I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 187 จารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์

| Zhan Long | 1495 | 2357 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“มีอะไรงั้นเหรอ? แม่ทัพหลีมู่ ใจเย็นๆ ก่อน”

“โอเคๆ…”

‘หลีมู่’เปิดฟังชั่นสนทนาพลางหายใจลึกๆ

“ตอนนี้มีเรื่องที่อาจจะร้ายแรงมากๆ ไม่นานมานี้ กิลด์ [Judgement] จากเมืองจิวหลี่ ได้สังหารบอสระดับจักรพรรดิ และมันก็ดรอป จารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์ เซียวเหยานายรู้ไหมว่า จารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์คืออะไร?”

ผมโพล่งขึ้น

“จารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์……..ชั้นไม่รู้จัก ชั้นรู้แค่จารึกสร้างกิลด์ แล้วจารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์เอาไว้ใช้ทำอะไร?”

แม่ทัพ’หลีมู่’ตอบ

“จารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์ เป็นไอเท็มที่ใช้สำหรับการท้าทายระหว่างกิลด์ มันคือการต่อสู้กันของสมาชิก 10% ของแต่ละกิลด์ และผู้แพ้จะต้องถูกยุบกิลด์ กิลด์ที่ชนะจะได้ค่าประสบการณ์ 10% จากกิลด์ที่แพ้ จารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์มันหายากมาก แต่ตอนนี้ที่เมืองจิวหลี่มีแล้วหนึ่งชิ้น นอกจากนี้ชั้นยังได้ข้อมูลมาว่า หัวหน้ากิลด์ของ [Judgement] ขายมันในราคา 4 ล้านหยวน”

ผมแข็งค้าง

“แม่ทัพหลี่มู่ นายไม่ต้องบอกหรอก ฉันรู้แล้วหละว่าใครเป็นคนซื้อไป ใช่มังกรทะยานจากกิลด์ [Flying Dragon] ใช่มั้ย?”

แม่ทัพ’หลี่มู่’กัดฟันพลางกล่าว

“ไม่ ไม่ใช่มังกรทะยาน แต่เป็นมู่เที่ยน หลังจากที่จารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์ตกได้ไม่ถึงชั่วโมง มู่เที่ยนก็ไปยังเมืองจิวหลี่ และซื้อมัน พวกนั้นต้องใช้จารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์กับพวกเรา [Valiant Bravery] แน่นอน”

ผมคิดซักพักก่อนจะกล่าว

“แป๊บๆ ขอชั้นตรวจสอบกฎเกี่ยวกับ จารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์ก่อน”

“โอเค”

ผมเปิดหาข้อมูลซักพักก็พบว่า จารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์มีรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น

ความต้องการการใช้งาน : ผู้เล่นต้องระดับ 50 กิลด์ระดับ 3 หรือสูงกว่า เป้าหมาย กิลด์ระดับ 3 หรือสูงกว่า

ค่าใช้จ่ายในการใช้งาน : 50000 ทอง

ความต้องการในการต่อสู้ : กิลด์ทั้งสองจะต้องส่งผู้เล่นจำนวนเท่ากัน ออกมาต่อสู้กัน จำนวนสูงสุดคือ 10% ของสมาชิกสูงสุดของกิลด์ หากกิลด์ระดับไม่เท่ากัน จะคิดจากค่าเฉลี่ย

ผมการต่อสู้ : ถ้ากิลด์ที่ใช้จารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์ชนะ กิลด์ที่แพ้จะถูกยุบและใช้ชื่อนั้นสร้างกิลด์ไม่ได้อีก และผู้ชนะยังได้รับค่าประสบการ 10% จากกิลด์ที่แพ้ ถ้ากิลด์ที่ใช้จารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์แพ้ กินด์ที่แพ้จะถูกยุบและกิลด์ที่ชนะจะได้ค่าประสบการณ์ 50% จากกิลด์ที่แพ้ ……

“เอาหละ นายเข้าใจมันยัง?”

‘หลีมู่’ถาม ผมพยักหน้า

“ไม่ดีเท่าไหร่ [Valiant Bravery] และ [Flying Dragon] เป็นกิลด์ระดับ 3 เหมือนกัน มีผู้เล่นสูงสุด 1000 คน นั่นหมายความว่า 10% ก็คือร้อยคนจากแต่ละฝั่ง มันคือการต่อสู้ของคน 200 คน แต่ก็ดีกว่าการสู้กันทั้งกิลด์ละนะ เพราะผู้เล่นของ [Valiant Bravery] ต่ำกว่ามาตรฐาน ถ้าเลือกแค่ร้อยคนพวกเราก็จะได้เลือกเฉพาะพวกระดับสูงจริงๆ ดังนั้นโอกาสชนะของเราคงจะเยอะพอตัวอยู่ แม่ทัพหลีมู่ชั้นรู้จักความสามารถของพวกนายดี แม้พวกนั้นจะมี Drunken Spear พวกนายก็ไม่แพ้ง่ายๆ หรอก”

“ชั้นกังวลว่าพวกนั้นจะจ้างทหารรับจ้างนะซิ…”

แม่ทัพ’หลี่มู่’กำหมัดแน่นพลางกล่าว

“พวกเรา  [Valiant Bravery] จะสูญเสียไม่ได้ ถ้ากิลด์ถูกยุบพวกเราคงไม่มีที่จะไป นั่นคือเหตุผลที่ชั้นจะชวนนายและพวกของนายเข้าร่วมกับ [Valiant Bravery] ช่วยพวกเรากับสงครามครั้งนี้ หลังจากนั้นพวกนายจะออกก็ไม่ว่ากัน เพราะงั้นได้โปรดช่วยพวกเราด้วย….”

ผมขมวดคิ้วพลางกล่าว

“ชั้นเป็นเพื่อนนายนะ เพราะงั้นชั้นก็ต้องช่วยอยู่แล้ว…..แต่ว่าแม่ทัพหลี่มู่ ชั้นไม่รับปากนะว่าจะชนะในศึกครั้งนี้ เพราะชั้นก็ไม่รู้ว่ามังกรทะยานไปจ้างใครมาบ้าง ถ้าเป็นในระดับ [Wrath of the Heroes] งั้นก็จะง่ายอยู่ แต่หากมันเป็นระดับ [Legend], [Judgement] หรือ [Vanguard] พวกเรา 7 คนคงช่วยอะไรไม่ได้มาก”

แม่ทัพ’หลี่มู่’พยักหน้าและตอบอย่างใจเย็น

“ชั้นเข้าใจ ชีวิตและความตายถูกกำหนดด้วยโชคชะตา สำเร็จหรือล้มเหลวถูกกำหนดโดยสวรรค์ พวกเราทำได้เพียงทำให้ดีที่สุดเพื่อหวังชนะเท่านั้น”

“อ่าห๊ะ นายจะไปหาคนเพิ่มรึเปล่า?”

“โอเค งั้นนายจะ……นายจะชวนสองสาวงามแห่งเมืองฝ่านชูชางถ่งกับชางเย่วมาช่วยซักหน่อยได้รึเปล่า?”

“ได้ๆ เดี๋ยวชั้นถามให้ แต่ไม่รับประกันนะ”

“โอเค”

ผมเปิดการสนทนาและติดต่อไปยัง’ว่านเอ๋อ’

“ว่านเอ๋อ?”

“อาห๊ะ ฉันกำลังจะเสร็จเควส มีอะไรงั้นเหรอ?”

“คือว่า….”

ผมอธิบายสถานการณ์ของ’หลี่มู่’ให้ฟัง ‘ว่านเอ๋อ’ขมวดคิ้วและคิดอย่างหนัก

“นั่นมัน….ไม่ว่านายจะพูดยังไง ฉันก็ยังเป็นสมาชิกของกิลด์ [Hero’s Mound] อีกอย่างฉันยังเป็นรองหัวหน้าอีกด้วย ถ้าฉันเข้าร่วมกับ  [Valiant Bravery] ผู้เล่นในกิลด์ [Hero’s Mound] ต้องไม่พอใจมากแน่ๆ”

ผมพยักหน้า

“โอเคผมเข้าใจ ว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับเธอ”

‘ว่านเอ๋อ’ยิ้มเล็กน้อย

“แต่ว่า ถ้านายอยากให้ฉันไปจริงๆ ฉันจะพาตงเฉิงไปเข้าด้วย แค่ไม่กี่วัน คงไม่มีปัญหามากหรอกมั้ง คงโดน Q-Sword ดุนิดหน่อย”

ผมรีบส่ายหัว

“ไม่เป็นไร ผมไม่อยากติดหนี้ Q-Sword อีก [Valiant Bravery] เป็นเพื่อนของผมเอง แต่ไม่ใช่เพื่อนของว่านเอ๋อ ดังนั้นผมเลยไม่มีสิทธิที่จะขอให้คุณช่วยเขา เพราะงั้นผมจะจัดการมันด้วยตัวเอง คุณก็โชคดีในการทำเควสละ”

“โอเค สู้ๆนะ อย่าแพ้”

“โอเค….”

หลังจากกลับไปบอกข่าวกับเขา เขาก็ไม่อะไรมาก เพราะคิดไว้อยู่แล้ว และเขาก็กำลังหาคนอยู่ และไม่นานหลังจากนั้น ก็เป็นไปตามที่พวกเราคิด เสียงประกาศการใช้จารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์ก็ดังขึ้น

ตริงงงง ประกาศจากระบบ : ผู้เล่นมังกรทะยานใช้จารึกเกียรติภูมิแห่งกิลด์สำเร็จ กิลด์ที่จะต่อสู้กันคือ 【Flying Dragon】และ【Valiant Bravery】ทั้งสองกิลด์จะต้องเลือกผู้เล่นในกิลด์ออกมา 100 คน สุดท้ายผู้ชนะจะได้รางวัลที่ยิ่งใหญ่และผู้แพ้ก็ได้รับความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่-กิลด์จะถูกลบ การต่อสู้จะเริ่มในเวลา เที่ยงพรุ่งนี้ …..

“ว้าวววว”

‘มัทฉะ’ตกตะลึง

“[Flying Dragon] ถ้าทาย [Valiant Bravery] นี่มันจะล้อเล่นมากไปแล้ว พวกเขาคิดจะลบล้าง [Valiant Bravery] ออกจากเมืองป้าฮวงเลยรึไง”

‘ซงฮาน’กัดฟันพร้อมกล่าว

“ผู้เล่นในกิลด์ [Valiant Bravery] ต่างก็เป็นคนดีเหมือนแม่ทัพหลี่มู่ พวกเขาก็นับเป็นเพื่อนของเรา พี่เซียวเหยา เราไปช่วยพวกเขากันเถอะ”

ผมพยักหน้า

“อ่าห๊ะ หลี่มู่ชวนพวกเราเรียบร้อยแล้ว พวกเราทั้ง 7 คน จะเข้าร่วมกับ [Valiant Bravery] และช่วยพวกเขาในสงครามครั้งนี้”

‘หลิวย่ง’ขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางกล่าวว่า

“ชั้นคิดว่ามันคงไม่ง่ายขนาดนั้น การที่เขากล้าท้าทายแบบนี้ มังกรทะยานเขาต้องคิดว่าเขาจะชนะแน่ๆ และเขาต้องมีการเตรียมการที่ดีแน่ๆ”

‘มัทฉะ’ย่นคิ้ว

“บอส คุณกับแม่ทัพหลี่มู่และมาทัพหวางเจี้ยนต่างมีความสัมพันที่แน่นแฟ้น ดังนั้นแม้ว่าเราจะแพ้ พวกเราก็จะเผชิญมันไปด้วยกัน เมื่อ Zhan Long สร้างขึ้นพวกเราก็จะมีเพื่อนที่ไว้ใจได้ สมาชิกของ [Valiant Bravery] ต่างเป็นคนที่ซื่อสัตว์ ฉันคิดว่าการตัดสินใจของบอสไม่ผิดแน่นอน พวกเราควรจะให้เขายืมมือ แม่เราจะแพ้ก็ตาม”

ผมหัวเราะ

“ใช่แล้ว ชั้นบอกแม่ทัพหลี่มู่ไปแล้วหละ ไปที่ตลาดตรงทิศเหนือกันเถอะ อ้อใช่ มัทฉะเธอเรียนสกิลใหม่ยัง?”

“มันแพงมากเลยบอส ทุกสกิลมันต้องการสกิลละ 100 ทองสำหรับคนที่จะเรียนเลย”

“ไม่มีปัญหา เรียนมันเลย”

“โอเค”

หลังจากนั้นไม่นาน แสงสีทองก็ส่องสว่างออกจากร่างของมัทฉะ และเธอก็แชร์ทั้งสามทักษะมาให้เราดู

【Phantom Ray Slash (LV-1)】 : โจมตีเป็นแนวยาวด้วยแสงในระยะ 15 เมตร ด้วยพลังโจมตี 110% พลังโจมตีขึ้นอยู่กับเลเวลของทักษะ

【Phantom Shadow Clone (LV-1)】: สร้างร่างโคลนขึ้นมารับความเสียหายแทนผู้ใช้ 1.5 วินาที ประสิทธิผลของสกิลจะขึ้นอยู่กับระดับทักษะ

【Phantom Holy Shield (LV-1)】: สร้างโล่ศักสิทธิ์ เพื่อป้องกันผู้ใช้ เพิ่มพลังป้องกันกายภาพและเวทมนต์ 5% ประสิทธิผลของสกิลจะขึ้นอยู่กับระดับทักษะ

…… ผมมองไปยังทั้งสามทักษะพร้อมกับยิ้ม

“[Phantom Ray Slash] เป็นทักษะที่ใช้โจมตี [Phantom Shadow Clone] เป็นทักษะควบคุม ในขณะที่ Phantom Holy Shield] เป็นทักษะป้องกัน การเปลี่ยนเป็นอัศวินปีศาจนี่เป็นทางเลือกที่ดีจริงๆ แล้วได้ทักษะอะไรของนักดาบมางั้นเหรอ?”

‘มัทฉะ’หัวเราะเล็กน้อย

“[Haste] มันก็ใช้ได้อยู่นะ ฉันสามารถเพิ่มความเร็วโจมตี และความเร็วได้ นอกจากนี้ อัตราการเติบโตก็ยังเปลี่ยนไปมาก ค่าความอดทนเพิ่มขึ้นมากจริงๆ ฉันควรจะอัพค่ายังไงดีคะบอส”

“แล้วตามความเห็นของเธอ เธอคิดว่าควรจะอัพค่ายังไง?”

“ตามที่ฉันเข้าใจอาชีพอัศวิน…”

‘มัทฉะ’เม้มฝีปากเล็กน้อย

“ที่จำเป็นคือเลือดและพลังป้องกัน คุณสมบัติเหล่านี้มีค่าเติบโตที่สุงมากทีเดียว แต่ว่าพลังโจมตีก็สำคัญเหมือนกัน ไม่อาจจะถูกละเลยได้ นอกจากนี้ในอนาคต พลังป้องกันและเลือดยังอาศัยได้จากชุดเกราะ แต่พลังโจมตีได้มาจากอาวุธเพียงอย่างเดียว พลังโจมตีจากหอกไม่ได้แรงเหมือนกับขวาน ดังนั้นฉันคิดว่าควรจะอัพพลังโจมตีเยอะด้วย ดังนั้นฉันคิดว่าจะอัพค่า strength 7 ค่า endurance 1 และ ค่า defense 2 บอสคิดว่าแบบนี้พอได้มั้ยค่ะ”

ผมพยักหนเพลางยิ้ม

“เยี่ยมมาก เธออัพแบบนั้นได้เลย ผมอยากจะเห็นวันที่เธอแข็งแกร่งจริงๆ”

“โอเค โอเค”

“โอเค ไปรวมตัวกันที่ลานตรงทิศเหนือเถอะ”

5 นาทีต่อมาที่ลานทิศเหนือ เมืองป้าฮวง แม่ทัพ’หลีมู่’เดินลากเท้ามาหาพวกเรา

“ยินดีต้อนรับสาวสวนหนุ่มหล่อจาก Zhan Long ที่มาช่วยพวกเรา [Valiant Bravery] จะจำมันไว้ตลอดไป”

ผมย่นคิ้วเล็กน้อย

“อย่ามาพูดจาไร้สาระ เพิ่มพวกเราเข้ากิลด์ก่อน”

“โอเค”

ในจังหวะที่พวกเราเข้าสู่กิลด์ สัญลักษณ์ดาบยาวสีแดงโลหิตก็ปรากฏขึ้นที่หัวไหล่ของเรา มันคือสัญลักษณ์ของกิลด์ [Valiant Bravery]

“เซียวเหยานายอยากได้ตำแหน่งอะไรละ? ต่อให้นายอยากเป็นรองหัวหน้ากิลด์ก็ได้นะ”

ผมส่ายหัว

“ไม่ ผมไม่ต้องการ ผมจะเป็นคนนำกลุ่ม 7 คนของ Zhan Long และฟังคำสั่งของนาย พวกเราจะฆ่าใครก็ตามที่นายสั่ง”

“โอเค ขอบใจพวกนายทุกคนมาก”

‘หลี่มู่’กำหมัด

“ขอบคุณจริงๆ เพื่อน”

ผมมองตรงออกไปยังป่าพร้อมกับกล่าว

“พอแล้วหลี่มู่ ไปเตรียมการให้เสร็จก่อนไป พวกเราว่าจะออฟไลน์ไปพักก่อน พวกเราจะออนไลน์มาอีกทีห้าโมงเช้า”

“โอเค เข้าใจละ”

สามทุ่มที่บาร์ของมหาลัย ‘ว่านเอ๋อ’จับแก้วกีวี่ของเธอด้วยสองมือ อย่างสั่นไหวพลางมองมาที่ผม

“ข่าวของ  [Flying Dragon] และ [Valiant Bravery] แพร่กระจายออกไปมากทีเดียว นายมั่นใจว่า [Valiant Bravery] จะสามารถชนะ [Flying Dragon] ได้มั้ย?”

ผมนั่งลงบนเก้าอี้

“นั่นก็ขึ้นอยู่กับศัตรูละนะ”

“แม้นายจะไม่มั่นใจ นายก็ยังไปช่วยพวกเขานี่นะ”

“ชีวิตเป็นสิ่งท้าทาย ความมุ่งมั่น บากบั่นเป็นหนึ่งสิ่งที่รับประกันว่าจะสำเร็จมากขึ้น”

“ก็จริง ฉันหวังว่านายจะสำเร็จนะ นายควรจะนอนเร็ว พรุ่งนี้นายจะได้มีสติมากขึ้น อย่าออกไปต่อสู่และไปดื่มละ”

“โอเค”

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments