ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘ย่วยชิงเฉี่ยน’ส่งสมุนไพรคืนมาให้กับฉันก่อนจะพูดว่า
“จริงๆอยากจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกซักนิดนึงอ่ะ”
“เพื่ออะไร? ฉันจะเอาไปทำยา เอาไว้ทำยาเสร็จก่อนก็ค่อยเก็บเป็นที่ระลึกก็ได้”
“แอสซาซินเป็นสายอาชีพที่ไม่ใช่ MP น่ะ แต่ใช้ค่าพลังงานแทน”
“เรื่องนั้นช่างมัน ฉันจะกลับไปที่เมืองเพื่อปรุงยา เธอจะตามมาด้วยไหม? น้ำยาเลเวล 4 นี้ฟื้นฟู MP ได้ถึง 300 เลยนะ ปรากสนใจรึเปล่า?”
“แน่นอนอยู่แล้ว!”
‘ย่วยชิงเฉี่ยน’พูดต่อว่า
“เพราะเมื่อกี้ที่สู้กับบอส นักเวทย์ของเรานั้นมียาที่ไม่ดีพอต่อสกิลที่ใช้ไป ทำให้ไม่มีมานาใช้งาน พอเป็นแบบนั้นแล้วก็เหมือนกับตัวไร้ประโยชน์ไปเลย ซึ่งมันก็เป็นเหตุผลหลักที่เราแพ้พวกกลุ่มนายพลเลยนะ”
ฉันพยักหน้า
“เข้าใจแล้ว งั้นเราก็ใช้ใบวาร์ปกลับป้าฮวงกันเถอะ”
“อืม”
แว้บ!
มีแสงพุ่งเข้ามารอบตัวพวกเรา ก่อนที่พวกเราจะเทเลพอร์ตโผล่มาที่หน้าประตูเมืองป้าฮวง อืม สำหรับใบวาร์ปกับเมืองนั้นมีมูลค่าถึง 1 ทอง ซึ่งมันแพงมากสำหรับผู้เล่นทั่วๆไป ฉันเดินเข้าไปวัตถุดิบเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการปรุงยา
หลังจากที่ได้วัตถุดิบมาแล้ว ฉันก็เริ่มการปรุงยาขวดแรก ผ่านไปไม่นาน ยาขวดแรกก็สำเร็จ และมันก็โผล่ขึ้นมาบนมือของฉัน
ติ๊ง! ข้อความจากระบบ : ยินดีด้วย คุณเป็นผู้เล่นคนแรกที่สามารถผลิตน้ำยาเลเวล 4 [Chilling Wind Pill] สำเร็จ
คุณได้รางวัลเป็นค่าเสน่ห์ +1
ตอนนี้ฉันเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าค่าเสน่ห์นี้มันทำอะไรได้ แต่แน่นอนอยู่แล้วว่าผู้เล่นทุกคนก็ย่อมชอบที่จะมีค่าสถานะพิเศษเพิ่มขึ้นมาอยู่แล้ว ดังนั้นฉันเลยคิดว่ามันก็น่าจะมีประโยชน์แหละนะ ‘ย่วยชิงเฉี่ยน’ยืนดูฉันปรุงยาโดยไม่พูดอะไร ฉันเห็นแล้วจึงหันไปหาเธอก่อนจะพูดว่า
“ย่วยชิงเฉี่ยน เธอจะซื้อน้ำยาเลเวล 4 นี้ในราคาเท่าไร?”
เธอเงียบไปซักครู่นึงก่อนจะตอบว่า
“ขอถามแหยนเจ่าก่อน เพราะว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะต้องตัดสินใจ”
“อืม”
เธอคุยกับ’แหยนเจ่า’ซักพักนึงแล้วก็ตอบฉันกลับมาว่า
“แหยนเจ่าบอกว่า ครั้งที่แล้วเราจ่ายไป 4 เหรียญเงินต่อน้ำยาเลเวล 3 ส่วนสำหรับเลเวล 4 ที่เพิ่มการฟื้นฟูจากเลเวล 3 มา 50% นั้น พวกเราเองก็จะจ่ายเพิ่มอีก 50% ซึ่งราคาก็คือ 6 เหรียญเงินต่อขวด”
“อะไรกันน่ะ นี่มันขูดรีดกันชัดๆ กิลด์ปรากนั้นจะล้มละลายแล้วหรอไง? ฉันต้องการ 10 เหรียญเงินต่อขวด ให้ตายเถอะ ฉันว่ากิลด์อื่นยอมจ่ายในราคา 20-30 เหรียญเงินต่อขวดด้วยซ้ำ ให้ตายสิ นี่ฉันอุตส่าห์ให้เสนอราคามาให้ก่อนแล้วนะ แต่หัวหน้าของพวกเธอนี่ขี้ตืดจริงๆ”
‘ย่วยชิงเฉี่ยน’ยิ้มแหยะๆ
“เข้าใจแล้วๆ ราคา 10 เหรียญเงินต่อขวดก็ได้ ใจเย็นๆหน่อยนะ เซียวเหยา”
ฉันกัดริมฝีปาก
“พวกเราคบหากันเป็นคู่ค่าทางธุรกิจเท่านั้น เข้าใจไว้ด้วย…”
“อืม…”
ฉันจัดที่นั่งในการปรุงยา ในระหว่างที่รอการปรุงยาให้เสร็จก็คุยกับชิงเฉี่ยนก่อนก็แล้วกัน
“เซียวเหยา นายรู้รึเปล่าว่านายพลหลี่มู่นั้นตีค่านายไว้สูงมากเลยนะ เขาพูดว่านายเป็นฮีลเลอร์อันดับ 1 ของเมืองนี้เลยนะ แถมยังมีทักษะในการต่อสู้ที่ดูมีพัฒนาการดีอีกด้วย นายคิดว่าไงล่ะ?”
“ตอแหลชัดๆ”
ฉันเกาจมูก ก่อนจะพูดต่อว่า
“ถ้าเธอมองเรื่องความสามารถในการต่อสู้แล้ว ฉันเทียบกับพวกระดับต้นๆอย่าง นายพลหวางเจี้ยน และนายพลหลี่มู่ไม่ติดหรอก พวกนั้นสามารถฆ่าฉันได้ในพริบตาเลยทีเดียว และแน่นอนว่ากับเธอก็ด้วย ถ้าเราต้องสู้กัน ฉันก็สู้เธอไม่ไหวหรอก”
‘ย่วยชิงเฉี่ยน’ขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะยิ้มให้
“ถ่อมตัวเกินไปแล้ว สายอาชีพของนายนั้นใส่ชุดผ้าไง ใส่เกราะไม่ได้ เพราะงั้นเวลาที่ต่อสู้กัน ฮีลเลอร์ถึงตายได้ง่ายๆยังไงล่ะ แต่กับนาย นายตายก็จริงนะ แต่นายก็ฆ่าหวางเจี้ยนได้ด้วย และเพิ่มเติมนะ นายเองก็เป็นผู้เล่นที่กะจังหวะในการฮีลเก่งมากด้วยนะ เพราะฉันเล่นแนวนี้มาซักระยะนึงแล้ว ยังเจอคนที่เก่งแบบนายไม่ถึง 10 คนเลย”
“เธอเล่นเกมแนวนี้มานานเท่าไรแล้ว?”
‘ย่วยชิงเฉี่ยน’ยืดอกคัพ C ของเธอก่อนจะพูดว่า
“ตอนนี้ฉันอายุ 19 ปี เล่นเกมแนวนี้มา 3 ปีแล้ว นายล่ะ?”
ฉันยิ้ม
“อืม…ก็หลังจากที่เกษียณจากทหารในปี 2012 ฉันก็เล่นมา 5 ปีแล้วล่ะนะ ดังนั้นฉันจึงมีประสบการณ์มากกว่าเธอยังไงล่ะ….”
“เอ๊ะ?”
เธอมองฉันด้วยสีหน้าทึ่ง
“เซียวเหยา นายเคยเป็นทหารหรอ?”
ฉันเลือกที่จะไม่ตอบโดยการเปลี่ยนเรื่อง
“นี่เธอกับเว่ยเหลียงเป็นพี่น้องทางสายเลือดหรอ? พวกเธอดูเหมือนกันมากเลย เป็นฝาแฝดหรอ?”
‘ย่วยชิงเฉี่ยน’แสดงท่าทีเอะใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรฉันเพิ่ม
“อืม ใช่แล้ว เว่ยเหลียงเป็นน้องสาวฝาแฝดของฉันเอง พวกเราเล่นเกมด้วยกันมาตลอดน่ะ”
“อืม ดีแล้วๆ ว่าแต่พวกเธอรู้จักกับแหยนเจ่าได้ยังไง?”
“เรื่องนั้น…”
‘ย่วยชิงเฉี่ยน’คิดอยู่ครู่นึงก่อนจะพูดต่อว่า
“เขาเป็นเพื่อนของพ่อฉันน่ะ และเขาเองก็ติดเกมแนว VR มาก เขาเป็นคนที่สร้างกิลด์ปรากขึ้นมาด้วยนะ และในตอนที่ฉันกับน้องสาวเริ่มเล่นด้วยกัน เขาก็ให้ตำแหน่งบริหารจัดการกิลด์กับพวกฉันอย่างง่ายดาย…. นี่เซียวเหยา ฉันคิดมาตลอดเลยนะว่านายเป็นคนที่ลึกลับมากเลยล่ะ”
“ก็นะ ฉันเป็นคนที่ซับซ้อนยังไงล่ะ ไม่รู้หรอ?”
“เหอะ!”
“……”
ในที่สุด การปรุงยาเลเวล 4 ทั้งหมดก็เสร็จสิ้นซักที น่าเสียดายที่ตำแหน่งของสมุนไพรนั้นกระจัดกระจายมาก ฉันเลยเก็บมาได้เพียง 900 กว่าขวด จำนวนนี้นั้นเพิ่มค่า EXP ของสกิล [Alchemy Lv4] ของฉันได้ 49% ซึ่งก็ไม่เลว
เมื่อไรที่ฉันไปถึงเลเวล 5 แล้ว ก็จะไม่มีนักปรุงยาคนไหนในเกมนี้เทียบเท่ากับฉันได้ หลังจากที่ฉันขายยาไป 800 ขวดในราคา 80 ทองให้กับปรากแล้วฉันเปิดกระทู้ซื้อขายในเกม ตอนนี้ดูเหมือนว่าค่าแลกเปลี่ยนเงินจะตกลงอยู่ที่ 1 ทองต่อ 20 หยวน
ดังนั้นฉันจึงรีบตั้งขายเงิน 100 ทองต่อ 1900 หยวนก่อนที่ราคามันจะตกลงไปมากกว่านี้ ผ่านไปไม่กี่นาทีก็มีคนมาซื้อไป ทำให้ตอนนี้ฉันมีเงินมากกว่า 12000 หยวนในบัญชีแล้วล่ะนะ
“ชิงเฉี่ยน”
ฉันเรียกชิงเฉี่ยนที่กำลังจะเดินจากไปพร้อมกับขวดยา
“หืม?”
“ฉันมีสัตว์เลี้ยงอีกสองตัวจะมาเสนอขาย ปรากสนใจไหม?”
“สัตว์เลี้ยงประเภทไหนหรอ?”
ฉันเปิดหน้าจอข้อมูลสัตว์เลี้ยงให้กับเธอดู ซึ่งในนั้นมี [Green Rock Skeleton] ที่มีค่าพรสวรรค์อยู่ 75% กับ 49%
“อืม…”
‘ย่วยชิงเฉี่ยน’หรี่ตามองดู
“นี่มันเป็นสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสำหรับการชนเลยนี่นา….”
ฉันพยักหน้า
“กิลด์ของพวกเธอนั้นล่าบอสกันใช่ไหมล่ะ? ดังนั้นเจ้านี่น่าจะเหมาะที่ใช้แทนพวกสายอาชีพพระ กับ อัศวินเลยนะ ว่าไหม?”
ฉันมองไปที่ย่วยชิงเฉี่ยนก็เห็นตาของเธอกำลังเปล่งประกายอยู่ แน่อนอนเลยว่าเธอต้องการมันมากๆ
“เธอมีเงินพอไหมล่ะ?”
“เอ่อ…”
เธอพยักหน้าก่อนจะตอบว่า
“อืม ฉันอยากได้มันไว้ชนนะ แต่คือฉันไม่สามารถใช้เงินของกิลด์เพื่อมาซื้อของเป็นของตัวเองได้ไง ส่วนในตัวของฉันเองก็มีเงินไม่มากด้วย มีแค่ 20 ทองกับเศษอีกหน่อยๆเอง”
ฉันคิดครู่นึงก่อนจะตอบกลับไปว่า
“อืม….จริงๆจะขายให้เจ้า [Green Rock Skeleton] ที่มีค่าพรสวรรค์ 75% นี้ให้กับเธอในราคา 20 ทองก็ได้นะ เพราะว่าเธอเองก็เป็นลูกค้าประจำของฉันนี่นา สนใจไหมราคานี้?”
“จริงหรอ?”
เธอถามกลับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ฉันพยักหน้า
“จริงสิ จะโกหกเธอไปทำไมล่ะ”
“ขอบคุณมากนะ!!”
เธอไม่รอช้ารีบเปิดหน้าจอซื้อขายก่อนจะวางเงิน 20 ทองมาให้ฉัน จริงๆตอนนี้ ผู้เล่นคนอื่นๆก็เริ่มที่จะล่าสัตว์เลี้ยงเพื่อเอามาขายแล้ว เพราะมันได้ราคาดีมาก แต่ก็นะ การจะหาสัตว์เลี้ยงจับมันยากมาก ดังนั้นตอนนี้เวลาที่ใครไปแผนที่ใหม่นั้นก็จะได้เปรียบเป็นอย่างมาก
เพราะว่าการที่ไปถึงแผนที่ใหม่เป็นคนแรกนั้นจะได้โอกาสในการตามล่าสัตว์เลี้ยงได้ยังไงล่ะ หลังจากที่ซื้อขายกันเสร็จแล้วฉันก็เดินทางไปที่กลางตลาด ฉันเดินดูรอบๆก็เห็นคนวางขาย [Killer Bee] ที่มีค่าพรสวรรค์ 37% ในราคา 100 ทอง ซึ่งราคานี้มัน โคตรแพงเลย เดินมาซักพักฉันก็เจอกับจุดที่สามารถตั้งร้านขายได้
ฉันจึงตั้งร้านก่อนจะตะโกนว่า
“ขายดาบระดับดำ แล้วก็สัตว์เลี้ยงสายป้องกัน [Green Rock Skeleton] ที่มีค่าพลังป้องกัน 5 ดาว และค่า HP 4.5 ดาว ฉันให้เวลา 20 นาทีในการเสนอราคามา เพราะฉันต้องไปกินข้าว”
ผ่านไปไม่นานก็มีผู้คนมากมายมาเสนอราคา เนื่องจากว่าเจ้า [Green Rock Skeleton] นั้นมีค่าพรสวรรค์ถึง 49% ส่วนดาบระดับดำนั้นฉันก็ขายไปในราคา 3 ทอง สุดท้ายแล้วฉันก็ขายมันไปให้กับนักเวทยคนหนึ่งในราคา 19 ทอง ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา
คนที่โทรมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ‘หลินว่านเอ๋อ’นั่นเอง เธอโทรมาสั่งให้ฉันไปเป็นเพื่อนหาอะไรกินตอนดึกๆ หลังจากที่คุยกันเสร็จแล้วฉันก็ออกจากเกม เมื่อฉันเดินมาถึงที่หอพักหญิงนั้นก็พบกับพวกเธอกำลังรอฉันอยู่ด้วยท่าทีใจร้อน
ฉันเดินเข้าไปหาพวกเธอก่อนจะพูดว่า
“สายัณห์สวัสดิ์ สาวสวยทั้งสอง”
‘ตงเฉิงย่วย’ หัวเราะคิกคัก
“เซียวเหยา นายเองก็ดูหล่อนะ”
“…..”
คุณหนูหัวเราะก่อนจะพูดว่า
“เอาล่ะๆ เลิกพูดอะไรไร้สาระได้แล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะ ฉันจะรีบกลับมาเก็บเลเวลต่อ เก็บอีกสองชั่วโมงก็เลเวลอัพแล้ว”
ฉันตอบกลับไปว่า
“ไม่จำเป็นต้องรีบก็ได้นี่ครับ? ทำไมคุณหนูถึงอยากจะรีบเก็บเลเวลล่ะครับ?”
“ฉันรีบเก็บเลเวลเพื่อที่จะเป็นอันดับ 1 ของเมืองฟ่านชูยังไงล่ะ”
“ตอนนี้คุณหนูเลเวลอะไรแล้วครับ?”
“Lv 30……”
คำพูดนี้ของคุณหนู ทำให้ฉันอึ้งไปเลยทีเดียว
ที่มา: