I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 44 เมืองมังกร

| Zhan Long | 1499 | 2364 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

KGG : ผมไม่เก่งเรื่องราชาศัพท์ครับ ดังนั้นก็เอาแบบบ้านๆไปก็แล้วกันเนอะ

 

‘หลินว่านเอ๋อ’ยิ้ม

“เอาล่ะ หลี่เซียวเหยา ถ้างั้นพวกเราก็จะมาส่งนายถึงแค่นี้ก็แล้วกันนะ เพราะดูๆแล้วแถวนี้ก็ไม่น่าจะมีมอนสเตอร์อะไรอยู่อีกนะ ดังนั้นแล้วพวกเราจะกลับไปเก็บเลเวลสัตว์เลี้ยงของเราต่อล่ะ หวังว่านายจะเป็นฮีลเลอร์ที่ไปถึงเลเวล 40 คนแรกนะ เอ่อ แล้วก็…ห้ามตายนะ”

“……”

ทั้งสองคนหยิบใบวาร์ปมาแล้วก็กลับเมืองไปต่อหน้าฉัน ฉันลูบหัวโบโบ้ก่อนจะพูดว่า

“เอาล่ะ ไปกันเถอะโบโบ้ ครั้งหน้าที่เจอกับพวกเขา เราต้องเก่งกว่านี้นะ”

ฉันกดใช้งานคทาสีขาวที่ดรอปจากหมี ซึ่งมันเพิ่มค่าพลังโจมตีให้ฉัน 50 ดีกว่าไม่มีอะไรใส่ล่ะนะ

“แฮ่…..”

ฉันได้ยินเสียงหมาป่ากำลังครางอยู่ เอาแล้วไง สู้กันก็คงน่าจะไม่ไหวแน่ๆ แต่จู่ๆร่างกายของฉันก็สั่น ซึ่งฉันแน่ใจว่าไม่ใช่เพราะความหนาวแน่ๆ แต่เป็นพื้นต่างหากที่กำลังสั่น

“อะไรกันเนี่ย?”

ทันใดนั้นก็มีมอนสเตอร์ตัวนึงผลุดขึ้นมาจากพื้นดิน ตัวมันถือค้อนขนาดใหญ่อยู่ มันมีขนสีเขียวขึ้นอยู่ตามตัว และที่หน้ามัน มันมีดวงตาอยู่แค่ ดวงตาเดียว ต้องเป็นไซคลอปแน่ๆ ให้ตายสิ นี่มันมอนสเตอร์ในตำนานเลยนี่หว่า

ฉันรีบล้มตัวลงนอนกับพื้นแล้วก็ส่องดูค่าสถานะของไซคลอป อืม…. เลเวลก็ยังส่องไม่ได้เลย แน่นอนว่า ควรอยู่ห่างๆเจ้าตัวนี้ไว้จะเป็นการดีที่สุด ไม่งั้นได้ตายในพริบตาแน่ๆ

“โฮก…..”

เจ้าไซคลอปตัวนั้นคำรามใส่เสือดำที่อยู่ด้านหน้ามัน เสือเองก็ตอบโต้ด้วยการขู่ใส่เช่นกัน เจ้าไซคลอปโยนค้อนเข้าใส่หัวของเสือดำเต็มๆ เลือดของมันกระฉูดออกมา แต่เจ้าเสือดำก็โต้ตอบโดยการตะปบไปที่ขาของไซคลอป ดูเหมือนว่าเจ้าสองตัวนี้จะสู้กันถึงตายเลยทีเดียว

ฉันกัดฟัน รอจังหวะที่เจ้าสองตัวนี้เลือดน้อยแล้วก็จะ…. จะอะไรกันเฮ้ย!! เจ้าพวกนี้น่าจะมีเลเวลเกิน 100 แล้วมั้ง โบโบ้เองก็ไม่น่าจะโจมตีเข้านะ ไม่เอาๆ ไม่เสี่ยงดีกว่า เจ้าสองตัวนั้นก็สู้กันดุเดือดจนเลือดกระเซ็นไปทั่วบริเวรนั้น ผ่านไปไม่กี่นาที ฉันก็ได้ยินเสียงคำรามอีกครั้ง

ครั้งนี้เป็นบาบาร์เรี่ยนคนหนึ่งมากับตุ้มหนาม เขาตะโกนว่า

“เจ้าพวกปีศาจร้าย กล้าดียังไงมาทะเลาะกันแถวเมืองมังกรหะ? เข้ามาสิ ฆ่าจะฆ่าพวกเจ้าแล้วเอาไปทำอาหารให้กับผู้คนในเมืองมังกรเอง!!”

ฟุ่บ! เขาโยนตุ้มหนามทะลุคอของเสือดำ ความแรงอย่างกับยิงปืนเลย ซึ่งเจ้าเสือดำที่โดนเข้าไปก็ตายทันที ฉันมองไปที่เขา และพยายามอ่านค่าสถานะของเขา

[ผู้คุมสัตว์-ต๋าหลิน]

เลเวล : ???

พลังโจมตี: ???

พลังป้องกัน: ???

HP: ???

Skills: ???

คำอธิบาย : 1 ในผู้คุ้มกันของเมืองมังกร

ผู้คุมสัตว์ ต๋าหลินนั้นได้รับหน้าที่จัดการกับพวกสัตว์ที่อยู่ข้างๆเมืองมังกร ดูแลความปลอดภัยของการขนส่งเสบียง แล้วเขาเองก็ยังมีหน้าที่ในการฝึกฝนทหารใหม่ด้วย เขาเป็นนักรบที่ซื่อสัตย์ต่อนายเหนือหัวของเขา หลัวหลิน มากจนสามารถยอมมอบชีวิตให้เลยทีเดียว

ผู้คุมสัตว์งั้นหรอ??? หลังจากที่ดูแผนที่ ฉันก็เห็นว่าตอนนี้ฉันได้มาอยู่ที่ตรงหน้าเมืองมังกรแล้ว แต่มันอยู่บนภูเขาที่อยุ่ตรงหน้าฉันไป 100 เมตร ดูจากสภาพแล้วน่าจะโดนปล่อยทิ้งร้างไว้เป็นพันๆปีเลยทีเดียว แต่จริงๆแล้วนั้นยังมีคนอยู่ ให้ตายสิ เท่ชะมัด อยากจะรู้จังว่าที่นี่จะมีมังกรรึเปล่านะ

ระหว่างที่ฉันกำลังคิดเพลินๆ ต๋าหลินก็จัดการกับไซคลอปจนตาย ฉันกัดฟัน ให้ตายสิ ดูเหมือนว่าเราจะไม่มีทางสู้กับหมอนี่ได้เลยแฮะ ขณะนั้นเอง ฉันก็รู้สึกถึงอันตราย แย่แล้ว!! หมอนั่นมองเห็นฉันแล้ว ฉันจึงเริ่มหนี แต่ต๋าหลินนั้นตามฉันมาอย่างกับเงา เขาพูดกับฉันว่า

“เจ้าหนู ชื่ออะไร? มาที่นี่ทำไม? เป็นสายลับจากเมืองฮว่อหยุนใช่ไหม? ตายซะเถอะ”

ฉันถอยไปนิดหน่อยก่อนจะยื่นตราเมืองป้าฮวงบนแขนของฉันให้ดู แล้วก็ตอบไปด้วยเสียงที่สั่นว่า

“ผะ….ผมเป็นนักผจญภัยของเมืองป้าฮวง ผมมาหาคนๆหนึ่งครับ”

“เอ๊ะ อย่างงั้นหรอ?”

ต๋าหลินดูสงบลงก่อนจะพูดว่า

“หนุ่มน้อยจากเมืองป้าฮวงถ่อเดินทางมาถึงที่เมืองมังกรนี้เพื่อมาตามหาใครซักคนอย่างงั้นหรอ? โกหกผิดคนแล้วล่ะ หึ ที่โลกนี้ไม่มีใครรู้ว่าเมืองนี้มีอยู่จริงหรอก พวกมันขี้ขลาดกันทั้งนั้นแหละ ขี้ขลาดไม่กล้ามาดินแดนทางเหนือเพื่อมาสู้กับมอนสเตอร์ เหอะ เจ้าต้องโกหกแน่ๆ”

ฉันโต้ตอบไป

“ขี้ขลาด พูดถึงใครกัน? ฉันมาก็มาถึงที่นี่แล้วไง แถมยังสู้กับมอนสเตอร์แล้วด้วย มองยังไงว่าการกระทำแบบนี้มันขี้ขลาดกันหะ?”

“ว่าไงนะ? นี่แกมาตามหาคนจริงๆงั้นเหรอ?”

“ใช่แล้ว”

ต๋าหลินขมวดคิ้วก่อนจะยิ้ม

“แล้วแกมาหาใครกัน?”

ฉันหยิบจดหมายขึ้นมายื่นให้ต๋าหลิน

“ฉันมาตามหาคนที่ชื่อว่า หลัวหลิน……”

“เอ๋?”

ต๋าหลินตกใจ

“หลัวหลิน กะ…แก แกมาตามหาราชาหลัวหลินอย่างงั้นหรอ? แกต้องเป็นสายสืบแน่ๆ พวกมันสั่งให้แกมาเพื่อทำลายที่นี่ใช่ไหม?”

ฉันมองหน้าเขา

“ฉันมาที่นี่ด้วยตัวคนเดียว จะสามารถทำลายเมืองนี้ลงได้ยังไงกัน? แล้วก็ดูที่ตราปั๊มบนจดหมายให้ดี เจ้าของของจดหมายนี้ก็คือ หลัวเล่ย พ่อของราชาเมืองมังกร หลัวหลินนี้ยังไงล่ะ!!”

“จะ…จริงหรอเนี่ย?”

ต๋าหลินเปิดจดหมายแล้วทำหน้างง

“ฉันอ่านราชาศัพท์ไม่ได้เว้ย!! แต่ว่าตราปั๊มนี้ ฉันมั่นใจว่าราชาหลัวหลินเองก็มีเหรียญแบบนั้นเช่นกัน นี่แกมาโดยนามของเมืองป้าฮวงจริงๆหรือเนี่ย? เอาล่ะ ฉันจะพาแกไปพบกับราชาหลัวหลินเอง แล้วให้เขาเป็นคนตัดสินว่าแกจะใช่สายลับหรือไม่”

หลังจากที่’ต๋าหลิน’พูดจบก็แบกฉันขึ้นไหล่ ก่อนจะมัดไซคลอป แล้วก็ปีนขึ้นภูเขาไปแปปเดียวก็ถึงยอดเขา เขาตะโกนขึ้นเสียงดังว่า

“ข้าต๋าหลินเอง หย่อนเชือกลงมาที”

ฟุ้บ

ที่ลงมาไม่ใช่เชือก แต่เป็นโซ่ ‘ต๋าหลิน’วางฉันไว้บนศพของเจ้าไซคลอป แล้วก็ปีนโซ่ขึ้นไปด้วยแขนเดียว

พลั่ก! ต๋าหลินโยนศพของไซคลอปรวมถึงตัวฉันลงมา หลังจากที่ฉันยืนได้แล้ว ฉันก็กระโดดลงจากศะไซคลอป แล้วก็มองไปรอบๆ พื้นของเมืองนี้นั้นเป็นน้ำแข็ง NPC ในเมืองนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นยามทั้งนั้น แต่พวกเขาสวมใส่ผ้าคลุมแน่น ฉันก็เลยเห็นหน้าพวกเขาไม่ชัด

“เจ้าหนู ตามข้ามา!”

‘ต๋าหลิน’พาฉันเข้าไปยังใจกลางเมือง ระหว่างทาง ฉันก็เห็นพวกเด็กๆนั้นกำลังซ้อมรบอยู่ ด้านหน้าเองก็ยังมีสนามม้า คนที่ขี่ม้าคนหนึ่งหันมาเห็นพวกเราก็ขี่ม้ามาที่พวกเรา ก่อนจะหยุดแล้วลงจากม้า เธอถอดผ้าคลุมของเธอออก ปรากฏเป็นใบหน้าของสาวสวยงามขึ้นมา เธอมองมาที่ต๋าหลินแล้วพูดว่า

“วันนี้พาอะไรมาด้วยเนี่ย?”

‘ต๋าหลิน’ยิ้มแหยงๆ

“แม่ทัพหลิวชวง(น้ำค้างแข็งพลิ้วไหว) ผมนำเนื้อทานได้ครึ่งเดือนมาด้วยครับ แล้วก็สายลับคนหนึ่งที่จะเอาจดหมายมาให้นายเหนือหัวหลัวหลินด้วยครับ….”

ฉันกัดฟัน

“พูดกี่รอบแล้วว่าไม่ใช่สายลับ!!”

ผู้หญิงตรงหน้าของฉันมีชื่อว่า [แม่ทัพทหารม้าของเมืองมังกร หลิวชวง]

เดินเข้ามามองฉันใกล้ๆ เธอยิ้มแล้วพูดว่า

“จะใช่หรือไม่ ราชาหลัวหลินของเราจะตัดสินเอง ตามฉันมา ฉันจะพานายไปหาราชาหลัวหลินเอง”

“อืม…”

ระหว่างที่เดินไปก็มีทหาร 4 คนคอยเดินคุ้มกัน ฉันตามหลิวชวงไปจนถึงกลางปราสาท ก็มาถึงห้องโถงจนได้ ห้องนี้โล่งมาก มีแค่โต๊ะกับเก้าอี้อยู่ตัวเดียวเป็นเฟอร์นิเจอร์เท่านั้นเอง ตรงนั้นมีชายผมดำผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่ สายตาที่คมราวกับมีดของเขากำลังอ่านเอกสารบนโต๊ะ ด้านบนหัวของเขามีชื่อว่า [ราชาของเมืองมังกร หลัวหลิน]

“ราชาหลัวหลิน”

หลิวชวงคุกเข่าลงก่อนจะพูดว่า

“ฉันกลับมาจากการลาดตระเวนแล้วค่ะ แล้วก็ ฉันได้พาคนส่งสาสน์ที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นสายลับมาด้วย…..”

“หืม? คนส่งสาสน์งั้นรึ?”

‘หลัวหลิน’เงยหน้าขึ้นมามองฉัน สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยปัญญาแล้วก็ความกล้าหาญ ตอนที่เขามองฉันมันมีความรู้สึกเหมือนกับว่าเขาจะอ่านใจฉันได้ยังไงยังงั้น เขาพูดกับฉันว่า

“เจ้านักผจญภัยน้อยเอ๋ย เจ้านำสาสน์อะไรมาส่งให้ข้าน่ะ?”

ฉันยื่นจดหมายไปให้เขา แล้วก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไร หลัวหลินที่อ่านจดหมายแล้วก็ตัวสั่น ตาของเขาแดง ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วกำหมัดแน่น สูดลมหายใจลึก ก่อนจะพูดว่า

“ข้านั้นทรยศต่อประเทศของข้า แล้วก็ทรยศพ่อของข้าที่รักข้ามากไปด้วย….”

‘หลิวชวง’เงยหน้าขึ้น

“เกิดอะไรขึ้นหรอคะท่าน?”

“ไม่มีอะไร….”

‘หลัวหลิน’ปฏิเสธแล้วพูดต่อ

“ก่อนหน้านี้ ฉันผิดหวังในประเทศของฉันจึงเดินทางมาก่อสร้างเมืองมังกรที่นี่ แต่อย่างไรก็ตาม ฉันนั้นทำให้พ่อของฉันผิดหวัง แต่ตอนนี้ พ่อของฉัน ท่านเจ้าเมือง’หลัวเล่ย’ ส่งจดหมายมาหาฉัน เพื่อถามว่าฉันยังสบายดีอยู่รึเปล่า อืม ฉันต้องเขียนตอบเขาสินะ”

‘หลิวชวง’พยักหน้า

“ท่านคะ นี่มันก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องทำอยู่แล้วค่ะ ฉันขออาสาพาจดหมายตอบกลับไปให้ที่เมืองป้าฮวงเองค่ะ”

“ไม่”

‘หลัวหลิน’สายหัว

“แม่ทัพหลิวชวง เจ้าเป็นคนพื้นเมืองของเมืองมังกรนี้ ดังนั้นถ้าเจ้าไปที่เมืองป้าฮวงแล้ว คนจะมองว่าเจ้าเป็นตัวประหลาด ดังนั้นปล่อยให้นักผจญภัยผู้นี้นั้นเป็นคนนำจดหมายตอบกลับนี้ไปให้พ่อของข้าคงจะดีกว่า….”

“รับทราบ”

ฉันถูมือ ยิ้มอยู่ในใจ อืม หลังจากที่ผ่านการเสี่ยงตายมามากมาย ตอนนี้เควสระดับ AA ก็ใกล้จะจบแล้วล่ะนะ ไม่รู้เลยว่าระบบจะมอบรางวัลความสำเร็จครั้งนี้ให้ฉันเป็นอะไรบ้าง

แต่แน่นอนว่าหลังจากที่ได้รับรางวัลนี้แล้ว ฉันจะกลับไปสั่งสอนเจ้าพวก [วายุทรชน] ให้หงอไปเลย!!

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments