กริมตัวสั่น เขาสะดุ้งออกมาจากส่วนลึกของจิตใจ
กริมที่นั่งหอบอยู่บนเตียง เขายังจำสิ่งที่เหมือนกับฝันก่อนหน้านี้ได้ เขารู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยเมื่อรับละอองสีขาว
มันเป็นภาพลวงตาเหรอ? หรือความฝัน? หรือเป็นอย่างอื่น?
กริมเริ่มสับสนและมึนงง
เขาเคยนั่งสมาธิก่อนหน้านี้มานับครั้งไม่ถ้วนและทุกครั้งเขาไม่ค่อยรู้สึกถึงอะไรเลย แต่ในครั้งสุดท้าย….มัน….มันเหมือนเป็นความฝันและเขาควบคุมตัวเองได้ขณะที่อยู่ในนั้น!
“ชิพ เรียกใช้งานระบบสแกนตัวเอง” กริมคิดอะไรบางอย่างก่อนจะสั่งงานชิพ
*ปี๊ป* “เริ่มขั้นตอนการสแกนร่างต้น….สแกนเสร็จจสิ้น กำลังบันทึกข้อมูลการสแกน….”
หลังจากนั้นข้อความจากชิพก็แสดงออกมา รายงานการสแกนครั้งใหม่ของเขาปรากฏขึ้นมาในหัว
กริม
มนุษย์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
สถานะ: สุขภาพดี
HP: 11/11
นักเวทย์(ขั้นต้น)
ค่าประสบการณ์: 566/1000
ค่าสถานะ
Strength 4
Agility 4
Physique 3
Spirit 8.03
ทักษะและความสามารถเฉพาะ
ทักษะ
ความสามารถเฉพาะ
ตามที่คิดไว้ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับร่างกายของเขา
ถ้าไม่ใช่เพราะชิพตรวจจับอย่างแม่นยำในระดับเซลล์ละก็กริมไม่มีทางรู้ว่าการทำสมาธิลึกลงไปในระดับจิตใจจะเพิ่มพูนแต้มวิญญาณของเขาขึ้นอีก 0.03 และค่าประสบการณ์อีก 2 หน่วย
นั่นหมายความว่าสถานที่ที่เขาเข้าไปไม่ใช่ภาพลวงตา แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
จุดสีมากมายพวกนั้นคืออะไร?
เมื่อคำถามเกิดขึ้นในใจ คำตอบพลันผุดขึ้นมาในหัวทันที
พลังธาตุ!
ทุกคนที่มีพรสวรรค์ในการเป็นจอมเวทย์นั่นจะมีธาตุที่แตกต่างกัน แสงที่เขาเห็นระหว่างทำสมาธิเป็นส่วนหนึ่งของพลังธาตุที่ไหลอยู่รอบๆตัวเขา ในขณะที่ธาตุหลักของเขาเป็นธาตุไฟ ละอองสีแดงที่พุ่งเข้ามาหาเขาเหมือนกับแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟ พวกมันก็คือ พลังธาตุไฟนั่นเอง
ธาตุถูกแบ่งหมวดหมู่ไว้โดยจอมเวทย์ ธาตุที่เด่นที่สุดของเขาคือธาตุไฟ ต่อมาเป็นธาตุไม้สีเขียวและธาตุดินสีเหลือง ส่วนสีอื่นๆ เขาไม่ได้สัมผัสถึง พวกมันต่างหลีกหนีเขาไป
ละอองแสงสีขาวที่กริมจับได้ระหว่างทำสมาธิ ต้องเป็นธาตุมืดแน่นอน เพราะว่ากริมไม่ได้เชื่อมต่อกับธาตุนั้นๆ นอกจากนั้น ธาตุมืดยังเพิ่มแต้ม Spirit เพียงเล็กน้อยและพวกมันทำร้ายเขาในเวลาเดียวกัน
เท่าที่จำได้ มีนักเวทย์ขั้นต้นที่มีธาตุมืดเป็นธาตุหลักไม่กี่คนที่เขารู้จัก พวกเขาไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแรง เพียงถูกลมแรงๆพัดก็เหมือนจะปลิวแล้ว บางทีความสามารถในการกัดกร่อนของธาตุมืดเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาอ่อนแอ?
ดูเหมือนว่าความสามารถในการสัมผัสธาตุจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำสมาธิและจะเพิ่มอัตราการพัฒนาของนักเวทย์อีกด้วย
กริมนึกย้อนไปถึงตอนที่เขากำลังทำสมาธิและสิ่งที่เขาจำได้ทำให้เขาขมวดคิ้ว เท่าที่จำได้ เขาเห็นละอองธาตุมืดนั้นมีมากกว่าละอองธาตุไฟอย่างชัดเจน นั่นหมายความว่าสถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับนักเวทย์ที่มีธาตุมืดเป็นหลักนั้นเอง!
มันเป็นไปได้อย่างไร? ธาตุที่อยู่ในโลกนี้แต่ละที่มีไม่เท่ากันเหรอ?
หรือว่า….หรือว่าเจ้าของหอคอยต้องการให้เป็นแบบนั้น?
ทันใดนั้นเองใบหน้าของกริมก็แสดงความประหลาดใจออกมา
เขาจำได้ว่าเจ้าของหอคอย จอมเวทย์เอนเดอร์สันมีธาตุหลักเป็นธาตุมืดและธาตุลม
ไม่น่าแปลกใจแล้วว่าทำไมนักเวทย์ขั้นต้นจำนวนมากที่เข้ามาในหอคอยพร้อมๆกับกริมถึงมีเวทย์ 2-3 บทและกลายเป็นนักเวทย์ขั้นกลางไปแล้ว ในขณะที่เขายังเป็นนักเวทย์ขั้นต้นอยู่ มันไม่ใช่เพราะพรสวรรค์ตั้งแต่เกิด แต่เป็นสภาพแวดล้อมที่น่าสมเพชแบบต่างหาก
ต่อมา กริมเลิกคิดที่จะทำสมาธิ สำหรับนักเวทย์ขั้นต้นอย่างเขาแม้ว่าการทำสมาธิจะช่วยเพิ่มพลังวิญญาณให้กับเขา แต่ยังทำสมาธิแทนการนอนได้ ดังนั้นการฟื้นพลังวิญญาณที่รวดเร็วและได้ผลมากที่สุดคือการนอนหลับ
เมื่อมองไปที่พลังวิญญาณที่เหลือครึ่งเดียว เขาส่ายหัวและยิ้มออกมาอย่างขมขื่นและทิ้งตัวลงบนเตียงและสติของเขาก็หายไป
………
วันต่อมา กริมกำลังหลับอยู่ถูกปลุกโดยนาฬิกาปลุกจากชิพ
ด้วยความประหลาดใจ การคงสภาพรูปแบบพลังเวทย์ของฝ่ามือเปลวเพลิงจากชิพเสร็จเรียบร้อยแล้ว
วินาทีต่อมา ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับรูปแบบเวทมนตร์ได้ไหลเข้าสู่หัวของกริม
เวทย์ฝ่ามือเปลวเพลิง เป็นเวทย์ไฟระดับต่ำสามารถใช้ในการต่อสู้ได้ทั้งโจมตีและป้องกัน แต่ไม่ได้ถือว่าเป็นเวทย์ที่ทรงพลังแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม รูปแบบของเวทมนตร์ได้แสดงให้เห็นถึงคำร่ายเวทย์ทั้ง 28 คำ คำ 28 คำเหล่านี้ทั้งหมดเป็นคำที่แตกต่างกัน แต่เมื่อนำมารวมกันในรูปแบบเฉพาะจะทำให้เกิดเวทมนตร์ที่สมบูรณ์และปลกปล่อยพลังออกมาด้านนอกได้
ถ้าให้คนธรรมดาร่ายเวทย์นี้โดยให้จดจำคำทั้ง 28 คำโดยให้พวกเขาท่องโดยไม่พลาดเลย…..คนส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากการร่ายเวทย์แค่คำเดียวต้องควบคุมพลังให้ดีและใช้พลังงานจำนวนมาก
เมื่อครั้งแรกที่เขามาโลกแห่งนี้ เขาไม่เชื่อว่าเขาสามารถทำเช่นนั้นได้ แต่ในโลกที่มหัศจรรย์นี้ที่ไหนที่มีพลังธาตุ เขาสามารถร่ายเวทย์ได้อย่างง่ายดาย
แน่นอนว่านี้เกี่ยวกับแต้มวิญญาณที่มีอยู่ 8 แต้มด้วย
เมื่อก่อน เวลาเขาร่ายเวทย์ฝ่ามือเปลวเพลิงต้องร่ายคำร่าย 28 คำเอาไว้ใช้เวลาประมาณ5-7วินาที แต่เมื่อได้รับการคงสภาพ กริมไม่จำเป็นต้องเสียเวลาร่ายเวทย์ สิ่งที่เขาต้องทำคือการควบคุมพลังธาตุใส่ลงไปในรูปแบบเวทย์ในหัวของเขา
นั่นหมายความว่าเขาจะใช้เวลาเพียงแค่2-3วินาทีในการร่ายเวทย์ฝ่ามือเปลวเพลิง ยิ่งกว่านั้นในอนาคตเมื่อเขาปรับปรุงการควบคุมพลังธาตุไฟแล้ว ระยะเวลาการร่ายเวทย์จะสั้นลงไปอีก
แต่นั่นไม่ใช่ข่าวดีซ่ะทีเดียว
รูปแบบการคงสภาพก่อนหน้านี้ต้องใช้พลังวิญญาณในการใช้งาน จากเดิมเวลาร่ายเวทย์ฝ่ามือเปลวเพลิงแล้วเขาจะใช้แต้มวิญญาณถึง2แต้มในการร่าย แต่ตอนนี้เขาใช้แต้มวิญญาณเพียงแค่ 1 แต้ม
นั่นไม่ใช่ว่าในอนาคตเขาสามารถใช้เวทย์เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเหรอ?
การค้นพบในครั้งนี้ทำให้เขายิ้มกว้างออกมาและฝันไปไกล
แต่หลังจากนั้นชิพได้แจ้งเตือนขึ้นมาในหัวของเขาอีกครั้ง
*ปี๊ป* “ค้นพบการแก้ไขรูปแบบเวทย์ ร่างต้นโปรดยืนยันว่าต้องการเพิ่มประสิทธิภาพหรือไม่? ถ้าต้องการเพิ่มพลังวิญญาณ 1 แต้มในการใช้งานต่อวันและค่าประสบการณ์50หน่วย เวลาที่ใช้ 34 ชั่วโมง 25นาที”
ห๊ะ?! เพิ่มประสิทธิภาพของฝ่ามือเปลวเพลิงงั้นเหรอ?
มันอาจจะดูเหมือนดี แต่ทำไมมันใช้ค่าประสบการณ์เยอะขนาดนั้นล่ะ? ถ้าการคงสภาพเวทมนตร์ใช้ค่าประสบการณ์มากขึ้น บางทีค่าประสบการณ์ที่เขาสะสมมาตลอด6ปีอาจจะหมดใน2-3วัน
กริมนิ่งไปสักครู่หนึ่งคิดเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในครั้งนี้ หลังจากนั้นเขาตัดสินใจที่จะปฏิเสธ
เพราะว่าอันดับแรก ฝ่ามือเปลวเพลิงเป็นเวทย์ประชิด มันไม่ค่อยมีประโยชน์ในการต่อสู้ของกริม และต่อมาก็ถูกแทนที่ด้วยเวทย์ระยะไกลอื่นๆทั้งเวทย์โจมตีและป้องกันซึ่งมีประโยชน์มากกว่า ดังนั้นมันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงในตอนนี้
อันดับที่สอง ปัจจุบันด้วยพลังวิญญาณของเขา เขาไม่สามารถคงสภาพรูปแบบเวทมนตร์ได้มากกว่า3แบบ ในสถานการณ์แบบนี้เขามีช่องว่างจำกัด ทำให้ไม่มีที่ว่างให้กับการเพิ่มประสิทธิภาพของเวทย์ฝ่ามือเปลวเพลิง
ในความเป็นจริง กริมอยากจะคงสภาพเวทย์โจมตีระยะไกลมากกว่าและเขามีเวทย์นั้นอยู่ในหัวของเขา
นั่นคือเวทย์ธาตุไฟที่เขาเรียนและกำลังค้นคว้าอยู่เป็นเวลาครึ่งปี – ศรเพลิง(Fire Arrow)
ศรเพลิง เป็นเวทย์ธาตุไฟระดับต่ำ เวทย์นี้เป็นการเสกลูกศรเวทมนตร์ออกมาและขว้างไปยังเป้าหมาย มันสร้างความเสียหายทางกายภาพถึง7แต้ม และระเบิดออกมาสร้างความเสียหายอีก18แต้ม
ด้วยแต้มกายภาพ 3 แต้มและพลังชีวิต11หน่วย ศรเพลิงสามารถฆ่าเขาได้ในทันที ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมากริมต้องการที่จะเรียนรู้เวทย์โจมตีระยะไกลนี้
แต่โชคร้ายหน่อย ถึงแม้ว่าเวทย์ศรเพลิงจะเป็นเวทย์ระดับต่ำ แต่มีคำร่ายถึง34คำ นี่เป็นเหตุผลที่เขาตั้งใจอ่านหนังสือตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เขายังไม่เข้าใจวิธีสร้างรูปแบบโครงสร้างเวทย์ของมันเลย
กริมใช้แต้มความรู้ไปมากกว่า20แต้มและเวลามากมายในการเรียนรู้เวทย์ศรเพลิงนี้ เขายังไม่เข้าใจเวทย์นี้อยู่ดี อย่างไรก็ตาม เขายังอยู่ห่างไกลจากประตูแห่งความสำเร็จและยังห่างไกลกับพวกที่เก่งๆในหมู่นักเวทย์ขั้นต้นที่มีเวทย์2บทขึ้นไป
แต่ตอนนี้ ด้วยการช่วยเหลือจากชิพ เขิดว่าประตูแห่งความสำเร็จใกล้เข้ามาแล้ว!
ลืมไปเลยว่าตอนนี้เป็นเวลาอาหารเช้า กริมรีบลุกขึ้นไปล้างหน้าและนั่งลงที่โต๊ะเขียนหนังสือ และรีบเปิดสมุดเวทย์ที่บันทึกทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเวทย์ศรเพลิง ทั้งคำร่ายและวิธีในการร่าย กริมคัดลอกทุกอย่างลงในสมุดเล่มนี้
การ่ายเวทย์จริงๆนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คนธรรมดาคิด
คำร่าย34คำไม่สามารถอ่านได้ง่ายเหมือนกับที่พวกเขาเขียนไว้ ขั้นตอนในการร่ายทั้งหมดต้องใช้มือ ปาก หัวใจและความคิดที่ผสานกันอย่างลงตัวเพื่อให้เวทมนตร์ทำงาน
เมื่ออ่านคำร่ายแต่ละคำ กริมจำเป็นต้องปรับพลังวิญญาณให้สอดคล้องกับคลื่นความถี่ที่ต่างกันและทั้งคู่ต้องแสดงท่าทางที่เฉพาะเจาะจงออกมา
ความผิดพลาดหรือล่าช้าในการร่ายและผลลัพธ์ของพวกมันคือ….เวทมนตร์ตีกลับ
การตีกลับของเวทย์จะไม่ทำให้นักเวทย์ตาย แต่จะสร้างความเสียหายกับพลังวิญญาณแทนและใช้เวลาในการฟื้นฟูนานกว่าปกติ นอกจากนี้หากพลังวิญญาณของคุณได้รับความเสียหายบ่อยๆ มีโอกาสที่พลังวิญญาณจะลดลงถาวร!
**************
ชี้แจ้งเกี่ยวกับแต้มวิญญาณที่ใช้นะครับ
เมื่อชิพบอกว่าใช้แต้มวิญญาณ2แต้มก็คือการเทน้ำในแก้วออก
วันต่อมาเมื่อฟื้นฟูน้ำก็จะกลับมาเต็มแก้วเหมือนเดิม
จะมีแค่ไม่กี่กรณีที่พลังวิญญาณจะลดลงถาวรนะครับ
ตอนนี้แปลยากมากครับ
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป