ตอนที่แล้วตอนต่อไปแปลโดยคุณ Sweetie Nasis
**************************
“โอเค”
ขณะที่ยังลังเลอยู่ แม้ว่า’ว่านเอ๋อ’จะใส่เสื้อคลุมสายรุ้ง ถ้ำที่เคยมีหิมะสีขาวร่วงโปรยปรายก็กลายเป็นหิมะที่มีเจ็ดสี หมวกคลุมผมสายรุ้งก็มีรูปแบบเช่นเดียวกับเสื้อคลุมของเธอที่คลุมผมของ’ว่านเอ๋อ’เอาไว้ โชว์เพียงครึ่งล่างของใบหน้าที่เก็บซ่อนอารมณ์เอาไว้ สายตาของ’ว่านเอ๋อ’ที่มองมายังผม มันเป็นไปได้ยังไงที่สายตานั้นจะดูยิ่งใหญ่และส่งผ่านอารมณืความรู้สึก
ถ้านักฆ่า มีตำแหน่งเจ้าหญิง แน่นอนคงต้องเป็น’ว่านเอ๋อ’ เจ้าหญิงที่ยิ่งใหญ่ และขอบคุณเสื้อคลุมที่สามารถซ่อนใบหน้า สายตาของ’ว่านเอ๋อ’ไว้เพราะเพียงสายตาของ’ว่านเอ๋อ’ก้สามารถที่จะสั่งให้บรรดาผู้ชายทั้งหลายสามมารถทำความผิดที่ร้ายแรงได้
“ค่าพลังป้องกันของเธอสูงขึ้นใช่ไหม”
‘ว่านเอ๋อ’พยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม
“ ใช่ ตอนนี้ ค่าป้องกันของฉัน อยู่ที่ 1029”
‘ซงฮาน’รู้สึกประหลาดใจมาก
“ว้าววววว ฉันเองมีพลังป้องกัน 814 ทำไมมันช่างต่างกันมากเช่นนี้ ผมเลยพูดไปว่า มันเกี่ยวกับการใช้ร่มเหล็กของว่านเอ๋อ “นี่คือเหตุผลของความแตกต่าง เผ่าเอลฟ์พระจันทร์จะมีร่มที่ช่วยเพิ่มการป้องกันของพวกเขา และยังสามรถเพิ่มค่าการป้องกันมากขึ้นด้วย”
‘หมาป่า’พยักหน้าเข้าใจ
“อืมม เผ่าเอลฟ์พระจันทร์ดูเหมือนจะไม่ค่อยสมดุลเลย แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดีที่ผู้เล่นหญิงสามารถสร้างสรรสิ่งแปลกใหม่ขึ้นมาโดยปกติแล้วผู้เล่นหญิงส่วนมากจะเป็นผู้เล่นที่แย่ๆ”
ทันทีที่’หมาป่า’พูดจบ ผู้หญิงทุกคนในกลุ่มหันมามองหมาป่าพร้อมกับรังสีสังหาร ซึงจังหวะนั้น’หมาป่า’ก้มหน้าก้มตาหลบสายตาถมึงทึงของบรรดาสาวๆในกลุ่ม ประมาณสองสามวินาที ก่อนที่จะเงยหน้าพูดอีกครั้ง
“ ฉันพูดความจริงน่ะถ้าฉันระดับเลเวลเท่ากันกับว่านเอ๋อ แล้วสู้กันในตอนกลางคืน โอกาสที่ฉันจะชนะว่านเอ๋อน้อยกว่า 10% ส่วนในช่วงเวลากลางวัน โอกาสชนะของฉันยังคงน้อยกว่า 25% ซึ่งมันก็ไม่ได้ดูเลวร้ายนัก”
‘ตงชิงเย่ว’ ยิ้ม
“ในเวลากลางคืน, คุณไม่ควรตัดสินใจเป็นศัตรูกับว่านเอ๋อ และในเวลากลางวัน, ว่านเอ๋อยังคงสามารถทำร้ายคุณได้ถึงแม้ว่ามืออีกข้างหนึ่งของว่านเอ๋อยังคงถือร่มอยู่”
หมาป่าได้ยินแบบนั้นก็เงียบไป ผมหัวเราะกับตัวเองขณะที่กำลังดูอุปกรณืชิ้นที่สอง ซึ่งดรอปจากจักรพรรดิฮั่น มันคือ แหวนแห่งเปลวไฟ ( Schorch Red ring.) แย่จังที่แหวนเป็นเพียงแหวนเงิน สำหรับคนที่มีเลเวล54 แหวนนี้เพิ่มค่า strength และค่า agility.
ฉันให้แหวนวงนี้แก่’หมาป่า’ไป ซึ่งดูเหมือนว่า’หมาป่า’จะชอบอุปกรณ์ที่เพิ่มค่าสถานะ agility + strength.
ถ้าสิ่งทีกำลังเป็นอยู่แบบนี้ เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆแล้ว Zhan Long จะมีมือปืนที่สามารถร่วมต่อสู้และเป็นพลังสมทบจากแนวหลัง ที่คอยฆ่าศัตรูก่อนที่จะมาถึงพวกเรา ครั้งหนึ่งในการต่อสู้ที่ชุลมุนกันอยู่ กับผู้เล่นที่ระดับไม่สูงมาก ไม่รู้ว่าผู้เล่นคนนั้นมีค่าป้องกันที่สูงหรือพลังสูง หมาป่าตายก่อนที่จะได้เริ่มต่อสู้ด้วยซ้ำ.
อุปกรณ์ชิ้นที่สาม เป็นสนับขา สีทองเข้ม มันมีสัญลักษณ์ของสัตว์ร้ายประดับและเป็นระดับสีทอง
โดยรายละเอียดของอุปกรณ์ชิ้นนี้คือ
( สนับขาแห่งสัตว์ร้าย) (สีทอง)
ประเภท : เกราะหนัก
ค่าป้องกัน : 220
Strenght : +40
Endurance : +36 เพิ่ม :+ 9% ค่าทำลายทางกายภาพ
ต้องการระดับเลเวล : 55
“โหหห ช่างเป็นอุปกรณ์ที่ดีอะไรอย่างนี้”
ดวงตาของ’ว่านเอ๋อ’เบิกกว้างอย่างตกตะลึงหลังจากที่เห็นค่าสถานะของอุปกรณ์ชิ้นนี้
“โดยปกติแล้วเกราะทั่วไปจะเพิ่มโบนัสการป้องกันหรือการทำร้ายที่ 4% แต่นี้ให้มาถึง 9% สำหรับการทำร้ายทางกายภาพ พวกเราโชคดีจริงๆ”
ผมผงกศีรษะเห็นด้วยพยามยามไม่ให้น้ำลายตัวเองไหลออกมาตอนที่เห็นค่าสถานะของชิ้นนี้
“ไอเทมชิ้นนี้ มีค่าสถานะที่เกินกว่าระดับของมันมาก ถึงแม้ว่า มันจะระดับแค่ สีทอง แต่จากสถานะมันแล้ว มันสามารถ เป็นระดับสีม่วงได้เลย ซึ่งแบบนี้ส่วนใหญ่แล้วจะดรอปค่อนข้างยาก!”
ผมหันหลังกลับพร้อมกับเดินเข้าไปรวมกลุ่ม,
“อาเล่ย, โอล เค! มานี้เลย มาทอยเต๋ากัน ดูซิว่าโชคดีจะเป็นของใคร”
“ได้เลย!”
หลังการทอยเต๋าสามครั้ง คะแนนที่ได้ คือ 71, 17, 1!
ริมฝีปากของ’ว่านเอ๋อ’สั่นเบาๆด้วยความช๊อค
“ขอโทษทีน่ะ แต่ว่าใครกันที่ทอยลูกเต๋าได้ 1 คะแนน”
หน้าของผมกลายเป็นสีแดงด้วยความอาย
“ผมเองที่ได้ 1 คะแนน”
“อย่าเสียใจเลย,พี่ชายเซี่ยวเหยา….”
ผม
”……………..”
‘โอลเค’ ถือ สนับขาแห่งสัตว์ร้ายไว้ในมือของเขา ขณะที่มองดูระดับของมันอย่างเงียบๆ
“ระดับของฉันแค่47เอง แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่กันที่ฉันจะระดับ55? บอส เอาไปใช้เถอะ”
ผมแสดงความขอบคุณโดยการให้ 1000G จากเงินส่วนตัวของผม และพูดกับ’โอลเค’ว่า
“ ของชิ้นนี้มีค่าระดับนี้แหล่ะ นายรับค่าตอบแทนนี้ไปเถอะ”
‘โอลเค’ ส่ายศีรษะพร้อมกับหัวเราะ
“บ้าจริง นี่เสี่ยวเหย่าคิดว่าผมจะรับเงินของคุณหรือ?”
ผมพูดกับ’โอลเค’ด้วยเสียงที่จริงจัง
“รับมันไป,ผมรู้ คุณจำเป็นต้องการเงิน แม่ของคุณก้อสุขภาพไม่ค่อยดีนัก รับเงินนี้แล้วเอาไปซื้อของบำรุงแม่คุณ อย่าช้าเลย”
‘โอลเค’เอามือทั้งสองตบลงไปที่หน้าของตัวเอง พร้อมกับพูดว่า
“ได้ ฉันจะรับเงินไว้”
ผมมีความสุขที่ได้รับเกราะขาจาก’โอลเค’
ในท้ายที่สุดซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นักเพราะในกลุ่มของเราผู้เล่นที่ระดับสูงที่สุด คือ ผม ดังนั้นพอพวกเราเริ่มฆ่ามอนสเตอร์ระดับสูงที่นี่ อุปกรณ์ที่ดรอปส่นใหญ่จะระดับที่50ขึ้นไป ด้วยความบริสุทธ์ใจ ผมไม่สามรถที่จะเก็บของที่ดรอปทั้งหมดไว้กับตัวเองและผมก็ไม่คิดว่าเงินของผมจะมีเพียงพอให้ผมได้ทำแบบนั้น
ผมเปลี่ยนสนับขาของตัวเอง ซึ่งมันเปลียนค่าสถานะผมลดลงแต่เพิ่มค่าทำร้าย+9% .ถึงแม้ว่าค่าสถานะนี้จะซ่อนอยู๋ในหน้าต่างข้อมูลระหว่างต่อสู้ แต่ผมสามารถเห็นสิ่งที่เปลี่ยนไปจากการทำร้ายของผมคือศัตรูจะรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น
ผมมองไปที่อุปกรณ์ชิ้นสุดท้าย มันคือขวานคู่สีแดงซึ่งดูร้ายกาจค่อนข้างมาก ถ้านักรบขว้างขวานนี้ออกไปแล้วศัตรูคงตายทันที
(ขวานรบสองคมวิญญาณสิ่งสู่) ( สีม่วง –ระดับสูง)
Attack : 800-1070
Strengh : +42
Endurance : +40
Extra :เพิ่มอัตราการทำร้าย 9%
SpeccailEffect :มีโอกาส เปลี่ยนเปลี่ยนแปลงการโจมตี 3% เมื่อการโจมตีไปถึงศัตรู มีโอกาส 20% ที่จะอัญเชิญปีศาจน้ำแข็งหรือปีศาจไฟ เพิ่มการโจมตีหมู่
รายละเอียด : ในสมัยอดีตกาล มีกลุ่มปีศาจกลุ่มหนึ่งได้พยายามที่จะบุกทำลายแดนสวรรค์ ในเหตุการณ์นั้น มีเทวดาบางตนได้หลบออกจากแดนสวรรค์มาที่แดกนมนุษย์และเริ่มมีจิตวิญญาณเหมือนเช่นมนุษย์ ในบรรดาเทวดาที่มาจากสวรรค์นั้นมีอยู่ตนหนึ่งที่ได้นำวิญญาณปีศาจติดตัวมาด้วย 2 ตน ต่อมาจากนั้น เทวดาตนนั้นก็ได้กลายเป็นช่างตีเหล็กที่ยิ่งใหญ่ ผ่านไปสิบปีหลังจากที่กลายเป็นช่างตีเหล็กที่ยิ่งใหญ่ เขาได้ฝังจิตวิญญาณของปีศาจทั้งสองไว้ในขวานที่ใช้ต่อสู้ ซึ่งขวานนี้สามมารถต่อสู้ได้เหมือนกับปีศาจ หรือเทวดา นี่คือตำนานของขวานเล่มนี้
ต้องการระดับ :54
ริมฝีปากของ’ว่านเอ๋อ’เม้มปิดลงก่อนจะอุทาน
“ ว้าว…..นี่คือชิ้นที่สอง อาวุธสีม่วงระดับสูงที่ดรอปมา ค่าสถานะของมันสูงกว่าดาบ Frost Rain อีกใช่ไหม ทำไมพวกเราถึงโชคดีอย่างนี้”
ผมผงกศีรษะ
“ใช่แล้ว คงมาจากค่าเสน่ห์ของผม ดาบของผมมีพลังโจมตี 8% แต่ขวานเล่มนี้มี 9% และขวานเล่มนี้เป็นอาวุธที่มีพลังโจมตีสูงที่สุดในเซิฟร์เวอร์”
ผมหันหน้าไปที่’เซียงตงเล่ย’ และ’โอล เค’
“ ผมจะไม่พูดอะไรมาก พวกคุณควรจะมาเสี่ยงทอยลูกเต๋ากัน ไม่ว่าใครชนะ ขวานเล่มนี้จะเป็นของหนึ่งในนักรบกลุ่มZhan Long”
‘โอลเค’ กอด’อาเล่ย’ พร้อมกับถามไปว่า
“อา เล่ย คุณเป็นคนดีใช่ไหม”
‘เซียตงเล่ย’ ยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า
“แน่นอนอยู๋แล้ว ผมต้องการเป็นนักรบของกลุ่ม Zhan Long และคอยช่วยพี่ชายเซียวเหย่าฆ่าศัตรูของกลุ่มเรา ดังนั้นเมือ่ผมต้องต่อสู้กับคนพวกนั้น ผมต้องการขวานเล่มนั้นจริงๆ”
“หยุดคุยไร้สาระกันได้แล้ว รีบมาทอยเต๋าเด๊ยวนี้ ทุกคนกำลังยุ่ง”
ทั้งสองคนทอยลูกเต๋าในเวลาเดียวกัน
47! 51!
ทันใดนั้นสีหน้าของ’โอลเค’ เปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมกับตื่นเต้น
“ เกิดอะไรขึ้นเนี่ยวันนี้ ผมไม่เคยซื้อลอตเตอรี่ถูกมาก่อน ทำไมถึงโชคดีแบบี้ “
ใบหน้าของ’ตงชินเย่ว’ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไร
“ นั่นก็เพราะน้องชายของฉันไม่มีโชคน่ะสิ ไม่ได้หมายความว่านายโชคดี”
ผมยื่นขวานเล่มนี้ให้กับ’โอลเค’ พร้อมกับตำราสกิลที่ดรอปมาจากบอส
“นี่ของคุณ”
ผมหันหน้ามาทาง’ตงเซียเล่ย’พร้อมกับแตะไปที่หัวไหล่
“อาเล่ย,ตอนนี้ขวานเล่มนี้ถูกให้โอลเคไปแล้ว มันดูเหมือนไม่ยุติธรรมกับนาย แต่จากนี้พี่ชายเซียวเหยา คนนี้จะหาอีกอันที่ดีสำหรับนาย”
‘ตงเซียเล่ย’ยิ้มอย่างจริงใจ
“ครับ, แค่พี่ชายเซียเหยาไม่เตะผมออกจากกลุ่ม Zhan Long ผมก็พอใจแล้ว”
‘หลินว่านเอ๋อ’ ถามผม
“ตำราสกิลอะไรที่นายให้กับโอลเค”
ผม หัวเราะ
“( Savage Jump Slash)….. ตำราระดับ S
“ห๊า”
‘ว่านเอ๋อ’อุทานอกมา
“โอล เค นี่โชคดีจริงๆ หลังจากที่ออกจากหุบเขาห้าคนโฉด เขาจะเปลี่ยนจากนักรบอันดับที่สาม มาเป็นอันดับที่หนึ่ง”
ผมพยักหน้าพร้อมๆกับคำสาบาน
“ใช่ ผมตัดสินใจแล้วที่จะทำให้โอลเค เป็นนักรบอันดับหนึ่งของ Zhan Long โดยการใช่ขวานเล่มนี้กับสกิลของขวานเองมาโจมตีศัตรูแบบกลุ่ม “
‘ซอง ฮาน’ หัวเราะเบาๆ
“ท้ายสุดแล้ว โอล เค กลายเป็นผู้เล่นที่มีพลังมากคนหนึ่ง”
หลังจากแบ่งเพชรและการ์ดอภัยโทษที่ดรอปจากจักพรรดิฮั่น พวกเราไปยังชั้นต่อไป ชั้นที่ห้า ของหุบเขาคนโฉด ปลายทางสุดท้ายของพวกเรา จิตวิญญาณของรามิน ควรจะถูกผนึกที่ชั้นนี้
“ShaSha”
หลังจากที่พวกเราหมอบหลบกันที่ด้านหลังบัลลังของจักรพรรดิฮั่น ผมได้พยายามแหวกหญ้าที่ดูเหมือนจะขึ้นปกคลุมหลุมอันหนึ่งเอาไว้
‘หลินว่านเอ๋อ’ ตาโตขึ้นส่งสายตาของเธอมาที่ผม
“นี่คือประตูที่นำไปสู่ชั้นที่ห้า?”
ผมตอบรับ
”มันควรจะเป็นแบบนั้น ให้ผมไปคนแรก!”
“ระวังตัวด้วย”
ผมกระโดดลงไปอย่างไม่ทันระวัง
“เปรี้ยง”
ศีรษะของผมชนเข้ากับก้อนหินที่ที่กำลังร่วงลงมา หลุมนี้มีความลึกเพียงสามเมตร และไม่มีทางเดินหรือทางออกไปยังชั้นล่าง เฮ้ออ แผลนี้เจ็บมาก
‘หลินว่านเอ๋อ’เห็นผมตกลงไปแบบไหน เธอเอามือป้องปากถามด้วยความกังวล
“ลีเซียเหยา คุณไม่ได้เป็นอะไรน่ะ”
ผม
“ผม ไม่เป็นไร แต่ข้างล่างนี้ดูเหมือนไม่มีทางไปต่อ”
‘ตงชินเย่ว’ ตะโกนมาบอกผม
“เซียเหยา รีบปีนขึ้นมาเร็วๆ ตรงนี้มีบันไดหินซึ่งจะพาเราไปสู่ชั้นที่ห้า”
“บ้าเอ้ยย”
ผมใช้ดาบของผมปีนขึ้นไปยังปากหลุม ผมรู้สึกเหมือนตัวเองตกลงไปยังหลุมของสุนัข
เมือ่ผมปีนมาถึง พื้น ผมเห็นตัวเองกำลังสู้กับบันไดตอนตกลงไปข้างล่าง ช่างน่าอายอะไรอย่างนี้ ผมเดินขึ้นไปข้างหน้า พร้อมกับใช้ดาบ Frost rain เพื่อสะท้อนแสงสว่างขณะที่พวกเราทั้งหมดเดินลงบันได ไกลออกไปเรื่อยๆ พวกเรามองเห็นจุดเพิ่มขึ้นมาในแผนที่ของชั้นห้า
“มันคืออะไร”
สตอเบอรี่มัทฉะถาม
“ผม ไม่รู้”
พวกเราได้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นขณะที่พวกเรามองดูรถม้าที่ใช้ในการออกสงครามได้จอดอยู่ตรงกลางลานห้องนี้ รถม้าที่ใช้ออกศึกแต่ละคันใช้ม้าสี่ตัว และปีศาจเหล่านี้ได้ถูกออกแบบให้มาเฝ้าชั้นห้า
“ผมคิดว่า เซียงเป่ย คงเป็นตัวสุดท้าย”
ผมพูดออกมาเบาๆ
‘โอลเค’ ถาม
“เซียแหยา คุณรู้ได้ยังไงว่ามันคือ เซียนงเป่ย”
ผมยิ้มตอบไป
“เพราะว่าจากการบันทึกของประวัติศาสตร์ คนที่สังหารฮีโร่ รามมิน คือเซียงเป่ยแห่งจักรพรรดิ มู ลองจุน. มูลอง จุนและหน่อยรบของเขามีทหารใต้บัญชาอยู่ 150,000 นาย ซึ่งทำให้ฮีโร่ ราม มินพ่ายแพ้”
“โอ้………..เข้าใจแล้ว”
โอลเค พูด
“พวกเรามาทำลายพวกมันให้หมดเถอะ เพื่อบรรพบุรุษของฉัน”
TL :โอลเคและฮีโรร่ รามมิน มีชื่อความหมายเหมือนกันคือ บรรพบุรุษ
ผมขยับตัวไปอยู่ข้างหน้าอย่างช้าๆ เมือผมมองไปที่ระยะประมาณสามสิบเมตรทามกลางสงครามรถม้า ผมอ่านเจอค่าสถานะของพวกมัน
【Xianbei War Chariot】 (Elite Monster) Level:62
Attack: ? ? ?
Defense: ? ? ?
Health: ? ? ?
Abilities: 【War Horse Roar】【Savage Charge】【Reckless Pike Thrust】
รายละเอียด: รถม้าสงครามเซียงเป่ยเป็นอาวุธอันดับหนึ่งแห่งเซียงเป่ยคนโฉด พวกมันมีการทำร้ายและเคลื่อนไหวที่คล่องตัวค่อนข้างสูง การควบคุมม้าศึกสี่ตัวจะใช้ทหารแปดนาย ถึงแม้ว่าตั้งแต่รามมินเสียชีวิตไปแต่ม้าศึกเหล่านี้ยังเฝ้าหุบเขานี้ต่อไป
ที่มา: