I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 50 ทดสอบกำลัง

| Zhan Long | 1505 | 2364 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

สายลมเย็นๆยามดึกพัดผ่านมา และใบไม้นั้นก็ร่วงหล่น ในขณะที่ฉันกำลังเดินผ่านจุดที่เป็นสวนของโรงเรียน ดูเหมือนว่าฤดูใบไม้ร่วงจะมาไหวกว่าที่คิดนะ ตรงหน้าฉันตอนนี้ มี’หลินว่าน’เอ๋อเดินนำฉันอยู่ เนื่องจากฉันนั้นเป็นบอดี้การ์ดของเธอ ฉันจึงไม่สามารถเดินเคียงข้างเธอได้ เพราะถ้าฉันทำแบบนั้นแล้วคนจะเข้าใจผิดว่าเป็นแฟน

“เซียวเหยา วันนี้พวกเราจะไม่ไปกินที่โรงอาหารนะ ไปหาอะไรอย่างอื่นกินดีกว่า นายมีที่ไหนจะแนะนำไหม?”

จู่ๆ’หลินว่านเอ๋อ’ก็ถามฉัน ฉันตอบไปทันทีว่า

“ของแพงๆเป็นยังไงครับ?”

‘ว่านเอ๋อ’ทำหันกลับมาหาฉันก่อนจะทำหน้าดุใส่แล้วพูดว่า

“จะบ้าหรอไง? เงินเก็บของฉันจะหมดแล้วนะ….”

ฉันก็เลยตอบกลับไปว่า

“ถ้างั้นก็กินข้าวผัดข้างทางไหมครับ แต่ผมกลัวว่าคุณหนูจะรังเกียจร้านพวกนี้รึเปล่า….”

‘ว่านเอ๋อ’ยิ้ม

“ใครบอกนายกันว่าฉันไม่ชอบล่ะ? ไปกันเถอะ!!”

“เราจะกินกันแค่ข้าวผัดนะครับ จะดีหรอ?”

“อืม จะโกหกนายไปทำไมล่ะ”

“รับทราบครับ…”

พวกเราออกไปทานร้านอาหารข้างทางที่ด้านนอกมหาลัย ซึ่งที่นั่นก็มีพวกนักเรียนมากินข้าวกันอย่างพลุกพล่าน ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นนักเรียนที่เล่นเกม [Destiny] เหมือนกันล่ะมั้งนะ พวกเราหาที่นั่นเล็กๆมานั่ง จากนั้นฉันก็สั่งอาหารว่า

“พี่ชาย ขอข้าวผัด 2 จาน จานที่ราคา 4 หยวนน่ะ”

‘ว่านเอ๋อ’เปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดูกระทู้เล่นๆ ระหว่างนี้พวกคนอื่นๆที่กำลังนั่งกินอยู่ก็เห็นเธอ และแน่นอนว่ามันก็เหมือนกับหมาเห็นเนื้อนั่นแหละ จ้องกันตามันวาวเลย ฉันเองก็นั่งเท้าคางมอง’ว่านเอ๋อ’เหมือนกัน ‘ว่านเอ๋อ’บ่น

“ให้ตายสิ…เมื่อกี้ฉันเพิ่งเป็นอันดับ 1 แท้ๆ แต่ตอนนี้กลายเป็นอันดับ 4 อีกแล้ว ให้ตายสิ ไปช่วยเฉิงย่วยแปปเดียวโดนแซงเลย”

ฉันที่นั่งมองหน้าของ’ว่านเอ๋อ’ที่กำลังทำสีหน้าเบื่อๆเซ็งๆก็มีความรู้สึกว่าอยากไปหยิกแก้มเล่นจังเลยนะ แต่ว่า…ถ้าทำไปแล้วมีหวังไม่รอดแน่ๆ

“ฉันอยากได้เธอเป็นสัตว์เลี้ยงจังเลยนะ…”

จู่ๆฉันก็เผลอพูดถ้อยคำที่ทำให้อายุสั้นออกมา

“เมื่อกี้นายว่ายังไงนะ?”

“เปล่าๆ ไม่ได้พูดๆ”

‘ว่านเอ๋อ’ยิ้ม

“นายอยากจะได้ใครเป็นสัตว์เลี้ยงงั้นหรออออ?”

ฉันส่ายหัว

“เปล่านะ คุณหนูได้ยินผิดแล้วครับ…”

‘ว่านเอ๋อ’ถอนหายใจแล้วพูดว่า

“ช่างมันเถอะ ยังไงนายก็ไม่มีตังเลี้ยงฉันอยู่แล้วล่ะนะ…”

“……”

“อ๊ะ..จริงด้วย”

‘ว่านเอ๋อ’พูดต่อ

“เมื่อกี้ฉันอ่านกระทู้เจอเรื่องของนาย ที่นายเข้าไปยุ่งกับปัญหาของ’ย่วยชิงเฉี่ยน’ ก็เลยประลองกับ’แหยนเจ่า’แล้วนายก็แพ้ไปใช่ไหม?”

ฉันพยักหน้า

“อืม ฉันต้านพลังโจมตีของสกิล [Combo Lv4] ของแหยนเจ่าไม่ไหวก็เลยตายน่ะ”

“แต่ฉันเห็นว่านายเองก็หยุดกระบวนท่าของแหยนเจ่าได้นี่นา [Peerless Strike] น่ะ”

‘ว่านเอ๋อ’ยิ้ม

“สกิล [Peerless Strike] นั้นใช้เวลาทั้งหมดในการโจมตีเพียงแค่ 1.7 วิเอง แต่นายก็ยังหยุดได้ เก่งไม่เบาเลยนะ…”

ฉันเขินจนหน้าแดง

“มันก็แค่ฟลุ้กเฉยๆน่ะ…”

“ก็นั่นสิเนอะ…”

ว่านเอ๋อหัวเราะแล้วก็พูดถามฉันต่อว่า

“หลี่เซียวเหยา พ่อของฉันเคยบอกว่านายน่ะไม่ใช่คนธรรมดา ทั่วเมืองหางโจวนี้ ไม่มีใครเทียบชั้นฝีมือของนายได้เลย แต่ฉันเองก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง นี่นายเก่งขนาดนั้นเลยรึเปล่า?”

ฉันกัดฟันตอบ

“อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลยครับ ถ้ามันไม่จำเป็น ผมก็จะไม่สู้ เพราะผมไม่อยากทำลายความสัมพันธ์…”

“แล้วทำไมนายถึงดวลกับแหยนเจ่าล่ะ?”

“นั่นมันก็…”

“นายชอบชิงเฉี่ยนสินะ!!”

“ไม่! ผิดแล้วครับ!!”

“ฮิๆ ตอแหล”

ขี้เกียจเหนื่อยจังเถียงต่อฉันก็เลยยอม

“ครับๆ ผมชอบชิงเฉี่ยนครับ พอใจรึยัง?”

‘ว่านเอ๋อ’ยักไหล่

“เรื่องของนายฉันไม่เอามาคิดให้รกหัวหรอกนะ~”

“……”

ผ่านไปไม่นาน ข้าวผัดของเราก็มา หลังจากที่ฉันกินหมดไปสองชามแล้ว ‘ว่านเอ๋อ’ยังกินชามแรกไม่หมดเลย ฉันสงสัยว่าวันนี้ทำไม’เฉิงย่วย’ถึงไม่มาด้วยก็เลยถามว่านเอ๋อไป

“อ๋อ ตอนนี้เธอกำลังทำเควสอยู่น่ะ ก็เลยไม่มา”

“อ่า…”

หลังจากที่ทานเสร็จแล้ว ฉันก็ตบมือ

“เอาล่ะ ไปดีกว่า ว่าแต่พรุ่งนี้มีคาบเรียนไหมครับ?”

“มีสิ จะไปไหม?”

“ผมไม่อยากไป ไม่ไปแล้วเกรดจะตกไหมครับ?”

“ไม่ๆ ฉันจะช่วยนายเอง เพราะฉันรู้จักกับอาจารย์ที่สอนพรุ่งนี้อยู่น่ะ…”

“ครับ”

ระหว่างทางที่พวกเราเดินกลับ ส้นสูง 7 เซนติเมตร ของ’ว่านเอ๋อ’ก็ไปสะดุดกับรอยแตกของหินเข้า

“หวา…”

แต่ด้วยปฏิกิริยาอันแสนว่องไวของฉัน ทำให้ฉันโอบอุ้มเธอไว้ได้ทัน แต่มือของฉันนั้นวางผิดที่ไปหน่อย แต่ฉันก็ไม่ได้ปล่อยนะ แต่ยกตัวเธอขึ้นทั้งๆอย่างนั้นแหละ หลังจากนั้นฉันก็ช่วยพยุงตัวเธอขึ้นมา แล้วก็ปล่อยมือไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไร…

“เอ๊ะ…”

ว่านเอ๋อเขินจนหน้าแดง เธอมองฉันแล้วก็พูดว่า

“นะ…นี่นายจงใจใช่ไหม!!”

ฉันรีบอธิบายทันที

“นั่นมัน…อุบัติเหตุต่างหากครับ ผมไม่กล้าจับตรงนั้นของคุณหนูหรอกนะ”

‘ว่านเอ๋อ’กระทืบเท้า

“จับตรงไหนกัน?!”

“ผะ…ผมคำนวนผิดพลาดไปหน่อย ผมไม่ได้ตั้งใจนะ…”

“ฮึ พ่อของฉันบอกว่านายเก่ง แต่นายกลับไม่เก่งตามปากของพ่อฉันซะนี่…”

เอาว่ะ พังเป็นพัง ฉันตอบไปว่า

“ครับ ผมจงใจเองแหละ ทำไมล่ะครับ จะทำอะไรผม?”

สงสัย’ว่านเอ๋อ’ไม่รู้ว่าจะโต้ตอบยังไงต่อก็เลยพูดแค่ว่า

“กลับดีกว่า ต้องรีบไปนอนแล้วล่ะ”

แต่ก่อนที่พวกเราจะเดินต่อ ฉันก็ได้ยินเสียงพุ่มไม้ขยับ ทันใดนั้นก็มีเงา 4 เงาโผล่ขึ้นมา พวกเขาแต่งตัวเป็นไอโม่งชุดดำ ฉันรีบเอาตัวเข้าบัง’หลินว่านเอ๋อ’

“พวกแกต้องการอะไร?”

ถึงแม้ว่าไฟตามทางนั้นจะไม่ค่อยสว่าง แต่ฉันก็เห็นสายตาที่มุ่งร้ายเต็มที่ ไอโม่งคนนึงพูดขึ้นมาว่า

“หลี่เซียวเหยา นายคิดหรอว่า พวกเราจะไม่กล้าทำนาย?”

“หลิวอิงสินะ”

“ถูกต้อง!!”

‘หลิวอิง’ที่เป็นไอโม่งที่อยู่หน้าสุดเดินเข้ามายิ้มให้กับ’ว่านเอ๋อ’แล้วพูดว่า

“นี่เป็นเรื่องของหลี่เซียวเหยากับฉัน เธอไม่เกี่ยว กลับไปได้แล้ว…”

‘ว่านเอ๋อ’ตอบไปว่า

“หลิวอิง นี่นายตั้งใจจะมีเรื่องชกต่อยกันหรอ? ลืมกฎของโรงเรียนแล้วหรือไง ว่าถ้ามีเรื่องชกต่อยกันแล้วจะโดนไล่ออกน่ะ!!”

‘หลิวอิง’หัวเราะ

“กฎมันมีไว้สำหรับพวกนักเรียนดีเด่น ส่วนฉันที่ไม่ใช่นั้นไม่เกี่ยว หลินว่านเอ๋อ เธอน่ะตรงสเปคฉัน ดังนั้นถอยไปห่างๆก่อน ฉันไม่อยากทำร้ายเธอ”

‘ว่านเอ๋อ’กำลังจะเถียงต่อ แต่ฉันหยุดเธอไว้ก่อน ฉันยิ้มให้เธอแล้วพูดว่า

“คุณหนู ไม่ต้องไปหรอกครับ ผมขอเวลา 30 วินาทีจัดการพวกนี้เอง”

เธอพยักหน้าแล้วยิ้มให้

“อืม จะรอนะ…”

“แกนี่มันกล้าดีจริงๆ!!”

‘หลิวอิง’หยิบไม้เบสบอลออกมา แล้วตะโกนสั่งการไอโม่งสามคนที่เหลือ

“ฉันจะรับผิดชอบเอง เว้นแต่พวกแกทำมันตาย อันนั้นฉันไม่รับผิดชอบ”

ไอโม่งที่เหลือยิ้ม แล้วก็หยิบไม้เบสบอลวิ่งเข้ามาหาฉัน แซกๆ… ฉันเหยียบพื้นที่มีใบ้ไม้อยู่แล้วก็พุ่งไปหาพวกนั้น แล้วก็วางน้ำหนักไว้ที่ขาสาย จากนั้นเตะไอโม่ง 2 คนกระเด็นหน้าคะมำ แล้วหลังจากนั้นก็ หมุนตัวกลางอากาศ ชกไอโม่งลิ่วล้อคนที่ 3 พลั่ก! ทั้งเลือดแล้วก็ฟันกระเด็นออกจากหน้าไอโม่งทั้ง 3 และพวกเขาก็ล้มลงพื้นสลบไป

“……”

หลิวอิงที่ยืนอยู่ด้านหลัง 3 คนนั้นก็ยืนอึ้งไปเลย เพราะไม่คิดว่าลิ่วล้อ 3 คนของเขาจะเสร็จง่ายขนาดนี้ แต่’หลิวอิง’เองก็ไม่ฉลาด เพราะแทนที่จะหนีกลับวิ่งเข้ามาหาฉันต่อ ฉันยืนอยู่เฉยๆ แล้วก็เอามือขวาฟันเข้าไปที่ไม้เบสบอลจนแตก แล้วก็ชกเข้าที่อกของ’หลิวอิง’

‘หลิวอิง’นั้นถอยไปสองสามก้าว มือของเขากุมไปที่หน้าอก หมอนั่นเหงื่อแตก ตาแดงก่ำ เงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉันด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด จริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้ใส่แรงมากนะ หมอนั่นสำออยไปเอง ฉันปัดมือพร้อมกับหันหลัง ยิ้มแล้วก็พูดว่า

“เอาล่ะ สั่งสอนพอแค่นี้”

‘ว่านเอ่อ’ที่ยืนดูอยู่ก็อึ้งปากค้างไปเลย เมื่อฉันเดินไปอยู่หน้าเธอแล้วเธอก็ยังคงอึ้งอยู่ฉันก็เลยตบไหล่เธอแล้วพูดว่า

“คุณหนู คุณหนูต้องรีบเข้านอนไม่ใช่หรอครับ ไปกันเถอะ”

“อ่อ อืม…”

‘ว่านเอ๋อ’กลับมาตั้งสติได้อีกครั้งแล้วก็พูดว่า

“หลังจากที่หลิวอิงเข้าร่วมชมรมเบสบอลของมหาลัยแล้วก็รวบรวมพวกลิ่วล้อมาตั้งกลุ่ม”

เธอนิ่งไปแปปก่อนจะพูดต่อว่า

“ฉันได้ยินมาว่า คนที่ทะเลาะกับหลิวอิงนั้นโดนทำร้ายจนสาหัสทั้งนั้น ที่ร้ายแรงที่สุดก็คือกระดูกขาหัก…”

ฉันขมวดคิ้ว

“นี่มันจะมากเกินไปแล้ว…”

“อื้ม ดูเหมือนว่าสันดานของเขาทั้งในเกมแล้วก็โลกจริงนั้นเหมือนกันเด่ะ ก็ว่าแล้วว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมหยุดทำร้ายนายซักที”

พวกเราเดินมาถึงหอพักหญิง ‘ว่านเอ่อ’มองหน้าฉันแล้วยิ้ม

“เอางี้ไหม? นายมาที่เมืองฟ่านชู อยู่กับฉันแล้วก็เฉิงย่วย พวกเราจะได้ช่วยปกป้องนายได้”

ฉันส่ายหน้า

“ไม่เป็นไรครับ ผมจะสร้างตัวที่เมืองป้าฮวงนี่แหละครับ”

“อืม ถ้างั้นฉันขอตัวไปก่อนนะ…”

“ครับ ฝันดีนะครับ คุณหนู”

“อืม”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments