I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 109 การร่ายรำของเปลวเพลิง

| Zhan Long | 1572 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

หลังจากที่เดินเข้าไปไม่กี่นาที ผมก็มาถึงยังรอบนอกของหุบเหวแล้ว มันช่างเป็นช่องว่างที่ลึกมากจริงๆ ผมมองไม่เห็นทางที่เข้าได้เลย พนังหินเรียบลื่นมันเงามาก พร้อมกับถูกปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำ ก้อนหินข้างล่างมันดูแข็งมากๆ เพราะผมลองฟันด้วยดาบหยกไปแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แผนของผมก็ง่ายๆ คือปีนลงไป

ผมนั่งอยู่ตรงขอบของหุบเหวพร้อมกับมองลงไปด้านล่าง ผมมองเห็นจุดสีแดงอยู่หลายจุด มันคือมอนสเตอร์ที่เกิดอยู่ในเหวนี้หละนะ โชคไม่ดี ระยะห่างมันอยู่ไกลเกินไป สิ่งที่ผมต้องให้ความสำคัญตอนนี้ก็คือ การหาหญ้ากิเลนพฤกษาก่อน ตั้งแต่ที่ผมเข้ามาในหุบเขากิเลนพฤกษา ผมยังไม่เจอมันเลยซักต้น ถ้าหญ้านั้นมันเกิดที่แถวนี้จริงๆ

มันต้องเกิดใน หุบเหวกิเลนพฤกษา แห่งนี้แน่นอน

ตริงงง มันคือข้อความจากนายพล’หลี่มู่’ ผมไม่ได้คุยกับเขามานานพอสมควร

“ฮ่าๆ น้องเซียวเหยา ชั้นได้ยินมาว่านาย PK กับพวก [Wrath of the Heroes] อีกแล้ว”

“หือ? คุณนี่รู้ดีนะ”

ผมตอบกลับ ‘หลี่มู่’หัวเราะ

“อันที่จริง…..เพราะผู้เล่นของ [Wrath of the Heroes] เป็นคนประกาศพร้อมกับลวิดิโอต่อสู้ลงในบอร์ดไงละ นายดังมากเลยนะ”

ผมหยุดไปเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับ

“เฮ้ อย่ามาขำน่า ตอนนี้ชั้นโดนตามล่าอยู่นะ อีกอย่างชั้นไม่ได้อยากดังหรอกนะ เออใช่ กิลด์นายก็ตั้งมาสักพักแล้ว เป็นไงมั่ง การรับคนไปได้ดีมั้ย?”

‘หลี่มู่’ตอบอย่างภาคภูมิใจ

“ในไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเราขึ้นเป็นกิลด์ระดับสองแล้ว ตอนนี้ก็มีสมาชิก 300 คนแล้ว ผู้เล่นส่วนมากก็ได้คลาสสองกันแล้วละนะ ปัญหาอย่างเดียวที่มีก็คือพวกเรายังมีหมอไม่มากพอ มีแค่ 7 คนเท่านั้นที่ได้คลาสสองแล้ว”

ผมประหลาดใจมาก

“นั้นมันเยี่ยมเลย ด้วยผู้เล่นคลาสสอง 300 คน นายสามารถปกครองเมืองป้าฮวงได้แน่”

‘หลี่มู่’หัวเราะ

“นายก็พูดเกินไป ได้ข่าวว่ากิลด์ [Prague], [Vanguard], และ [Flying Dragon] ต่างก็มีผู้เล่นมากกว่าหมื่นคนเสียอีก ดังนั้นผู้เล่นแค่ 300 ทำอะไรไม่ได้หรอกนะ”

ผมตอบกลับ

“งั้นนายก็ต้องเพิ่มระดับกิลด์ให้ได้ถึง ระดับ 5 นายจะสามารถเพิ่มสมาชิกได้ถึง หมื่นคนไง ถ้าพวกนายมีคนถึงหมื่นคน พวก [Prague], [Vanguard], และ [Flying Dragon] ก็จะมีคู่แข็งเพิ่มบ้างไง”

“โอเค พวกเราจะทำให้ดีที่สุด”

เสียงของ’หลี่มู่’ค่อยๆ เบาลง

“เซียวเหยา ฉันอยากถามนายอีกครั้งสุดท้าย นายอยากเข้า [Valiant Bravery] มั้ย? ฉันจะให้นายเป็นหัวหน้ากิลเลยนะ นายจะทำอะไรก็ได้ที่นายต้องการ”

ผมส่ายหัวและยิ้ม

“พี่น้องหลี่มู่ นายไม่ต้องกังวลกับชั้นหรอกนะ ชั้นไม่ค่อยเหมาะกับกิลด์เท่าไหร่ ผมไม่ค่อยชอบถูกล้อมกรอบนะ ชั้นไม่มีความคิดที่จะเข้ากิลหรอกนะ”

‘หลี่มู่’พยักหน้า

“โอเค พวกเราจะไม่บังคับนาย ถ้านายไม่ต้องการ แต่พวกเราก็ยังเป็นเพื่อนของนายนะ”

“โอเค”

เขาพูดต่อ

“นายต้องระวังตัวนะ ชั้นไม่อยากเปิดรายชื่อเพื่อนแล้วเจอนายระดับต่ำกว่า 40 นะ”

“อ่าหะ”

… ผมปิดข้อความแล้วถอนหายใจ ผมยังหาทางเข้าไปยังหุบเหวไม่ได้เลย

ทันไดนั้น ‘ว่านเอ๋อ’ก็ส่งข้อความมา

“เอ่ออ….เซียวเหยา ขอโทษทีรบกวนนะ แต่ว่า….”

“มีอะไรงั้นเหรอ ว่านเอ๋อ?”

“ตงเฉิงกับฉันได้รับเควสจำกัดเวลามานะ ทำให้คงออกจากเกมไม่ได้ในเร็วๆ นี้ละนะ ถ้าฉันเสร็จเควสแล้วจะบอกนะ เราค่อยไปกินข้าวกันตอนนั้น โอเคมั้ย?”

“หืมม โอเค”

“อิอิ เยี่ยม งั้นฉันกลับไปทำเควสต่อหละ”

“โชคดี ค่อยคุยกันใหม่”

“…..”

‘หลินว่านเอ๋อ’ทำเควสอยู่ ยังออกเกมไม่ได้ ไม่เลว ผมจะได้มีเวลาหาทางเข้าไปยังหุบเหวซะที

ติง ติง ติง

เสียงของหยดน้ำไหลรินมันเกิดมาจากสายฝนที่ตกลงมาเล็กน้อย สภาพภูมิประเทศที่นี่คงเป็นฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปีแน่ๆ ตอนนี้ฤดูในชีวิตจริงคือฤดูใบไม่ร่วง

แต่อย่างไรก็ตาม มันมีข้อยกเว้น ในเกม Destiny บางพื้นที่จะมีสภาพอากาศของมันเองเช่น เมืองมังกร มันมีสภาพภูมิอากาศเป็นปลายฤดูใบไม่ร่วง และต้นฤดูหนาว

ในป่าป้าฮวงมันเป็นฤดูร้อนตลอด และในหุบเขากิเลนพฤกษามันเป็นฤดูใบไม้ผลิตลอด ผมเงยหน้าขึ้นเพื่อรับแสงแดด ผมเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ผมจะลงไปยังที่นั้นได้ยังไงนะ ความคิดของผมสับสนไปหมด

วุ่วววววว

สายลมพัดผ่าน กระจายหมอกหนาแน่นไปทั่วทั้งหุบเหว ผมสังเกตเห็นบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ มันเหมือนกับกลุ่มของเถาวัลย์องุ่น ลอยอยู่ในอากาศ เหมือนมันเจริญเติบโตขึ้นมาจากในหุบเหวลึก ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน ทำไมผมถึงไม่เห็นมันก่อนหน้านี้นะ ผมเงยหน้าขึ้นไปดู

มันทำให้ผมโล่งใจทันที มันมีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านข้างของหุบเหว ลำต้นของมันใหญ่มาก อย่างต่ำก็ 10 เมตร ส่วนสูงของมันก็หลายร้อยเมตรเลยหละ มีเถาวัลย์ย้อยลงมาจากกิ่งของมันมากมาย นี่ผมต้องใช้ เถาวัลย์พวกนี้ลงไปข้างล่างงั้นซินะ

ผมเดินอ้อมหุบเหวไป จนมาถึงยังต้นไม้ใหญ่ ผมพยายามที่จะปีนขึ้นไป แต่ว่าตามลำต้นของมันมียางไม้ ทำให้มันลื่นมากๆ ผมลองพยายามซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ว่าการปีนต้นไม้นี่มันเป็นไปได้ยากมาก

ผมลองมองไปที่หุบเหว เลยเห็นว่าเถาวัลย์มันอยู่ห่างจากขอบถึง 30 เมตร ความคิดของผมมันขัดแย้งกันมาก ส่วนหนึ่งต้องการที่จะกระโดดเพื่อไปจับเถาวัลย์นั้น แต่อีกส่วนหนึ่งมันกลับไม่กล้า

มันเหมือนกับผมนั่งข้างๆ ‘หลินว่านเอ๋อ’ในชั้นเรียน ผมมองเห็นมือที่ขาวดั่งหิมะของเธอ ผมอยากที่จะกุมมือคู่นั้นไว้ แต่ในเวลาเดียวกัน ผมก็ไม่กล้าที่จะทำมัน ถ้าผมกุมมือเธอจริงๆหละก็ หาก’หลินเที่ยนหนาน’รู้เข้า มีหวังผมศพไม่สวยแน่ ผมกัดฟันแน่น ผมโยนความกลัวทิ้งกับสายลมไป

ผมมีโอกาสแค่ครั้งเดียว มันเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ ผมกำฝักดาบหยกแน่น ผมสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองพร้อมกับสะพายแผ่นหินโบราณไว้ที่หลัง พลางถอยหลังไป 10 เมตร ผมมองผ่านสายฝนไป และเล็งไปที่เถาวัลย์เพียงอย่างเดียว ผมต้องคว้ามันไว้ให้ได้ ผมวิ่งด้วยความเร็วที่สุด เท่าที่จะเร็วได้ มันคือเวลาแห่งการเดิมพัน

ไป!!!

ผมเกียบสะดุดล้มเพราะหินที่อยู่ตรงรอบนอกหุบเหว ผมพยายามยืดตัวออกให้ยาวที่สุด เพื่อที่จะให้มือของผมคว้ามันให้ได้ เดี่ยวก่อนนะ…..ร่างกายของผมตกลงมาเร็วเกินไป และร่างของผมก็ถูกลมพัด…

บ้าเอ้ย ถ้าเป็นแบบนี้ เถาวัลย์ต้องอยู่ห่างจากผมไปเรื่อยๆ แน่นอน ผมต้องเปลี่ยนวิธีการซะแล้ว สายลมพุ่งเข้ามาปะทะหน้าผมจากด้านขวา มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะลืมตาขึ้นมาดู ผมพยายามเหวียงแขนอย่างเร็วเพื่อให้สามารถไปจับเถาวัลย์ได้ หมับบบ ผ่ามือของผมสามารถคว้าเอาเถาวัลย์มาได้

แต่ด้วยการที่ฝนตกทำให้มันเกิดความลื่นขึ้นมา ทำให้ผมต้องไหลลงไป มือของผมกำมันไว้แน่น แต่ด้วยหนามจากเถาวัลย์ทำ ให้หนังจากมือของผม เกิดการฉีกขาดขึ้นหลายจุด ปรากฏตัวเลขขึ้นเหนื่อหัวของผมทันที นี่มันบ้าจริงๆ

129!

97!

111!

ด้วยเสียงขาดของเถาวัลย์ ทำให้ผมร่วงตกลงมาอีกครั้ง ตาของผมเบิกกว้างและพยายามยื่นมือไปคว้าเอาเถาวัลย์อีกเส้นทันที ผมตกลงไปเร็วจริงๆ ผมรีบใช้เถาวัลย์พันรอบแขนของผมทันที

“พ่อที่อยู่บนสวรรค์ มอบพลังให้ผมด้วยยย”

ผมตะโกนเสียงดังลั่น ร่างของผมเหวี่ยงไปมาในอากาศแล้วค่อยๆ หยุดลง

หุ้วว ในที่สุดก็หยุดแล้วแหะ  แผ่นหินโบราณที่อยู่บนหลังของผมเปล่งแสงเรืองรอง เหมือนกับจะด่าว่าผม ผมค่อยๆ ปล่อยมือออกแล้ว สไลลงไปเรื่อยๆ เหมือนว่าด้านล่างของหุบเหวจะอยู่ลึกลงไปถึง 300 เมตร และเถาวัลย์พวกนี้ ยาวไปจนถึง 20 ก่อนที่จะถึงด้านล่าง

ผมจับเถาวัลย์แน่นพร้อมกับขมวดคิ้ว ผมมองเห็นมอนสเตอร์ที่ด้านล่างของหุบเหว มันคือแมวเพลิงวิญญาณ มันดูเหมือนกับลูกแมวตัวน้อยๆ น่ารักๆ แต่มันก็มีขนาดพอๆกับ เสือเลยทีเดียว ร่างกายของมันถูกปกคลุมไปด้วยขนที่ดูสวยงาม ผมสามารถดูข้อมูลของมันได้

【แมวเพลิงวิญญาณ】 (มอนสเตอร์ระดับสูง)

ระดับ: 52

การโจมตี: ???

ป้องกัน: ???

HP : ???

ทักษะ: 【กรงเล็บกวาด】【พัดเพลิงเริงระบำ】

คำอธิบาย : แมวเพลิงวิญญาณเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับที่มีลักษณะเหมือนเปลวเพลิง ว่ากันว่ามันคือบรรพบุรุษของเสือและแมว กรงเล็บของมันแข็งแกร่งมากสามารถแยกหินออกจากกันได้อย่างง่ายดาย มันใช้ความน่ารักของมันในการหลอกล่อเหยื่อให้ตายใจ มันมีความสามารถในการควบคุมธาตุไฟที่สูงมาก โปรดระวังมันไว้ให้มากๆ เพราะคุณอาจกลายเป็นเถ่าถ่านเพราะมัน

“หึ ต้องฆ่ามันก่อนจะได้ทำอะไรซินะ”

ผมกระโดดลงไปเพื่อต่อสู้กับมันทันที ทันทีที่ผมลงสู่พื้นผมก็ชักดาบหยกออกมา พร้อมกับใช้ท่า [คอมโบ] ระดับ 5 ทันที แสงสีทองสี่สายปรากฏขึ้นพร้อมกับที่ผมจู่โจมไปที่มันทันที

“เมี้ยว เมี้ยว”

แมวเพลิงวิญญาณร้องออกมาอย่างน่าสงสารในขณะที่เลือดของมันค่อยๆ ลดลงไป

401!

398!

412!

374!

พลังป้องกันของมันไม่ได้เยอะเท่าไหร่ เยี่ยมเลย ผมเหวี่ยงดาบอย่างมีความสุขใส่มัน มันร้องให้พร้อมกับจ้องมองผม

ทันใดนั้นมันก็เหวี่ยงกรงเล็บของมันใส่ผมทันที ใบหน้าของผมปรากฏความร้อนและรอยกรงเล็บของมันขึ้นมาทันที

519!

แย่หละ พลังโจมตีมันเท่าไหร่กันเนี้ย ผมตั้งดาบในแนวนอนและใช้ท่า [คอมโบ] อีกครั้งทันที ผมเหวี่ยงดาบใส่มันอย่างมั่วซั่วทันที เลือดของมันกำลังลดลงอย่างเร็ว แต่ว่าผมก็ยังอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายพอสมควร ด้วยการโจมตีของมันเพียงครั้งเดียว ลดเลือดของผมไปถึง 25% ซึ่งมันน่ากลัวมากทีเดียว

ผมถอยหลังออกมาและใช้ท่า [Binding Chains] ทันที

เปรี้ยงงงง

โซ่ระเบิดขึ้นมาจากพื้นทันที แต่ความเร็วของมันเร็วเกินไปทำให้โซ่จับมันไม่ทัน ถึงแม้มันจะหลบโซ่จากพื้นได้แต่ โซ่ที่ลอยอยู่บนอากาศก็ครอบคลุมตัวมันไว้

แต่ก่อนที่จะจับมันได้ มันก็ใช้กรงเล็บทั้งสองข้างเข้าต้านทานพร้อมกับร่ายทักษะไปด้วย เปลวเพลิงพุ่งออกไปในรูปของใบพัด นี่ต้องเป็น [พัดเพลิงเริงระบำ] ร่ายรำแน่ๆ โบโบ้ก็อยู่ในรัศมีของทักษะนั้นด้วย

1007!

ผมมองไปที่ดาเมจนั้นอย่างตกตะลึง นี่คือพลังโจมตีของมอนสเตอร์ระดับ 52 จริงเหรอเนี้ย ในขณะนั้นเองโบโบ้ก็กำลังจะตาย ผมวิ่งใส่มันอย่างรวดเร็วพร้อมกับใช้ [ดาบน้ำแข็งทมิฬ] + [คอมโบ] ทันที

แมวเพลิงวิญญาณยังคงร้อง แต่ไม่นานมันก็ตายไปทันที มันดรอปเงิน 12 เงิน พร้อมกับหมวกหนังระดับทองแดง ค่าสถานะของหมวกก็ดูดีพอใช้ได้เลยหละ

หลังจากแมวเพลิงวิญญาณตาย ค่าประสบการณ์ของผมก็เพิ่มอย่างรวดเร็ว ในที่สุดผมก็ระดับ 46 แล้ว!!!

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments