I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 435 – หยาน หยางเทียน

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

หลังจากได้รู้ความจริง’ชูเฟิง’ก็ไม่รอช้ารีบพาแม่ของ’เอ้อหยา’กลับไปที่ห้องครัวและเล่าเรื่องราวให้’จื่อ หลิง’ฟัง

หลังจาก’จื่อ หลิง’ รู้เธอก็โกรธมาก เธอก็ได้บ่นบางอย่างอยู่ซักพัก เรื่องจึงจบโดยที่ยังไม่ได้ทานอาหารและ’ชูเฟิง’ก็ต้องออกไปพร้อมกับ’จื่อ หลิง’

อย่างไรก็ตาม ‘จื่อ หลิง’ กับ’ชูเฟิง’ บินขึ้นไปบนท้องห้าและมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่แม่ของ’เอ้อหยา’ได้บอกไว้ ภายในเมฆสีขาวที่หนึ่งที่อยู่เหนือหมู่บ้าน มีเงา 3 เงาปรากฏขึ้นบนเมฆนั้น

ใน 3 คนนั้น มีชายวัยกลางคน 2 คนและมี 1 คนที่เป็นชายชรา พวกเขากำลังลอยอยู่บนอากาศ และไม่มีออร่าใดๆกระจายออกมาจากพวกเขาเลย มันเหมือนกับว่าพวกเขานั้นไม่อยู่ที่นั่น

พวกเขาสวมเสื้อคลุมสีทองยาวยันขา เสื้อผ้าแบบพิเศษนี้เป็นของราชวงศ์เจียงอย่างไม่ต้องสงสัย

“ไปรายงานองค์หญิงบอกว่าพบชูเฟิงกับจื่อหลิง “

ชายชราผมสีขาวพูดกับผู้ชายคนหนึ่งวัยกลาง

“รับทราบ.”

ได้ยินคำพูด ชายคนนึงก็หยิบกระดาษแล้วก็พู่กันออกมาเขียนจดหมายแล้วหยิบกรงนกออกมาจากกระเป๋าเขา และทำเครื่องหมายพิเศษกับนกส่งสารนั่นแล้วปล่อยให้นกนั่นบินไป

“ติดต่อกับพวกอื่นๆด้วยว่า ก่อนที่องค์หญิงจะมาที่นี่จะต้องจะเป็นทั้ง 2 เท่านั้น “

ชายชราผมขาวพูดกับชายวัยกลางคน

“ใช่ครับ.”

ในการตอบสนองที่ชายวัยกลางคนไม่ได้ล้อเล่น เขาเอาออกอุปกรณ์พิเศษและปล่อยออกมาระลอกคลื่นพลังงานที่มองไม่เห็นและตรวจสอบไม่พบ

หลังจากเห็นชายวัยกลางคนทำตามคำสั่ง ชายชราก็สะบัดแขนตนเอง และก่อให้เกิดพลังบางอย่างระเบิดออกมาทำให้ผมเขาค่อยๆเลือนหายไป

ห่างออกไป 300 ไมล์จากครอบครัวของเอ้อหยา มีเทือกเขาขนาดใหญ่แต่ก็ไม่แน่ใจ เทือกเขานั้นเป็นบริเวณชายแดนอาณาจักรหยวน มีสำนักน้อยมากที่ตั้งอยู่ที่นั่น และเป็นสำนักเล็กๆเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่เพียงระดับแก่นแท้วิญญาณเท่านั้น

อาณาจักรที่แข็งแกร่งอย่างอาณาจักรหยวน ผู้เชี่ยวชาญที่ยังไม่ถึงระดับอาณาจักรสวรรค์จะถูกเรียกว่าเป็นบุคคลระดับ3

แม้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์แต่เขาก็ถูกจัดให้อยู่เพียงระดับ2เท่านั้น ส่วนคนที่อยู่ในระดับ 1 คือผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในระดับอาณาจักรสวรรค์และมีความสามารถที่เกิดสามัญสำนึกทั่วไป

ในตอนนี้อาณาจักรหยวนนั้นมีเพียงคนเดียวที่อยู่ในระดับ 1 และเขาคือคนของนิกายไป๋

นิกายไป๋ก็คล้ายกับ สำนักหลิง หยุน เพื่อที่จะรักษาจุดยืนที่เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักร พวกเขาจึงได้ทำการจัดการกับสำนักอื่นๆ เพื่อไม่ให้พัฒนาขึ้นมาเทียบเท่าสำนักตน

แต่ว่าเนื่องจากการปรากฏตัวขึ้นของชายชราคนหนึ่งเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ทำให้ชายแดนรกร้างที่มีทรัพยากรบ่มเพาะและผู้ฝึกบ่มเพาะตนเพียงน้อยนิดเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน

สำนักขนาดเล็กๆรอบๆนั้นถูกจัดการโดยชายชราผู้นั้น ใครที่ไม่คล้อยตามจะถูกฆ่าตาย มีแต่ผู้ที่ยอมคล้อยตามเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้มีชีวิตอยู่

เป็นเวลาหลายเดือนนั้นเขาได้ใช้วิธีโหดร้ายเพื่อผลักดันตนให้กลายเป็นผู้ปกครองสถานที่แห่งนี้เขาได้คัดเลือกบุคคลที่มีความแข็งแกร่งพอมาอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของเขา

เมื่อไม่นอนมานี้เขาได้สร้างนิกายของตนที่ภูเขาที่อยู๋ห่างจากบ้านของ’เอ้อหยา’เป็นระยะทาง 300 ไมล์

บนภูเขานี้ อาคารขนาดใหญ่ได้ถูกสร้างขึ้นมันเป็นอาคารที่มีโครงสร้างใหญ่มาก จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างนิกายอย่างเร็ว

แม้ว่าผู้ฝึกตนจะมีความสามารถเกินกว่าคนทั่วไป ที่จะสามารถทำลายหินทุบภูเขาอย่างง่ายๆแต่ก็ไม่น่าเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจเมื่อเขาต้องมาทำเรื่องเช่นนี้

และสุดท้ายการสร้างตำหนักขนาดใหญ่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาก็เป็นหน้าที่ของพวกไพร่ ดังนั้นในการสร้างนิกายครั้งนี้ชายชราลึกลับไม่ได้ลงแรงอะไรเลย

คนงานทั้งหมดของเขานั้นคัดกรองมาจากคนที่อาศัยอยู่แถวๆนี้ พวกเขาต้องทำงานทุกๆวันและเกือบทุกวันที่มีคนทำงานไปจนตาย

“พี่ชาย หยาน ข้าขอแสดงความยินดีด้วย ด้วยความเร็วเช่นนี้นิกายของท่านจะสร้างเสร็จในไม่กี่เดือน “

“อ่าข้าจะเรียกพี่ชายหยานไม่ได้แล้วสินะต้องเรียกว่าผู้นำนิกายหยาน”

“ฮ่าๆๆๆ ถูกแล้ว ถูกแล้ว ผู้นำนิกาย หยาน ฮ่าๆๆๆ… . “

ภายในตำหนักที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว มีผู้ฝึกตนบางส่วนยกถ้วยขึ้นและดื่มอย่างบ้าคลั่ง ด้านข้างของเขามานารีหลายคนที่ไม่ได้มีการบ่มเพาะอะไรเลย แต่พวกก็ถูกจัดให้เป็นสาวงาม

พวกเธอกลัวมาก แม้ร่างกายของพวกเธอจะสั่นเทาด้วยความกลัวแต่พวกเธอก็ไม่สามารถร้องไห้และตะโกนได้ พวกเขาบังคับให้พวกเธอแสดงรอยยิ้มในขณะที่ เทชาและเทไวน์ให้กับพวกเขา ภายในหญิงเหล่านั้นมีสาวงามนางหนึ่งที่หน้าตาคล้ายกับเอ้อหยาอยู่ด้วย

ที่สำคัญที่สุดคือ ชายชราลึกลับคนนี้มีระดับอยู่ที่ 1 อาณาจักรสวรรค์ เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มของเขา และใบหน้าของเขานั้นช่างคุ้นหน้าคุ้นตายิ่งนัก เขาคือ อดีต ผู้นำสำนักหลิง หยุน ‘หยาน หยางเทียน’นั่นเอง

แต่ในตอนนี้’หยาน หยางเทียน’ได้ปลอมแปลงชื่อของเขาหลังจากที่เข้ามาในอาณาจักรหยวนแล้ว ตอนนื้ชื่อของเขาคือ ‘หยาน เทียนหยาง’

“น้องชายไม่ต้องถ่มตนไป ในวันที่พระอาทิตย์ส่องแสงมายังนิกายข้า ในวันที่นิกายของข้าได้ถูกตั้งขึ้นแล้ว พวกเจ้าทั้งหมดจะได้เป็นผู้อาวุโสของข้า และจะถูกบันทึกชื่อไว้ในนิกาย แสงส่องตะวัน ของข้าทุ่งแสงตะวัน ท่าน เขาขอมา “

‘หยาน หยางเทียน’พูด

บ่นเล็กๆน้อยๆจากผู้แปล ตอนแรกเสนอชื่อไปในที่ประชุมดันไม่ผ่าน เห้อ นิกายอรุณเบิกฟ้า ของผม

“ฮ่า ๆ ที่เรามีวันนี้คือทั้งหมดเป็นเพราะท่าน ผู้นำนิกาย หยาน!”

“ถูกตัอง. ถ้าไม่มีผู้นำหยาน พวกเราอาจจะตายไปแล้วก็เป็นได้ พวกเราคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้กลายเป็นผู้อาวุโสของนิกายแสงส่องตะวันของท่าน และ ต่อจากนี้ข้านั้นจะขอติดตามท่านไปตลอด”

คำพูดของ ‘หยาน หยางเทียน’ทำให้พรรคพวกของขารู้สึกดีขึ้นมา ทำให้ฝูงชนที่อยู่ข้างกายเขาพูดคุยกันอย่างมีความสุขและหัวข้อที่เขายกมาคุยกันคือเรื่องดังในตอนนี้ ‘ชูเฟิง’ และมหาอำนาจทั้ง 6

“ทุกคนเคยได้ยินหรือไม่ ข้าเคยได้ยินว่าชูเฟิงนั้นได้บุกเข้ามาอาณาจักรหยวนแล้ว! “

“นั่นมันไม่ดีแล้ว เจ้าปีศาจนั้นได้มาถึงอาณาจักรหยวน จะเป็นไปได้ว่าอาณาจักรหยวนนี้จะถูกพลิกโดยเขา “

“มันจะดีมาก ถ้าชูเฟิง ได้ไปทำลายนิกายไป๋ และมหาอำนาจอื่นๆของอาณาจักรหยวน บางทีพวกเราอาจจะมีโอกาสได้กลายเป็นนิกายของอันดับ 1 ของอาณาจักรหยวนนี้ ฮ่า ฮ่า “

“ที่พวกเจ้าพูดนั้นไร้สาระอย่างยิ่ง ชูเฟิงได้หายตัวไปเป็นเวลานานแล้ว และในตอนนี้ไม่มีข่าวใดๆเกี่ยวกับเขาเลย มันเป็นไปได้หรือที่เขาจะมเข้าาในอาณาจักรหยวนนี้ “

“ข้ารู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่ชูเฟิงมายังอาณาจักรหยวน แต่ข้าหวังว่าเขาจะมาและทำอย่างที่ พี่ชาย จ้าวบอก ให้ชูเฟิงถล่มนิกายไป๋และ มหาอำนาจอื่นๆทิ้งมันจะทำให้นิกายของเรามีโอกาศโงหัวขึ้นมาก “

ข่าวลือของ’ชูเฟิง’นั้น ถูกลือไปต่างๆนานา หลายคนบอกว่าเขานั้นกำลังทำอย่างนุ้นอย่างนี้ จนปัจจุบันนี้ ข่าวลือของ’ชูเฟิง’นั้นเขานั้นจะอยู่แทบทุกที่

นั่นมันช่วยไม่ได้ เพราะบางคนนั้นมีงานอดิเรกชอบกระจายข่าวลือ หากไม่ได้กระจายพวกเขานั้นอาจจะนอนไม่หลับ

แปลโดย#ท่านฮาย

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments