไปในทันใด ส่งผลให้มันเกือบสิ้นสติไป

“วันนั้นข้าหมดสติไปเพราะจ่าย’แต้มวิญญาณ’มากเกินไปจริงๆ”

“อัพเกรดล้มเหลว”

“ไอเทมถูกทำลาย”

ข้อมูลสองแถวที่ปรากฏขึ้นในจิตใจสร้างความตื่นตระหนกให้แก่’ไป่หยุนเฟย’

“ถูกทำลาย? หรือว่า…”

ยามนี้มันรู้สึกมือเบาโหวงจึงก้มศีรษะลงมอง แลเห็นก้อนอิฐกลับกลายเป็นฝุ่นผงร่วงลงสู่พื้น!

“นี่…”

‘ไป่หยุนเฟย’ไปซึมเซาชั่วขณะจากนั้นกล่าวกับตนเองอย่างงุนงง

“ถูกทำลาย ถูกทำลาย… ไม่ใช่ว่าอัพเกรดล้มเหลวแล้วระดับลดลงหรอกหรือ? ไฉนเมื่อครู่มันกลับถูกทำลายทันที?”

มันมองไปยังกองฝุ่นทรายแทบเท้าอย่างงุนงง เนิ่นนานจึงสงบใจได้

“ข้ายังคงไม่เข้าใจกระบวนการอัพเกรดไอเทมนี้ดีพอ…”

‘ไป่หยุนเฟย’ขบคิดชั่วขณะแล้วจึงลุกขึ้นยืนและสาวเท้าออกจากบ้านไป

หนึ่งชั่วโมงต่อมา มันยังคงนั่งอยู่บนเตียง ถือก้อนอิฐไว้ในมือ แต่ที่แตกต่างจากก่อนหน้าคือมีดสั้นยาวครึ่งฟุตหลายเล่มบนหลังตู้อีกด้านพร้อมด้วยก้อนอิฐสีแดงสดสิบกว่าก้อนที่กองอยู่ข้างๆ      และที่พื้นเบื้องหน้ามันยังมีกองทรายเล็กๆสีแดงสดกองอยู่

“หลังจากอัพเกรดถึงระดับ +8 หากอัพเกรดล้มเหลววัตถุจะถูกทำลาย ข้าอัพเกรดอิฐไปสามก้อนแต่กลับไม่มีก้อนใดสามารถอัพเกรดสำเร็จถึง +9 นับว่าข้าโชคดียิ่งที่สามารถอัพเกรดถึง +10 ได้ในคืนนั้น”

‘ไป่หยุนเฟย’กล่าวกับตนเองหลังจากก้อนอิฐในแปรเปลี่ยนกองฝุ่นทรายอีกครา  จากนั้นจึงหยิบมีดสั้นขึ้นมา

“ลองสิ่งนี้ดูบ้าง”

ผ่านไปเนิ่นนาน…

“อัพเกรดสำเร็จ”

“ระดับไอเทม: ธรรมดา”

“ระดับการอัพเกรด: +8”

“สร้างความเสียหาย: 21”

“สร้างความเสียหายเพิ่มเติม: 18”

“สิ่งจำเป็นในการอัพเกรด: แต้มวิญญาณ 10 แต้ม”

‘ไป่หยุนเฟย’ส่ายศีรษะซึ่งเริ่มวิงเวียนอยู่บ้าง

“ข้าถึงขีดจำกัดแล้ว? เช่นนั้นลองทดสอบสมมุติฐานดู…”

กล่าวจบมันก็กรีดนิ้วมือให้เป็นแผลด้วยมีดสั้น

“อัพเกรด…”

จากนั้น’ไป่หยุนเฟย’ก็หมดสติล้มลงบนหมอนที่มันตระเตรียมไว้ก่อน

วันต่อมา ยามแสงแดดอันอบอุ่นฉายผ่านหน้าต่างเข้ามาภายในบ้าน ไป่หยุนเฟยเหยียดเอวบิดขี้เกียจและลุกขึ้นนั่งบนเตียง

“เป็นดังคาด ข้าหมดสติหลังจากใช้’แต้มวิญญาณ’จนหมด แต่จากนั้นมันก็จะฟื้นฟูกลับคืนมา ทั้งยังเยียวยาบาดแผลตามร่างกายระหว่างการฟื้นฟูอีกด้วย นี่เป็นเหตุผลว่าไฉนบาดแผลถูกทุบตีบนร่างข้าหายไปยามที่ตื่นขึ้นมาในสมรภูมิเดรัจฉาน”

“อีกทั้งข้าสัมผัสได้ว่า… ข้ามีพลังเข้มแข็งขึ้น! นี่ไม่ใช่ความเข้มแข็งทางกาย มันช่างเป็นความรู้สึกที่สุดจะพรรณนา หากข้าคาดเดาไม่ผิดน่าจะเป็นเพราะสิ่งที่เรียกว่า’แต้มวิญญาณ’นี้เพิ่มพูนขึ้นระหว่างการฟื้นฟู“

“แต้มวิญญาณ แต้มวิญญาณ หรือว่า…”

‘ไป่หยุนเฟย’หยิบมีดสั้นขึ้นมาจากใต้เตียง

“ระดับไอเทม: ธรรมดา”

“ระดับการอัพเกรด: +9”

“สร้างความเสียหาย: 21”

“สร้างความเสียหายเพิ่มเติม: 23”

“สิ่งจำเป็นในการอัพเกรด: แต้มวิญญาณ 12 แต้ม”

หลังจากใคร่ครวญชั่วขณะ ‘ไป่หยุนเฟย’หยิบก้อนอิฐขึ้นมาจากนั้นเงื้อมีดสั้นฟันลงไป เสียงกระทบพื้นแว่วมาแผ่วเบายามชิ้นส่วนของก้อนอิฐร่วงหล่นสู่พื้น มิคาดก้อนอิฐแข็งแกร่งกลับถูกตัดขาดราวหั่นเต้าหู้      ‘ไป่หยุนเฟย’สุดลมหายใจหนาวเหน็บ

“พลังของ +9 ช่างร้ายกาจนัก”

“แต่กลับไม่มีผลกระทบเพิ่มเติมอย่างสร้างอาการมึนงง หรือมันเพียงปรากฏเมื่อข้าอัพเกรดวัตถุถึงระดับ +10”

มันหยิบมีดสั้นและก้อนอิฐขึ้นมาอัพเกรดจนถึงระดับ +8 ทีละชิ้น

ยามนี้มันกระทำอย่างเชื่องช้า หลังจากการอัพเกรดแต่ละครั้ง มันหยุดและจับสัมผัสอย่างระมัดระวังชั่วขณะ — ยามนี้มันสัมผัสถึงสิ่งที่เรียกว่า’แต้มวิญญาณ’ได้อย่างคลุมเครือ

ภายหลังการอัพเกรดอย่างต่อเนื่องไป่หยุนเฟยรู้สึกสิ้นเรี่ยวแรงอยู่บ้าง ดูเหมือน‘แต้มวิญญาณ’ในร่างมันถูกจ่ายออกไปเกือบหมดสิ้น

“ข้าสมควรอัพเกรดต่อไปและใช้แต้มวิญญาณของข้าให้หมดเพื่อตรวจสอบหรือไม่?”

“เอาเถิด ยิ่งรีบเร่งยิ่งเชื่องช้า แม้ข้าจะไม่ทราบว่าหากหมดสติเช่นนั้นจะส่งผลลบหรือไม่ ทางที่ดีเพียงทดสอบวันละครั้งจะปลอดภัยกว่า…”

‘ไป่หยุนเฟย’วางมีดสั้นและก้อนอิฐลง แล้วหยิบแหวนที่ได้รับมาจากชายชราเมื่อคืนก่อนมาชมดู

“นี่เป็นแหวนช่องมิติ? ไฉนจึงรู้สึกคุ้นเคยเช่นนี้? ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีของเช่นนี้มาก่อนด้วยซ้ำ… มีมิติที่สามารถบรรจุสิ่งของด้านในอยู่ด้วย? ข้าสามารถใช้งานได้เมื่อพลังวิญญาณของข้าตื่นขึ้นเต็มที่และก้าวสู่ด่านนวกะวิญญาณระดับต้น… ทว่าเมื่อใดข้าจะบรรลุถึงระดับที่เรียกว่า’ตื่นขึ้น’? ต้องเป็นเช่นใดจึงเรียกผู้ฝึกปรือวิญญาณได้…?”

“ใช่แล้ว…”

ยามนี้เมื่อนึกถึงกระบวนการอัพเกรดไอเทม’ไป่หยุนเฟย’มองไปที่แหวนในมือและนึกถึงมันในใจ

“ระดับไอเทม: ดีเลิศ”

“สิ่งจำเป็นในการอัพเกรด: แต้มวิญญาณ 5 แต้ม”

‘ไป่หยุนเฟย’ตะลึงงัน

“ดีเลิศ? ไม่สร้างความเสียหายอีกทั้งการอัพเกรดครั้งแรกใช้แต้มวิญญาณมากถึง 5 แต้ม”

มันครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจอัพเกรดสักครั้งเพื่อดูว่าจะเป็นอย่างไร…

“อัพเกรดสำเร็จ”

“ระดับไอเทม: ดีเลิศ”

“ระดับการอัพเกรด: +1”

“คุณลักษณะเพิ่มเติม: พละกำลัง +1”

“สิ่งจำเป็นในการอัพเกรด: แต้มวิญญาณ 6 แต้ม”

“พละกำลัง +1? นี่หมายความว่าสามารถเพิ่มพูนกำลังกายของผู้สวมใส่กระมัง? แล้ว +1 คือเท่าใดกันแน่?”

‘ไป่หยุนเฟย’สวมแหวนบนนิ้วชี้ขวาแล้วกำหมัด แต่กลับไม่รู้สึกว่ามีอันใดพิเศษ มันจึงอัพเกรดอีกหลายคราในทันใด กระทั่งรู้สึกวิงเวียนอย่างรุนแรงจึงหยุดลง

“ระดับไอเทม: ดีเลิศ”

“ระดับการอัพเกรด: +5”

“คุณลักษณะเพิ่มเติม: พละกำลัง +15”

“สิ่งจำเป็นในการอัพเกรด: แต้มวิญญาณ 10 แต้ม”

หลังจากสวมแหวนอีกครา’ไป่หยุนเฟย’รู้สึกได้ชัดเจนว่ามีพลังพลุ่งพล่านอยู่ภายในร่าง ยามนี้มันรู้สึกว่ากระทั่งแยกศิลาทลายภูผาก็กระทำได้

แต่น่าเสียดายมันรู้สึกจิตใจเหนื่อยล้าราวกับแบกกระสอบข้าวสารมาทั้งวัน มันจึงไม่มีทางเลือกต้องล้มตัวลงบนเตียงเพื่อพักผ่อนเสียก่อน

หลังจากล้มตัวลงนอนอย่างง่วงงุนอยู่ในภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่นนานเท่าใดไม่ทราบ ในที่สุดไป่หยุนเฟยก็ลุกขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าจะยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมมากแล้ว

มันมองไปยังแหวนบนนิ้วมือและรู้สึกถึงผลกระทบจากแหวนได้ รู้สึกถึงพละกำลังที่เพิ่มพูนขึ้นจริงๆ มันหยิบก้อนอิฐขึ้นจับที่ปลายทั้งสองด้านและบิดด้วยกำลัง ก้อนอิฐพลันแตกหักเป็นสองส่วน มันจึงหยิบก้อนอิฐระดับ +8 ขึ้นมาพยายามบิดด้วยกำลังหลายครา แต่กลับไม่มีอันใดเกิดขึ้น

“ข้าแข็งแรงขึ้นจริงๆ อีกอย่างหลังจากวัตถุถูกอัพเกรดโครงสร้างของมันกลับแข็งแกร่งขึ้นมากนัก…”

เมื่อมองท้องฟ้าผ่านหน้าต่างออกไป ‘ไป่หยุนเฟย’พบว่าเป็นยามสนธยาแล้ว — เวลาหนึ่งวันกลับผ่านไปเยี่ยงนี้ จากนั้นความรู้สึกชนิดหนึ่งพุ่งเข้าจู่โจมจิตใจมัน

“ข้าหิวโหยนัก…”

ยามสนธยาไป่หยุนเฟยไปยังหลุมศพของ’ผู้เฒ่าอู๋’พร้อมด้วยตะกร้าเครื่องเซ่นไหว้และสุรากระปุกหนึ่ง หลังจากจัดวางเครื่องเซ่นไหว้มันก็โขกศีรษะคำนับสามครั้งอย่างนอบน้อม

“ผู้เฒ่าอู๋ข้ามาเยี่ยมท่าน ได้โปรดอภัยให้แก่ข้าที่ไม่ได้มาร่วมฝังศพท่าน…”

“ผู้เฒ่าอู๋ท่านช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าจะไม่ให้ท่านตายเพื่อข้าอย่างไร้ค่า ข้าจะต้องให้จางหยางชดใช้ต่อการตายของท่านและหลานสาว ให้มันชดใช้ในสิ่งที่มันทำกับพวกเราอย่างแน่นอน!”

‘ไป่หยุนเฟย’นึกถึงช่วงเวลาแสนสั้นที่ได้อยู่ร่วมกับ’ผู้เฒ่าอู๋’ นึกถึงว่า’ผู้เฒ่าอู๋’มองมันด้วยความรักและเมตตาอย่างไร นึกถึงว่า’ผู้เฒ่าอู๋’ผลักมันออกอย่างไร เลือดของ’ผู้เฒ่าอู๋’สาดกระเซ็นทั่วใบหน้ามันอย่างไร และ’ผู้เฒ่าอู๋’กล่าวคำพูดใดก่อนตาย…

น้ำตาเอ่อล้นในดวงตาของมันอย่างไม่อาจควบคุม มันแหงนหน้าขึ้นฟ้าเพื่อไม่ให้หลั่งน้ำตา ความเดือดดาลคั่งแค้นพลุ่งพล่านในใจมันอย่างสุดระงับ มันยกกระปุกสุราด้านข้างขึ้นดื่มอึกใหญ่ ความรู้สึกแผดเผาไหลผ่านลำคอลงสู่ทรวงอกของมัน

‘ไป่หยุนเฟย’สะบัดศีรษะและดื่มอีกสุราอีกหนึ่งอึก ใบหน้าของมันแดงฉานอีกทั้งดวงตามันค่อยๆแดงฉานด้วยสายเลือด แต่ความเดือดดาลคั่งแค้นในใจมันเป็นดั่งเปลวเพลิงได้น้ำมัน ราวกับมันจะทะลวงร่างออกมา

“ผู้เฒ่าอู๋ ข้าต้องฆ่าจางหยางให้จงได้ ข้าต้องฆ่ามันกับมือของข้าเอง”

มันแหงนหน้าขึ้นอีกครา ดื่มสุราที่หลงเหลือลงไปรวดเดียว

“ข้าไป่หยุนเฟย สาบานด้วยหัวใจว่าข้าจะไม่มีวันยินยอมให้ผู้ใดมาบังคับควบคุมชีวิตข้าอีก! ไม่มีวันทนรับการเหยียดหยามใดอีก! ข้าจะเหยียบย่ำผู้ที่ดูหมิ่นข้า! ใครก็ตามที่ล่วงเกินข้ามันต้องจ่ายค่าตอบแทน!”

ชั่วพริบตา บางอย่างในร่างของมันราวกับแตกสลายไป พลังวิ่งพล่านไปทั่วร่าง มือขวาที่กำกระปุกสุราของมันพลันขยายขนาด กล้ามเนื้อเบ่งพองขึ้น

“เพล้ง!”

กระปุกสุราถูกขยี้แหลกคามือ ส่วนที่อยู่ในอุ้งมือส่งเสียงเกรียวกราว

ยามมันคลายมือออก เศษชิ้นส่วนที่แหลกละเอียดก็ล่องลอยลงสู่พื้น

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments