ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปKGG : ปรับชื่อของ ฉีชูป้าหวาง เป็น ฉีชู่ป้าหวาง ครับ
ฉันเห็นกลุ่มคนกำลังเดินเข้ามายังแผนที่นี้ หนึ่งในนั้นที่กำลังนำหน้าเดินมาก็คือ ‘ฉีชู่ป้าหวาง’ หลังจากที่หมอนั้นเห็นฉันอยู่ตัวคนเดียวแล้วก็หัวเราะขึ้นมา
“เซียวเหยา ครั้งนี้แกจะหนีไปไหนได้อีก รอบนี้ไม่มีใครจะช่วยแกได้หรอกนะ”
“…..”
ด้านข้างของ’ฉีชู่ป้าหวาง’ เหมือนกับมีอะไรซักอย่างตกลงมา แต่มองไม่เห็นสิ่งนั้น ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็น’เฟิงย่วย’แน่ๆ เพราะถึงแม้จะล่องหนก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ว่าลบตัวตนไปเลย ดังนั้นสกิล [Stealth] ของแอสซาซินนั้นก็ไร้ค่า เมื่อสู้กันบนน้ำ
ดูเหมือนว่ารอบนี้’ฉีชู่ป้าหวาง’จะพาคนมาเป็นร้อย อืม…. ใครจะอยู่สู้ฟะ ฉันรีบหนีทันที เพราะถึงจะพยายามลุยไปมันก็ไร้ค่า และเป้าหมายหลักของฉันคือการจบเควสนี้ให้ไวที่สุด เพื่อที่จะได้ไปให้ถึงเลเวล 30 เพราะถ้าถึงเลเวล 30 แล้ว สกิลจะสามารถเรียนรู้ได้อีกเลเวล
ซึ่งสกิล [Heal Lv3] ของฉันจะได้กลายเป็น [Heal Lv4] ซึ่งมันจะช่วยให้ฟื้นฟู HP ได้ถึง 600 ต่อการฮีล 1 ครั้ง ซึ่งถ้าฮีลได้ขนาดนี้ก็ปล่อยโบโบ้ลุยเดี่ยวกับพวกโจรได้สบายๆแล้วล่ะ
ฟุ้บ…
มีเงาจำนวนหนึ่งบินมาเหนือตัวฉัน และพวกเขาก็ยิงธนูมาที่ฉัน ฉันก็พยายามหลบ แต่ก็โดนไปสองลูก จึงใช้สกิล [Hemostasis] เพื่อฮีลตัวเอง ฉันหันไปมองผู้ที่ยิงมาก็รู้ว่าพวกนั้นคือ นักธนูเอลฟ์สายลมจำนวน 3 คน คนที่อยู่หน้าสุดพูดขึ้นมาว่า
“เซียวเหยา นายไม่รอดพ้นไปจากการค้นหาทางอากาศของเราหรอก พวกเรา [ความแค้นของผู้กล้า] ไม่ปล่อยให้แกหนีไปได้ง่ายๆหรอก”
แย่ๆๆ โอกาสที่จะหนีจากเจ้าพวกนี้มันยากมาก เพราะว่ามันบินได้ แถมยังโจมตีระยะไกลได้อีก ดูเหมือนว่าหลิวอิงจะพาเจ้าพวกนักธนูเอลฟ์สายลมนี่มาเป็น 10 คนเลยทีเดียว หลิวอิงกับพวกก็วิ่งตามหลังฉันมาติดๆ และฉันเองก็คิดว่าเฟิงย่วยเองก็กำลังซ่อนตัวหาโอกาสดีๆที่จะฆ่าฉันอีกครั้ง
ฉันกัดฟัน ฉันรู้ว่าฉันต้องให้พวกนั้นโจมตีฉันก่อนครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะให้ชื่อพวกนั้นเป็นสีเทา จากนั้นถ้าฉันฆ่าพวกมัน ก็ไม่ต้องกังวลใจเรื่องทื่ชื่อตัวเองจะเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่วิธีแบบนี้มันไม่ใช่วิถีการต่อสู้ของฉันซักเท่าไร ไอการที่ต้องรอให้คนอื่นมาตีก่อนเนี่ย
หึ่งๆๆ! โบโบ้บินขึ้นไปต่อย นักธนูเอลฟ์สายลม เพียงแค่ทีเดียวก็ตายทันที
อืม เพราะจากการที่พวกมันโจมตีฉัน ทำให้ชื่อเปลี่ยนเป็นสีเทา และโบโบ้เองก็ตอบโต้ไปตามที่ระบบมันตั้งไว้ และตอนนี้โบโบ้ก็บินไปจัดการนักธนูอีกตัวหนึ่ง
“412!”
จุดอ่อนของพวกเอลฟ์สายลมก็คือ ถ้า HP ต่ำลงกว่า 20% พวกนั้นจะบินไม่ได้ ฉันรีบวิ่งเข้าไปแทง นักธนูที่ร่วงลงมาจากฟ้า สร้างความเสียหาย
“237”
แน่นอนว่าเพียงพอที่จะฆ่าได้ จากนั้นโบโบ้ก็จัดการกับนักธนูตัวที่สามได้สำเร็จ
“ยิง!”
ขณะที่ฉันกำลังจะวิ่งไปต่อ ก็ได้ยินเสียงปืน โอ้ยๆ ยิงเข้าเต็มหลังฉันสองนัดเลย พวกพลปืนนี่แสบจริงๆ
“257!”
“224!”
ฉันใช้สกิล [Hemostasis] เพื่อฟื้นฟู HP ในขณะที่โบโบ้นั้นกำลังบินไปโจมตีเจ้าหมู
“พวกแอสซาซิน จังหวะนี้แหละ”
‘ฉีชู่ป้าหวาง’ตะโกนดังลั่น โบโบ้ที่บินอยู่ถึงกับนิ่งกลางอากาศ ไม่ใช่เพราะตกใจ แต่ว่าเพราะถูกสกิล [Gouge] โดย’เฟิงย่วย’ ทำให้ติด stun กลางอากาศ ‘ฉีชู่ป้าหวาง’เห็นแบบนั้นจึงสั่งให้พวกนักเวทย์โจมตีโบโบ้ซ้ำ พวกนักเวทย์ก็ไม่รอช้า ร่ายสกิลระดมยิงใส่โบโบ้ทันที
“198!”
” 219!”
“187!”
โบโบ้ตายโดยที่ฉันไม่มีโอกาสที่จะฮีลช่วยเลย ‘หลิวอิง’กระโดดมาหาฉัน ก่อนจะยกดาบขึ้นมาชี้หน้าฉันแล้วพูดว่า
“เซียวเหยา ได้เวลาแก้แค้นแล้ว”
แคล้ง!!
ฉันเอาหอกรับการโจมตีของหมอนั่น ค่า STR ของฉันแน่นอนว่าน้อยกว่าอาชีพนักดาบ ฉันจึงต้องถอยหลังทุกครั้งที่หมอนั่นโจมตีมา ในที่สุดด้านหลังของฉันก็ถึงจุดที่มีหนามอยู่ ทำให้ฉันไม่สามารถถอยไปมากกว่านี้ได้แล้ว ขณะที่ฉันกำลังคิดหาวิธี พวกเบอร์เซิร์กเกอร์ก็เข้ามาโจมตีฉันทั้งซ้ายและขวา
“371!”
“344!”
แว้บ!
กลับมาอยู่ในร่างวิญญาณอีกแล้ว และครั้งนี้ฉันรู้ว่าอะไรหายไปโดยไม่ต้องเปิดเช็คเลย เพราะว่าตอนนี้ที่มือของฉันนั่นว่าง แสดงว่าหอกของฉันนั้นดรอปลงไปเรียบร้อยแล้วนั่นเอง!! ฉันกัดฟันแล้วพยายามใจเย็นๆ ไม่ระเบิดอารมณ์ออกมาก่อน ฉันเป็นฮีลเลอร์ จะลุยกับคนจำนวนมากแถมเลเวลสูงๆยังไงดีนะ? พวกมันมีเอลฟ์สายลม 5 คน
แถมยังสามารถจัดการโบโบ้ได้ในพริบตา แถมหอกของฉันยังดรอปลงไปอีก ฉันรีบวิ่งกลับไปที่ศพของฉัน และก็เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ พวก’หลิวอิง’นั่งเฝ้าศพฉันอยู่ ‘หลิวอิง’หยิบหอกของฉันขึ้นมาดูพลางพูดว่า
“ไม่คิดเลยว่าขยะอย่างเซียวเหยาจะมีหอกดีๆแบบนี้อยู่ได้ หึ แต่เจ้าหอกนี้ตอนนี้ก็มาอยู่ในมือของคนที่คู่ควรแล้วล่ะนะ”
‘เฟิงย่วย’ยิ้ม
“ใช่ๆ เจ้าหนูเสี่ยว นอกจากหล่อแล้วก็ไม่มีอะไรดีเลย อ่อนแอแถมยังขี้ขลาด…”
เจ้าหมูขมวดคิ้ว
“ไม่น่าจะใช่แบบนั้นนะ หมอนั่นกล้าลุยกับพวกเราโดยไม่เกรงกลัวเลยนะ ดังนั้นอย่าประมาทเลยดีกว่า เพราะหมอนั่นพลิกสถานการณ์จากร้ายเป็นดีมาได้หลายครั้งแล้ว”
“เหอะ!!”
‘หลิวอิง’เหยียบศพของฉันแล้วพูดว่า
“ไอหมูดูภาพนี้สิ ตอนนี้ใครเก่งที่สุด พูดไหมซิ”
เจ้าหมูเงียบ ไม่พูดอะไรต่อ ฉันรอมาเกือบชั่วโมง แต่พวกมันไม่มีท่าทีว่าจะกลับเลย
ผ่านไปไม่นาน ฉันก็ได้ข้อความจาก’ย่วยชิงเฉี่ยน’ว่า
“พี่เซียวเหยา ตอนนี้ศพพี่กำลังถูกพวกฉีชู่ป้าหวางเฝ้าอยู่หรอ?”
“อืม รู้ได้ยังไง?”
“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันกำลังจะหาคนไปช่วยเอง”
“ไม่ต้อง”
ฉันรีบปฏิเสธ
“มันไม่จำเป็นที่จะต้องให้ [ปราก] เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันไม่คู่ควรหรอกนะ ปล่อยฉันจัดการเองเถอะ ชิงเฉี่ยน”
“ไม่”
เธอดื้อ
“ไม่ต้องห่วงนะ ครั้งนี้ฉันไม่ได้มาในนามของกิลด์ มาแค่ฉันกับเพื่อนเท่านั้น ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าพี่อยู่ที่ไหน ดังนั้นรอฉัน 20 นาทีนะ” “ขอบคุณมากครับที่ช่วยเหลือ”
“ฮิฮิ ไม่ต้องเป็นทางการมากก็ได้”
“……”
หลังจากที่ฉันปิดหน้าจอสนทนากับ’ชิงเฉี่ยนลง’ ก็มีข้อความใหม่เด้งขึ้นมา ข้อความจากระบบ
“ผู้เล่น [ชางถง] ต้องการจะเป็นเพื่อนกับท่าน ท่านจะรับหรือไม่?”
เอ ใครกันหว่า? ฉันรับข้อเสนอ ภาพของผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่หน้ารายชื่อเพื่อนของฉัน หน้าตาของเธอดูคุ้นตามาก แต่ที่สำคัญก็คือ เธอมีเลเวล 32 เป็นนักเวทย์ ‘ชางย่วย’ส่งข้อความมาหาฉันว่า
“นี่ๆ รู้เปล่าเอ่ย ว่าฉันคือใคร?”
ฉันตอบไปว่า
“ตงเฉิงย่วยหรอ?”
“ถูกต้องแล้ว!! คือฉันกับว่านเอ๋อเพิ่งมาถึงเมืองป้าฮวงน่ะ แต่ได้ยินข่าวว่านายกำลังถูกเฝ้าศพอยู่ จริงหรอ?”
ฉันรู้สึกอายมากๆ
“อืม พวก [วายุทรชน] น่ะ”
“พวกนั้นจะแค้นอะไรกันหนักหนาเนี่ย”
‘ตงเฉิงย่วน’เริ่มฉุน
“นายเป็นเพื่อนกับฉัน แล้วว่านเอ๋อ ซึ่งว่านเอ๋อก็พูดไว้แล้วว่าจะไม่ยอมให้ใครมารังแกเพื่อนเด็ดขาด เพราะถ้าเราปล่อยให้โดนรังแกแล้วภาพพจน์ของเราจะเสียหมด”
“ขอร้องล่ะ ช่วยรออยู่ที่เมืองป้าฮวงก็พอนะ”
“ถ้างั้นก็รีบมาก็แล้วกัน!”
“อืม….”
ผ่านไปไม่นาน ก็มีกลุ่มคนเดินเข้ามาที่แผนที่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ‘ชิงเฉี่ยน’กับ’เว่ยเหลียง’แล้วก็เพื่อนๆของเธอนั่นเอง
“ให้ตายเถอะ”
‘ฉีชูป้าหวาง’ลุกขึ้นมองพวกเธอ ก่อนจะพูดว่า
“พวกปรากมาจนได้ พวกแกเตรียมตัวซะ พวกนั้นมากันไม่เยอะ”
นักดาบจำนวนหนึ่งวิ่งไปสกัดพวก’ชิงเฉี่ยน’ แต่’ชิงเฉี่ยน’นั้นไวกว่าพวกเขามาก เธอหลบพวกนักดาบในชั่วพริบตา และก็วิ่งตรงมายังพวกนักเวทย์ ทันใดนั้นทุกอย่างก็ชุลมุนวุ่นวายไปหมด แผนที่ป่าเมเปิ้ลที่สงบ ตอนนี้ได้กลายเป็นสนามรบไปแล้ว
เอาล่ะ ตอนนี้ก็ได้เวลาที่ฉันจะคืนชีพแล้วล่ะนะ ฉันเรียกโบโบ้ออกมาหลังคืนชีพ แล้วก็ฟื้นฟู HP จนเต็ม แต่การที่ฉันไม่มีอาวุธนั้น ฉันก็ทำได้เพียงสั่งการโบโบ้กับคอยฮีลเท่านั้น ให้ตายสิ ยังไงตอนนี้ฉันก็ต้องจัดการกับพวกนักเวทย์ก่อน ไม่งั้นแล้วคงสู้ไม่ไหวแน่ๆ
เคล้ง**
‘ชิงเฉี่ยน’เข้าปะทะกับ’เฟิงย่วย’ ชิงเฉี่ยนกัดฟันก่อนจะพูดว่า
“เธอสินะที่ดูถูกเซียวเหยา น่าไม่อายจริงๆ”
‘เฟิงย่วย’ทำหน้าตาน่าเกลียด
“ตายซะเถอะ!!”
แต่ด้วยระดับฝีมือที่ต่างกัน เพียงแค่สองวินาที ‘เฟิงย่วย’ก็ตายด้วยน้ำมือของ’ชิงเฉี่ยน’โดยไม่ทันได้โต้ตอบอะไรเลย….
‘ฉีชู่ป้าหวาง’เห็นฉันคืนชีพแล้วจึงตะโกนขึ้นมาว่า
“เซียวเหยาจื้อไจ้คืนชีพแล้ว ทุกคน ฆ่ามันก่อนซะ”
เออดี เล็งฉันก่อนคนแรกเลยดีๆๆๆ ‘ชิงเฉี่ยน’ที่ได้ยินแบบนั้นก็ตะโกนบอกฉันว่า
“ระวังตัวนะ พี่เซียวเหยา”
แต่ไม่ทันได้โต้ตอบอะไร ฉันก็โดนสกิลระดมยิงจนตายอีกครั้ง ทำให้เลเวลกลับไปเป็น 26 ครั้งนี้ศพของฉันถูก’ชิงเฉี่ยน’กับ’เว่ยเหลีย’ลากไปด้วย และตอนนี้สถานการณ์ก็ไม่สู้ดีนัก เพราะว่าคนที่’ชิงเฉี่ยน’พามานอกจาก’เว่ยเหลียง’ก็ตายกันหมดแล้ว ฉันส่งข้อความไปหา’ชิงเฉี่ยน’ว่า
“รอฉันก่อนนะ จะไปถึงใน 7 นาที”
“ไม่ต้องห่วงนะ…”
‘ชิงเฉี่ยน’ตอบ
“ตอนนี้พวกมันก็เหลือกันไม่เยอะแล้ว ฉีชู่ป้าหวางเองก็โดนน้องฉันฆ่าไปแล้ว”
“ดีมาก…”
แต่ผ่านไปแปปเดียว ‘ชิงเฉี่ยน’ก็ร้องเสียงดังว่า
“เอ๊ะ นี่มัน…”
ไม่ทันใด เธอก็ปรากฏตัวมาในร่างวิญญาณก่อนจะบ่นว่า
“มีแอสซาซินที่เก่งมากคนนึงโผล่มาฆ่าฉันกับเว่ยเหลียง…..”
“……”
ผ่านไปไม่กี่นาทีฉันก็กลับมาสู่สนามรบ แต่ว่าตอนนี้การต่อสู้ก็จบลงแล้ว ศพกองพะเนินพะนานไปหมด ใครก็ได้ช่วยบอกทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น บนกิ่งไม้ ฉันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งถือร่มอยู่ หน้าตาของเธอนั้นสวยงามมาก บนไหล่ของเธอนั้นมีข้อความว่า
“อันดับที่ 3 ของเมืองฟ่านชู”
เธอกำลังนั่งระรื่นอยู่บนกิ่งไม้แล้วพูดว่า
“ลองกล้าคืนชีพมาสิ แล้วฉันจะฆ่าให้หมดเลย โทษฐานที่มารังแกเพื่อนฉัน”
ฉันอึ้งไปเลย หลังจากที่เห็นชื่อของเธอกับหน้าตาที่คุ้นๆของเธอ ‘ชางถง’ เลเวล 32 แอสซาซิน
แว้บ!!
มีคนสองคนคืนชีพขึ้นมา ‘ชิงเฉี่ยน’กับ’เว่ยเหลียง’นั่นเอง พวกเธอถือมีดพร้อมกับวิ่งเข้าไปหมายจะฆ่า’ชางถง’ ‘ชิงเฉี่ยน’พูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธว่า
“วันนี้จะเป็นวันตายของแก”
‘ชางถง’กระโดดลงมาจากต้นไม้ ก่อนจะวิ่งไปหา’ชิงเฉี่ยน’และ’เว่ยเหลียง’ เธอใช้มีดฟันไปที่มีดของ’ชิงเฉี่ยน’จนเกิดเสียงดัง ร่างกายของ’ชิงเฉี่ยน’กระเด็นไปตามแรงที่สู้ไม่ได้ จากนั้นเธอก็ใช้ร่มของเธอฟาด’เว่ยเหลียง’จนกระเด็น ฉันที่ยืนดูอยู่ก็ถึงกับอึ้งไปเลย
เพราะ’ชิงเฉี่ยน’กับ’เว่ยเหลียง’นั้นก็เป็นผู้เล่นระดับต้นๆของกิลด์ ปราก เลย แต่เธอกลับทำอะไร’ชางถง’ไม่เลย ‘ชางถง’เก่งเกินไปแล้ว!!
แว้บ!! ฉันคืนชีพ ก่อนจะใช้สกิล [Hemostasis] ให้กับ’ชิงเฉี่ยน’ แล้วพูดว่า
“ทุกคน พอแค่นี้แหละ”
ทั้งสามคนหันมามองฉัน ฉันรู้สึกอายมาก แต่ก็กลั้นใจพูดว่า
“สองคนนั้นเป็นเพื่อนฉัน คุณหนู…. คุณหนูมาที่นี่ทำไม?”
ฉันมั่นใจว่า ชางถงนั้นต้องเป็นหลินว่านเอ๋อแน่ๆ จะเป็นใครไปได้อีกล่ะ? ชางถงมองมาที่ฉันก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า
“ฉันได้ยินมาว่านายกำลังโดนรังแกอยู่แถวนี้ ก็เลยแวะมาดูหน่อยน่ะ…..”
“…”
ที่มา: