I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 116 รักแรก

| Zhan Long | 1534 | 2361 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

(แปลโดยคุณ Chatethida Yhe )

“ใครสนหละ ว่าพวกเราจะกลับไม่ได้”

‘หว่านเอ่อ’ยิ้มมุมปากขณะที่เธอพูดถึงปัญหาที่ยังไม่ได้แก้ปัญหา ‘ตงเฉิงเย่ว’ขมวดคิ้ว

“อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้สนใจจริงๆจัง เซี่ยวหยาวนายต้องรับผิดชอบผลที่มันตามมาภายหลัง….”

ผมกำลังหลงไหลได้ปลื้มดาบใหม่อยู่ทำให้ผมไม่ได้ตอบบทสนทนาจาง’ตงเฉิงเย่ว’

“หลี่เซี่ยวเหยา นายมัวคิดอะไรอยู่ หา!?”

‘ว่านเอ๋อ’ จ้องมาที่ผม ผมเหมือนตื่นมาจากภวังค์และยิ้มตอบ

” ไม่มีอะไรน่า ฮ่าฮ่า เราจะไปหาอะไรกินตอนนี้เลยไหม?”

“เอิ่มมม นายช่วยสนใจ..”

“ไม่มีปัญหา! ไปกันเถอะ”

“…….”

‘ว่านเอ๋อ’อยู่ชุดรัดรูปของเธอที่ด้านหลังของผมที่ประตูทางเข้ามหาลัย ผมเดินล่วงหน้าไปบอกยามที่เฝ้าอยู่

“ช่วยเปิดประตูให้หน่อยได้มั้ยครับ”

ยามคนนั้นเงยหน้ามองมาที่ผม

“นี่มันดึกมากแล้วนะ พวกเธอจะไปไหนกัน…หืม”

“ไปหาของกินครับ!”

“กลับไปต้มมาม่าหรืออย่างอื่นกินนู่นไป… กฎก็บอกอยู่ว่าประตูจะปิดตอน 1.00 น. และจะไม่เปิดอย่างเด็ดขาด !”

เขามองไปที่ข้างหลังผมแล้วสังเกตเห็น’ว่านเอ๋อ’และ’ตงเฉิงเย่ว’

“โอ้ นายนี้ก็ร้ายไม่เบานะ ควงสาวสวยทีเดียวสองคนเลย นายจัดการพวกหล่อนยังไงหรอ”

ใบหน้าของว่านเอ่อขึ้นสีชมพู แต่เธอกลับปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แต่’ตงเฉิงเย่ว’ ถกแขนเสื้อของเธอขึ้นมาแล้วตอบด้วยความโกรธ

“อะไรนะ ไหนนายพูดใหม่อีกครั้งซิ!”

ยามไม่สนใจการตอบสนองของสองสาว ผมจึงต้องลากสองสาวออกไป

“เอาน่า เราหาทางออกที่อื่นก็ได้”

…… ขณะที่เราเดินไปตามทาง ‘ตงเฉิงเย่ว’ก็พูดขึ้น

“ไหนละทางออกอื่นของนาย?”

ผมยื่นแขนแล้วชี้ไปที่กำแพง

”เราจะปีนกำแพงไป”

“อะไรนะ?”

ตาของ’หว่านเอ๋อ’เบิกโพล่งและมองไปที่ผิวกำแพงเรียบเนียน

“เอิ่ม นายอาจจะทำได้นะ แต่นายอย่าลืมนะว่าฉันกับตงเฉิงเย่ว เราเป็นผู้หญิงนะยะ แล้วความสูงของกำแพงมันก็….”

‘ตงเฉิงเย่ว’ยิ้ม

“เซียวเหยา นายมายืนพิงกำแพงไว้ แล้วให้พวกเราปีนตัวนายขึ้นไป แล้วนายค่อยหาทางตามมา…งั้นเหรอ”

ผมขมวดคิ้ว

”ทำไมต้องทำอะไรให้มันยุ่งยากด้วย ผมสามารถกระโดดข้ามกำแพงนี่ทั้งที่ๆที่แบกพวกคุณสองคนได้ด้วยซ้ำ”

“บ้าน่า นายแข็งแรงขนาดนั้นเลยเหรอ”

‘ตงเฉิงเย่ว’ถามมาด้วยแววตาไม่เชื่อถือผมอย่างเต็มที่

“หึ งั้นทำไมเราไม่ลองหน่อยล่ะ”

‘ว่านเอ๋อ’เม้มริมฝีปากสีสดของเธอและยิ้ม

“ตงเฉิงเย่วไปก่อน….”

‘ตงเฉิงเย่ว’สั่นหัวคลอน

”ทำไมฉันจะต้องเป้นตัวทดลองก่อนล่ะ”

“เฮ เราจะได้กินข้าวกันมั้ยเนี่ย ฉันหิวแล้วนะ ถ้ารอนานๆฉันก็คงไม่มีแรงจะแบกเธอไปหรอกนะ”

ผมพูด ‘เฉิงเย่ว’ยอมอย่างจนใจ

“ก็ได้…ฉันไปก่อนก็ได้”

ผมยื่นมือไปอุ้มเธอไว้

“เอาล่ะ เกาะแน่นๆนะ จะได้ไม่ตก ถ้าเธอตกลงไปคงแย่มากแน่ๆ”

เธอพยักหน้าแล้วกระชับแขนโอบรอบคอผมแน่น มันเป็นความใกล้ชิดที่’ว่านเอ๋อ’ได้แต่ส่งสายตาประท้วงอยู่ด้านหลังอย่างเงียบๆ โดยที่ผมไม่รู้สึก ผมกระชับแขนให้มั่นแล้วปล่อยพลังปราณจากพื้นดินและผลักออกเพื่อที่จะพุ่งตรงไปยังด้านบนของกำแพงโดยไม่เสียสมดุลแม้แต่น้อย ผมมองไปข้างนอกจากโรงเรียนเป็นครั้งที่สอง แต่เห็นแค่เพียงความมืดและแสงจางๆที่พอให้มองเห็นพื้นเท่านั้น

ผมลงพื้นอย่างแผ่วเบาและพยายามพา’เฉินยู’ลง แต่เธอกลับต่อต้าน กระซิบเสียงต่ำว่า

“กอดฉันต่อไปได้ไหม….”

ผมมองไปที่เธอ

“ตงเฉิงเย่ว …. อย่าเลยนะ ว่านเอ๋อกำลังรออยู่นะ…”

“อะอื้ม”

การที่ผมกระโดดกลับไปกลับมาข้ามกำแพงเพียงไม่กี่ขึ้นตอน ปากเล็กของ’ตงเฉิงเย่ว’ก็ยิ้มด้วยความชื่นชม

“นี่….มันมากกว่าสถิติในโอลิมปิดอีกนะเนี่ย นี่มันน่าเหลือเชื่อมากๆ”

‘หลินหว่านเอ๋อ’ยืนมองมาทางผมด้วยท่าทางยั่วยวนและสายตาอันชั่วร้ายมาทางผม ผมผายมือไปที่เธอ

“เอ้า ตาของเธอแล้ว”

“อื้ม”

เธอเข้ามาและกอดผมรอบคอด้วยร่างกายอ่อนนุ่ม ผมเอื้อมมือโอบที่เอวของเธอและจับเบาๆ เมื่อผมสัมผัสถึงความอ่อนนุ่มของ 34Ds ที่กดทับกับหน้าอกของผม ผมก็หน้าแดงและแอบสติพร่ามัวไปนิดนึ่ง ‘หลินว่านเอ๋อ’มองมาที่ผม ใบหน้าของเธอก็เป็นสีแดงเช่นกัน

“ อย่าคิดอะไรสกปรกสิ แค่กระโดดก็พอแล้ว….”

เป็นครั้งที่สองที่ผมคิดว่าเธออ่านใจได้ถูกเวลาเสียจริง ผมเกร็งต้นขาและเพิ่มพลังโดยไม่ต้องคิด

“อ๊ะ!”

ผมได้ยินเสียตงเฉิงเย่วกรีดร้องจากด้านหนึ่งของกำแพง และผมก้มองไปทางต้นเสียงนั้น บ้าเอ้ย!เธอจะมาอยู่ใกล้ทำไมเนี่ย? เรากำลังจะตกไปทางเธอแล้ว! ไม่มีทางเลือกอื่น ผมบิดตัวกลางอากาศและประคอง’หว่านเอ๋อ’ ให้อยู่ด้านบนก่อนที่จะตกลงไป ให้หลังของผมบรรเทาแรงกระแทน

ปึง ฝุ่นฟุ้งกระจาย ผมส่งเสียงลอดไรฟันด้วยความเจ็บ กระดูกผมกระทบเข้ากับอิฐ โชคดีที่ร่างกายของผมมีความต้านทานมาจากการฝึก ไม่งั้นคงเจ็บหนักกว่านี้แน่ ผมครางหงิงง

‘ว่านเอ๋อ’ตกใจมากจึงกอดผมแน่น และ 34Ds ของเธอที่กดทับมาที่หน้าอกมากกว่าเดิม ภายใต้แสงจันทร์ผมก็เห็นใบหน้าของเธอในมุมมองที่แตกต่าง มันเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการเจ็บหลัง เธอเขินและรีบลุกขึ้นปัดตัวเอง

“นายโอเคไหม?”

“ผมไม่เป็นไร….”

ผมพูด แล้วขบฟันกลืนความเจ็บปวด

“ผมสบายดี หว่านเอ๋อ ไปหาไรกินกันได้และ”

“อืม”

ผมยืนขึ้นและรู้สึกปวดหลัง ผมไม่ได้เป็นร่างเหล็กไหลอะไรหรอกนะถึงจะได้ไม่รุ้สึกอะไร มันโครตเจ็บเลยโว้ย! ‘หว่านเอ๋อ’และ’เฉินเย่ว’ช่วยพยุง ในไม่ช้าเราก็มาถึงร้านแผงลอยที่ใกล้ที่สุด

ผมปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าและสั่งอาหาร อาหารที่ถูกจัดทำอย่างรวดเร็วของมืออาชีพไม่นานผมก็ได้ทานอาหารไปพร้อมกับดวงจันทร์สว่างและสาวสาวสวยที่ประกบข้างของผม …………….

สองนักศึกษา ที่อายุประมาณ23 ปีนั่งอยู่ข้างหลัง ที่กินไปคุยไปอย่างเร่งรีบ

“ซงซง นายไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานเหรอ เมื่อวานตอนผมออกเกมผมก็สังเกตเห็นว่ามีคนได้ดาบสีม่วงที่เมืองป้าฮวง มันเป็นดาบเรนฟรอส นายคิดว่าคนที่มีดาบระดับม่วงเลเวล 48 ที่ดีกว่าดาบสวรรค์สั่งของเจี้ยนเฟิงซาน…. เป็นใครกันนะ?”

เพื่อนของเขายกเบียร์ขึ้นมาดื่มและยิ้ม

“มันอาจจะเป็นของเจี้ยนฟางซาน เหยียนจ้าวอู๋ซวง นายพลหลี่หมูหรือ [Wrath of the Heroes] มีเพียงไม่กี่คนในเมืองป้าฮวงที่มีความแข็งแกร่งพอที่จะฆ่าบอสของระดับม่วง คนที่ไม่มีความสามารถมากพอ ไม่มีใครกล้าท้าทายบอสระดับม่วงหรอกนะ “

‘ซงซง’ถอนหายใจ

“ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เราจะได้พบดาบระดับม่วง ถ้าเราได้รับแค่เพียงคนใดคนหน่อย ก็น่าจะพอให้คนอื่นเข้าร่วมในสตูดิโอของเรา นี่ก็ผ่านไป 4 วันที่แล้วที่เราประกาศรับคน แต่เราเรายังไม่มีคนมาสมัครแม้แต่คนเดียว ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไป เราต้องหาวิธีอื่นที่จะเพิ่มกำลังให้คนของเรา”

“อืม ขอคิดก่อนนะ…. ทำไมนายไม่ทำโปรเตอร์ ถ้าฉันไปที่หอพักหญิงที่มหาลัยทำไมเราไม่โฆษณาเครื่องสำอางล่ะ?พวกหล่อนชอบการแต่งหน้า แล้วพวกหล่อนก็อาจจะชอบกิลด์ของเรา ถ้าเราสามารถรับนักศึกศาเหล่านี้เข้ามา เราก็สามารถดึงแฟนๆของพวกหล่อนเข้ามาได้ด้วย และเราก็จะได้ครองเมืองป้าฮวง”

“ฉันเริ่มจะเข้าใจความคิดของนายแล้ว บ้าเอ้ย ฉันจะไปขายเครื่องสำอางพรุ่งนี้ นายอย่าลืมโพสโฆษณาไว้นะ”

“แน่นอน”

เราทั้งสามคนนั่งทานอาหารอย่างเงียบ ขณะที่ทั้งสองเสร็จสิ้นการสนทนา ‘หลินว่านเอ๋อ’กำลังกลั้นหัวเราะ และผมพยายามนั่งตัวตรงและทำจิตให้สงบ ไม่นานนักเราก็กินเสร็จแต่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถเขาไปด้านในได้ และขาเข้าก็ยากกว่าขอออกมาด้วยนี่สิ

“เราจะทำไงดี ถึงเราจะไปถึงหอได้ แต่ฉันว่าผู้คุมหอต้องว่าเราแน่ๆเลย”

“ใช่ฉันเห็นมีนักศึกษาหลายคนที่พยายามจะปีนเข้าไป แต่เขาก็ถูกจับโดยผู้คุมหอ และวันรุ่งขึ้นก็มีประกาศทั่วมหาลัย และพ่อแม่ของเขาก็มาที่มหาลัย มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ”

‘หว่านเอ๋อ’จ้องมองผมเงียบๆ ผมเม้มปาก

“แล้วถ้าพวกเขาโทรเรียกพ่อแม่ของหลินว่านเอ๋อ เขาจะต้อนรับพ่อแม่ของเธอยังไงดีนะ….”

“ฉัน….”

‘เฉิงเย่ว’หมุนไปรอบๆและมองไปที่ไฟที่อยู่ห่างไกล

“งั้น เราไปพักที่โรงแรมไหม เราจะกลับมาอีกทีตนพรุ่งนี้เช้าแล้วเราจะได้ไม่ได้ถูกเรียกพ่อแม่มาดีไหม?”

“เธอว่าไงว่านเอ๋อ”

‘หลินหว่านเอ๋อ’ หลับตาลงและพูดว่า

“ดีเลย….”

แล้วเราทั้งสามก็พบการพจญภัยใหม่ ที่ย่านโรงแรมหลังจากที่เข้าไปสอบถามแล้วทุกแห่งล้วนเต็มไม่มีห้องว่างไปหมด ! ‘ตงเฉิงเย่ว’หาว

“ลืมไปเลยว่านี่มันเป็นคืนวันศุกร์ที่คนแก่จะออกมาเช่าโรงแรม….”

ผมมองเวลา ตอนนี้ตีสามแล้ว ‘หว่านเอ๋อ’นอนหลับไปกับแขนของผมเกือบสมบูรณ์ เธอพยายามจะให้ตาเปิด แต่เหมือนขนตาของเธอนั้นจะหนักเกินไปจนไม่สามารถบังคับให้เปลือกตาของเธอเปิดได้อีกต่อไป ผมขมวดคิ้ว

“ทางทิศตะวันออกมีโรงแรม4ดาวอยู่นะ เราไปดูที่นั่นกัน”

“อืม…..”

เราพากันเดินไปที่โรงแรมนั้น และในที่สุดเราก็พบห้องว่า

“มีเพียง 1 ห้อง”

เพียง….หนึ่งห้อง! ผมรู้ว่ามันไม่ควรที่ผมจะไปนอนกับสองสาวแต่ผมก็ง่วงจนไม่สามารถมีอารมณ์ตื่นเต้นใดๆได้อีกแล้ว ผมเอาเงินจ่ายไปบางส่วน

“หนึ่งห้อง แล้วเราจะรีบขึ้นไป”

‘ตงเฉิงเย่ว’เงยหน้ามาที่ผม

“เซี่ยวหยาว นายจะนอน 3 คนห้องเดียวเหรอ”

“ใช่ หรือคุณจะไปนอนริมถนนล่ะ”

‘ตงเฉิงเย่ว’ส่ายหัวทันที

“ไม่เอาอ่ะ 3 คน 1 ห้องนี่แหละดีแล้ว”

เข้ามาภายในห้องที่กว้างขวาง’ว่านเอ๋อ’ก็ตื่นตัวเล็กน้อย

“นี่ เราจะแบ่งกันนอนยังไง”

“ผมนอนบนโซฟาส่วนคุณสองคนนอนบนเตียงแล้วกัน”

‘ว่านเอ๋อ’พยักหน้า

“ฉันอยากอาบน้ำ นายช่วยออกไปก่อนได้มั้ย”

ผมมองไปรอบๆห้อง

“ห้องตั้งกว้างขนาดนี้ผมยังต้องออกไปอีกเหรอ”

“งั้นห้ามแอบดูนะ”

“อือ”

ผมไปที่โซฟา และหลับไป …………………….

‘ตงเฉิงเย่ว’และ’หวานเอ๋อ’อาบน้ำด้วยกัน เสียงหัวเราะปะปนกับเสียงของฝักบัวดังมาจากห้องน้ำ

“หวา หว่านเอ๋อ ร่างกายเธอน่าอิจฉามากเลย”

“ว้าย อย่าจับสิ”

“หว่านเอ๋อ นั่นมันไซส์เท่าไหร่เหรอ?”

“ฉันพูดไม่ได้….มันน่าอายจะตาย”

“หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้วเธอคิดว่าเซียวเหยาจะทำอะไร?”

“ฉันไม่รู้….”

หลังจากครึ่งชั่วโมงสองสาวก็เดินออกมาในผ้าขนหนู และเห็นร่างของ’เซียวเหยา’ที่นอนหลับอยู่บนโซฟาด้วยเสียงกรนที่เหมือนฟ้าร้อง

“บ้าเอ้ย ผู้ชายคนนี้นี่มัน….”

มุมปากของ’หว่านเอ๋อ’โค้งต่ำลงและเธอก็ไม่แน่ใจว่า แท้จริงแล้วเธอโกรธหรือผิดหวังกันแน่

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments