I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Upgrade Specialist in Another World (异界之装备强化专家) ตอนที่ 8 : ด่านนวกะวิญญาณ! การฝึกฝนและค้นคว้า

| Upgrade Specialist in Another World (异界之装备强化专家) | 1044 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณลูบไล้ใบหน้าของไป่หยุนเฟยอย่างอ่อนโยนปลุกมันตื่นขึ้น มันลุกขึ้นนั่งบนเตียงรู้สึกพะอืดพะอมสุดบรรยาย ศีรษะปวดจนแทบระเบิด เนื่องเพราะมันยังไม่เคยเมามายมาก่อน น่าประหลาดใจนักที่มันสามารถพาร่างกลับมานอนบนเตียงในบ้านได้

ไม่นาน’ไป่หยุนเฟย’ก็สร่างเมาขึ้นบ้าง มันนวดขมับพึมพำเสียงค่อย

“เมื่อคืนข้ากลับมาอย่างไร? ข้าจำได้แต่เพียง… ดูเหมือนข้าดื่มสุราลงไปหนึ่งขวด… ข้าจดจำไม่ได้ว่า… หลังจากนั้นเกิดอันใดขึ้นบ้าง… หรือนี่เป็นอาการเมาค้าง? ช่างสุดทนนักทำอย่างไรอาการนี้จึงจะหมดไป?”

ยามที่’ไป่หยุนเฟย’ครุ่นคิดหาวิธีแก้อาการสุดจะทนนี้ พลังที่พลุ่งพล่านสุดพรรณนาก็ปะทุภายในร่าง  ความรู้สึกสุขสบายราวแช่ในน้ำอุ่นอาบไล้ทั่วร่าง ทำให้มันผ่อนคลายจนเกือบส่งเสียงครวญครางออกมา เมื่อมันสงบสติได้ก็พบว่าความรู้สึกพะอืดพะอมนั้นปลาสนาการไปกลับกลายเป็นคึกคักกระปรี้กระเปร่า

“นี่…”

‘ไป่หยุนเฟย’สั่นศีรษะอย่างไม่เชื่อถืออยู่บ้าง ความรู้สึกอันลึกลับก็ปรากฏในจิตใจ — ดูเหมือนมีบางอย่างที่พิเศษพิสดารคงอยู่ในร่างกายมันแต่ก็ราวอยู่ลึกลงไปในจิตใจมันด้วยเช่นกัน…

“หรือจะเป็น… ”

พลันนึกถึงบางอย่างได้มันดึงมือขวามาเบื้องหน้า จับจ้องที่แหวนช่องมิติบนมือและเพ่งจิตจินตนาการว่า’ควบคุม’สิ่งลึกลับนั้นอยู่ ในที่สุดมันก็รู้สึกราวกับมีกระแสพลังงานไหลผ่านแขนเข้าสู่แหวนตามเจตนาของมัน จากนั้นมันรู้สึกถึงช่องว่าง! ภายในช่องว่างกว้างราว 5 ตารางเมตรนั้น ปรากฏวัตถุคล้ายม้วนคัมภีร์สามชิ้นและทวนยาวที่กำลัง’ลอย’อยู่

เนื่องเพราะมีเพียงวัตถุสี่ชิ้นช่องว่างนี้จึงดูกว้างขวางอยู่บ้าง

“แน่ชัดแล้ว… พลังอันพิสดารนี้ไม่ใช่อื่นใดมันคือพลังวิญญาณ!”

‘ไป่หยุนเฟย’ปรารถนาจะนำทวนยาวนั้นออกมาแต่ก็ไม่อาจทำได้เนื่องเพราะราวกับมีพลังงานบางอย่างครอบคลุมทวนยาวเอาไว้ มันลองนำม้วนคัมภีร์เล่มหนึ่งออกมาแต่ก็ยังคงไม่อาจนำออกมาได้ จึงลองกับคัมภีร์อีกเล่ม ไวเท่าความคิดมันรู้สึกถึงน้ำหนักในมือ ม้วนคัมภีร์สีเทาปรากฏขึ้นในมือมัน

จากนั้นมันลองนำคัมภีร์เล่มสุดท้ายออกมาแต่ก็ไม่สำเร็จ ‘ไป่หยุนเฟย’พิจารณาม้วนคัมภีร์สีเทาอย่างละเอียด คัมภีร์นี้ยาวหนึ่งฝ่ามือขนาดเท่าสองนิ้วมือ ทำจากวัสดุไม่ทราบชนิด คล้ายกับผ้าแต่ก็คล้ายกับหนังสัตว์ ปิดสนิทเอาไว้ราวกับไม่อาจเปิดออกได้ ด้านนอกเป็นสัญลักษณ์มากมายแสนซับซ้อน ลึกลับและแปลกประหลาด ดูเหมือนจะเป็นภาษาอันใด

“ไม่อาจเปิดได้ เช่นนั้นลองใช้พลังวิญญาณดู”

ยามนี้’ไป่หยุนเฟย’ชักนำพลังวิญญาณในร่างเป็นสายใยเข้าสู่ม้วนคัมภีร์ได้อย่างราบรื่น มันพลันรู้สึกสับสนสุดขีดกับเส้นสายอักขระข้อมูลที่พุ่งเข้าสู่ความคิด มันรีบปิดตาสงบใจซึมซับข้อมูลที่ปรากฏขึ้นในจิตใจอย่างระมัดระวัง

“’เคล็ดฝึกปรือวิญญาณ’นี้ถือเป็นวิธีฝึกฝนวิญญาณระดับพื้นฐานที่สุด ช่วยให้เพิ่มพูนและฟื้นฟูพลังวิญญาณได้ วิญญาณและร่างกายไม่อาจแบ่งแยก วิญญาณสามารถควบคุมร่างและร่างกายสามารถฝึกฝนวิญญาณ วิญญาณถูกปิดซ่อนไว้ภายในร่างมีเพียงผู้ฝึกปรือวิญญาณจึงสามารถสัมผัสและควบคุมพลังวิญญาณได้…”

“สามด่านแรกของผู้ฝึกปรือวิญญาณอันได้แก่ นวกะวิญญาณ ปัจเจกวิญญาณและวีรชนวิญญาณ ล้วนถูกเรียกว่า สามด่านแห่งการควบคุมร่าง : ด่านนวกะวิญญาณ — ควบคุมผิวหนังและกล้ามเนื้อ; ด่านปัจเจกวิญญาณ — ควบคุมกระดูกและโลหิต; ด่านวีรชนวิญญาณ — ควบคุมจุดเส้น”

“เคล็ดวิชาด่านนวกะวิญญาณ…”

ผ่านไปเนิ่นนาน ‘ไปหยุนเฟย’ลืมตาขึ้นช้าๆ

“นี่มีเพียงเคล็ดควบคุมผิวหนังและกล้ามเนื้อของด่านนวกะวิญญาณ แต่ข้ากลับสัมผัสได้ชัดเจนว่าในม้วนคัมภีร์ยังมีเนื้อหาอื่นอีก อย่างน้อยต้องมีเคล็ดควบคุมร่างของด่านปัจเจกวิญญาณและวีรชนวิญญาณอยู่ หรือเป็นเพราะข้าเพียงบรรลุระดับต้นของด่านนวกะวิญญาณ จึงไม่อาจรับรู้เคล็ดวิชาขั้นต่อไปได้?”

มันลุกขึ้นจากเตียงเดินไปยังกองอิฐสี่ห้าก้อนที่มุมห้อง หลังจากใคร่ครวญอย่างละเอียด จึงกำหมัดขวาขึ้นตรงหน้า อย่างเชื่องช้าผิวหนังและกล้ามเนื้อทั่วแขนขวามันราวกับขยายตัวออก ผิวหนังราวกับหนาและกระชับขึ้น กล้ามเนื้อก็เบ่งพองออกช้าๆ แขนขวาทั้งข้างแปรเปลี่ยนเป็นหยาบใหญ่ยิ่งกว่าแขนซ้ายมองดูทรงพลังยิ่ง มันร้องเบาๆกระแทกแขนขวาลงไปยังกองอิฐเบื้องหน้า

“โครม!”

เสียงระเบิดดังกึกก้อง กระทั่งห้องยังราวกับจะสั่นสะเทือนไปด้วย

“เฮ้ เฮ้! เจ้าทำอันใดในห้องของข้า?! ขอบอกต่อเจ้า หากเจ้าทำห้องข้าเสียหาย ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่! ข้าจะ…”

เสียงงุนงงและขุ่นเคืองดังมาจากด้านนอก จากนั้นประตูห้องถูกผลักเปิด บุรุษไว้หนวดผู้หนึ่งก้าวเท้าเข้ามา ทว่าหลังจากมันผลักเปิดประตู เพียงผ่านประตูเข้ามาเพียงครึ่งร่างก็แลเห็นไป่หยุนเฟยยืนอยู่ที่มุมห้องพร้อมกับเศษอิฐเกลื่อนกลาดเบื้องหน้า มองไปยังแขนขวาที่ปูดโปนด้วยกล้ามเนื้อของ’ไป่หยุนเฟย’และกำปั้นที่ยังมีเศษอิฐก้อนเล็กๆสีแดงสดติดอยู่ มันตะลึงงันอยู่เนิ่นนาน…

“ท่าน… เอ่อ… ทำธุระท่านต่อเถอะ… เชิญทำธุระต่อ… ข้าไม่รบกวนท่านแล้ว…”

หลังจากบอกกล่าวเสียงตะกุกตะกัก มันค่อยๆถอยหลังด้วยรอยยิ้มประจบเอาใจและปิดประตู ‘ไป่หยุนเฟย’ที่หมกมุ่นกับความคิดตนเองก็ไม่ได้สนใจชายผู้นั้นเช่นกัน

“เพียงควบคุมผิวหนังและกล้ามเนื้อคราแรกก็ทรงพลังเพียงนี้ พลังของข้าเพิ่มพูนขึ้นอย่างน้อยหลายเท่าตัว…”

ขณะมองดูกองเศษก้อนอิฐบนพื้นมันจับสัมผัสพลังวิญญาณในร่างอย่างละเอียดอีกครั้ง แม้จะยังคงอ่อนจางแต่ก็คงอยู่จริงๆ ‘ไป่หยุนเฟย’จิตใจตื่นเต้นนัก

“ผู้ฝึกปรือวิญญาณ… ในที่สุดข้าก็กลัยกลายเป็นผู้ฝึกปรือวิญญาณ! ข้าเข้าใกล้จุดมุ่งหมายที่จะแก้แค้นไปอีกก้าวหนึ่งแล้ว…”

หลังเก็บกวาดห้องมันรับประทานอย่างเรียบง่ายและนั่งลงบนเตียงอีกครา มันสำรวจแหวนช่องมิติชั่วขณะจึงบรรจุก้อนอิฐ มีดสั้น เงินทองและสิ่งของอื่นๆที่เหลือลงไป ‘ไป่หยุนเฟย’ชื่นชอบของเล็กๆชิ้นนี้ยิ่ง — ช่างสะดวกสบายนัก ขณะนั่งบนเตียงมันถือแหวนช่องมิติไว้ในมือและกล่าวคำพูดในใจ

”อัพเกรด”

“อัพเกรดสำเร็จ”

“ระดับไอเทม: ดีเลิศ”

“ระดับการอัพเกรด: +6”

“คุณลักษณะเพิ่มเติม: พละกำลัง +9”

“สิ่งจำเป็นในการอัพเกรด: แต้มวิญญาณ 12 แต้ม”

“เห็นได้ชัด แต้มวิญญาณก็คือพลังวิญญาณ!”

ยามที่มันอัพเกรดไอเทมนั้นความรู้สึกที่บางสิ่งถูกดึงออกไปจากร่างเกิดขึ้นอีกครา ก่อนนี้มันไม่อาจรับรู้ได้ แต่ยามนี้มันสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่านั่นคือพลังวิญญาณ!

‘ไป่หยุนเฟย’อัพเกรดแหวนอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง และมันล้มเหลวเพียงแค่ครั้งเดียว

“ระดับไอเทม: ดีเลิศ”

“ระดับการอัพเกรด: +8”

“คุณลักษณะเพิ่มเติม: พละกำลัง +33”

“สิ่งจำเป็นในการอัพเกรด: แต้มวิญญาณ 16 แต้ม”

เนื่องเพราะมันไม่ทราบว่าแหวนระดับดีเลิศนี้จะถูกทำลายหลังจากอัพเกรดถึงระดับ +8 เช่นมีดสั้นระดับธรรมดาหรือไม่ จึงไม่กล้าเสี่ยงอัพเกรดอีก — หากแหวนนี้ถูกทำลายจากการอัพเกรดล้มเหลว มันก็ไม่ทราบจะไปร่ำไห้กับใครแล้ว

จากการจับสัมผัสอย่างละเอียดไป่หยุนเฟยสังเกตออกว่าพลังวิญญาณอ่อนด้อยลงกว่าก่อนหน้านี้อยู่บ้าง จึงหยิบมีดสั้นมาอัพเกรดเป็น +8 ยามนี้มันสัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณมันถูกจ่ายออกไปราวครึ่งหนึ่ง

‘ไป่หยุนเฟย’หยุดการอัพเกรดและฝึกปรือตามที่บันทึกใน’เคล็ดฝึกปรือวิญญาณ’ สงบใจชักนำพลังวิญญาณโคจรไปตามเส้นทางพิเศษพิสดารในร่าง ค่อยฟื้นฟูพลังวิญญาณคืนมาอย่างเชื่องช้า

แต่เมื่อมันสัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณฟื้นฟูเต็มที่ แทนที่มันจะหยุดยั้งลงกลับยังฝึกปรือต่อและรู้สึกได้ว่าพลังวิญญาณในร่างมันเพิ่มพูนขึ้นทีละน้อย

กระทั่งดวงจันทร์เริ่มส่งแสงไป่หยุนเฟยจึงลืมตาขึ้นช้าๆ

“แต้มวิญญาณก็คือพลังวิญญาณ สามารถฟื้นฟูและเพิ่มพูนด้วยการฝึกฝน…”

มันเอื้อมมือไปแตะแหวนบนมือขวา มีดสั้นหลายเล่มก็ปรากฏขึ้นในมือ

“หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็สามารถคำนวณพลังวิญญาณที่มีจากการใช้แต้มวิญญาณได้ นับเป็นข้อมูลที่แปลกใหม่นัก อย่างนี้สมควรต้องทดลองดู…”

เนิ่นนานผ่านไป

“อัพเกรดล้มเหลว”

“ไอเทมถูกทำลาย”

“บัดซบ! ล้มเหลวอีก! ไม่คาดคิดเลยว่าจะไปถึงระดับ +10 ยากถึงเพียงนี้!”

‘ไปหยุนเฟย’ส่ายศีรษะอย่างแรง

“ข้าถึงขีดจำกัดแล้ว หากนับไม่ผิดพลาดข้ามีแต้มวิญญาณ 219 แต้ม…”

“อัพเกรด”

วันต่อมาเมื่อ’ไป่หยุนเฟย’ตื่นขึ้น สิ่งแรกที่มันกระทำคือประเมินพลังวิญญาณภายในร่าง

“เป็นดังคาด… พลังวิญญาณของข้าเพิ่มพูนขึ้น!”

แม้จะคาดการณ์เอาไว้ก่อน แต่เมื่อยืนยันได้ว่าความคิดมันถูกต้อง มันยังคงสั่นระริกด้วยความตื่นเต้นอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากมันใช้กระบวนการอัพเกรดเพื่อจ่ายแต้มวิญญาณหรือก็คือพลังวิญญาณออกไปหมดสิ้น พลังวิญญาณของมันก็จะเพิ่มพูนขึ้นอีกเล็กน้อย… นี่หมายถึงอันใด?

ย่อมหมายถึง นอกเหนือจากการเพิ่มพูนพลังวิญญาณผ่านการฝึกปรือดังเช่นผู้ฝึกปรือวิญญาณคนอื่น ไป่หยุนเฟยยังสามารถเพิ่มพูนพลังวิญญาณด้วยการใช้กระบวนการอัพเกรดอีกด้วย! นี่ย่อมเรียกได้ว่าเป็นหนทางลัด! หนทางลัดที่มีเพียงมันที่กระทำได้!

หลังจากระงับความตื่นเต้นในใจอย่างยากลำบาก ‘ไป่หยุนเฟย’เริ่มรวบรวมผลลัพธ์จากการศึกษาแต้มวิญญาณของมันออกมาเป็นตัวเลข

“จนกระทั่งการอัพเกรดครั้งสุดท้าย จากพลังวิญญาณที่เต็มเปี่ยมจนหมดสิ้นนับรวมแต้มวิญญาณได้ 219 แต้ม ข้าจดจำได้ว่า… เมื่อครั้งที่ข้าใช้กระบวนการอัพเกรดคราแรก ข้าใช้แต้มวิญญาณไปจนหมดสิ้น ครานั้นราวกับ… 60 แต้ม ไม่ควรเกินกว่า 70 แต้ม อีกทั้งยามนั้นทั้งร่างกายและจิตใจของข้าล้วนอ่อนแอ ดังนั้น… ผู้คนทั่วไปที่ร่างกายแข็งแรงสมควรมีแต้มวิญญาณอยู่ราว 100 แต้ม”

“กระบวนการอัพเกรด เคล็ดฝึกปรือวิญญาณ การควบคุมผิวหนังและกล้ามเนื้อของด่านนวกะวิญญาณ… สิ่งที่ข้าต้องค้นคว้าช่างมากมายนัก…”

ในสิบวันมานี้ นอกจากกระทำสิ่งที่จำเป็น เช่นการดื่มกิน การนอนหลับและการออกจากบ้านไปจับจ่ายซื้อของ ‘ไป่หยุนเฟย’ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการฝึกฝนและค้นคว้า แต่มันก็ได้รับประโยชน์จากประสบการณ์และการทดลองตลอดช่วงที่ผ่านมาไม่น้อย

อย่างแรกคือพลังวิญญาณของมัน ทุกคืนมันจะใช้พลังวิญญาณจนหมดสิ้น ยามที่มันตื่นขึ้นในวันถัดไปพลังวิญญาณของมันจะเพิ่มพูนขึ้นราว 10 แต้ม ยามนี้พลังวิญญาณในร่างของ’ไป่หยุนเฟย’มีปริมาณเกินกว่า 300 แล้ว ตัวเลขนี้แสดงว่ามันบรรลุขั้นกลางของด่านนวกะวิญญาณแล้ว!

ภายในสิบวันจากขั้นต้นมันก็บรรลุขั้นกลางของด่านนวกะวิญญาณได้แล้ว หากผู้ฝึกปรือวิญญาณคนอื่นได้รับทราบ คงต้องรู้สึกต่ำต้อยจนอยากเอาหัวพุ่งชนกำแพง!

เมื่อพลังวิญญาณของมันเข้มแข็งขึ้น การควบคุมผิวหนังและและกล้ามเนื้อของมันก็พัฒนาขึ้นตาม เนื่องเพราะพลังวิญญาณของมันเพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว ‘ไป่หยุนเฟย’จึงให้ความสนใจกับการเรียนรู้เคล็ดการควบคุมร่างกาย  หากระดับการควบคุมร่างกายของมันไม่พัฒนาให้สมดุลกับพลังวิญญาณย่อมไม่เป็นผลดี

ยามนี้เมื่อมันชักนำพลังวิญญาณเพื่อเสริมกำลังของผิวหนังและกล้ามเนื้อ หมัดของมัน ความเร็วของมัน การกระโดดของมัน การป้องกันของมันและความสามารถด้านอื่นทั้งหมดล้วนเทียบได้เกือบสิบเท่าของผู้คนปกติ มันเข้าใกล้ขีดจำกัดที่ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดาจะสามารถบรรลุถึงได้จากการฝึกฝนร่างกายแล้ว

อย่างที่สองคือกระบวนการอัพเกรดไอเทม จากการทดลองมาทุกรูปแบบยามนี้ไป่หยุนเฟยก็พอจะมีความเข้าใจพื้นฐานของการอัพเกรด

ทุกสิ่งที่เป็นวัตถุล้วนอัพเกรดได้ เพียงแต่วัตถุที่แตกต่างกันจะให้ผลการอัพเกรดที่แตกต่างกัน

อาวุธเช่นดาบ กระบี่ พลอง หรือแม้แต่ก้อนหินล้วนมีตัวเลขบอกระดับการสร้างความเสียหายซึ่งจะแปรผันไปตามพลังของวัตถุ หลังจากการอัพเกรดความเสียหายที่สร้างได้ก็จะเพิ่มขึ้น

เครื่องป้องกันเช่น เสื้อผ้า รองเท้า และหมวก ล้วนมีค่าการป้องกัน เสื้อผ้าธรรมดาไม่ว่าจะทำจากผ้าเนื้อหยาบหรือผ้าทอลายดอกล้วนมีค่าการป้องกันน้อยนิดเพียงหนึ่งหรือสองหน่วย โดยพื้นฐานแล้วจะไม่แตกต่างจากเดิมแม้จะถูกอัพเกรดแล้วก็ตาม

ประเภทต่อมาคือเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอและเครื่องประดับต่างๆ ไป่หยุนเฟยก็ซื้อหามาค้นคว้าเช่นเดียวกัน ภายหลังการอัพเกรดจะสุ่มคุณลักษณะเพิ่มเติม

เท่าที่มันทราบมีคุณลักษณะเพิ่มเติมอยู่ 4 ประเภท : พละกำลัง ความทนทาน ความเร็วและจิตวิญญาณ สามประเภทแรกทำความเข้าใจได้ไม่ยากนัก โอกาสปรากฏมีไม่น้อย แต่คุณลักษณะ’จิตวิญญาณ’นั้นโอกาสที่จะปรากฏสุดแสนน้อยนิด อีกทั้ง’จิตวิญญาณ’นี้ถึงกับช่วยเพิ่มพูนพลังวิญญาณ!

หลังจากอัพเกรดเครื่องประดับมากมายหลายชิ้น ‘ไป่หยุนเฟย’เพียงได้รับไอเทมที่ช่วยเพิ่มเติมจิตวิญญาณเพียงหนึ่งชิ้น ส่วนชิ้นที่เหลือล้วนถูกทำลายไป

แต่นอกจากแหวนช่องมิติระดับ’ดีเลิศ’บนมือขวามัน วัตถุทุกชิ้นที่มันพบเห็นล้วนเป็นระดับ’ธรรมดา’ แม้มันจะอักเกรดถึงระดับ +8 ก็เพียงเพิ่มคุณลักษณะอันน้อยนิดซึ่งแทบจะไร้ประโยชน์ และเมื่ออัพเกรดเพิ่มเติมพวกมันก็สลายไปก่อนที่จะไปถึงระดับ +10             กระทั่งวันที่สิบ

ในที่สุด’ไป่หยุนเฟย’ก็หยุดยั้ง’การปิดประตูฝึกตน’และตัดสินใจออกไปด้านนอกอีกครั้ง ด้วยเหตุผลที่แสนธรรมดา

เงินทองมันหมดสิ้นแล้ว…

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments