I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 169 เสื้อคลุมสายรุ้ง

| Zhan Long | 1458 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดย คุณ Parita Chee

*********************************

ฮี้ฮี้ ม้าศึกของจักรพรรดิซ่งหนูพุ่งเข้ามา กระแทก’ตงเฉิงเล่ย’และ’โอลด์เค’กระเด็นออกไป สองขาหน้าของม้าศึกยกตะกายในอากาศ หมายกระทืบมาที่ผม ม้าของบอสกลับสามารถโจมตีได้เหมือนกับสัตว์เลี้ยงเลยแฮะ ปัญญาประดิษฐ์ของบอสตัวนี้สูงไม่ใช่เล่น

“ควับบ”

ผมรีบกลิ้งตัวหลบออกมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด ตำแหน่งที่ผมยืนอยู่เมื่อกี้ป่นเป็นเศษหิน  จักรพรรดิซ่งหนูขึ้นหลังม้าได้แล้ว  ในมือจับดาบยาวอีกครั้งและพุ่งเข้ามาหมายจะสังหาร  มีเสียงบ่งบอกให้รู้ว่าการโจมตีแบบต่อเนื่องเริ่มทำงาน ผมมองดูค่าพลังชีวิตตัวเองแล้วตระหนักว่า ทักษะ [Heal] ของ’อวี๋จื่อเฉิงชัว’กับ’เป็ดที่รัก’อยู่ในระหว่างคูลดาวน์ เสร็จแน่เรา

ผมเริ่มล่าถอยอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ใช้ทักษะ [Haste] ในเวลาเดียวกันผมก็ใช้ทักษะ [Heal] เพิ่มพลังชีวิตได้ 900 หน่วย ผมคิดในใจ พร้อมกับร่างม้วนงอลง ไม่เอาน่า สู้จนตัวตายเหรอ

“ควับ”

แสงสีแดงพุ่งเป็นสายมาข้างผม  เรือนร่างงดงามของ’หลินว่านเอ๋อ’ปรากฎอยู่ข้างหน้าบอสแล้วไถลปราดไปข้าง ๆ มือยกมีดสั้นจ้วงแทงโดนบอสอย่างจัง ทำให้มันติดสถานะมึนงงไป 2.1 วินาที

“อย่าโจมตี”

‘เป็ดที่รัก’ตะโกนดังลั่น ในเวลาเดียวกับที่ใช้ทักษะ [ฟื้นฟูเลือด/Hemostasis] เพื่อเพิ่มค่าพลังชีวิตให้กับผม  ‘ลิตเติ้ลวูล์ฟ’ถือมีดสั้นล่าถอยออกไปอย่างว่องไว  หน้าที่ของมือสังหารคือเล่นงานได้แล้วก็ล่าถอยหลังจากเล่นงานให้ติดสถานะมึนงงได้  ไม่อย่างนั้น พวกเขาก็ไม่สามารถทนการโจมตีได้สักครั้งเดียว

แต่’ว่านเอ๋อ’มีพลังป้องกันพิเศษที่ได้รับจากร่มเหล็ก ที่น่าจะสามารถทนการโจมตีจากบอสได้สักครั้งส่วน’ลิตเติ้ลวูล์ฟ’ไม่สามารถ ไม่เพียงแค่ชุดเกราะของเขาไม่ดีเทียบเท่ากับของ’ว่านเอ๋อ’  เลเวลของเขายังต่ำกว่าด้วย  เขาจึงถูกบอสสกัดกั้นเอาไว้อย่างรุนแรง

หลังจากได้รับการรักษาจนค่าสถานะกลับมาเต็ม  ผมจึงเล่นงานจักรพรรดิซ่งหนูทันที ตอบโต้ด้วยทักษะต่อเนื่อง (combo) เลเวล 6 โดยใช้ทักษะ [คมกระบี่น้ำแข็งทมิฬ/Fierce Ice Blade] ในขณะที่ซัดเม็ดยา Indigo Sea Pill เลเวล 6  ไปในจังหวะไล่เลี่ยกัน เพราะการใช้ทักษะเลเวล 6 ค่อนช้างจะสิ้นเปลืองมานา

ไม่ไกลนัก ‘ตงเฉิงเย่ว’กางนิ้วมือขาวเรียวออก เสียงดีดนิ้วดังควับ ทักษะ [ดัชนีอัสนีบาตร /Thunderbolt Finger] ทำงาน มันพุ่งเข้าเล่นงานบอส 3 ครั้งต่อเนื่องกัน  ทักษะ[ดัชนีอัสนีบาตร /Thunderbolt Finger] ชุดนี้จะกระโจนเล่นงานระหว่างเป้าหมายแต่ละตัวแต่ถ้ามีเป้าหมายตัวเดียว มันสามารถเล่นงานได้ต่อเนื่องสูงสุด 3 ครั้ง

เรื่องนี้อาจสับสนเล็กน้อย แต่ด้วยสติปัญญาของ’ตงเฉิงเย่ว’ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาสักเท่าไร จักรพรรดิซ่งหนูเป็นบอสประเภทเกราะหนัก  ดังนั้น ทักษะ [ดัชนีอัสนีบาตร /Thunderbolt Finger] จึงสร้างความเสียหายให้กับมันอย่างใหญ่หลวง  ตัวเลขค่าความเสียหาย 3 ชุดทำให้คนอื่นๆ ต้องรู้สึกอาย

…. 1764! 1677! 1589! ……

“เปรี้ยง !”

‘ตงเฉิงเย่ว’ ใช้เวทย์ได้ในอัตราที่เร็วผิดปกติ ถัดมาเธอร่ายทักษะ [Icicle]  ซึ่งลดความเร็วในการเคลื่อนที่และความเร็วในการโจมตีของบอสได้อย่างมาก  หากไม่มีทักษะ [Icicle]  นี้ผมตายไปนานแล้ว

“ตงเฉิงเย่ว ระวังมานาที่เหลือด้วยนะ อย่าให้มันหมด  ไม่งั้นได้ขายหน้านะ”

ผมตะโกน ‘ตงเฉิงเย่ว’ หัวเราะคิกคัก  ล้วงเอายาเม็ด Indigo Sea Pill ออกมาทาน แล้วพูดว่า

“ไม่ต้องห่วงค่ะ เฮีย ฉันมีมานาตั้ง 9000 หน่วย พอให้ฉันใช้เหลือเฟือ แล้วไอเทมที่ใส่ก็มีผลต่อการฟื้นฟูมานาได้อย่างดี ฉันไม่หมดมานาง่ายๆ หรอก”

“อย่างนั้น ดีแล้ว ตั้งสมาธิในการควบคุมบอสให้ดีหล่ะ”

ก่อนผมจะได้พูดจบ ผมก็ต้องทนรับการโจมตีอีก 2-3 ครั้งอีกที  พลังโจมตีของจักรพรรดิ์ซ่งหนูในระหว่างที่อยู่บนหลังม้ารุนแรงมากเกินไป ทำให้ยากต่อการต่อกร และมันเกือบฆ่าผมได้เลยทีเดียว

ใจของ’เป็ดที่รัก’และ’อวี๋จื่อเฉิงชัว’เกือบหยุดเต้นด้วยกลัวจับใจ ……

“อย่างนี้ไม่ได้เรื่องแน่”

‘หลินว่านเอ๋อ’กำหมัดแน่น  เอ่ยขึ้นเบาๆ

“ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป บอสจะต้องโจมตีติดสถานะถึงตาย (fatal strike) ได้ หลี่เซี่ยวเหยาเป็นอันเสร็จแน่ๆ  ต้องแยกบอสออกจากม้าศึก  วิธีนี้จะทำให้พลังโจมตีของบอสลดลงไปอย่างน้อยที่สุด 35%”

‘มัทฉะ’สูดหายใจลึก เอ่ยขึ้นว่า

“ซ่างถ่งคนสวย ฉันมีแผน เมื่อบอสใช้ทักษะ [Savage Jump Slash] ให้เธอใช้ทักษะ [Gouge] ทำให้ม้าอยู่ล้าหลัง จากนั้น สัตว์เลี้ยง ไทเกอร์แมน ที่มีพลังป้องกันสูง 2 ตัวก็น่าจะสามารถดึงให้ม้าศึกออกมาห่างได้  ตงเฉิงเล่ย กับโอลด์เค พวกนายสองคนซึ่งมีอาชีพที่มีเกราะหนักโดยมีลิตเติ้ล วูล์ฟช่วยน่าจะจัดการเจ้าม้าศึกได้  ส่วนบอสเซี่ยวเหยา มิสตงเฉิงเย่วกับเธอ สองฮีลเลอร์จัดการเผด็จศึกเจ้าบอสหลักนั่นให้ได้ ฉันเช็คแล้วว่า ม้าศึกนั่นมีพลังชีวิต 50000 หน่วยเท่านั้น ดังนั้นก็น่าจะจัดการล้มมันได้ง่ายอยู่ คิดกันว่ายังไง เราจัดการม้าศึกก่อน จากนั้นก็บอส จัดการพวกมันทีละตัวจะว่ายังไง?”

‘หลินว่านเอ๋อ’หัวเราะพร้อมพยักหน้า

“ตกลง ใช้วิธีนี้แหละ”

ไม่กี่วินาทีต่อมา ผมผละออกจากการต่อสู้กับจักรพรรดิซ่งหนู  เมื่อระยะห่างระหว่างพวกเราเพิ่มมากขึ้น  ก็เป็นไปเงื่อนไขที่ใช้ในการกระตุ้นทักษะ[Savage Jump Slash] !

“ย๊ากกก  ขวางทางข้าเท่ากับต่อต้านสวรรค์”

‘หลิวหย่วน’ส่งเสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว กระโจนลงจากหลังม้าศึก เห็นร่างของเขาพุ่งเป็นเส้นโค้ง ลอยตัวอยู่กลางอากาศ  เขาทิ้งตัวลงมาพร้อมฟันดาบยาวของเขาลงบนไหล่ผมทันที

“ฉัวะ” 3872!

ผมมองที่จำนวนค่าความเสียหายตัวเดียวนั่น แล้วผมก็หนาวเยือก ผมตายแล้ว

“วู้บบบบ”

‘อวี๋จื่อเฉิงชัว’ คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าผมไม่อาจทนรับการโจมตีนี้ได้  เธอร่ายเวทย์ [คืนชีพ/Revive] เพื่อนำผมกลับมาทันที ให้ผมทำหน้าที่สกัดกั้นบอสต่อ  ผมต้องเสียเลเวลไปหนึ่งเลเวลและต้องหยิบและสวมใส่เสื้อคลุม [Ice Fire Cloak] ที่ผมดรอปไว้ ให้ตายเถอะ เป็นตัวชนนี่แย่ชะมัด

ไม่ว่าจะเป็นพวกเราตายทั้งหมด หรือเป็นผมตายคนเดียว ผมเป็นคนแรกที่ต้องเสียเลเวลเสมอ

“ ฮึก ๆ ๆ  บอสเสียเลเวลไปหนึ่งเลเวล”

‘มัทฉะ’เอ่ยอย่างเสียใจขณะมองมาที่ผม ‘หลินว่านเอ๋อ’ถือมีดสั้นขณะที่พุ่งเข้าใส่ม้าศึกของบอส   เธอกล่าวเสียงต่ำ

“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเขาจัดการลงดาบครั้งสุดท้ายในบอสที่เหลือได้ ก็จะทำให้เขาสามารถได้ค่าประสบการณ์กลับคืน”

“เย้!”

แสงจ้าแว่บขึ้นมาเมื่อ’หลินว่านเอ๋อ’ให้ทักษะ[Gouge] ทำให้ม้าศึกติดสถานะมึนงง (stun)  สัตว์เลี้ยงไทเกอร์แมนทั้งสองตัวเริ่มเข้าชนกับม้าศึกทันทีเมื่อมันถูกเรียกออกมา หลังจากที่ม้าศึกฟื้นสภาพจากติดสถานะมึนงง มีดสั้นในมือของ’หลินว่านเอ๋อ’ก็ปาดขวับไปที่หน้าผากของไทเกอร์แมนของเธอเอง

มีผลทำให้เกิดค่าความเสียหาย 300 ในเวลาเดียวกันนั้นก็ทำลายสถานะที่ไปกระตุ้นให้ม้าศึกที่สะสมในตัวเธอโกรธหายไปด้วยและมีผลทำให้ทักษะ [พุ่งชน/Charge] ถูกขัดขวางเพราะเป้าหมายหายไป  แต่มันกลับเริ่มโจมตีที่ไทเกอร์แมนแทนในทันที นอกจากไทเกอร์แมนแล้ว

‘ตงเฉิงเล่ย’สกัดกั้นเจ้าม้าศึกด้วยทักษะ [ขวานเพลิง/Flame Axe] โดยตรงครั้งเดียว ทำให้พลังชีวิตของมันลดไปมากกว่า 2400 หน่วย – ช่างทรงพลังเสียจริง

“ตาฉันล่ะ”

‘โอลด์เค’กระชับขวานรบในมือแน่นแล้วย่อตัวลง  สายลมใกล้ๆ เริ่มก่อเป็นเสียงหวีดหวิว เมื่อทักษะ [คมขวานวายุหมุน/ Whirlwind Slash] ทำงานแล้วเขาก็หมุนไปรอบๆ เหมือนกังหันลมขนาดใหญ่

หลังจากนั้น ตัวเลขค่าความเสียหาย 5 ตัวปรากฏขึ้นจากตัวของม้าศึก  แต่ละตัวเลขมากกว่า 1000+ รวมค่าเสียหายทั้งหมดได้เกือบ 6000 หน่วย  ช่างรุนแรงจริงๆ  ……

ด้วยวิธีใหม่นี้  ความกดดันด้านตัวผมผ่อนคลายไปมาก หลังจากที่จักรพรรดิซ่งหนูเสียม้าศึกไป ผลค่าความเสียหายของจักรพรรดิ์ซ่งหนูลดความร้ายกาจลงไปอย่างมาก  แม้แต่การโจมตีที่ติดสถานะ critical ก็ไม่อาจจัดการผมได้แล้วในตอนนี้ หลังจากนั้นไม่กี่นาที จักรพรรดิซ่งหนูก็รู้สึกขึ้นมาว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เขาล่าถอยไปขณะที่ถือดาบในมือพร้อมกับตะโกนออกมาในเวลาเดียวกัน

“ของข้า  ม้าของข้าอยู่ไหน  เจ้าเต่าแดงกลับมาหาข้าเดี๋ยวนี้”

‘มัทฉะ’ตาเบิกกว้าง

“ไม่ดีเลย บอสกำลังหาทางขึ้นม้าอีกแล้ว  เราต้องแยกพวกมัน ไม่อย่างนั้นเราต้องสู้ลำบากแน่”

ผมรีบย่อตัวลงต่อยพื้นอย่างรวดเร็ว เรียกใช้ทักษะ [โซ่พันธนาการ/binding chains]

“ควั่บ”

ครั้งนี้ ทักษะไม่พลาด มันตรึงจักรพรรดิซ่งหนูเอาไว้ ทำให้ความตั้งใจมองหาม้าศึกของเขาหายไป  ขณะที่’อวี๋จื่อเฉิงชัว’ยิ้มหวาน

“เยี่ยม เซี่ยวเหยา ปฏิกิริยาตอบโต้นายเร็วมาก ดังนั้นเราไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการต่อสู้กับบอสอีกแล้ว ดูเหมือนว่าเราจะแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมากเลย บอสระดับม่วงไม่สามารถจัดการพวกเราได้อีกแล้ว”

ไม่ถึงนาทีต่อมา มีดสั้นของ’หลินว่านเอ๋อ’ก็ตวัดฟาดลงมา ม้าศึกส่งเสียงร้องฮี้แล้วทรุดฮวบลงกับพื้น  เหลือเพียงบอสที่เริ่มอ่อนแรงเพียงตัวเดียว  ……

“บอสระดับม่วงเลเวล 60 ตัวแรกเชียวนะ ชักสงกะสัยแล้วว่าจะดรอปไอเท็มอะไรน๊า”

‘เป็ดที่รัก’หัวเราะอย่างวาดหวัง ผมมองที่อุปกรณ์ของผมแล้วพูดขึ้น

“ผมยังไม่มีสนับแข้งสักคู่  สนับแข้มของผมยังเป็นระดับเงินอยู่เลย”

‘เป็ดที่รัก’ พูดไม่ออก

“บอส อุปกรณ์บอสมันโคตรอ่อนเลย ….”

‘หลินว่านเอ๋อ’ เอ่ยขึ้นเงียบๆ

“ตงเฉิงเย่ว  เลิกโจมตีเมื่อบอสเหลือพลังชีวิต 2% นะ ให้เซี่ยวเหยาจัดการมันเอง เพราะเขาเสียเลเวลไปหนึ่งเลเวล แล้วเขาเสียหายหนักกว่าพวกเราเยอะ”

‘ตงเฉิงเย่ว’พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม เอ่ยขึ้นว่า

“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันตามใจเขาเยอะๆ แล้วฉันจะยกให้อยู่แล้ว”

‘หลินว่านเอ๋อ’อึ้ง

“จะยกอะไรให้เขา…..”

‘ตงเฉิงเย่ว’หัวเราะคิกคัก ใบหน้าแดงเรื่อ

“ครั้งแรกของฉัน….”

“พวกเธอ พอได้แล้ว….”

ผมพูดขณะเข้าเล่นงานบอส

“ตงเฉิง รู้จักอายบ้าง หัดเก็บปากเก็บคำตัวเองด้วย  นอกจากหน้าตาแล้ว มองตรงไหนก็ดูไม่เหมือนสาวอายุสิบเก้า”

‘ตงเฉิงเย่ว’ ยิ้ม

“..ตรงไหนเหรอ. เฮียไม่รู้ว่าต้องมองตรงไหนเองตะหาก….”

หน้าผมกระตุกนิดๆ

“เดี๋ยวมาคุยกันหลังจากฆ่าบอสเสร็จ เอาไหม”

‘ตงเฉิงเย่ว’หัวเราะคิกๆ หันไปลงมือต่อ …… อีกสามนาทีผ่านไป เสียงคำรามสนั่นของจักรพรรดิซ่งหนูกลายเป็นเสียงกรีดร้องเมื่อพลังชีวิตเหลือไม่ถึง 5% อีกไม่นานบอสตัวนี้จะต้องตายด้วยคมกระบี่ Frost Rain ของผม ‘ลิตเติ้ลวูล์ฟ’ถือมีดสั้นในมือ ในระหว่างที่จับตามองแต่ไกล เขาหัวเราะ

“ไอ้พวกซ่งหนูที่เข่นฆ่าบรรพบุรุษชาวจีนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวนับไม่หวาดไม่ไหว ได้แก้แค้นให้พวกนั้นในเกมส์นี้ รู้สึกดีชะมัด…”

‘โอลด์เค’ยิ้มขณะพยักหน้า

“ถ้าผมอยู่ในสมัยราชวงศ์ฮั่น ผมต้องเข้าร่วมกองทัพแน่ๆ ติดตามเว่ยฉิงไปรบและปราบทุกทิศ  สละเลือดเนื้อทุกหยาดเป็นชาติพลี”

TL: ผู้แปลขอใช้เนื้อเพลงชาติมาอธิบาย ประโยค สละชีพเพื่อชาติ เพื่อสร้างอรรถรสมากขึ้น จะขยายความก็ได้หรือจะลบออกก็ได้นะ

‘ตงเฉิงเย่ว’เองก็ยิ้มนิดๆ

“ฉันเองก็เก่งมาก ฉะนั้นฉันก็ควรเป็นพลธนูทั้งยิงได้จากระยะไกลมากและแม่นยำด้วย”

ผมเตือนเบา ๆ

“เด็กๆ ตื่นได้แล้ว ….”

กระบี่ประกายวสันต์ เริ่มสั่นสะเทือน ลำแสงสีเขียววนรอบร่างผมขณะที่ผมรู้สึกถึงกระแสพลังมหาศาลพลุ่งพล่าน มันจะต้องเป็นการโจมตีที่รุนแรงพิเศษ ซึ่งเพิ่มความพลังทำลายในทักษะโจมตี

[คมกระบี่วายุ/Wind Blade]! 2342!

หลังจากโดนฟันแล้ว ในที่สุดจักรพรรดิซ่งหนูก็หมดความกร่าง มันล้มลงกับพื้น นัยน์ตาแดงก่ำด้วยเลือด มันเงยหน้าจ้องเขม็งมาที่ผม

“ข้า…. ข้าไม่ยอมแพ้ พวกเจ้าจะไม่มีทางได้เจอวิญญาณของรันมิน ไม่มีทาง!”

ผมย่อตัวลงทันที กระบี่ของผมตวัดควับไปข้างหน้า เสียงดัง

“ฉัวะ”

เมื่อหัวของจักรพรรดิซ่งหนูปลิวกระเด็น ผมเขี่ยซากบอสออกไป  ในเวลาเดียวกันนั้น บอสก็ระเบิดไอเท็ม ต่างๆ มากมายกระจายบนพื้นเต็มไปหมด

“ฮิฮิ  เราจัดการบอสเลเวล 60 ได้แล้ว….”

‘มัทฉะ’หัวเราะเบาๆ ผมก้าวเดินไปเอาไอเท็มที่จักรพรรดิซ่งหนูดรอปออกมาข้างหน้าทุกคน ทีละชิ้น ไอเท็มเป็นอุปกรณ์รวมกับตำราทักษะมี 4 ชิ้น คือ เสื้อคลุมสีขาวราวหิมะ  แหวนสีแดงเพลิง   สนับแข้งสีทองหม่น  และขวานรบยักษ์ พวกเราพิจารณาเสื้อคลุมเป็นอย่างแรก  ค่าสถานะปรากฏขึ้นเมื่อเราโบกมือผ่าน

【เสื้อคลุมสายรุ้ง/Rainbow Cloak】 (ระดับม่วง)

พลังป้องกัน: 240

ความคล่อง : +39

ความทนทาน/อดทน: +37

คุณสมบัติพิเศษ: เพิ่มพลังป้องกันให้ผู้ใช้ 3%

คุณสมบัติพิเศษ: เพิ่มพลังต้านทานเวทย์ให้กับผู้ใช้ 19%

เลเวลขั้นต่ำที่สามารถใช้ได้ : 55

…… เมื่อผมชูเสื้อคลุมสายรุ้งในมือขึ้น มันเปล่งแสงเป็นสีรุ้ง  เสื้อคลุมนี้มีสีขาวราวหิมะ ผมส่ายหน้า เอ่ยว่า

“เสื้อคลุมไม่มีข้อจำกัดของประเภทเสื้อเกราะ ว่าเป็น เกราะหนัก เกราะหนัง หรือเกราะผ้า แล้วเสื้อคลุมสายรุ้งตัวนี้เป็นอุปกรณ์ระดับม่วงที่มีคุณสมบัติดีมาก  ดังนั้น พวกเรา ทั้งสิบคนมาทอยเต๋าตัดสินว่าใครจะได้ไป  อย่างนี้จึงจะยุติธรรม จะได้ไม่ต้องมาต่อว่ากันทีหลัง มา เริ่มทอยเต๋ากัน”

ทุกคนหัวเราะเมื่อผมเปิดออพชั่นทอยเต๋า แล้วลูกเต๋าปรากฏหน้าสายตาของทุกคน

“คลิ๊กๆๆ”

ผมทอยคนแรก ได้ 77 แต้ม

‘ตงเฉิงเย่ว’ ทอยได้ 81 แต้ม  เอาชนะผมไปอย่างขาดลอย

‘ลิตเติ้ลวูล์ฟ’ทอยได้ 12 แต้ม

‘โอลด์เค’ทอยได้ 54 แต้ม

‘ฟอกซ์ทอย’ได้ 70 แต้ม

‘มัทฉะ’ทอยได้ 91 แต้ม

‘อวี๋จื่อเฉิงชัว’ทอยได้ 22 แต้ม

และคนสุดท้าย ‘หลินว่านเอ๋อ’ทอยได้ 97 แต้ม

ด้วยการตวัดแขนขาวราวหิมะของเธอทีเดียว ก็ชนะทุกคนไปอย่างขาดลอย

“อิอิ  โชคฉันไม่เลวเลย …”

‘หลินว่านเอ๋อ’รับเสื้อคลุมมา กระพริบตาปริบๆ เมื่อมองดูทุกๆ คน

“นี่ฉันต้องแจกซองแดงด้วยหรือเปล่า  ฉันมี 10000G ที่จะแบ่งแจกให้ทุกๆ คน …ไม่อย่างนั้นฉันก็จะเป็นคนเดียวที่ได้ไอเท็มดีๆ แบบนี้ มันเขินๆ อ่ะ”

‘ตงเฉิงเย่ว’ หัวเราะ

“รีบๆ ใส่เถอะ ทีตอนเฮียเซี่ยวเหยาได้เกราะเนบิวล่าไป เขายังมั่นใจเลย ว่านเอ๋อ เธอทอยเต๋าชนะไปแล้ว ก็ใส่ไปเถอะ”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments