I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 45 [Silver Locked Battle Boots]

| Zhan Long | 1490 | 2364 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“ตามฉันมา เดี๋ยวฉันจะพากลับเอง!”

แม่ทัพ’หลิวชวง’พูดกับฉันด้วยน้ำเสียงเย็นชา หลังจากที่’หลัวหลิน’ส่งจดหมายที่เขาเขียนเสร็จแล้วมาให้กับฉัน ฉันที่เดินอยู่ตามหลัง’หลิวชวง’นั้นก็อดไม่ได้ที่จะไม่มองเธอ เธอเป็นคนที่ดูสง่าแต่ก็มีความอ่อนโยนอยู่มากเลยทีเดียว หลังจากที่ออกมาข้างนอกเมืองแล้ว ‘หลิวชวง’ก็ขมวดคิ้วก่อนจะพูดว่า

“ปีนี้ฤดูหนาวมาเร็วมาก ยังไม่ทันได้เตรียมฟืนไฟกับอาหารตุนไว้เลย พวกสัตว์ประหลาดก็ยั้วเยี้ยรอบเมืองไปหมด แถมทหารของเราก็ยังน้อยอีก จะรอดไหมนะ หน้าหนาวครั้งนี้”

‘ต๋าหลิน’เดินมา เขายิ้มแล้วพูดว่า

“แม่ทัพหลิวชวง ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะเป็นคนล่าอาหารมาให้ชาวเมืองเอง วางใจได้ครับ หึ อาณาจักรทั้ง 7 นั้นมีนักรบเก่งเยอะแยะเต็มไปหมด แต่ไม่มีอาณาจักรไหนเลยที่จะส่งคนมาช่วยเมืองนี้ ก็นั่นสินะ ไม่มีใครอยากมาในที่ที่ไม่ค่อยมีอาหารการกินดีๆแบบที่นี่หรอกนะ…..”

‘หลิวชวง’ปัดหิมะบนขนตาของเธอก่อนจะพูดว่า

“ไม่ พวกเราต้องหาคนที่เก่งมากๆมาร่วมทัพ ฉันสัมผัสว่ามีพลังชั่วร้ายอยู่ทางเหนือของเมืองนี้ เมืองนี้นั้นตั้งอยู่ตรงภูเขาเพื่อที่จะเป็นหน่วยคุ้มกันแรกจากเจ้าพวกชั่วร้ายที่จะมาโจมตีที่นี่ ดังนั้นแล้วพวกเราจึงต้องการทหารเก่งๆมาช่วยคุ้มกัน”

‘ต๋าหลิน’ยิ้ม

“ครับ แม่ทัพหลิว ผมจะพยายามไปล่าตัวทหารเก่งๆจากกองทัพของพลตรีเป่ยมารับใช้เมืองมังกรนี้เองครับ”

แม่ทัพ’หลิวชวง’ขมวดคิ้ว

“ถ้าพวกเขาไม่สมัครใจก็ไม่ต้องพามาหรอก เพราะว่าทหารของเรานั้นต้องเก่งและกล้าหาญ ทหาร 1 คนของเรานั้นต้องเทียบกับพวกนั้น 10 คน แล้วฉันเองก็ไม่อยากได้พวกขี้ขลาดมาร่วมทัพด้วย”

‘ต๋าหลิน’ทำท่าทางมึน ถาม’หลิวชวง’ไปว่า

“แล้วท่านจะทำอย่างไรต่อไปล่ะครับ?”

แม่ทัพ’หลิวชวง’ตอบทันทีว่า

“ไม่รู้เหมือนกัน….”

ฉันที่ยืนฟังอยู่ก็รวบรวมความกล้าพูดออกมาว่า

“ผะ….ผมอยากจะเข้าร่วมกองทัพของเมืองมังกรนี้ครับ แต่ว่าผมไม่รู้ว่าพวกคุณอยากจะได้ตัวผมรึเปล่าไหม?”

“โอ้ งั้นเหรอ? ”

‘ต๋าหลิน’มองมาที่ฉันก่อนจะหัวเราะดังมากจนกำแพงที่อยู่ใกล้ๆสั่น เขาหันมาทางฉันแล้วเช็ดน้ำตาของตัวเองที่ไหลก่อนจะพูดว่า

“ฮะฮ่า เจ้านี่น่าสนใจนะ แต่ว่า ฮีลเลอร์อย่างเจ้าเนี่ยนะจะมาเป็นทหารของเมืองมังกรแห่งนี้ สัตว์ร้ายตัวเดียวเจ้ายังฆ่าไม่ได้เลย ข้าไม่อยากรับคนมาเป็นอาหารสัตว์ร้ายพวกนั้นหรอกนะ”

ฉันได้แต่จ้องมอง’ต๋าหลิน’โดยไม่ได้โต้ตอบอะไร แม่ทัพ’หลิวชวง’เดินเอามือมาตบไหล่ของฉัน เธอยิ้มให้แล้วพูดว่า

“เจ้าน่ะมีพรสวรรค์นะ แต่น่าเสียดายที่เลือกสายอาชีพผิด เจ้าน่ะเกิดมาเพื่อจะเป็นนักรบมากกว่าเป็นฮีลเลอร์อีกนะ ฉันขอถามอีกครั้งนะว่า เจ้าอยากจะเข้าร่วมเป็นทหารของเมืองมังกรนี้จริงๆหรือไม่?”

ฉันพยักหน้า

“ผมอยากเข้าครับ!!”

แม่ทัพหลิวชวงหัวเราะ

“แต่ว่าเจ้าน่ะมาจากเมืองป้าฮวง อยู่ใต้การดูแลของเจ้าเมืองหลัวเล่ย ทำไมเจ้าถึงอยากจะทิ้งความภาคภูมิใจของเมืองป้าฮวง เพื่อที่จะมาเข้าร่วมกับพวกเรา เมืองมังกรที่ทั้งหนาวแล้วก็อดอยากกันล่ะ? ช่วยบอกเหตุผลให้ฟังหน่อยจะได้ไหม?”

ฉันชูหมัดขึ้นแล้วตอบโดยไม่ลังเลว่า

“นั่นก็เพราะว่าผมมีปัญหากับคนที่อยู่ในเมืองป้าฮวงครับ”

แม่ทัพ’หลิวชวง’หัวเราะ ทำให้ภาพที่ดูเป็นคนเย็นชาของเธอในหัวของฉันมลายหายไปเลยทีเดียว

“หวังว่าที่เจ้าพูดมานี้จะจริงนะ…..”

ก็จริงแน่นอนอยู่แล้ว!! ฉันมีปัญหากับพวก [วายุทรชน] อยู่นะ ‘หลิวอิง’ก็ลงเงินไปกับเกมนี้เยอะแยะเพื่อที่จะสร้างกองทัพของเขา ทำให้ฉันนั้นโดนฆ่าอยู่แทบจะเป็นว่าเล่นแล้ว ต่อให้ฉันไม่กลัวมันก็จริง แต่ว่าฉันเองตอนนี้ก็ขาดกำลังคน ดังนั้นถ้าฉันเข้าร่วมกับเมืองมังกรนี้แล้ว ฉันจะได้เก็บเลเวล ทำเควสอย่างอิสระโดยไม่ต้องกลัวว่าจะตายแล้วล่ะนะ

‘ต๋าหลิน’ขัด

“แม่ทัพ ท่านต้องใจเย็นๆนะ เจ้าหนูนี่แค่ไก่ ก็ไม่น่าจะฆ่าได้นะครับ ถ้าปล่อยให้เข้าร่วมกับกองทัพเราแล้ว มาตรฐานของกองทัพเราจะตกวูบเลยนะครับ ท่านแม่ทัพต้องระวังดีๆนะครับ อย่ายอมรับเจ้าหนูนี่เข้าง่ายๆเพราะว่าเขาแค่หล่อสิครับ….”

‘หลิวชวง’ถึงกับอึ้ง ก่อนจะส่งสายตาอาฆาตไปที่’ต๋าหลิน’แล้วพูดว่า

“เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”

‘ต๋าหลิน’ตัวสั่น เขารีบคุกเข่าก่อนจะพูดว่า

“ข้าน้อยพูดในสิ่งที่ไม่สมควร ข้าน้อยสมควรตาย”

‘หลิวชวง’ไม่ได้ตอบอะไรต่อ แต่หันมามองฉันแล้วพูดว่า

“เจ้าหนูฮีลเลอร์ ฉันตัดสินใจแล้วว่าถ้าเจ้าอยากจะเข้าร่วมกับเราแล้ว เจ้าต้องได้รับการยอมรับจากราชาหลัวหลินก่อน แต่ก่อนหน้านั้น เจ้าต้องนำจดหมายนี้ไปส่งให้เจ้าเมืองหลัวเล่ยก่อน แล้วค่อยว่ากัน”

ฉันพยักหน้า

“ครับ ผมจะไม่ทำให้ผิดหวังครับ!!”

ฉันหยิบใบวาร์บขึ้นมาใช้หลังจากพูดเสร็จ

แว้บ! หลังจากที่กลับมาถึงเมืองป้าฮวงแล้ว ฉันก็รีบไปหา’หลัวเล่ย’ทันที ทันทีที่’หลัวเล่ย’ที่กำลังนั่งอยู่เห็นฉันเดินเข้ามา เขาก็พูดว่า

“เจ้าหนู มีอะไรคืบหน้าอย่างนั้นหรอ?”

ฉันหยิบจดหมายของหลัวหลินขึ้นมาแล้วพูดว่า

“ผมเจอหลัวหลินอยู่ที่ดินแดนเยือกแข็งแล้วครับ แล้วนี่ก็คือจดหมายตอบกลับมาของเขาครับ”

“อ้า!”

‘หลัวเล่ย’รีบหยิบจดหมายมาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า

“ลูกของข้ายังไม่ตาย เขายังไม่ตาย……”

หลังจากที่เขาอ่านจดหมายเสร็จแล้ว เขาก็พูดว่า

“ฉันเข้าใจนะว่าเขาต้องการกำลังคนและของ แต่ว่าดินแดนเยือกแข็งนั้นเกินขอบเขตอำนาจของฉัน ดังนั้นแล้ว ฉันสามารถส่งกำลังคนและของไปได้ไม่มาก จริงๆแล้วแค่ส่งคนกับของไปช่วยก็เป็นการผิดต่ออาณาจักรแล้วล่ะ หวังว่าเขาจะไม่ว่าฉันนะ”

ฉันพยักหน้า

“ผมมั่นใจว่าเขาจะต้องขอบคุณท่านมากๆแน่ครับ”

‘หลัวเล่ย’ยิ้มแล้วพูดว่า

“เจ้าหนู ข้าขอบใจเจ้ามากที่ทำภารกิจนี้สำเร็จ เอ้านี่คือรางวัลของเจ้า”

ติ๊ง!! ข้อความจากระบบ : ยินดีด้วย ท่านได้ทำภารกิจระดับ AA [จดหมายฉบับหนึ่ง]

สำเร็จ ท่านได้รับค่า EXP 29000 เงิน 200 ทอง ค่าเสน่ห์ 7 และ [Silver Locked Battle Boots] เป็นของรางวัล!!

แว้บ!! แสงสีทองพุ่งขึ้นมารอบตัวฉัน ฉันเลเวลอัพเป็นเลเวล 29 อืม เควสระดับ AA นี่มันให้รางวัลเยอะจริงๆ ฉันเปิดหน้าจอไอเทมขึ้นมาเช็คค่าสถานะของรองเท้าที่เพิ่งได้มา

[Silver Locked Battle Boots] (ระดับเงิน)

ประเภท : เกราะ

พลังป้องกัน: 75

STR : +25 VIT : +21

ความสามารถเพิ่มเติม : เพิ่มพลังโจมตี 0.7%

เลเวลที่ต้องการ : 30

ของนี่มันเจ๋งมากๆไปเลยนะเนี่ย แต่น่าเสียดายที่ฉันเป็นฮีลเลอร์ก็เลยใช้ไม่ได้ เอ แต่เดี๋ยวก่อนนะ แม่ทัพ’หลิวชวง’บอกฉันนี่ว่าถ้าฉันเข้าร่วมกองทัพแล้วจะได้เปลี่ยนสายอาชีพสินะ นั่นก็หมายความว่าฉันก็จะได้ใช้เจ้านี่ได้สินะ เยี่ยมไปเลย เก็บไว้ในคลังก่อนก็แล้วกันนะ ฉันมองไปที่’หลัวเล่ย’แล้วพูดว่า

“ท่านเจ้าเมือง ผมขออะไรอย่างนึงได้ไหมครับ”

“อะไรล่ะ?”

‘หลัวเล่ย’ดูแปลกใจ

“ตอนนี้มีสัตว์ประหลาดมากมายกำลังอาละวาดอยู่ใกล้เมืองมังกร ทำให้สถานการณ์ของเมืองมังกรตอนนี้นั้นไม่สู้ดีนัก ดังนั้นแล้วผมอยากจะขออนุญาตไปเข้าร่วมกองทัพที่นั่นได้ไหมครับ ถ้าได้ก็อยากจะขอความกรุณาท่านช่วยเขียนจดหมายแนะนำตัวให้กับหลัวหลินทีครับ ผมจะได้เข้าร่วมกองทัพ และถึงแม้ว่าผมจะเข้ากองทัพที่นั่นก็จริง แต่ใจของผมนั้นจะระลึกถึงที่นี่เสมอครับ”

‘หลัวเล่ย’นิ่งคิดอยู่นานก่อนจะพยักหน้า

“ได้ เจ้ามีบุญคุณที่ทำให้ข้าได้คุยกับลูกชายอีกครั้ง ได้ๆ ข้าจะเขียนจดหมายแนะนำตัวให้”

ฉันออกมาจากวังโดยนำจดหมายแนะนำตัวติดมาด้วย จากนั้นฉันก็ไปซ่อมอุปกรณ์แล้วก็เตรียมยา ใบวาร์ปให้พร้อมก่อนจะออกเดินทาง เมื่อฉันเดินมาถึงประตูเมืองทิศเหนือนั้น ก็มีคนจากกิลด์ [ปราก] เข้ามาออกันอยู่แถวนั้น

“ไม่จริง ทำไมท่านถึงตัดสินใจแบบนี้ล่ะครับ ชิงเฉี่ยนนั้นช่วยพัฒนากิลด์มาตลอดเลยนะครับ ทำไมถึงลงโทษเธอรุนแรงขนาดนี้ทั้งๆที่สิ่งที่เธอทำมันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆนะครับ”

“ใช่ๆ ได้โปรดพิจารณาใหม่ด้วย…”

‘แหยนเจ่า’ยกดาบของเขาชี้ขึ้นฟ้าก่อนจะตะโกนว่า

“เงียบ!!”

ทันใดนั้นเสียงที่อื้ออึงอยู่ก็เงียบกันไปหมด ‘แหยนเจ่า’พูดด้วยเสียงต่ำว่า

“ชิงเฉี่ยนนั้นเป็นลูกสาวของเพื่อนฉัน แน่นอนว่าฉันเองก็ไม่อยากจะทำแบบนั้นกับเธอ แต่ว่ากิลด์ของเรานั้นเป็นกิลด์ใหญ่ ดังนั้นแล้วก็ต้องทำตามกฎ ฉันเองก็พูดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า [ปราก] นั้นจะให้ความสำคัญในเรื่องการเก็บเลเวลแล้วก็ล่าบอส ไม่ใช่ PK หรือไปตีกับกิลด์อื่นๆ แต่ว่าเพราะเจ้าเซียวเหยาจื้อไจ้ ทำให้ชิงเฉี่ยนยกพวกไปตีกับ [วายุทรชน] ดังนั้นเธอต้องถูกลงโทษโดยการถูกไล่ออกจากกิลด์เป็นเวลา 1 อาทิตย์ จากนั้นแล้วฉันค่อยนำเธอกลับเข้ามาใหม่ทีหลัง”

‘ชิงเฉี่ยน’หยิบมีดของเธอขึ้นมาแล้วพูดว่า

“ฉันเข้าใจในสิ่งที่พยายามจะสื่อนะ ทุกคนไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะ ฉันยอมรับบทลงโทษ ดังนั้นฉันจะออกจากกิลด์ แต่ว่า ตอนนี้ [ปราก] เองก็ไม่ใช่กิลด์ที่เป็นทางการที ดังนั้นฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะออกยังไง….”

 

KGG : ตอนนี้กิลด์ทุกกิลด์เป็นแค่กลุ่มเพื่อนขนาดใหญ่เท่านั้นครับ ยังไม่ทางการ ข้อมูลของกิลด์ทางการจะมาในตอนหลังๆครับ ผมไม่ขอสปอยก่อนก็แล้วกัน J

 

‘ชิงเฉี่ยน’ยิ้มในขณะที่’แหยนเจ่า’นั้นโกรธจนหน้าเขียว ฉันเดินผ่านกลุ่มฝูงชนเข้าไปแล้วเดินไปหา’แหยนเจ่า’ก่อนจะพูดว่า

“ลุงแหยนเจ่า ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฉันเอง ดังนั้นอย่าเอาชิงเฉี่ยนออกเลย สำหรับเรื่องคราวนี้ ฉันจะขอรับผิดชอบเอง”

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments