ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป(แปลโดยคุณ Kritchapong Tae)
******************************************
“อธิบายอะไร๊!?”
ผมตบมือพร้อมกันทำทีเหมือนกับว่าพึ่งนึกออก ผมตอบไปว่า
“อ๊อ!…พอดีสงสัยเดินละเมอน่ะเพราะงั๊นทุกคนรีบกลับไปนอนกันได้แล้ว ป่ะๆ พรุ่งนี้พวกนายอย่าลืมนะต้องเก็บเลเวลให้ สตรอเบอรรี่ มัทฉะถึง ระดับ40 ด้วย”
‘มัทฉะ’ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองไว้บนที่นอน
“บอสคะ คุณเดินละเมอมาที่ห้องหนูจริง ๆ หรอคะ?”
‘หรั่นหมิ่น’ทำปากเชิดพร้อมทำเสียงสูง
“นี่มัทฉะ เธอยังจะเชื่ออีกเรอะ? น่าสงสัยไหมล่ะ เขามาที่เนี่ยะเพราะเก็บสาวสวยไว้ในห้องเค้าไงล่ะ…อืมม…มันเป็นแผนที่วางไว้ตั้งแต่แรกแล้วแน่ ๆ ให้เธอนอนในห้องเค้า มันไม่ต้องหาเหตุผลอื่นอธิบายแล้ว!”
ผมหน้าบึ้งทันที
“ก็เอาที่พวกนายสบายใจละกัน…ทุกคนรีบกลับไปนอนได้แล้ว…”
‘ซงฮาน’ส่ายหัว จ้องมองไปที่กล่องใต้เตียง
“อ้อ! พี่นอนเร็วมากเลยนะ แต่ว่ารองเท้าพี่เลอะโคลนเต็มไปหมด ออกไปทำอะไรมากลางดึกมากกว่าสินะ?”
ก็นะ..คงไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรแล้วล่ะ..ผมชี้ไปที่ตราบนบ่าผม
“มีภารกิจน่ะ…ก็แค่นั้น!!”
‘หลิงย่ง’ตกใจ
“เซียวเหยา, นายกลับไปเป็นตำรวจอีกแล้วหรอ?”
ผมพยักหน้า
“อืม…มันคงเป็นชะตากรรมของชั๊นล่ะมั๊ง. ยังไงก็ตามห้ามไปบอกใครล่ะ ชั๊นไม่อยากให้คนอื่นรู้ รวมถึงเธอด้วยนะ ชาเขียว. มันเป็นความลับของพวกเรา”
น้อง’ชาเขียว’กระพริบตาถี่ ๆ ราวกับว่ากำลังประมวลผล เธอเอื้อมมือมากอดเอวผม
“หัวหน้าขา, คุณเป็นตำรวจจริงๆ ใช่ไหมคะ? ถ้าหนูถูกรังแก คุณจะมาปกป้องหนูไหม๊คะ?”
ผมกลั้นขำแทบไม่อยู่ ตบบ่าเธออย่างนุ่มนวล
“ไม่ต้องกังวลไปน่า…เธอเป็นคนของกลุ่ม Zhan Long ไม่ว่าใครหน้าไหนมารังแกเธอล่ะก็ ชั๊นจะรีบมาปกป้องชีวิตเธอเอง ทีนี้ไปนอนกันได้รึยัง พรุ่งนี้ต้องตื่น 7 โมงเช้าไปเก็บเลเวลกัน ชั๊นเองคงตื่นสายแน่ๆ เดี๋ยวชั๊นจะมาติดตามผลอีกทีตอนเที่ยงๆ แล้วกันเลเวลคงจะเกิน 38 แล้วนะ!”
เธอพยักหน้ารัวๆ
“อ่อๆๆ เข้าใจจ้า!”
‘Fox’ ยิ้ม
“ไม่ต้องห่วงนะพี่ พวกเรามีชางเหลย นักรบเงินหยวนคอยช่วยอยู่แล้ว เลเวลต้องขึ้นเร็วแน่นอน หากเขาไปอยู่กับคนอื่นคงจะกลายเป็นคนป่าไปจริง ๆ ซะแล้ว เค้าพุ่งเข้าใส่กลุ่มมอนสเตอร์ทุกกลุ่มโดยไม่คิดเลย โชคดีนะ ที่เป็ดที่รักคอยฮีลตามหลังให้ตลอด ผมกับซงฮานรู้สึกอ่อนแอไปเลยทีเดียวเมื่อเทียบดาเมจที่เค้าทำ แต่ที่เค้าทำมันก็ตื่นเต้นเร้าใจดีนะ”
ผมเช็ดโคลนออกแล้วกล่าวขอบคุณ’หลิวย่ง’
“เข้าใจละ…ทีนี้ไปนอนกันได้ละ…ฉันจะกลับล่ะ!”
“หัวหน้าคะ เดินทางปลอดภัยนะคะ”
‘ชาเขียว’ยิ้มให้ผม ‘ซงฮาน’ถูจมูก
“เฮ้ออ. พวกเราอยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ ชั๊นยังไม่เคยเห็น เจ๊ชาเขียวห่วงพวกเราเล๊ย..จะมีก็แต่พี่เซียวเหยาเท่านั้นแหละ….”
‘หรันหมิ่น’ดราม่าอย่างต่อเนื่อง
“อย่าพูดเรื่องนั้นให้มันเจ็บปวดใจ…ทำไมกันนะเสน่ห์ดึงดูดทางเพศของพวกเรามันต่ำเตี้ยเรียดินเลยรึไงกัน? ห๊ะ เซียวเหยา ทำไมรอบๆตัวนายมีแต่คนน่ารักๆ นายทำยังไงกันแน่? ตงเฉิงเยฺว่เอย เยฺว่ชิงเฉี่ยนเอย แม้แต่ ชาเขียวสตรอเบอรรี่นี่ก็อีกด้วย แม่สามสาวนี่ก็บูชาซะยิ่งกระไร…นายมีความลับอะไรกันแน่น๊า?”
ผมหายใจเข้าลึกๆ ทำหน้าหล่อๆเต็มที่ ผมมองไปที่หน้าของ’รันมิน’ที่คล้ายเกือกรองเท้า
“ความลับก็คือ 8 คำอ่ะนะ –[ถ้านายหล่อ ผู้หญิงก็มาหา!] ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้นะ หรันหมิ่นแต่หนังหน้าแบบนาย คงไม่มีโอกาส เว้นแต่ว่า ลองไปศัลยกรรมที่ยันฮีสิปล่อยให้เป็นหน้าที่เค้าช่วยนายเอง”
(TL: เค้าให้ไปทำที่เกาหลี แต่ยันฮีน่าจะฮากว่า)
‘ซงฮาน’ได้ยินก็ทำท่าจะเหวี่ยงหมัด
“แก! ไอ้ เ#@$%!”
น้อง’ชาเขียว’หัวเราะลั่นพร้อมๆ กับผมเผ่นแน่บ ออกจากสตูดิโอ
หลังจากนั้นแป๊ปเดียว ผมก็กระโดดข้ามกำแพงมหาวิทยาลัยหลินฮัว ถึงแม้ว่าหอพักชายจะล็อคแล้ว แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับผมเลย รีบปีนไปยังชั้น 2 เข้าห้อง รีบเขวี้ยงชุดทิ้งแล้วเปลี่ยนเอาตัวที่สบายๆใส่ แล้วรีบปีนขึ้นเตียงแล้วหลับตานอน ……..
แสงอาทิตย์สาดส่องแสงอุ่นๆมาที่แก้มของผม ผมรีบดีดตัวผึงขึ้นมาหยิบโทรศัพท์ขึ้นดู ผมรีบสลัดความงัวเงียออกอย่างด่วน Chipหอย แล้ว นี่มันเที่ยงครึ่ง! ผมหมดสติไปเลยรึไงกัน มันน่าจะเป็นเพราะ ไอ้เจ้า ”มนุษย์หมาป่า” ตัวเมื่อวานมันดูดพลังงานผมไปมากแหงๆ เป็นไปไม่ได้…
“ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝาก…หัวใจ…~”
เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ขัดจังหวะความคิดฟุ้งซ่านของผมทั้งหมดทันที มันเป็นเบอร์ของ ‘หว่านเอ๋อ’ –
“สวัสดีครับ คุณหนู…”
ผมตอบอย่างรู้สึกผิด.. เสียงของ’หว่านเอ๋อ’ยังคงนุ่มและหวานจับใจอยู่ดี
“ทำไมนายถึงไม่มาเรียนวันนี้ล่ะ?”
“ผมตื่นสายอ่ะครับ..เมื่อคืนนี้ ผมมีเรื่องนิดหน่อยที่ต้องไปดูแลครับ”
“นายต้องโทรไปหาอาจารย์ด้วยนะวันนี้ เขาบอกว่านายคงไม่อยากผ่านวิชาของล่ะมั๊งถึงลืมแบบนี้…”
“ห๋า??”
หน้าผมซีดเผือด ‘หว่านเอ๋อ’หัวเราะเสียงใสผ่านโทรศัพท์
“ฮ่ะๆๆชั๊นแค่ล้อเล่นน่ะชั๊นให้นักเรียนคนอื่นเช็คชื่อแทนนายแล้วล่ะ ไม่เป็นไรหรอกน่า ชั๊นกับตงเฉิงหิวแล้วนะ รีบลงมาเร็วๆ ไปกินข้าวกลางวันกันไหม๊?”
“จ๊ะ…รอแป๊ปนะ ผมจะรีบตามไป”
“โอเค!”
ผมถอดทุกสิ่งทุกอย่างบนเตียง แล้วรีบอาบน้ำแล้วหยิบชุดใหม่ใส่ก่อนที่จะวิ่งไปที่ประตู เมื่อผมมาถึงชั้นล่างของหอหญิง ทั้ง’ว่านเอ๋อ’และ’ตงเฉิงเยฺว่’ กำลังรอด้วยความกระวนกระวาย ชุดของพวกเธอช่างงดงามและดึงดูดสายตาคล้ายหลอกล่อทั้งวิทยาเขตให้หลงในความสวยของพวกเธอ.
‘ตงเฉิงเยฺว่’บุ้ยปากเมื่อเห็นผม
“เซียวเหยา วันนี้ทำไมนายช้าจังเลยยะ?”
ผมตอบด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าสำนึกผิดสุดๆ
“ผมขอโทษ. ผมยุ่ง แหะๆ ไม่ทราบว่าพวกคุณหนูทั้งสองจะทานอะไรกลางวันนี้ดีครับ?”
“อาหารหูหนานเป็นยังไงล่ะ?”
(TL: อาหารของชาวมณฑลหนึ่งของจีน)
“ก็ได้ครับ ไปกันเลย ว่าแต่มื้อนี้ใครจะเป็นคนจ่ายล่ะครับ?”
‘ตงเฉิงเยฺว่’ตอบ
“ต้องเป็นผู้ที่เรียบร้อยและพร้อมสรรพ หว่านเอ๋อ ผู้นี้นี่เอง!!”
ผมรีบตอบ
“เยี่ยมไปเลย….”
‘หว่านเอ๋อ’
“ -..- ”
ณ ภัตตคารหูหนาน หลังจากสั่งอาหาร 4 จานและ ซุป 1 ถ้วย พวกเรา 3 คนก็นั่งที่โต๊ะรอ หลังจากสั่งเสร็จ ผมก็นั่งจ้องหน้าอันเนียนนุ่มของ’หว่านเอ๋อ’ ในขณะที่เธอก็จ้องหน้าผมกลับทันทีที่เธอสังเกตุเห็นว่าผมจ้องเธออยู่ เธอหันกลับมาอย่างเร็วและรีบหันไปมองทางอื่นขณะที่นิ้วก็เคาะโต๊ะไปด้วย ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่กันแน่
“หว่านเอ๋อ มีอะไรรึเปล่า?”
ผมถามด้วยความเป็นห่วง ‘หว่านเอ๋อ’
“ไม่มีอะไรนี่ ถามทำไม?”
ผมไม่รู้จะพูดอะไรอีก ก็เลยถามไปว่า
“สองวันที่ผ่านมา ในเกมส์เป็นไงกันบ้างครับ”
เธอแสดงอาการแปลกใจชัดเจนหลังจากผมถาม
“ชั๊นกับตงเฉิงเรากำลังจะไปแผนที่ใหม่ แล้วเราก็ได้อาวุธระดับทองบ่อยๆ ที่เมืองฟ่านชูมีเรื่องดีในกิลด์มากมาย กิลด์สมาพันธ์ผู้กล้า ก็ได้ไอเท็มระดับม่วง 5 ชิ้นใน 2 วัน ช่างโชคดีจริงๆ ในขณะที่กิลด์อื่นๆเจอแค่ชิ้นเดียวใน 48 ชม. อิอิ”
ผมเลิกคิ้วขึ้นหลังจากที่ฟังเธอ
“ไอเท็มระดับม่วง 5 อัน มีอะไรมั่งล่ะ?”
‘หว่านเอ๋อ’อธิบาย
“ก็มีชุดกางเกงหนังสีม่วงเลเวล 50 เป็นของชั๊น รองเท้าเกราะสีม่วงเลเวล 48 ให้ เวิ่นเจี้ยน ส่วนสร้อยคอม่วงเลเวล 49 ก็ของเค้าเหมือนกัน ขวานม่วงเลเวล 46 ให้แก่เบอร์เซิร์กเกอร์อันดับ 1 ของสมาพันธ์ผู้กล้า อันสุดท้าย ผ้าคลุมสีม่วง เลเวล 50 ให้นักเวทย์ไป”
‘ตงเฉิงเยฺว่’พูดพึมพำ
“น่าเสียดาย..ชั๊นแนะนำยุทธวิธีสู้กับบอสตั้งเยอะแต่ก็ไม่เห็นได้อะไรบ้างเลย อย่างน้อยก็น่าจะเรียกชั๊นเรียกนักเวทย์อันดับหนึ่งแห่งสมาพันธ์ผู้กล้า ฮื่มมม!”
ผมโบกมือทั้งคู่
“งั๊นก็มาที่ Zhan Long สิชั๊นมีอุปกรณ์ของนักเวทย์เพียบเลยจะได้สลักชื่อของเธอบนของพวกนั้น!”
‘ตงเฉิง’ตื่นเต้นที่ได้ยินและถูมือไปมาด้วยความดีใจ
“ก็ดีสิ! แล้วชั๊นไปร่วมได้รึยังล่ะ?”
‘หว่านเอ๋อ’กระซิบ’ตงเฉิง’อย่างดัง
“ตงเฉิง!อย่าทำแบบนี้ ชั๊นจะทนไม่ไหวแล้วนะ!”
‘ตงเฉิง’ขำคิกคัก
“อืม…เซียวเหยา ชั๊นยังไปเข้าร่วมกับเธอยังไม่ได้หรอกนะ เพราะว่ายังมีสัญญากับทาง เวิ่นเจี้ยนอยู่หน่ะชั๊นยังออกไม่ได้อย่างน้อยก็อีกเดือนหนึ่งล่ะนะ และการันตีเลยนะ ว่าชั๊นและหว่านเอ๋อยังไงก็จะเป็นของคุณ!”
เธอตีมือผมเบาๆ ในทำนองรับประกัน
ผมเขินจนหน้าแดง
“หมายความว่ายังไงที่ว่า เธอทั้งคู่จะเป็นของชั๊น?”
‘หว่านเอ๋อ’หน้าแดงพอๆ กับผมเลยทีเดียว
“ตงเฉิง! ธ….เธอจะพูดจาให้มันรู้จักกาลเทศะมั่งได้ไหม๊?”
‘ตงเฉิง’กระพริบตา วิ๊ง
“ทำไมน๊า อาหารพวกเรายังไม่มาซักทีนะ?”
‘หว่านเอ๋อ’พูด
“เราสั่งออเดอร์พึ่งผ่านไปแค่ 3 นาทีเองนะ…”
จากหัวข้อที่น่าเบื่อนี้. ผมเริ่มมองไปรอบๆแต่ที่มองมากกว่าคือ 2 สาวที่อยู่ตรงหน้านี่ละ มือทั้งคู่ของ’หว่านเอ๋อ’เอาช้อนคางของเธอและดวงตาคู่ดำขลับราวกับนิลมณีจ้องกลับมาที่ผม ผมไม่สามารถหลีกหนีดวงตาคู่งามนั้นได้เลย เธอสวมชุดลายตาข่ายบางๆ แรกเห็นทำให้หัวใจของผมแทบจะระเบิด!
ผมรีบจับที่จมูกผมเพื่อแน่ใจว่าเลือดกำเดาไม่พุ่งออกมา ตอนที่เห็นสวรรค์รำไร ‘หว่านเอ๋อ’ เห็นผมมีท่าทางแปลกเธอแอบยิ้มบางๆแต่ไม่พูดอะไรแต่กลับจ้องผมแทน ทำไมดูเหมือนเวลามันช่างยาวนานซะจริงๆกว่าอาหารจะมาถึง พวกเรารีบกินอาหารอย่างเร็วและไปส่งสาวๆ เพราะทั้งคู่อยากเก็บเลเวลต่อ
ถึงเวลาที่ผมจะต้องไปออนไลน์บ้างแล้วและจะได้ดูความก้าวหน้าของแต่ละคนด้วย ….
“ซู่วว” กลับมาออนไลน์อีกครั้ง
ผมกลับมาที่เมืองเพื่อซ่อมแซมอาวุธและเอาขยะไปเก็บไว้ในคลังสมบัติก่อน ผมเก็บไอเท็มที่ตั้งแผงขายได้และเตรียมขายถ้าผมไม่รีบเพิ่มเลเวล อีกไม่เกิน 20 นาทีผมก็ได้รับข้อความจาก’หว่านเอ๋อ’
“หลี่เซียวเหยา ชั๊นมีอะไรจะให้นายดู!”
“หืม? อะไรหรอ?”
ในภาพที่เห็น ‘หว่านเอ๋อ’นำหนังสือวาดภาพออกมา ดูสีดำสนิท
– [ราชโองการชั่วคราวของหรั่นเว่ย] กาลครั้งหนึ่ง, มีผู้กล้านาม หรั่นหมิ่นได้ทำราชโองการชั่วคราวนี้ แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกลืม ถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกลืมกลับมา! ด้วยเหรียญ ผู้เป็นเจ้าของสามารถเริ่มภารกิจระดับ SS ผู้เล่นเข้าร่วมได้เพียงครั้งเดียวและ 10 คนเท่านั้นเจ้าของนั้นจะต้องมีระดับขั้นต่ำ 50 และใช้ค่าเสน่ห์ 5 แต้ม!
TL: เรื่องราวของหรั่นหมิ่น โอรสสวรรค์ของหรั่นเว่ย และ Old K ชื่อหรั่นหมิ่น ชื่อของผู้กล้าจีนโบราณนั่นแล..
“บ้าชัดๆ ภารกิจระดับ SS เลยเรอะ?”
ตาผมเบิกกว้าง
“หว่านเอ๋อเควสราชโองการชั่วคราวของหรั่นเว่ยนี้ประหลาดจริงๆ เธอได้มาได้ยังไงล่ะ? ”
‘หว่านเอ๋อ’หัวเราะ
“แค่จ่ายเงินไป 50 ทอง, ซื้อมาจากเด็กน่ะ ว่าไงบ้าง น่าสนใจไหม๊?”
“เธอคิดว่าชั๊นไม่สนใจหรอ?”
ผมถอนหายใจอย่างแรง ผมลังเลพักนึงก่อนพูดต่อว่า
“เธอก็เป็นหนึ่งในพวกหัวหน้าของสมาพันธ์ผู้กล้า ตามลำดับแล้วน่าจะไปกับ เวิ่นเจี้ยน และสมาชิกคนอื่นๆก็น่าจะทำภารกิจระดับ SS ได้นี่นา? ”
ในกล่องข้อความของ ‘หว่านเอ๋อ’ จู่ๆ ก็ปรากฏภาพดวงตาคู่สวย จ้องมองมาสายตาดั่งฆาตกรต่อเนื่อง จ้องมองมาที่ผม
“ชั๊นอยากให้นายมา ยังต้องหาเหตุผลอีกไหม๊?รึว่านายมีปัญหาห๊ะ!?!”
ผมขอโทษรัวๆ
“จ่ะ จ้ะ..เข้าใจแล้วจ้ะ…”
‘หว่านเอ๋อ’หัวเราะเบาๆ
“ก็แค่นั้นแหละ!…”
“แต่ว่า…พวกเราจำเป็นต้องใช้ 10 คนในภารกิจนี้นะ, พวกเราจะทำยังไงกันดี? ตอนนี้ก็มี คุณหนู, ผม, ตงเฉิง รวมแล้ว 3 คน เหลือหาเพิ่มอีก 7 คน เลือก 7 คนที่เหลือรึยัง?”
‘หว่านเอ๋อ’เม้มปาก
“ชั๊นยังไม่รู้เลย, มีใครแนะนำไหม๊ล่ะ?”
ผมรู้สึกมีบางอย่างรบกวนจิตใจ
“ถ้าพวกเราจะพาทีม Zhan Long ไปทั้งทีมจะว่ายังไง? ”
‘หว่านเอ๋อ’ยิ้ม
“แน่นอน, แล้วสถานการณ์ในทีมเป็นยังไงมั่งล่ะตอนนี้? ระดับเท่าไหร่กันแล้ว?”
“เดี๋ยวขอเวลาเช็คสักครู่”
มองที่รายชื่อเพื่อน แล้วพูดต่อ
“ซงฮานก็ นักฆ่าระดับ 46, หรั่นหมิ่น เบอร์เซิร์กเกอร์ระดับ 45,หลิวย่งพลปืนระดับ 45, ชาเขียว นักดาบระดับ 38, ลูกเป็ดที่รัก ฮีลเลอร์ระดับ 46, และก็ ชางเหลย เบอร์เซิร์กเกอร์ระดับ 47 รวมแล้ว 6 คน ยังขาดอีก 1 คน ถึงจะครบสิ…”
“ระดับ 38…ไม่ถ่วงเราเหรอนั่น! นี่มันภารกิจระดับ SS เลยนะ”
‘หว่านเอ๋อ’ลังเล, ก่อนจะยิ้มออกมา
“ยังไงก็ได้, ตงเฉิง, นาย และชั๊นก็ทรงพลังมากพอแล้ว ถ้างั๊นหา ฮีลเลอร์อีกคนน่าจะดี แล้วเราจะเริ่มภารกิจกันเลย!”
“โอเค, มีใครที่อยู่ในใจแล้วรึยังล่ะ?”
“มีสิ, อวี๋จื่อเฉิงชัวฮีลเลอร์ระดับ 53 และฮีลเลอร์ที่แกร่งที่สุดในเมืองฝานชู นอกจากนี้ก็ยังเป็นรองหัวหน้ากิลด์[Emerald Porcelain] อีกด้วย!”
“ได้เลย!”
ที่มา: