I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 96 ระรอกคลื่นของกำแพงอิฐ

| Zhan Long | 1548 | 2337 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ผมตกใจอย่างมากที่ผมจะขายขวานระดับทองได้ในราคา 4000 ทอง ตอนนี้อัตราการแลกเปลี่ยนคือ 1 : 10 สามารถแลกเงินได้ถึง 40000 หยวน(ประมาณ 2 แสนบาท) เลยทีเดียว ถ้าพวกเขามีเงิน ผมก็จะขาย

ต่อให้พวกนั้นคือ [Vanguard] ก็เถอะ

ผมได้ยินข่าวมาว่า ‘เจี้ยนเฟิงซาน’นั้นเขาเป็นผู้อำนวยการของ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ….

หลังจากนั้นไม่กี่นาที ‘ซิมเปิล’ก็กลับมา และเปิดหน้าต่างแลกเปลี่ยนกับผม เธอกดจำนวนเงิน 4000 ทองทันที ผมตรวจสอบจำนวนอีกที ก่อนจะแลกเปลี่ยนขวานสวรรค์อหังการทันที ‘ซิมเปิล’พูด

“ยินดีที่ได้ทำธุรกิจด้วยกันนะ”

หลังจากเสียง ตริงง การแลกเปลี่ยนก็เสร็จสมบูรณ์

เธอยิ้มให้ผม

“ฉันขอโทษนายจริงๆ นะเซียวเหยา ฉันรู้สึกเสียใจมาก”

“ไม่เป็นไรหรอก”

ผมเก็บดาบหยกเข้าฝักและเดินจากไป ด้านหลังของผม ‘ซิมเปิล’ก็มอบ ขวานสวรรค์อหังการ ให้กับ’เจี้ยนเฟิงซาน’ เขามองมาที่ผมด้วยแววตาเย็นชาและพูด

“อ่า ด้วยสิ่งนี้ หมาป่าเทา ก็มีพลังโจมตีมากกว่า 1200 แล้วละนะ”

….

“อ่า”

….

ผมทำหน้าเฉยชา แต่ผมก็แอบกลัวอยู่เล็กๆ ใครคือ หมาป่าเทา ด้วยขวานสวรรค์อหังการ เขาจะมีพลังโจมตีมากกว่า 1200 งั้นเหรอ ผมเพิ่มโบนัสไปที่ค่าความแข็งแกร่งทั้งหมด บวกกับดาบระดับทองของผม ยังมีพลังโจมตีเพียง 1000 ดังนั้นไอเท็มของ หมาป่าเทา คงไม่ด้อยไปกว่าผมแน่

ขณะที่ผมเดินไปทางคลังเก็บของ ผมก็เปิดอันดับในเมืองป้าฮวงขึ้นมาดู ใน 19 อันดับแรก ผมก็เจอคนที่น่าจะเป็นหมาป่าเทามากที่สุด

‘Gray Wolf LVL 42 Silver Berserker’

ผมไม่มีความแปลกใจใดๆ ดูเหมือนคนที่’เจี้ยนเฟิงซาน’พูดถึงจะเป็นเขา เขาดูเหมือนเป็นคนเก่งจริงๆ ดูเหมือนว่า [Vanguard] จะไม่ได้มีแค่ ‘เจี้ยนเฟิงซาน’กับ’ซิมเปิล’ซะแล้วแหะ ทันใดนั้นก็มีข้อความจากนายพล’หลี่มู่’

“เซียวเหยา….”

ผมตอบกลับ

“โอ้ นายอยากจะยืมเงินชั้น?”

“นายรู้ได้ไง?”

“ผมเดาได้น่า พวกนายไม่ใช่คนรวยเท่าไหร่ จะหาเงิน 10000 ทองมาได้ไงกันนั้นมันเงิน 100000 หยวนเลยนะ”

เสียงของ’หลีมู่’เต็มไปด้วยความเศร้าใจ

“เซียวเหยา ชั้นรู้ชั้นไมควรขอร้องนาย แต่ว่าพวกเราไม่มีทางเลือก พวกเราสี่พี่น้อง เพื่อจะซื้อหมวกเล่นเกมนี้ พวกเราได้ขายสมบัติไปเกือบหมดแล้ว และนายยังช่วยพวกเราจนได้ป้ายสร้างกิลด์มาอีก แต่ตอนนี้พวกเราไม่มีเงินพอที่จะสร้างกิลด์จริงๆ”

“โอเค งั้นบอกมาว่าพวกนายยังขาดเงินอีกเท่าไหร่”

‘หลี่มู่’คิดเล็กน้อย

“พวกเราพยายามสุดๆ แล้ว ได้เงินมาเพียงแค่ 7000 ทอง พวกเราหาเพิ่มไม่ได้แม้แต่ 10 ทองแล้วหละ เหลียนป๋อกับหวางเจี้ยน ขายไอเท็มทั้งหมดเท่าที่ขายได้แล้ว ถ้าพวกเรายังขายต่อ พวกเราคงต้องเปลือยกายไปสู้กับมอนสเตอร์แล้วหละ ถ้าพวกเราสร้างกิลด์สำเร็จ พวกเราคงไม่ถูกคนอื่นเหยียดหยามแล้วแน่นอน”

ผมคิดสักพักและพูด

“โอเค…..ตอนนี้ผมขายขวานสวรรค์อหังการ ไป 4000 ทอง แต่ว่าผมต้องเก็บเงินไว้ 1000 ทองนะ เพื่อเพื่อนของผมจะซื้อหมวกเล่นเกม พวกเราจะรื้อฟื้นสตูดิโอของเราขึ้นมาอีกครั้ง ผมให้คุณได้แค่ 3000 ทองเท่านั้นหละนะ”

‘หลี่มู่’พูดอย่างดีใจ

“โอเคเซียวเหยา ด้วยการลงทุนเงิน 3000 ทองของนายกับเรา ชั้นจะให้นายเป็นสมาชิก VIP ของกิลด์เราเลยหละ โอ้ ไม่ซิ ชั้นจะให้นายเป็นรองหัวหน้ากิลเลยถ้านายเข้ากิลด์ของเรา ถ้านั่นยังไม่พอ ชั้นจะให้นายเป็นหัวหน้าเลยส่วนชั้นจะเป็นรองเอง”

ผมยิ้ม

“มันพอแล้วหละ แต่ชั้นไม่อยากให้มันเกิดปัญหา กิลด์นั้นมันเป็นของนาย อีกอย่างหนึ่งผมยังไม่อยากเข้ากิลไหนหรอกนะ อย่างน้อยก็ไม่ใช่เร็วๆ นี้ หลี่มู่ มาที่ลานที่อยู่ทิศเหนือของเมืองป้าฮวง ชั้นจะเอาเงินให้นาย สร้างกิลด์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมไม่อยากให้ใครแซงหน้าเราหรอกนะ”

“ได้ ได้”

ผมเดินกลับมา ไม่นาน’หลี่มู่’ก็มาถึง ตอนนี้เขาขายเกราะที่เขาใส่อยู่ถึง 3 ชิ้น ที่ใส่อยู่ก็เป็นแค่ไอเท็มระดับเขียวธรรมดาเท่านั้น ไม่มีใครดูออกแน่ว่า เมื่อไม่นานมานี้เขาเคยเป็นถึงอันดับ 3 ของเมืองป้าฮวง

“มานี่ๆ”

ผมยื่นเงิน 3000 ทองให้กับเขา โดยตรง ‘หลี่มู่’หัวเราะและพยักหน้า

“ขอบคุณ เซียวเหยา นายจะเป็นพี่น้องของเราตลอดไป จริงๆ ชั้นก็เล่นเกมมาหลายปี แต่ก็ไม่เคยเจอคนแบบนายเลย นายช่างเป็นคนใจกว้างจริงๆ”

“ใจกว้าง?”

ผมยิ้ม

“ผมก็แค่ไอ้บ้าคนหนึ่งเท่านั้นเอง”

“ฮ่าๆ ถ้านายเป็นไอ้บ้า พวกเราก็เป็นไอ้บัดซบซินะ”

“รีบเลยๆ สร้างกิลด์ของนายซะ”

“โอเค”

‘หลี่มู่’ก็วิ่งหายไปอย่างเร็ว ผมจึงเดินไปใส่เงิน 1000 ทอง ที่ [Treasure Trove] เพื่อขาย อัตราแลกเปลี่ยนตอนนี้คือ 1 ทอง 9 หยวน มันขายง่ายจริงๆ

หลังจากนั้นผมก็ขาย ไอเท็มเขียวกับทองแดง อีกเล็กน้อย สำหรับเงิน 3000 ทองที่ผมให้ยืมไปนั้น บางทีมันอาจจะไม่ได้คืนก็ได้ ดังนั้นผมถึงต้องหาเงินเพิ่มอีก แม้จะเล็กน้อยก็ตาม

ไม่นานก็ผ่านไปครึ่ง ชั่วโมง

ผมกอดดาบและนอนพิงกำแพงเมืองเพื่อรอใครสักคนโพล่ออกมา ผมรอใครสักคนที่เป็นเจ้านายของคนต่ำต้อยแบบผม แต่รออยู่นานก็ไม่เห็นมาซักที ในที่สุดก็มีผู้หญิงสองคนปรากฏขึ้นที่ตรงหน้าของผม นักเวทกับนักฆ่า?

“อะแฮ่ม พวกเธอมาที่เมืองนี้ได้ไงเหรอ ว่านเอ๋อ ตงเฉิน?”

ผมมองไปที่พวกเธอ ‘หลินว่านเอ๋อ’อยู่ในชุดหนังชั้นดี  ใบหน้าน่ารักของเธอกำลังยิ้มอยู่ เธอกำลังยืนกอดอกอยู่ ส่วนเว้าขนาด 34D ของเธอโพล่ออกมาเล็กน้อยภายใต้ชุดของเธอ ขาคู่งามของเธอขาวเหมือนกับหิมะ แทบจะทำให้ผมหลงไหลเลยหละ ผ้าคลุมสีแดงของเธอโบกสะบัดเล็กน้อยที่ข้างหลัง บนหัวของเธอคือหงอนสีทองที่ดูน่าหลงใหล มันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเธอคือ หนึ่งในท๊อป 10 ของเมืองฟ่านซู

เธอส่งยิ้มมาให้ผม

“ทำไม คนเมืองนี้เขาไม่ต้อนรับคนต่างถิ่นรึไง?”

ผมยืดแขนและพูดว่า

“ไม่ใช่หรอก ก็ทุกครั้งที่พวกเธอมา เมืองป้าฮวงเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องไง”

“เอ่ออ….”

‘หลิงว่านเอ๋อ’พูดอย่างอารมณ์ดี

“มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ พวกนายพลสร้างกิลด์รึยัง? แต่ดูเหมือนพวกเขายังไม่ได้สร้างนะ พวกเขามีเงินไม่พองั้นเหรอ ใช่มั้ย?”

ผมนึกไปถึงท่าทางตอนที่’หลี่มู่’เขายืมเงินผมเขาดูกระวนกระวายใจมาก ผมอดยิ้มไม่ได้

“เปล่า พวกนั้นเขารวยอยู่แล้ว พวกนั้นไม่ได้ขาดแคลนเงินหรอกนะ”

“ฉันไม่เชื่อนาย”

ที่ด้านข้างเธอ ‘ตงเฉินเย่’ ยิ้มและพูดว่า

“เซียวเหยา นายช่วยพวกนายพล จนได้ป้ายสร้างกิล แล้วนายได้อะไรกลับมาบ้าง?”

ผมส่ายหน้า

“ไม่มี แต่ว่าผมก็ได้ของจากบอสมาละนะ”

“เห๊ มันคืออะไรงั้นเหรอ”

‘หลิงว่านเอ๋อ’ถาม ผมเปิด ตารางอันดับของเกราะขึ้นมาดู และชี้ไปที่ หมวกระดับม่วงที่อยู่อันดับ 1 ของตาราง

“อ่า อันนี้แหละ แต่มันต้องการระดับ 45 ละนะ”

“เอ๊ะ….หมวกเกราะแห่งดวงประทีป อยู่ในมือนายงั้นเหรอ”

‘หลิงว่านเอ๋อ’กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูประหลาดใจ

“ใช่”

ผมพยักหน้า

“งั้นนายก็รักษามันไว้ดีๆนะ…..”

“แน่นอน ว่าแต่เราจะไปกินข้าวกันที่ไหนละ เธอเลือกเลย”

ผมมองไปที่ ข้อความของระบบ เงิน 1000 ทองของผมขายออกไปแล้ว ผมมีเงินแล้ว!! ‘หลิงว่านเอ๋อ’หลับตารูปพระจันทร์เสี้ยวของเธอลง และพูด

“แน่นอน เราไปที่ Pine Crane House กันมั้ย? ฉันคิดถึงรสชาติของปลาร่างกระรอกมากเลย”(ชื่ออาหารจีนครับ หาภาพประกอปในอากู๋นะครับ)

“ชิบหายแล้ว….”

ผมกำหมัดแน่น

“โอเค ในเมื่อพวกเธอมาช่วยผม ถือซะว่ามันเป็นคำขอบคุณจากผมละกันนะ”

‘ตงเฉินเย่’หัวเราะ

“มันช่วยไม่ได้หละนะ แต่นายรู้ไหม ว่านเอ๋อพยายามคุยกับเขาตั้งนานกว่าเขาจะยอมเคลื่อนพลนะ บางที่อาจจะเป็นเพราะ ว่านเอ๋อเป็นสเป็กของเขาก็ได้หรือไม่ก็…….”

“ตงเฉิน!!!!”

หน้าของ’ว่านเอ๋อ’แดงก่ำ เธอจ้อง’ตงเฉินเย่’เขม็ง

“ต่อให้ฉันขายตัว เธอก็ไม่ควรพูดไร้สาระแบบนั้น ฉันแค่สัญญากับ เวิ่นเจี้ยน ว่าในสามเดือนนี้พวกเราจะไม่ออกจากกิลด์ [Hero Mound] แค่นั้นเอง”

ผมเดินไปอย่างเงียบๆ

“ว่านเอ๋อ เธอพยายามช่วยผมมากเลย…..ขอบคุณนะ”

“ฉันไม่ได้อยากได้คำขอบคุณจากนายหรอกนะ ฉันแค่อยากให้นายพาพวกเราไปกินข้าว แค่นั้นเอง”

“โอเค งั้นเราก็ออฟไลน์กันเถอะ”

“ได้”

…. ทันใดนั้นเองก็มีเสียงของระบบดังขึ้นและมีข้อความขึ้นบนฟ้า ในที่สุดก็มีผู้เล่นสร้างกิลเป็นคนแรกแล้ว

ตริงงงงงง การแจ้งเตือนของระบบ : ขอแสดงความยินดี ผู้เล่น “นายพลหลี่มู่” เป็นคนแรกที่ใช้ป้ายสร้างกิลด์ในการสร้างกิลด์ “นายพลหวางเจี้ยน” และ “นายพลเหลียนป๋อ” ถูกแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้ากิลด์ ชื่อกิล : 【Valiant Bravery】(องอาจกล้าหาญ)

เนื่องจากพวกเขาเป็นกลุ่มแรกที่สร้างกิล จะได้รับรางวัล ระดับ +1  และ เสน่ห์ +7 ……

“ว้าววว”

‘หลิงว่านเอ๋อ’เธอมองไปบนฟ้า คองามระหงส์ของเธอดูมีเสน่ห์มาก

“พวกนายพลเลือกชื่อกิลได้น่าเกรงขามดีนะ”

‘ตงเฉินเย่’

“แน่นอนพวกเขาน่าเกรงขามกันจริงๆ”

ผมลากมือผ่านผมตัวเองเล็กน้อย

“บ้าเอ้ย หลี่มู่ หวางเจี้ยน พวกเขามันเป็นกลุ่มคนบ้า จริงๆ”

TL: = ชื่อ Valiant Bravery ตามตัวอักษรจีนคือ ปกป้องตระกูล/กิลด์ จนตัวตาย (มันเป็นชื่อที่ไม่ดี)

‘หลิงว่านเอ๋อ’

“……..”

‘ตงเฉินเย่’หัวเราะ

“เอาหละ ถ้าพวกเราไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว พวกเราไปกินมื้อค่ำกันเถอะ วันนี้ เซียวเหยาจะพาเราไป Pine Crane House เลยนะ ฉันละหิวจริงๆ”

“อ่า ออฟไลน์กันเถอะ”

“โอเค”

หลังจากนั้นพวกเราก็ออฟไลน์ หลังจากถอดหมวกออก ผมก็หาชุดอย่างดีใส่ และออกไปทันที เมื่อผมไปถึงหอพักหญิงแล้ว ผมก็เห็นพวกเธอสองคนยืนรออยู่แล้ว ด้วยกลิ่นน้ำหอมของพวกเธอ เหล่าชายหนุ่มที่อยู่บนถนนต่างหันมามองด้วยความหื่นกระหาย

‘หลิงว่านเอ๋อ’เอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าของเธอและหยิบกุญแจรถ Audi TT ออกมาและโยนมันมาที่ผม

หมับบ

ผมยื่นมือออกไปคว้ามัน

“คุณหนู?”

“วันนี้นายจะเป็นคนขับ พวกเราตกลงกันไว้แล้วนี่นา”

“โอเค…..”

หลังจากที่พาสองสาวมายังที่จอดรถของมหาลัย ผมมองไปที่ Audi TT ของ’ว่านเอ๋อ’ดูแล้วรถของเธอไม่ใช่รถหรูในมหาลัยเท่าไหร่ ด้วย Ferraris, Lamborghinis, Porsches, Bentleys และรถนอกอื่นๆ ต่างจอดเต็มที่จอดรถเต็มไปหมด ที่จอดรถที่นี่ดูเหมือนเป็นงานแสดงโชว์รถหรูเลยแหะ …..

หลังจากนั้น 30 นาที พวกเรากำลังนั่งติดริมหน้าต่างของร้าน  Pine Crane House ตรงจุดนี้พวกเราจะสามารถมองเห็นแสงไฟจากดวงดาวเต็มท้องฟ้าไปหมด อย่างไรก็ตาม ผมอยากยอมแพ้จริงๆ ตอนนี้บัตรเครดิตผมมีเงินแค่ 23000 หยวน(ประมาณแสนกว่าบาท)

ผมอยากจะขอบคุณเมืองมังกรจริงๆ ที่มอบโชคให้ผมมากมาย

‘หลินว่านเอ๋อ’ และ’ตงเฉินเย่ว’ นั่งอยู่ตรงข้ามกับผม ผมนั่งมองเมนูอย่างระมัดระวัง หลังจากที่สั่งอาหารไปไม่กี่อย่าง หัวใจของผมก็เหมือนจะรั่วเลยทีเดียว หลังจากที่ยืนยันการสั่ง รวมราคาแล้วก็คือ 800 ร้อยหยวน (ประมาณ 4000)

“หลี่เซียวเหยา….”

‘หลิงว่านเอ๋อ’เอ่ยชื่อของผมอย่างโหยหา ผมมองไปที่เธอ

“อ่า มีอะไรงั้นเหรอ ว่านเอ๋อ”

“เอ่ออออ”

หลังจากที่เธอมองไปที่ถ้วยชาข้าวบาเลย์ของเธอ เธอค่อยพูด

“ตอนแรกนายโดนพวก [Wrath of the Heroes] ไล่ล่า หลังจากนั้นนายก็ถูกพวก [Vanguard] กล่าวหา และสุดท้ายนายยังไป PK กับพวก [Flying Dragon] เพราะพวกนั้นพยายามจะขโมยของนายอีก นายไม่รู้สึกอะไรเลยงั้นเหรอ?”

ผมกำมือแน่น

“ทำไมผมจะไม่รู้สึกละ ผมรู้ว่าผมแค่คนเดียวไม่สามารถแข็งแกร่งได้ ดังนั้นผมจึงคิดที่จะหาคน….”

“ใช่ๆ”

‘ตงเฉินเย่’พยักหน้า

“แล้วนายจะทำยังไงงั้นเหรอ”

‘ว่านเอ๋อ’หัวเราะเบาๆ ผมตอบ

“ก่อนอื่นผมคิดว่าจะตั้งสตูดิโอขึ้นมาใหม่ และรวมตัวเหล่าพี่น้อง ทั้งห้าคนเมื่อสามปีก่อนอีกครั้ง เมื่อพวกเรารวมตัวกันครบ 5 คน พวกเราจะพัฆนาตัวเองอย่างเร็ว และจะตั้งหลักกันที่เมือง ป้าฮวง”

“เพื่อนของนาย ไม่มีหมวกเล่นเกมใช่มั้ย?”

‘ว่านเอ๋อ’ถาม

“เอ่ออออ ไม่…..”

คุณหนู’หลิน’หัวเราะเบาๆ เธอยกโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา และพูดว่า

“โอเค ยังมีเวลาอีก 12 ชั่วโมง พรุ่งนี้ตอนแปดโมงเช้า Destiny จะลดราคาหมวกเล่นเกม มีเพียงแค่ 500 ชิ้นนะ ฉันจะให้ข้อมูลนายฟรีๆเลย”

ตึงงง

ผมลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

“นายกำลังจะทำอะไร?”

‘ว่านเอ๋อ’มองมาที่ผมอย่างมึนงง

“คืนนี้ผมจะไม่นอน ผมจะไปรอเพื่อซื้อมัน!!” “……..”

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments