I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 3 ตั๊กแตนพุ่งทะยาน

| Zhan Long | 2536 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ชั้นตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล ลุกขึ้นแล้วก็ขยับตัวมองไปรอบๆ

เห็นเพียงแค่’ซ่งหาน’ เขามีอายุ 24 ปี และเขาเองก็เป็น 1 ใน เพื่อนๆจากเกมก่อนหน้านี้ของชั้น

เขามีชื่อเล่นว่า ‘เสี่ยวหลาง’ ซึ่งตำแหน่งของเขาในกลุ่มนั้นก็คือ นักฆ่า

ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็เป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในกลุ่มของเราด้วย

ชั้นขยี้ตาของตัวเอง เพราะว่าถ้า’ซ่งหาน’กับคนอื่นๆที่มองว่าชั้นเป็นฮีโร่สำหรับพวกเขา

มาเห็นตัวชั้นในสภาพที่โดนไล่ให้มานอนที่สนามหญ้าแล้วละก็ชั้นคงจะแบกรักความอับอายของตัวเองไม่ไหวแน่ๆ

ชั้นกระซิบเบาๆว่า

“เมื่อกี้ชั้นเพิ่งเรียนรู้ วิทยายุทธ์ขั้นสูง ซึ่งจำเป็นที่จะต้องซึมซับ ธรรมชาติ ทั้งลม ฝน ความหนาว แล้วก็ หยาดน้ำค้าง เพราะงั้นชั้นก็เลยมานอนข้างนอกน่ะ ว่าแต่ นายมาทำอะไรที่นี่งั้นหรอ?”

‘ซ่งหาน’มองไปทีแปรงสีฟันกับถ้วยข้างๆตัวชั้น เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า

“ไม่ว่าจะดูมุมไหน ผมว่าพี่ถูกไล่ออกมาจากหอนะ นี่พี่ไม่จ่ายค่าหอมานานเท่าไรแล้วเนี่ย”

ชั้นส่ายหัวแล้วตอบกลับไปว่า

“ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความจริง พวกเราโตกันเป็นหนุ่มแล้วนะ พวกเราต้องมองข้ามรูปร่างภายนอกแล้วก็ซึมซับเข้าไปในห้วงของธรรมชาติ นี่อาจารย์ที่สอยจริยธรรมไม่ได้สอนนายงั้นหรอ?”

‘ซ่งหาน’ยิ้มแล้วพูดว่า

“พี่เสี่ยวเหยา อย่าโกหกตัวเองไปหน่อยเลยน่า ยัยป้าเจ้าขอหอนั่นทำให้พี่ต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ใช่ไหม?”

ชั้นส่ายหัวอีกครั้งแล้วก็ตอบไปอีกว่า

“จะเป็นไปได้ยังไงกันล่ะ? นายคิดไปเองแล้ว…..”

ระหว่างนั้น ประตูที่อยู่ทางด้านขวาของชั้นก็ถูกเปิดออกมา แล้วเจ้าของหอก็โผล่หัวออกมามอง

ทำท่าทางเหมือนกับว่าไม่เห็นพวกเราแล้วทำเป็นพูดลอยๆว่า

“โอ้ เจ้าหลี่เสี่ยวเหยาที่น่ารำคาญนั่น เมื่อวานมันไม่ได้กลับมาที่นี่แฮะ คือถ้ามันแค่ไม่จ่ายค่าห้องฉันก็เฉยๆนะ แต่มันดันไม่จ่ายค่าน้ำค่าไฟด้วยนี่สิ หึ แล้วมันก็ยังขอเวลาอีกหลายวันด้วยนะ เด็กๆสมัยนี้เป็นยังไงกันนะ ถ้ารู้ว่าตัวเองยังแข็งแรง ก็น่าจะไปทำงานหนักมากขึ้นกว่านี้สิ ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่าห้องล่ะนะ มันก็ไม่มีอนาคตหรอก คนแบบนี้น่ะไม่สมควรที่จะมีแฟนหรือว่าชีวิตที่เหลือหลังจากนี้หรอกนะ”

ชั้นคิดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า

“ป้าจะว่าผมจนยังไงก็ไม่ว่านะ แต่มาบอกว่าชาตินี้ผมจะไม่มีแฟนเนี่ย โหดร้ายไปแล้วนะ!!”

‘ซ่งหาน’ยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วพูดว่า

“ป้าคนนี้มันน่ารำคาญจริงๆ นี่พี่เสี่ยวเหยาทนเธอมาขนาดนี้ได้ยังไงกันเนี่ย? จะให้ผมจัดการเธอเลยไหม สับหัวเธอทิ้งเลยไหม?”

“ใจเย็นๆแล้ววางมีดลงก่อน เจ้าหนู….”

“ถ้างั้นรอผมแปปนึงนะ”

“จะทำอะไร?”

“เดี๋ยวพี่ก็รู้”

ชั้นรวบรวมเก็บของๆชั้นมัดรวมเข้าด้วยกัน เพราะถ้าทำแบบนี้ ชั้นจะได้เดินทางได้สะดวก

เวลาผ่านไปซักพัก ‘ซ่งหาน’กลับมา ในมือของเขานั้นมีตะกร้าที่มีมูลสัตว์อยู่ เมื่อชั้นเห็นแล้วก็ขมวดคิ้วแล้วถามว่า

“เสี่ยวหลาง จะเอาไปทำอะไรกันน่ะ?”

‘ซ่งหาน’ยิ้มแล้วก็ล้วงถุงออกมาจากกระเป๋า ในนั้นมีตั๊กแตนที่ดูสกปรกแล้วก็แมลงต่างๆ เขาพูดว่า

“ผมไปที่บ้านของท่านหลิว เพื่อไปเอาแมลงพวกนี้ ไปบ้านของป้าหวาง เพื่อไปเอาตั๊กแตน หึหึ ดูเหมือนว่าเจ้าของหอนี้จะเป็นประเภทที่ไม่แคร์เรื่องศักดิ์ศรี ดังนั้นเราก็ควรจะมอบรางวัลให้เขาหน่อยนะ”

ร่างกายของชั้นถึงกับสั่นเลยเมื่อรู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น

“พี่เสี่ยเหยา ไปซ่อนตัวไกลๆเลยนะ”

“ได้”

ชั้นเก็บสัมภาระของชั้นแล้วรีบวิ่งห่างออกไปถึง 10 เมตร ในระหว่างที่ ‘ซ่งหาน’ปามูลสัตว์เข้าไปที่กำแพงบ้านของเจ้าของหอ

และก็เอาแมลงเข้าไปในบ้านของเธอ จากนั้นก่อนกลับก็ยังทำให้หน้าต่างเป็นรอยอีกด้วย

ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นเรื่องยากเลยที่จะทำความสะอาดมัน

หลังจากที่สูดลมหายใจลึกแล้ว ชั้นก็โอบไหล่ของซ่งหานแล้วพูดว่า

“เสี่ยวหลาง นายนี่เป็นน้องชายแท้ๆของชั้นที่หายสาบสูญไปตั้งแต่เด็กจริงๆด้วย”

‘ซ่งหาน’ยิ้มหัวเราะคิกคักแล้วตอบว่า

“พวกเราต้องรีบไปจากที่นี่เร็วๆแล้วล่ะ ก่อนที่นรกจะมาเยือน”

“เออดิ”

หลังจากที่พวกเราออกไป มีเสียงกรี๊ดร้องของเจ้าของหอดังสนั่นออกมา แต่ว่าชั้นไม่คิดจะไปพบกับเธอในเร็วๆนี้หรอกนะ

บนถนน ‘ซ่งหาน’ช่วยชั้นถือ จานชาม ระหว่างที่ชั้นกำลังแบกพวกเสื้อผ้าไว้ที่หลัง

“พี่เสี่ยวเหยา ผมมาหาพี่ก็เพราะมีเรื่องจะพูดด้วยนะ”

ชั้นพยักหน้าแล้วพูดว่า

“ชั้นรู้ ว่ามาสิ ว่าทำไมนายถึงมาหาชั้น”

‘ซ่งหาน’หยุดนิ่งแล้วกำหมัดของเขาแน่น สายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น เขายิ้มแล้วพูดออกมาว่า

“ผมมาหาพี่ก็เพราะว่า เหล่าเค กับ หู่ลี่ นั้นอยากจะกลับมาสร้างกิลด์ Zhan Long อีกครั้ง พวกเราจะสร้างสถิติของพวกเราทิ้งไว้ในเกมนี้อีกครั้ง สนใจไหมครับ?”

ชั้นมองตาเขาแล้วพูดว่า

“นายมีหมวกพอหรอ?”

“ตอนนี้ยังไม่พอครับ”

“ถ้างั้นก็ไม่ได้แล้วล่ะ รอซักพักก่อนนะ พวกเราจะต้องหาเงินก่อน”

“พี่เสี่ยวเหยา พี่เพิ่งโดนไล่ออกมา ตอนนี้พี่จะพักที่ไหนกัน?”

‘ซ่งหาน’ถามชั้นด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

“ไม่มีปัญหาหรอกนะ เรื่องพวกนี้ทำอะไรชั้นไม่ได้หรอก ชั้นก็จะขอกับบริษัทว่าให้ชั้นทำงานกะดึกแทน ทีนี้ชั้นจะได้นอนหลับที่นั่น และที่นั่นเองก็มีน้ำแล้วก็ห้องน้ำด้วย ดังนั้นนายไม่ต้องเป็นห่วง”

‘ซ่งหาน’พยักหน้า

“ถ้างั้นก็ดีแล้วล่ะ ตอนนี้พี่ทนอยู่แบบนี้ไปก่อน แล้วผมจะกลับมาถ้าผมเก็บเงินพอที่จะสร้างทีม Zhan Long ได้”

“ไม่มีปัญหา ตามสบายเลย ตอนนี้นายทำงานอะไรอยู่?”

“อ๋อ ตอนนี้ผมทำงานเป็นบาทหลวง ช่วยกล่าวคำปฏิญาณตนของพวกคู่แต่งงานครับ”

“ดี เป็นงานที่ดูแล้วน่าจะมีอนาคตดีนะ”

ชั้นเห็นด้วย

“ยังไงก็ช่วยพาชั้นไปสอบใบอนุญาตการเป็นบาทหลวงด้วยนะ แล้วเราจะได้ทำงานนี้ด้วยกัน”

“ครับ!!”

 

ณ บริษัท *

หัวหน้าแผนกยามทุบโต๊ะแล้วชี้มาที่ผมว่า

“ที่ว่างไม่มีเฟ้ย กะดึกนี่มันไม่ใช่เป็นสิ่งที่นายจะขอแล้วได้เลยนะ แผนกเรามียามมากแล้ว แล้วทุกคนก็อยากได้กะดึกกันทั้งนั้น แล้วคิดว่าชั้นจะให้แกหรอ? ฝันไปเถอะ แล้วก็แกจะทำอะไรกับผ้าแล้วก็เสื่อของแก? จะมาประท้วงหรอ?”

ชั้นยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า

“ไม่ใช่หรอกครับ ผมไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกครับ หัวหน้า”

“เออ ถ้าแกรู้แล้ว แกก็อยู่กะบ่ายต่อไปนะ แล้วก็จัดการกับสัมภาระของแกด้วย”

“ครับ หัวหน้า”

ชั้นแบกสัมภาระของชั้นออกมาจากประตูของบริษัท

“เฮ้อ ดูเหมือนว่าจะถูกปฏิเสธอีกแล้วนะ ดูเหมือนว่าแผนที่จะนอนที่บริษัทจะไม่สำเร็จแล้วนะ เอาเถอะ ไม่มีทางเลือกนอกจากหาวิธีอื่นแล้วล่ะนะ”

ระหว่างนั้นก็มีรถตำรวจขับมาจอดที่ชั้น ประตูถูกเปิดออกมา แล้วคนที่ชั้นคุ้นเคยก็ออกมา

คนๆนั้นคือหัวหน้าหน่วยสวาทของชั้นที่ชั้นเคยอยู่หวางซิน

“ขึ้นมาสิ”

เขาพูด

ชั้นพยักหน้า เอาสัมภาระเข้าไปไว้ในรถแล้วก็ขึ้นไปนั่ง

“หัวหน้าหวาง ท่านไม่ได้ชวนผมมากินข้าวเฉยๆใช่ไหมครับ? ผมออกจากหน่วยมาเกือบสองปีแล้ว ตอนนี้ข้อมูลของผมก็คงหายไปหมดแล้วใช่ไหมครับ?”

เขายิ้มแล้วตอบกลับมาว่า

“เจ้าหนู จากสายลับมาเป็นหน่วยสวาท จากหน่วยสวาทเป็น ตำรวจจราจร แล้วก็จากหน่วยจราจรมาเป็นผู้ช่วยตำรวจ แล้วตอนนี้ก็มาเป็นยามเนี่ยนะ ปกติคนเขาจะไต่เต้าตำแหน่งขึ้นกัน แต่นายดันไต่ลงมาเนี่ยนะ?”

ชั้นรู้สึกอายมากที่เขาพูดออกมาแล้วก็ตอบกลับไปว่า

“เปล่านะครับ….”

‘หวางซิน’ พูดออกมาอีกว่า

“ตอนที่นายถูกปลดออกจากหน่วยสวาท ชั้นรู้นะว่านั่นไม่ใช่ความผิดของนายใช่ไหม? อย่างไรก็ตาม มันก็ชัดเจนเกินไป นั่นก็ไม่มีใครกล้าไปยุ่งด้วย ถึงแม้ว่านายจะหาคนทำผิดจนเจอ แต่พวกเขาก็มีวิธีจัดการระดับล่างๆแบบนายอยู่ดี ชั้นอยากช่วยนายมากเลยนะตอนนั้น รู้ไหม? แต่เขาพูดว่า การอยากช่วยไม่ได้หมายความว่าจะช่วยได้ ดังนั้นนายเองก็คงไม่โทษชั้นหรอกนะ ใช่ไหม?”

ชั้นส่ายหน้าแล้วตอบกลับไปว่า

“เรื่องในอดีตผมไม่สนใจแล้วครับ ลืมไปหมดแล้ว……”

“อืม งั้นก็ดี”

‘หวางซิน’พูดต่ออีกว่า

“ครั้งนี้ชั้นมาหานายเพราะว่ามีงานจะให้ เป็นงานที่จริงจังแล้วก็สำคัญมาก ชั้นหวังว่านายจะรับมันไว้พิจารณานะ”

“งานอะไรหรอ?”

ชั้นถามออกไป

เขาตอบกลับมาว่า

“นายเคยได้ยินชื่อของบริษัท เทียนซีไหม? เป็นบริษัทที่ตอนนี้ทำพวกเทคโนโลยีชั้นนำของจีนทางตะวันออกเฉียงใต้เลยนะ”

“รู้ครับ แล้วมันเกี่ยวอะไรกันครับ?”

“ช่วงนี้บริษัทนั้นเติบโตขึ้นมามาก ทำให้เป็นที่สนใจของบริษัทใหญ่ต่างๆมาก รวมไปถึงต่างประเทศก็จะเข้ามาแทรกแทรง ซึ่งซีอีโอของบริษัทนี้เขาเป็นพวกที่เติบโตมาด้วยวิสัยทัศน์ของทหารอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวอะไรพวกนี้ แต่ว่าเขามีจุดอ่อนคือลูกสาวของเขา เขาจ้างบอดี้การ์ดหลายคนมาคุ้มกันเธอ แต่พวกเขานั้นต่างไม่เอาไหนกันทั้งนั้น เขาก็เลยขอให้ชั้นช่วยหาให้ ตอนนั้นชั้นเลยนึกถึงนายขึ้นมาทันทีเลย….”

ชั้นยิ้มด้วยสีหน้าเย็นช้าแล้วพูดว่า

“ไม่สนครับ อย่าให้ผมไปทำภารกิจแบบนี้อีกเลยครับ ผมไม่อยากถูกหักหลังอีกแล้ว พอกันที”

“อย่าทำตัวแบบนี้สิ… งานของนายคือการปกป้องลูกสาวของเขาไม่ให้เกิดอันตรายขึ้นมา แล้วที่สำคัญกว่านั้น ค่าจ้างก็เยอะมากด้วยนะ”

“เท่าไร?”

“8000 หยวนต่อเดือน”

“หืม….”

ชั้นนั่งพิจารณาอยู่ซักพัก แต่ก็ตอบปฏิเสธไป

“ลืมเรื่องนั้นไปได้เลย ผมไม่อยากทำงานที่เสี่ยงต่อชีวิตของชั้นอีกต่อไปแล้ว ผมคิดว่างานยามนี่มันก็ไม่มีปัญหาอะไร สิ่งที่อันตรายที่สุดของงานนี้ก็คือเห็นแท็งก์น้ำมันร่วงลงมาก็เท่านั้นเอง”

“……..”

ผ่านไปซักพัก ‘หวางซิน’หันมามองที่ผมแล้วพูดว่า

“ถ้างั้นแบบนี้เป็นยังไง ชั้นจะเพิ่มเงินพิเศษให้นาย เป็น 1 หมื่นหยวนต่อเดือนว่ายังไงล่ะ? เพียงพอไหม? นอกจากงานลอบสังหารแล้ว ชั้นคิดว่าไม่มีงานไหนจะให้เงินได้มากกว่านี้แล้วล่ะ”

น่าสนใจมาก!! ดูเหมือนว่าตอนนี้ในหัวของชั้นจะมีการสู้กันระหว่างจิตใจฝั่งเหตุผล กับ จิตใจฝั่งโลภ

สุดท้ายแล้วชั้นก็พูดออกมาว่า….

“ถึงจะให้มากขนาดนี้ ผมก็ยังต้องขอเวลาคิด ยิ่งไปกว่านั้น ผมไม่อยากเซ็นสัญญาที่ทำให้ผมต้องกลายเป็นทาสไปอีกแล้ว”

‘หวางซิน’มองมาที่สัมภาระของชั้นแล้วพูดว่า

“ถ้างั้น…. 1 หมื่นหยวนบวกกับ ผ้าห่มโปร่งเป็นยังไง? มันเบาเหมือนขนนกเลยนะ”

“ว่าไงนะ?”

ตัวของชั้นสั่นด้วยความตื่นเต้น ชั้นกำหมัดแน่นแล้วพูดว่า

“ผ้าห่มโปร่งที่เบาเหมือนกับขนนกงั้นหรอ…. ไม่มีใครในโลกได้รับข้อเสนอนี้แล้วจะไม่รับไว้หรอกนะ โอเค ผมจะทำ”

‘หวางซิน’ยิ้มแล้วพูดว่า

“เยี่ยม”

ชั้นคิดอะไรเพิ่มขึ้นได้จึงพูดออกมาว่า

“ท่านต้องเอาคู่หูคู่ใจของผมกลับมาด้วยนะ ผมปกป้องคุณหนูไม่ได้หรอกนะถ้าไม่มีมัน”

‘หวางซิน’พยักหน้าแล้วพูดว่า

“แน่นอนอยู่แล้ว คู่หูคู่ใจของนายตอนนี้อยู่ที่กระโปรงหลัง ไปเอาเองก็แล้วกัน หลังจากนั้นชั้นจะพานายไปพบกับผู้ว่าจ้าง ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็น่าจะเซ็นสัญญากันวันนั้นเลย”

“เยี่ยม!!”

ชั้นเดินออกมาจากรถ แล้วเปิดประตูหลัง ในนั้นมี กระเป๋าสีดำใหญ่ๆ ซึ่งด้านนอกนั้นถูกตกแต่งอย่างสวยงาม

แล้วข้างในนั้น ก็มีดาบยาวที่ดูล้าสมัย ชั้นจับดาบที่นั้นแล้วรู้สึกถึงความหลังเก่าๆที่จำได้ขึ้นมา จนอดที่จะพูดไม่ได้ว่า

“เสี่ยวเฮย์ เราไม่ได้เจอกันมาสองปีแล้วนะ”

‘หวางซิน’ที่ดูอยู่ก็พูดออกมาว่า

“ชั้นแทบจะแลกชีวิตของชั้นเพื่อที่จะเอาเจ้านี่ออกมาจากคลังเลยนะ นายนี่มันแปลกจริงๆเลยนะรู้ไหม? ใช้ดาบเล่มนี้ในการข่มขู่พวก สส. เฉยเลย นายนี่มันเป็นคนที่คาดไม่ถึงจริงๆเลยนะ ว่าไหม?”

ชั้นตอบกลับไปว่า

“ก็ถ้าไม่มีใครอยากจะทำ ชั้นก็จะทำมันเองยังไงล่ะ”

“ขึ้นมาได้แล้ว ไปพบกับผู้ว่าจ้างกัน”

“ครับ”

10 นาทีต่อมา รถก็ได้เข้าไปจอดที่ที่ดูเหมือนจะเป็นสนามฝึกซ้อม ชั้นเดินเข้าไปที่นั่นพร้อมกับกระเป๋าของชั้น

ระหว่างที่เดินเข้าไปชั้นก็ได้ยินเสียงของดาบที่กำลังประทะกัน ดูเหมือนว่าที่นี่จะมีคนเก่งๆกันทั้งนั้นเลยนะ

 

ที่มา : 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments