ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” เพร้ง!!! “
ในตอนนั้นชายวังกลางคนเขวี้ยงถ้วยสุราภายในมือ จากนันก็ลุกขึ้นตะโกนเสียงดัง
” ชูเฟิงมันเป็นแค่เด็กหนุ่ม เขาจะมีปัญญาทำเรื่องต่างๆน่ากลัวแบบนั้นได้ยังไง ไหนเจ้าลองบอกมาสิว่าเขาทำได้ยังไง มันบ้าชัดๆหากเขาจะไปบุกนิกายขาว ช่างเป็นอะไรเพ้อฝัน “
” จากที่ข้าได้ยินมา เกี่ยวกับข่าวลือของชูเฟิง มันเป็นเรื่องไร้สาระชัดๆ ข้านี่ล่ะที่ไม่เชื่อคำพูดพวกนั้น”
” เด็กหนุ่มอายุ 16 ปี กับ หญิงสาว อายุ 15 ปี สามารถเข้าสำนักเทพอัคคีได้ง่ายแบบนั้นเลยหรอ และยังปล้นสุสานบรรพชนของสำนักเทพอัคคีจนหมดเกรี้ยง ? นี้ทั้งหมดนี้มันเรื่องไร้สาระสิ้นดี “
ชายวัยกลางคนที่ดูเมามาย ทำให้เขาพูดออกมาอย่างโผงผาง
” ถูกต้อง เอ๋อนิ๋ว ท่านพูดถูก เจ้าชูเฟิงมันก็แค่เด็กเหลือขอ จะมาเทียบความสามารถเท่ากับ เอ๋อนิ๋วของเราได้งั้นหรอ มาเชิญดื่ม เชิญดื่ม “
เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์นั้นทุกคนก็ยังดื่มเหล้าและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน แต่เดิมพวกเขาเป็นกลุ่มคนเล็กๆแม้ว่าพวกเขาจะพอมีพลังวิญญาณที่ไม่เลว พวกเขาก็มีนิสัยทีน่ารังเกียจ แล้วแต่ละคนจัดว่าเลวแบบไร้ที่ติ
พวกเขาไม่สนใจคุณธรรมหรือใดๆ พวกเขาสนใจแค่ความสุขตัวเองเท่านั้น พวกเขามักจะทำทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ ดังนั้นเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่โต้เถียงเรื่อง ‘ชูเฟิง’ จึงได้แต่เห็นด้วยกับ ‘เอ๋อนิ๋ว’ พร้อมกับเริ่มดูถูก ‘ชูเฟิง’
” ถูกต้อง หากชูเฟิงมันกล้ามาปรากฏต่อหน้าข้า เด๋วข้าจัดการมันเอง ข้าจะอัดมันให้หนัก จนจำพ่อตัวเองไม่ได้เลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ!!!! “
” ให้ตายเถอะ!! เป็นแค่เด็กแท้ๆจะมีความแข็งแกร่งที่ท้าทายสวรรค์ได้ยังไง ? “
ผู้คนก็เห็นด้วยกับผู้ชายที่ชื่อ ‘เอ๋อนิ๋ว’ เขามีความมั่นใจอย่างมากขณะที่ยืนอยู่บนโต๊ะพร้อมกับส่งเสียงโอ้อวด
” มีใครเคยเห็น ชูเฟิงมาก่อนบ้าง!!! “
ในตอนนั้น ‘หยาน หยางเทียน’ ที่นั่งอยู่บนหัวโต๊ะที่เงียบมานานก็พูดขึ้นมา
” เอ๊ ไม่เคยสักครั้ง “
ฝูงชน ได้แต่ส่ายหัวพร้อมๆกัน
” ประมุขพรรคหยาน ท่านคงไม่เคยพบเขามาก่อนหรอกนะ? “
” ใช่! ! ! ! ! ! ประมุขหยาน ข้าได้ยินว่าท่านมาจาก อาณาจักรมังกรฟ้าหนิ ? อาจเป็นไปได้ที่ท่านจะเคยพบ ชูเฟิง ? “
พวกเขาซอกแซกถาม
” แน่นอน ว่าข้าเคยพบเขามาก่อน ครั้งแรกที่ข้าพบตอนนั้น ชูเฟิง ยังอยู่ในอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ แต่เวลานั้นเขากับสังหารคนที่อยู่จุดสูงสุดของอาณาจักรแก่นแท้ได้ “
” ดังนั้น ข้าจึงไม่พูดเรื่องนี้กับพวกเจ้าหรือดูถูก ชูเฟิง เพราะเขานั้นมีความสามารถที่เหนือสามัญสำนึกดั่งในข่าวลือ “
” ไอ้เจ้านั้นมันโหดร้ายอย่างมาก เขากล้าทำทุกอย่างให้ศัตรูได้รับความทรมาน และผู้คนที่ทำให้เขาโกรธล้วนแต่มีจุดจบที่ไม่ดี ตัวอย่างคำพูดพวกเจ้า หากเขาได้ยินมัน ต่อให้พวกเจ้ามีกี่ชีวิตก็ไม่พอ “
‘หยาน หยางเทียน’ กล่าวอย่างจริงจัง ขณะที่สายตาสั่นระลัว บอกได้เลยขณะที่เขาพูดก็แสดงความกลัวออกมาให้เห็น
ทันใดนั้น ผู้คนที่ได้ยิน ก็ตกใจอย่างมาก ทุกคนต่างเกิดความหวาดกลัว แม้แต่ ‘เอ๋อนิ๋ว’ ที่ยืนอยู่บนโต๊ะก็ถึงกับนิ่งไปโดยไม่กล้าจะขยับ
เพราะทุกคนที่อยู่ในนั้น ‘หยาน หยางเทียน’ อาจกล่าวได้ว่าเป็นคนที่น่าเกรงขามมากที่สุด อีกทั้งเขายังมากจากอาณาจักรมังกรฟ้า ดังนั้นคำพูดของเขาทุกคนจึงเชื่อถือ หากเขาบอกว่า ‘ชูเฟิง’ แข็งแกร่ง ทุกคนก็เชื่อว่า ‘ชูเฟิง’ แข็งแกร่ง
” ฮ่าๆๆ ล้อเล่น ข้าจะเคยพบชูเฟิงได้ยังไง ? แม้ว่าอาณาจักรมังกรฟ้าจะไม่กว้างใหญ่นัก แต่ก็ไม่ใช่อาณาจักรเล็กๆ เมื่อตอนที่ข้าอยู่ในอาณาจักรมังกรฟ้า ข้านั้นเก็บตัวฝึกฝนทั้งวัน และข้าก็ไม่ได้มีชื่อเสียง ข้าจึงไม่เคยพบกับ ชูเฟิง มาก่อน “
เห็นว่าบรรยากาศเริ่มอึมครึม ‘หยาน หยางเทียน’ ก็หัวเราะเสียงดัง
” ฮ่า ฮ่า ประมุขพรรคหยาน มุขของท่านทำพวกเรา ขี้หด ตดหายเลยทีเดียว!!! “
” พี่น้องทุกท่าน มา มา ดื่มต่อกันเถอะ วันนี้ ไม่เมา ไม่เลิก!!! “
ฝูงชนก็พากันระเบิดเสียงหัวเราะ พร้อมกับชนแก้ว
ขณะที่พวกเขาดื่มสารุจนเมาได้ที่ความคิดจังไรก็แล่นเข้ามาในหัว บางคนเริ่มหยุดการควบคนตนเองและปล่อยตัวไปตามสัญชาตญาณสัตว์ป่าออกมาภายในตำหนัก บางคนก็เริ่มขยายมืออันชั่วร้ายไปที่ หญิงสาวชาวบ้าน
หญิงสาวบางคนที่รู้ว่าคนเหล่านั้นมีประสิทธิภาพ บางคนจึงยอมเต็มใจปรนิบัติตามความต้องการของพวกเขา เพราะว่ามันอาจช่วยให้ชีวิตพวกนางดีขึ้นในวันข้างหน้า และได้เพลิดเพลินความมั่งคั้งอันยิ่งใหญ่
แต่หญิงบางคนที่ไม่ต้องการจะสูญเสียความบริสุทธิ์พวกนางจึงทำทุกอย่างเพื่อขัดขืน แต่พวกนางก็ไม่อาจเอาชนะกำลังคนพวกนั้นได้ ดังนั้น ฉากภายในตำหนัก เป็นเต็มไปด้วยความรุนแรงและป่าเถื่อน
‘เอ๋อนิ๋ว’ เป็นคนที่เหล่าสตรีไม่อยากจะเข้าใกล้มากที่สุด เพราะเขามักจะใช้กำลัง บางคนก็ทุกเขาทุบตีจนตาย แต่นั้นก็ยังไม่สามารถตอบสนองความอยากของเขาได้ ในที่สุดเขาก็ทิ้งสายตาไปที่หญิงสาวชาวบ้าน ที่น่าตาคล้ายกับ ‘เออหย๋า’
” ฮ่าๆ ที่รักมาหา ท่าน เอ๋อนิ๋วเร็ว ข้าจะแสดงความลูกผู้ชายที่แท้จริงให้เห็น “
‘เอ๋อนิ๋ว’ กระโจนเข้าใส่หญิงสาวที่น่าตาคล้ายคลึงกับ ‘เออหย๋า’
” ไม่นะ!!!! ข้าร้องล่ะ ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ “
หญิงสาวร้องไห้อ้อนวอน ใบหน้าของนางขณะนั้นเต็มไปด้วยน้ำตา
” บัดซบ!!! กล่าขัดขืนข้างั้นหรอ!!!! “
‘เอ๋อนิ๋ว’ ถลึงตาใส่ด้วยความโกรธ จากนั้นก็เหวี่ยงแขนออกไป หักแขนสองข้างของหญิงสาวผู้นั้น
” อ่า ~~~~~ “
นางร้องออกมาด้วยความทุกข์ทรมาน ใบหน้าของนางกลายเป็นสีดำขาวจนนางแทบจะหมดสติ
” ฮ่าๆๆ งดงาม มานี่ที่รักของข้า “
ยังไรก็ตาม เสียงร้องของหญิงสาวมันกับทำให้ ‘เอ๋อนิ๋ว’ คึกครึ้นเข้าไปใหญ่ จากนั้นเข้าก็เริ่มลงมือฉีกเสื้อผ้าของหญิงสาว
เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนั้น ‘หยาน หยางเทียน’ ได้แต่นั่งทำเป็นไม่สนใจ เขาทำอย่างนั้นเพราะรู้ว่าบอกคนไร้ศีลธรรมแบบนั้นก็เปล่าประโยชน์ ไม่มีใครในที่นี่เป็นคนดีสักคน แล้วเหตุผลที่เขาก่อตั้งพรรคขึ้นมา ก็เพื่อครอบครองพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมด เพื่อได้เสพสุขต่อไป
* ตูมมมมม *
ทันใดนั้นหลังคาก็แตกลงมาจากด้านบน ทำให้พื้นในตำหนักเต็มไปด้วยเศษหินที่แตกกระจัดกระจาย จนพวกเขาตกใจลุกขึ้นดู หญิงสาวบ้านขณะนั้นได้แต่วิ่งหนีพร้อมกับกรีดร้อง
” มันเกิดอะไรขึ้น ? “
เพดานตำหนักที่เพิ่งสร้างขึ้น กับแตกกระจายจนเป็นหลุมขนาดใหญ่ นั้นทำให้ ประมุขพรรค แสงส่องนภา โกรธอย่างมาก
ตอนนั้น ชายหนุ่มและหญิงสาว ก็ค่อยๆลอยลงมาตรงหลุมขนาดใหญ่ที่เป็นช่องโหว่ ที่สุดเขาก็เข้ามาถึงภายในตำหนัก 2 คนนั้น ไม่ใช่ใคร เขาก็คือ ‘ชูเฟิง’ และ ‘จื่อหลิง’
หลังจากที่ผู้คนเห็น ‘ชูเฟิง’ และ ‘จื่อหลิง’ ทุกคนตกใจอย่างมาก
พวกนั้นตกใจมากจนอ้าปากค้าง แต่ตอนนั้น’ชูเฟิง’ได้เปลี่ยนรูปลักษร์ภายนอก จึงไม่มีใครสามารถจำ ‘ชูเฟิง’ ได้
เหตุผลที่พวกเขาตกใจนั้น เป็นธรรมดา เพราะความงามของ ‘จื่อหลิง’ ที่งดงามราวกับเทพธิดา จนสะกดสายตาของเหล่าบุรุษเอาไว้
” โว้ว ให้ตายสิ นี่เป็นสิ่งที่งดงามที่สุดในโลกเลย ข้าไม่ได้ฝันอยู่ใช่ไม๊ ? “
หลังจากเห็น’จื่อหลิง’ สายตาของ ‘เอ๋อนิ๋ว’ ก็เป็นประกายขณะที่กำลังฉีกเสื้อผ้าของหญิงสาว น้ำจำนวนมากไหลทะลักออกมาจากภายในปากเขา ขณะนั้นเขาลุกขึ้นยืน และขยายมือที่ชั่วร้ายมาที่’จื่อหลิง’
” บ้าเอ้ย!!! เราเกือบมาไม่ทันการณ์ “
ในตอนนั้น สายตาของ’ชูเฟิง’ เฉียบคมอย่างมาก เขามองออกทันทีว่าหญิงสาวข้างๆ ‘เอ๋อนิ๋ว’ นางมีน่าตาคล้ายกับ ‘เออหย๋า ‘
ปัจจุบัน หญิงสาวผู้นั้นใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาและเสื้อผ้าของนางทั้งหมดถูกฉีกกระจุย แม้แต่แขนทั้งสองข้างของนางก็ยังถูกหัก นางในตอนนั้นได้แต่ร้องไห้อย่างเจ็บปวด แต่โชคยังดีที่พรหมจรรย์ของนางยังคงอยู่ ทั้งหมดนี้ล่วนเป็นฝีมือของ ‘เอ๋อนิ๋ว’
ซึ่งการกระทำของ ‘เอ๋อนิ๋ว’ ทำให้ประกายโทสะของ’ชูเฟิง’ ถูกจุดขึ้น
* โพล๊ะ* .
‘ชูเฟิง’ไม่พูดพล่ำทำเพลง เขาในตอนนั้น วิ่งไปที่ ‘เอ๋อนิ๋ว’ พร้อมกับใช้เท้า เตะอัดเข้าไปที่หว่างขาของ ‘เอ๋อหนิ๋ว’
พลังของเท้า’ชูเฟิง’อัดแน่นไปด้วยพลังอำนาจ จนทำให้ขาที่สามของ ‘เอ๋อนิ๋ว’ แตกกออกเป็นชิ้นๆ
” อ้าาาา ~~~~~ “
ความเจ็บปวดที่ไข่หำทำให้ ‘เอ๋อนิ๋ว’ ร้องไห้ออกมาอย่างทรมาน พร้อมกับเริ่มดิ้นทุรนทุรายกับพื้น เลือดสีแดงฉานไหลเต็มพื้นไปทั่ว จนทำให้คนที่เห็นแบบนั้นเกิดความกลัวจนสุดจะพรรณนา
..: เป็นไงมึง ไข่หำแตกเลยล่ะสิ ซ่าดีนัก!!!!
: สมควรแล้ว สมควรแล้ว สารเลวแบบนั้น น่าจะโดนยิ่งกว่านี้เลยด้วยซ้ำ
: เป็นนายจะทรมานมันยังไง
: ใช้อำนาจพลังถ่างตา มันไว้ แล้วใช้ธนูร้อยแปลง สร้างเข็มยาวๆเล่มหนึ่ง แล้วค่อยๆจิ้มเข้าไปที่ลูกตามันฝังเอาไว้ ส่วนไอจู๋มัน ให้ปลอกเปลิอกออกให้หมดใช้ยันต์โจมตี แปะไว้ จากนั้นก็ทำให้มันระเบิด ใช้อำนาจพลังวิญญาณยิ้อชีวิตมันไว้ จากนั้นถอนเล็บมันออกทีละนิ้วแล้วใช้ตะปู ตอกลงไปกับพื้นทีละนิ้ว ทีละนิ้วกันมันดิ้น แล้วเอาศพที่ผู้หญิงที่มันฆ่า ทุบมันจนตาย
: นี้มันนิยายจีน ไม่ใช่นิยายฆาตกรโรคจิต!!! สำหรับกูแค่หำแตก ก็เหมือนตายอยู่แล้วยังจะทรมานอีก มืงแม่งโหดดดด!!!
ที่มา: