I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Upgrade Specialist in Another World (异界之装备强化专家) ตอนที่ 35 ก้อนอิฐ +13 เหวี่ยงขว้าง

| Upgrade Specialist in Another World (异界之装备强化专家) | 954 | 2362 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

หลังจากนิ่งงันไปชั่วครู่  ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็ทำเช่นเดียวกับเมื่อครู่ มันยืนขึ้นอย่างขุ่นแค้น ขว้างก้อนอิฐลงพื้นอย่างดุดัน กระทืบเท้าตะโกนด่าทอ

“มารดาเจ้าเถอะ! เจ้าล้อข้าเล่นหรือไร?!?!?!”             … … … …

ผ่านห้านาทีในที่สุด ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็สงบจิตใจและร่างกายที่พลุ่งพล่านของมันลงได้ ขณะหยิบก้อนอิฐที่จมลงในพื้นดินกว่าครึ่งขึ้นมาปัดเศษดินออกมันก็น้ำตาคลอเบ้า

“หากทราบแต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ ข้าสมควรจะอัพเกรดหนามธารน้ำแข็งแทน…”

ขณะจับจ้องอิฐในมือด้วยสีหน้าสับสน ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็เริ่มสำนึกเสียใจที่เลือกอัพเกรดก้อนอิฐนี้

เมื่อเพ่งความคิดคุณสมบัติของก้อนอิฐก็ปรากฏในจิตใจของมัน

“ระดับไอเทม: ธรรมดา”

“ระดับการอัพเกรด: +13”

“สร้างความเสียหาย: 9”

“สร้างความเสียหายเพิ่มเติม: 132”

“ผลกระทบเพิ่มเติมระดับ +10 : เมื่อจู่โจมมีโอกาส 1% ที่จะทำให้เป้าหมายสับสนระยะเวลาสูงสุด 3 วินาที(เมื่อโจมตีศีรษะโอกาสทำให้สับสนเพิ่มเป็น 5%)”

“ผลกระทบเพิ่มเติมระดับ +12 : เมื่อจู่โจมมีโอกาส 8% ที่จะทำให้เป้าหมายมึนงงระยะเวลาสูงสุด 5 วินาที(เมื่อโจมตีศีรษะโอกาสทำให้มึนงงเพิ่มเป็น 15%)”

“ผลกระทบเพิ่มเติมระดับ +13 : เมื่อจู่โจมมีโอกาส 30% ที่จะเหวี่ยงขว้างเป้าหมายขึ้นไปในอากาศ”

“สิ่งจำเป็นในการอัพเกรด: แต้มวิญญาณ 50 แต้ม”

“นี่…”

สีหน้าหดหู่ของ ‘ไป่หยุนเฟย’ พลันสาบสูญไปแทนที่ด้วยความแตกตื่นอย่างใหญ่หลวง ราวกับไม่กล้าเชื่อถือข้อมูลที่ปรากฏในจิตใจตนเอง

หลังจากแตกตื่นอยู่ครู่ใหญ่ ‘ไป่หยุนเฟย’ จึงวางก้อนอิฐลงกับพื้นด้วยท่าทีสับสน จากนั้นจึงหยิบขึ้นมาตรวจสอบอีกครา แล้วมันก็วางก้อนอิฐลงและหยิบขึ้นมาตรวจสอบซ้ำอีก…

หลังจากกระทำซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง ในที่สุดมันก็เชื่อถือว่าเป็นเรื่องจริง  ‘ไป่หยุนเฟย’ ประคองก้อนอิฐด้วยสองมือและพึมพำกับตนเอง

“นี่… นับเป็นรางวัลชดเชยแก่ความสูญเสียทั้งหลาย แม้เข็มเงินวิญญาณน้ำแข็งทั้งคู่จะถูกทำลายไป แต่ผลกระทบเพิ่มเติมของก้อนอิฐนี้ยังไม่เลวอยู่ อย่างน้อยข้าก็ไม่ทำลายสิ่งของทั้งหลายไปสูญเปล่า…”

“เช่นนั้นก็ทดสอบพลังของก้อนอิฐนี้เถอะ!”

ความหดหู่ของไป่หยุนเฟยปลาสนาการไปสิ้น มิหนำซ้ำยังดูตื่นเต้นดีใจอยู่บ้าง มันถือก้อนอิฐวิ่งตรงไปที่หมู่บ้านด้วยใบหน้าเปี่ยมความมุ่งหมายจะทดสอบผลงานตนเอง

‘หลี่เฉิงเฟิง’ กำลังหิ้วถังน้ำไม้ใบใหญ่ในมือทั้งสองข้างวิ่งไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ตามปกติชาวบ้านจะใช้คานหาบถังไม้ที่มีน้ำเต็มเปี่ยมอย่างเชื่องช้าด้วยความลำบาก แต่ยามนี้ถังไม้ในมือ ‘หลี่เฉิงเฟิง’ ราวกับไร้น้ำหนัก — มันเพิ่งจะเสร็จสิ้นการฝึกฝีมือจึงใช้เวลาช่วงพักช่วยชาวบ้านหาบน้ำ

ขณะที่มันเติมน้ำใส่ถังให้แก่ครอบครัวหนึ่งและจะออกไปตักน้ำอีกรอบ ก็มองเห็น ‘ไป่หยุนเฟย’ รุดมาจากภูเขาหลังหมู่บ้านอย่างเร่งร้อนพร้อมกับก้อนอิฐในมือด้วยสีหน้าเปี่ยมความคาดหวัง

“หยุนเฟยเจ้ามีเรื่องอันใด?”

เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้  ‘หลี่เฉิงเฟิง’ จึงเอ่ยปากถามด้วยท่าทีงุนงงง

“อา ข้าเพิ่งได้รับสิ่งที่ร้ายกาจอย่างยิ่งมา เฉิงเฟิงวางมือจากงานเจ้าก่อนและตามข้าไปทดสอบพลังของมัน”

‘ไป่หยุนเฟย’ กล่าววาจาพลางกะน้ำหนักก้อนอิฐในมือ

“เอ่อ… นี่หรือ? ก้อนอิฐนี้?”

‘หลี่เฉิงเฟิง’ ถามอย่างไม่แน่ใจโดยปราศจากท่าทีใด

“มิผิด ก้อนอิฐนี้เอง อย่าถามอันใด หลังจากทดลองดูเจ้าจะรู้เอง ไปกันเถอะ!”

กล่าวจบไป่หยุนเฟยก็ผลุนผลันออกไปยังที่โล่งนอกหมู่บ้าน

“โอ ตกลง…”

เห็นความกระตือรือร้นของสหาย  ‘หลี่เฉิงเฟิง’ ก็อยากรู้อยากเห็นขึ้นมาบ้าง มันวางถังไม้ลงและตาม               ‘ไป่หยุนเฟย’ ออกไป

“เจ้าเตรียมป้องกันให้รัดกุม ข้าจะใช้ก้อนอิฐนี้ทุบที่ไหล่เจ้าเพื่อดูผลลัพธ์”

เมื่อมาถึงพื้นที่โล่งกว้าง ‘ไป่หยุนเฟย’ กล่าววาจาหลังจากขบคิดชั่วครู่

แม้จะไม่ทราบว่ ‘าไป่หยุนเฟย’ คิดอะไรในใจ  ‘หลี่เฉิงเฟิง’ ยังคงชักนำพลังวิญญาณโดยไม่ปริปาก กล้ามเนื้อบนไหล่มันเต้นระริกชั่วขณะ เมื่อเตรียมป้องกันแล้วจึงขบคิดในใจอย่างงุนงง

“หมายความว่าอย่างไร? มันจะใช้อิฐก้อนนั้นทุบตีข้า? การโจมตีเช่นนี้จะระคายผิวผู้ฝึกปรือวิญญาณได้หรือ? หรือก้อนอิฐนั้นมีอันใดพิเศษ? แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไรนั่นก็เพียงแค่ก้อนอิฐธรรมดา…”

ยามที่มันคาดเดากับตนเอง  ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็ก้าวเท้ามาตรงหน้าและยกก้อนอิฐขึ้นด้วยท่าทางปกติไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาอันใด จากนั้นก็ทุบลงบนไหล่ของ ‘หลี่เฉิงเฟิง’

“พลั่ก!”

“อ๊าก!”

ก่อนที่เสียงกระแทกจะสิ้นสุด เสียงร่ำร้องอย่างเจ็บปวดและแตกตื่นของ ‘หลี่เฉิงเฟิง’ ก็ดังขึ้น มันอดไม่ได้ต้องถอยกายไปสองก้าวอย่างกะทันหันพลางนวดเฟ้นไหล่ซ้ายของตนไม่หยุด  ‘หลี่เฉิงเฟิง’ หน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดขณะเดียวกันก็สูดหายใจอย่างหนาวเหน็บ

“ไฉนเป็นเช่นนี้ได้?! เมื่อครู่ก้อนอิฐนี้…  ‘หยุนเฟย’ เจ้าไม่ได้ใช้วิชาระลอกคลื่นใช่หรือไม่? นี่ราวกับท่าทะลวงสามทบ นี่คือ… ทุบสามทบ?”

‘หลี่เฉิงเฟิง’ เอ่ยปากถามขณะที่จับจ้อง ‘ไป่หยุนเฟย’ ด้วยใบหน้ายุ่งเหยิง หลังจากชักนำพลังวิญญาณไปยังไหล่ซ้ายเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด

“ทุบมารดามันอันใด! เมื่อครู่ดูเหมือนข้ากำลังใช้เคล็ดวิญญาณหรือ?”

‘ไป่หยุนเฟย’ กล่าวตัดบทจากนั้นก็พึมพำกับตนเองด้วยท่าทีหมกมุ่น

“อืม แต่ทว่า… ทุบสามทบ? ฮ่า ฮ่า ข้าคิดว่า…”

‘หลี่เฉิงเฟิง’ ไม่อาจกล่าวคำใดได้ หรือเคล็ดวิญญาณอันร้ายกาจจะใช้กับก้อนอิฐนี้ได้จริงๆ?

“เอาล่ะ ทดลองต่อเถอะ ครานี้เจ้าต้องป้องกันตนเองให้ดี”

หลังจากครุ่นคิดชั่วครู่ ‘ไป่หยุนเฟย’ จึงเอ่ยปากกล่าววาจา

ครานี้ ‘หลี่เฉิงเฟิง’ นิ่งงันไปแล้ว

“พวกเรายังคงทดลองอีกหรือ? เจ้าต้องการทำอะไรกันแน่? โธ่… ตกลง เข้ามาทุบข้าอีกคราเถอะ”

‘ไป่หยุนเฟย’ ทุบลงบนไหล่ของ ‘หลี่เฉิงเฟิง’ สามครั้งติดต่อกัน ครานี้ ‘หลี่เฉิงเฟิง’ เตรียมพร้อมเสริมความแข็งแกร่งเพื่อป้องกันตนเอง ถึงอย่างนั้นแม้จะไม่ขยับร่างแม้แต่ครึ่งนิ้วแต่ยังคงรู้สึกเจ็บปวดอยู่บ้าง  ‘หลี่เฉิงเฟิง’ ใช้สายตางุนงงงมองดู ‘ไป่หยุนเฟย’ ที่จับจ้องมาอย่างคาดหวังหลังจากใช้ก้อนอิฐทุบตีมัน

หลังจากทุบเป็นครั้งที่สาม ‘ไป่หยุนเฟย’ ก้มลงมองก้อนอิฐในมือด้วยความผิดหวังและกล่าวกับตนเอง

“ประหลาด… ไฉนยังไม่บังเกิดขึ้น?”

มันเงยหน้าขึ้นมอง ‘หลี่เฉิงเฟิง’ อีกคราพลางกล่าวอย่างยิ้มแย้ม

“ ‘เฉิงเฟิง’ นับว่าเจ้าโชคดียิ่งนัก…”

จากนั้นก็ใช้ก้อนอิฐทุบลงอีกครา

“โอ? เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ข้าโชค…”

‘หลี่เฉิงเฟิง’ กล่าวอย่างงุนงง แต่ก่อนที่จะทันได้กล่าวจบ บางอย่างที่ผิดธรรมดาก็พลันเกิดขึ้นขณะที่ก้อนอิฐกระทบถูกไหล่ของมัน!

เมื่อ ‘ไป่หยุนเฟย’ รู้สึกถึงกระแสพลังวิญญาณที่ไหลเข้าสู่ก้อนอิฐในมือ ดวงตามันก็ทอประกาย

“สำเร็จแล้ว!”

‘หลี่เฉิงเฟิง’ ที่ยังคงยืนกับที่พลันลอยขึ้นกลางอากาศโดยที่ไม่ทันกล่าวคำพูดจบราวกับถูกกระแทกชนจากรถบรรทุกคันใหญ่… เอ่อ รถม้าคันใหญ่ มันลอยลอยละลิ่วออกไปกว่าสามเมตรหลังจากถึงพื้นก็ยังคงไถลต่อไปอีกร่วมสิบเมตรก่อนจะหยุดยั้งลง

‘หลี่เฉิงเฟิง’ อ้าปากค้างพลางทรุดนั่งลงกับพื้น มันไม่ได้บาดเจ็บอันใดแต่มันตะลึงงันกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเมื่อครู่

“ฮ่า ฮ่า ในที่สุดก็บังเกิดผล ผลกระทบ‘เหวี่ยงขว้าง’เป็นเช่นนี้เอง ถึงกับน่ากลัวกว่าที่ข้าคาดคิดอีก ฮ่า ฮ่า…”

‘ไป่หยุนเฟย’ พึงพอใจไม่น้อย เสียงหัวเราะอย่างเบิกบานปลุก ‘หลี่เฉิงเฟิง’ ตื่นจากภวังค์ มันลุกขึ้นมองไปยังก้อนอิฐในมือ ‘ไป่หยุนเฟย’ ด้วยสีหน้ากังขา พลางเอ่ยปากถาม

“ ‘หยุนเฟย’ เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น? ร่างของข้าพลันลอยละลิ่วไปด้านหลังอย่างไม่อาจควบคุม แต่ข้ากลับไม่บาดเจ็บอันใด… หรือเป็นผลจากอิฐก้อนนี้?”

“มิผิด เจ้ากล่าวถูกแล้ว อัศจรรย์อย่างยิ่งกระมัง? ฮ่า ฮ่า อีกสักครู่ข้าจะอธิบายแก่เจ้าเอง มา มาทดลองกันต่อเถอะ…”

เมื่อได้ยินคำถาม ‘ไป่หยุนเฟย’ จึงหยุดกล่าววาจากับตนเองจากนั้นเดินเข้าหา ‘หลี่เฉิงเฟิง’ อีกคราด้วยสีหน้าตื่นเต้นยินดี

“ช้าก่อน ช้าก่อน! ข้าเลิกแล้ว เรื่องประหลาดเช่นนี้ข้าไม่อยากเล่นอีกต่อไปแล้ว…”

หลี่เฉิงเฟิงมองดูก้อนอิฐในมือ ‘ไป่หยุนเฟย’ ที่ราวกับเปล่งแสงสีแดงระเรื่อออกมาพร้อมกับเอ่ยปากปฏิเสธพลางโบกมือไม่หยุดยั้ง สีหน้ามุ่งมาดปรารถนาของ ‘ไป่หยุนเฟย’ กลับทำให้มันขนลุก

“โธ่… ไฉนเจ้าเป็นเช่นนี้? ทำเช่นนี้ไม่อาจทำให้เจ้าบาดเจ็บ… การเหวี่ยงขว้างเมื่อครู่นั้นมีโอกาสเกิดเพียงสามส่วนเท่านั้น”

ได้เห็น ‘หลี่เฉิงเฟิง’ ถดถอยอย่างต่อเนื่อง ราวกับจะไม่ให้ความร่วมมือใน‘การทดลอง’อีก  ‘ไป่หยุนเฟย’ ครุ่นคิดชั่วครู่ มันไม่มีทางเลือกใดอีกได้แต่เปลี่ยนวิธีการ

“โธ่ แล้วกันไปเถอะ เช่นนั้นเจ้าทุบข้าเป็นอย่างไร? เช่นนี้คงไม่เป็นไรกระมัง? ข้าจะได้รับทราบด้วยตนเอง”

“เอ่อ… ไม่เป็นไรจริงหรือ?”

‘หลี่เฉิงเฟิง’ นิ่งงันและหยุดล่าถอย ขณะมองก้อนอิฐที่ ‘ไป่หยุนเฟย’ ยื่นให้มันก็รับมาอย่างลังเล เมื่อลองชั่งน้ำหนักด้วยมือร่องรอยความอยากรู้อยากเห็นก็ค่อยๆปรากฏในดวงตา มันเงยหน้าขึ้นกล่าวว่า

“ตกลง ข้าจะช่วยเจ้าทดสอบ ข้าต้องทำอย่างไร? ยังคงใช้อิฐก้อนนี้ทุบที่ไหล่เจ้า? ข้าสมควรใช้แรงเท่าใด?”

“ให้ข้าคิดก่อน… อย่าได้ทุบที่ไหล่ข้า ให้ทุบที่หน้าผากตกลงหรือไม่? ทว่าอย่าได้ใช้แรงมากเกินไป… เพียงทุบข้าแผ่วเบาก็พอ”

‘ไป่หยุนเฟย’ เอ่ยปากหลังจากครุ่นคิดชั่วครู่

“หน้าผาก? ตกลง เช่นนั้นเตรียมป้องกันให้ดี ข้าจะทุบแล้ว…”

‘หลี่เฉิงเฟิง’ งงงันวูบจากนั้นรับคำอย่างไม่แน่ใจ

“มิผิด ลงมือเถอะ แต่หลังจากทุบแล้วให้รอก่อน อย่าได้ทุบอีกคราจนกว่าข้าจะบอก”

‘ไป่หยุนเฟย’ ก้มหน้าลงเล็กน้อยและกล่าวเตือน

“โอ…”

‘หลี่เฉิงเฟิง’ เงื้อก้อนอิฐในมือขึ้นช้าๆก่อนจะทุบลงที่หน้าผาก ‘ไป่หยุนเฟย’ อย่างเบามือ

“พลั่ก!”

แม้จะใช้แรงเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อก้อนอิฐกระทบถูกหน้าผาก ‘ไป่หยุนเฟย’ ก็บังเกิดเสียงประหลาดดังมาแผ่วเบา

จากนั้นก็เป็นดังที่เกิดกับหลี่เฉิงเฟิงก่อนหน้า  ‘ไป่หยุนเฟย’ ลอยละลิ่วออกไปห่างไกลพร้อมกับเสียงหวืดหวือแผ่วเบาราวกับถูกรถม้าคันใหญ่พุ่งเข้าชน

เมื่อเห็น ‘ไป่หยุนเฟย’ ที่ทรุดนั่งลงกับพื้นด้วยความสับสน จากนั้นจึงส่งสายตามายังก้อนอิฐในมือมัน’หลี่เฉิงเฟิง’ ก็งงงันวูบจากนั้นพลันกุมหน้าท้องระเบิดหัวเราะดังสนั่น

“เมื่อครู่เจ้าว่าอย่างไร? การเหวี่ยงขว้างมีโอกาสเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งในสามใช่หรือไม่? ฮ่า ฮ่า… เช่นนั้นดูเหมือนข้าจะโชคดีกว่าเจ้าอยู่บ้าง ฮ่า ฮ่า!!”

‘ไป่หยุนเฟย’ ดิ้นรนลุกขึ้นจากพื้น หลังจากปัดฝุ่นออกจากร่างกายแล้วจึงกล่าวอย่างกระดาก

“เอ่อ นั่นเป็นเรื่องไม่คาดคิด ไม่คาดคิดจริงๆ… ทดลองต่อเถอะ”

“ทดลองต่อ? ตกลง ตกลง เตรียมตัวให้พร้อม ข้าจะลงมือแล้ว”

ครานี้ ‘หลี่เฉิงเฟิง’ มีท่าทีกระตือรือร้นกระทั่งยังเพลิดเพลินอยู่บ้าง ไม่ว่าการเหวี่ยงขว้างนี้ที่แท้จะเป็นสิ่งใด ยามนี้มันพบว่าช่างน่าสนใจอย่างยิ่งทั้งยังสนุกสนานเป็นพิเศษ

“ถูกต้อง ทุบข้าได้เลย”

เมื่อ ‘ไป่หยุนเฟย’ มองเห็นสีหน้า ‘หลี่เฉิงเฟิง’ เปี่ยมด้วยความคาดหวัง มุมปากมันก็กระตุกรั้งอย่างผิดธรรมชาติ

“หวังว่า… ผลกระทบทั้งหมดจะทดลองได้หมดสิ้นโดยเร็ว…”

ยามนี้มันได้แต่ภาวนากับตนเองในใจ

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments