I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 189 ฟันทีไรต้องได้เลือด

| Zhan Long | 1505 | 2361 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดย คุณ Parita Chee

***********************

“ผมจะขึ้นไปคนแรก”

เพื่อประหยัดเวลา ผมเดินทางให้เร็วขึ้นด้วยทักษะ [Haste] และรองเท้า Purple Dawn ของผมก็สร้างความเร็วในการเคลื่อนที่ซึ่งทำให้ผมเคลื่อนไหวได้เร็วกว่าคนอื่นๆ

ภายในไม่กี่อึดใจ ผมก็อยู่ใกล้ฐานของที่ราบบนยอดเขา ผมถือกระบี่ประกายวสันต์โถมขึ้นไป ขณะที่เบบี้โบโบ้บินส่งเสียงหึ่งๆ ตามข้างหลังพร้อมที่จะบินโผเข้ามาช่วยผม ผมเร่งฝีเท้าขึ้นไปตามหน้าผาหินของที่ราบสูง

ทันทีที่ผมไปถึงยอดบนสุด ผมสังเกตว่ายังไม่มีใครจากกิลด์ฟลายอิ้งดราก้อนมาถึง จึงรีบรุดไปที่ขอบอีกด้านหนึ่งทันที แต่ว่าก่อนที่ผมจะวิ่งไปถึงครึ่งทาง ผู้เล่นคนหนึ่งก็ปรากฎตัวมาให้เห็น

นั่นคือ ‘ดรั๊งเคินสเปียร์’  อัศวินธรรมชาติ

“เซี่ยวเหยาจื่อไจ๋”

‘ดรั๊งเคินสเปียร์’ ควงหอกวิญญาณบริสุทธิ์ขณะที่พุ่งเข้าใส่ผม สายตาของเขาเยือกเย็นด้วยความมุ่งมั่น

“พวกเรามาสู้กันอีกสักครั้ง”

เขาตะโกน ผมถือกระบี่ประกายวสันต์ห้อยต่ำขณะที่เร่งกำลังพุ่งไปข้างหน้า ทันทีที่หอกของเขาแทงเกือบโดนผม ผมพุ่งตัวลงพื้นและไถลเลื่อนตรงไปหา’ดรั๊งเคินสเปียร์’ กระบี่ประกายวสันต์วาดจากพื้นฟันตัดไปที่ขาทั้งสองข้างของ ‘ดรั๊งเคินสเปียร์’

“เฮ้ย”

‘ดรั๊งเคินสเปียร์’ กระโดดขึ้นหลบกระบี่ของผมได้พร้อมๆกับที่แทงหอกไปที่หลังของผม

ในเวลาเดียวกัน หมาป่าไฟ สัตว์เลี้ยงของเขาคำรามลั่น กางเล็บแหลมคมพุ่งตรงเข้าใส่ผม

ผมพยายามตั้งสติ ปล่อยให้ตัวเองไถลเลื่อนไปข้างหน้าราวกับกระสุน เท้าผมแตะกับก้อนหินขนาดใหญ่แล้วสปริงตัวขึ้นด้วยแรงถีบเท้าอย่างแรง มือทั้งสองจับกระบี่ประกายวสันต์ไว้แน่นเมื่อผมสั่งใช้ทักษะต่อเนื่อง [combo] เลเวล 6  เพราะ’ดรั๊งเคินสเปียร์’ยังลอยตัวอยู่ในอากาศ เขาจึงไม่สามารถหลบหลีกได้

ผมจึงปล่อยการโจมตีสี่ครั้งแรกไปที่ด้านหลังของเขา 627! 671! 669! 701! ….

พลังชีวิตของเขาลดลงอย่างฮวบฮาบ ผมไม่รอให้เขาได้โต้ตอบ กระบี่ประกายวสันต์ของผมสั่นเบาๆ เมื่อผมปล่อยทักษะ คมกระบี่สายลม [Wind blade] โจมตีเป็นครั้งที่ 5

“แย่แล้ว…”

‘ดรั๊งเคินสเปียร์’ใช้น้ำยาเพิ่มพลังชีวิตเพื่อฟื้นพลังชีวิต 1000 หน่วย เขาใช้ทักษะ แทงทะลุภูผา [Rock Piercing Thrust] พร้อมกับที่ผมใช้ทักษะคมกระบี่สายลม  ทำให้ผมได้ตระหนักว่า ความสามารถในการกระแทกถอยหลังของทักษะแทงทะลุภูผา [Rock Piercing Thrust] ได้ช่วยให้เขาหลบทักษะคมกระบี่สายลมไปได้ 894!

หลังจากที่ผมโดนแทงด้วยทักษะ แทงทะลุภูผา [Rock Piercing Thrust] ผมถูกกระแทกให้ถอยหลังและไม่สามารถจัดการ’ดรั๊งเคินสเปียร์’ได้ตามหวัง แม้ว่าเบบี้โบโบ้จะโผเข้าใส่ด้วยทักษะต่อเนื่อง [Combo] ของมัน กับทักษะแทงเหล็กใน [Sting] และการโจมตีจะพลาดไปสองครั้ง

แต่พลังชีวิตของ ‘ดรั๊งเคินสเปียร์’ก็ลดลงไปไม่น้อยเหมือนกัน

“ควบคุมได้เยี่ยมมาก…”

‘ดรั๊งเคินสเปียร์’ถอยหลังไปขณะที่กระทืบเท้าเสียงดัง

“ปึ้ก”

พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนเมื่อเขาเรียกใช้ทักษะน้ำพุเดือด [Scorching Spring] ผมลอยตัวหลบ มีตัวหนังสือลอยบนหัวว่า

“พลาด”

ผมกำหมัดกระแทกพื้นเรียกใช้ทักษะโซ่พันธนาการ [Binding Chains] ‘ ดรั๊งเคินสเปียร์’เอียงตัวหลบห่างไปด้านข้างสามเมตร เป็นผลให้เกิดตัวหนังสือขนาดใหญ่

“พลาด”

ลอยอยู่บนหัวของเขา  เขาถือหอกส่งเสียงหัวเราะลั่น

“ผมจะกลับมาแน่ นายเป็นคู่ต่อสู้ที่เยี่ยมมาก อย่าตายเร็วเกินไปก็แล้วกัน”

ผมยืนนิ่งและใช้ทักษะ [Heal] ฟื้นพลังชีวิต 900 หน่วย  ในเวลาเดียวกันผมมองไปข้างหน้าเห็นคนกลุ่มหนึ่งที่ขึ้นมาถึงยอดเขา  พวกนั้นเป็นสิบสามอินทรีของกิลด์แวนการ์ด ที่มี’จิ้งจอกอำมหิต’ [fallen wolf] เป็นผู้นำ เป็นไปดังคาด พวกเขามีอาชีพจำพวกเกราะหนักทั้งสิ้น

ได้แก่ มือกระบี่(ดาบ) นักรบคลั่ง หรืออัศวิน

“เซี่ยวเหยา จื่อไจ๋ วันนี้ นายตายแน่”

‘จิ้งจอกอำมหิต’ถือขวานรบในมือพุ่งตรงเข้ามา คำรามเสียงลั่น

“พี่น้องทั้งหลาย สั่งสอนพวกซ่านหลงที่โง่เง่าให้ลิ้มลองรสชาติของความพ่ายแพ้ดูบ้าง”

‘จิ้งจอกอำมหิต’ช่างยโสโอหังยิ่งนัก และมั่นใจเหลือเกิน ในอีกด้านหนึ่ง สายตาของ’หลี่มู่’เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ เขากระชับอาวุธในเมือแน่นและพุ่งตรงไปข้างหน้าพร้อมตะโกนลั่น

“บุก ช่วยซื้อเวลาให้เซี่ยวเหยาได้มีเวลาหายใจ”

….. ไม่นานนัก  ทั้งสองฟากมีคนขึ้นมาบนที่ราบบนยอดเขาได้แล้ว  บนท้องฟ้าที่ห่างออกไป มีวินด์เอลฟ์มากกว่า 20 คนลอยตัวอยู่เหนือยอดไม้ที่เป็นสมาชิกของกิลด์ฟลายอิ้งดราก้อน ที่เผยตัวเองออกมา บางทีนี่อาจเป็นไพ่ตายของพวกเขาก็ได้

ด้านหลังผม ในที่สุด’เป็ดที่รัก’ ‘ฟ๊อกซ์’ และคนอื่นๆ ก็ทยอยปรากฏตัวขึ้น ผมรู้สึกโล่งอก ในท้ายที่สุดกองหนุนก็มาถึงแล้ว ผมวิ่งตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เรียกใช้ทักษะต่อเนื่องเลเวล 6 เล็งเป้าไปที่หน้าผากของนักดาบ เลเวล 55  ซึ่งก่อให้เกิดตัวเลขเรียงรายเป็นสายขึ้นมา แต่ฮีลเลอร์จัดการร่ายเวทย์ [Heal] ให้เขาได้ในวินาทีสุดท้าย ทำให้เขายังมีชีวิตรอดมาได้

ตราสัญลักษณ์บนบ่าของนักดาบเลเวล 55 แสดงให้เห็นว่าเขามาจากเมืองจิ่วหลี่ เขาพลิกปลายดาบแล้วใช้ทักษะต่อเนื่อง พร้อมกับรอยยิ้มยินดี

“เคร้ง เคร้ง เคร้ง ….”

หลังจากโจมตีอย่างต่อเนื่องเป็นชุด จำนวนที่ลอยขึ้นเหนือคมกระบี่ของผม รวมสร้างความเสียหายได้ทั้งหมด 1800 หน่วย คนที่มาจากเมืองจิ่วหลี่นี่จัดการได้ไม่ง่ายเลย

“เปรี้ยง”

เสียงอากาศระเบิดมาจากด้านล่างของเท้าผมขณะที่กระบี่ประกายวสันต์สั่นสะท้าน  เห็นเช่นนั้น ตาของนักดาบเลเวล 55 ก็เบิกโพลง

“นี่…นี่เป็นทักษะต่อเนื่องพิเศษ ของมือกระบี่ นี่มันเซี่ยวเหยาจื่อไจ๋นี่”

ด้วยทักษะต่อเนื่องที่ก้าวไปอย่างรวดเร็ว ผมกระแทกผ่านแนวหน้าของกิลด์ฟลายอิ้งดราก้อน ไปสู่ใจกลางของทีม ทักษะคมกระบี่สายลมอันสุดท้ายฟันทะลุเกราะรบของนักดาบเลเวล 55 สังหารเขาตายทันที มีไม่กี่คนหรอกที่จะสามารถทนพลังของทักษะกระบี่ร้อยสังหาร [Strength of a Thousand Men] อย่างเต็มกำลังได้

กลุ่มของ’หลี่มู่’ก็กำลังต่อสู้กับกิลด์ฟลายอิ้งดราก้อน  ‘หวังเจี่ยง’คำรามขณะที่ยกกระบี่เขาขึ้นสูง

“มีนักรบคลั่งเลเวล 54 อยู่ทางขวามือ  มุ่งไปจัดการเป็นคนแรกเลย”

“ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!”

ดาบสามเล่มฟันเข้าด้วยกัน เป็นผลให้นักรบคลั่งส่งเสียงครางขณะที่ล้มลง ในเวลาเดียวกันขวานรบของ’จิ้งจอกอำมหิต’ก็ส่งความร้อนจากเปลวเพลิงที่ร้อนแรงขณะที่อีกหนึ่งคนในพวกสิบสามอินทรีของกิลด์แวนการ์ดก็เริ่มใช้ทักษะคอมโบใส่นักรบคลั่งของฝ่ายพวกเรา

ทั้งสองฝ่ายต่างรู้สึกถึงความเสียหาย ดังนั้นสถานการณ์จึงยิ่งรุนแรงมากขึ้น

“ครืน”

แผ่นดินสะเทือนเบาๆเมื่อทักษะ [Pillars of Fire and Ice] ปะทุขึ้นมาจากพื้น เป็นการโจมตีครั้งแรกของ’มังกรทะยาน’ ยังมีนักธนูหลายคนจากด้านข้างที่ยิงมาที่พวกเราด้วยทักษะ [Scatter Shot] กระทบพวกเราดัง

เผียะ เผียะ เผียะ

นักดาบสองคนจากกิลด์ [Valiant Bravery] เข่าทรุดลงทันที ถูกสังหารคาที่จากทักษะ[Scatter Shot] บนท้องฟ้า มือธนูและนักเวทย์อีกกลุ่มหนึ่งเริ่มต้นยิงลงมาที่พื้นด้วยพลังเพลิงร้อนแรง  ผู้เล่นสิบคนจากกิลด์ [Valiant Bravery] ในแนวหน้าล้มตายลงในชั่วพริบตา  ในสงครามขนาด 100 คน ถือเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ไม่อาจปล่อยให้เรื่องเป็นไปแบบนี้ ไม่อย่างนั้นพวกเราต้องแพ้แน่นอน   ……

“อย่างนี้ไม่ดีแน่ ต้องฆ่าคนสำคัญของพวกนั่นก่อน”

ผมหมายหัวพยัคฆ์ทมิฬที่เป็นรองหัวหน้าของกิลด์ฟลายอิ้งดราก้อน จึงตะโกนสั่งไปเสียงดังลั่น

“ใน 2-3 วินาที ผมจะพุ่งเข้าไปและใช้ทักษะ [Combo]  โอลด์เค นายใช้ทักษะคมขวานวายุหมุน [Whirlwind Slash] พยายามฆ่าพยัคฆ์ทมิฬ และจากนั้นใช้  [Savage Jump Slash] กระโดดถอยออกมา เรื่องนี้สำคัญนายต้องทำให้สำเร็จ เพราะถ้าพยัคฆ์ทมิฬถูกฆ่า  กิลด์ [Valiant Bravery] จึงจะมีโอกาส”

“โอเค”

ผมกระแทกอัศวินคนหนึ่งถอยออกไปแล้วเคลื่อนตัวไปทางด้านข้าง จากนักหลบทักษะ [combo] ของนักดาบสองคนที่พุ่งเข้ามาอย่างง่ายดาย ยิ้มกับตัวหนังสือ

“พลาด”

ที่ปรากฏขึ้น เมื่อเคลื่อนผ่านนักดาบสองคนนั้นไป กระบี่ของผมก็ทอแสงขึ้นเป็นดาวหกแฉกสีทองซึ่งพร้อมที่ผ่าพยัคฆ์ทมิฬออกเป็นสองส่วน

“ระยำ…”

‘พยัคฆ์ทมิฬ’ กระโดดถอยหลังอย่างรวดเร็ว ทักษะ [combo] ของผมฟันไม่โดนในสองครั้งแรก

พลาด พลาด 875! 915! ……

ก่อนที่เขาจะฟื้นตัว เสียงคำรามดังมาจาก’โอลด์เค’เมื่อเขายกขวานรบในมือขึ้นสูง กระลมจากทักษะคมขวานวายุหมุน [Whirlwind Slash] ดูดกลืนกลุ่มคนพวกนั้นและพร้อมกับเสียง

“ผัวะ”

สองครั้ง การโจมตีกระทบไปที่พยัคฆ์ทมิฬทั้งสองครั้ง ทำให้เขาตาย

“อึ๊กกก”

‘พยัคฆ์ทมิฬ’ทรุดลงไปที่พื้น นัยน์ตามองไปที่แผลบนอก เขาไม่คิดว่าเขาจะตกเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเร็วอย่างนี้ สายตามองมาที่พวกเราอย่างเคียดแค้น เขาร้องออกมา

“แกกล้า จ้องเล่นงานฉันเรอะ”

ผมรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังตรงเข้ามา จึงล่าถอยพร้อมกับตะโกนเรียน’โอลด์เค’

“โอลด์เค ถอยเร็ว”

พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเมื่อ [Pillars of Ice and Fire] ปะทุขึ้นมาจากพื้นใต้เท้าของ’โอลด์เค’ สร้างความเสียหายให้กับโอลด์เคไปถึง 1200  ‘มังกรทะยาน’ร่ายเวทย์ [Pillars of Ice and Fire] จากที่อยู่กลางอากาศอย่างรวดเร็ว

‘โอลด์เค’ตอนนี้ร่อแร่ใกล้จะตายอยู่แล้ว

“ตายซะเถอะ”

‘โอลด์เค’ที่ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นว่าเขาร่อแร่ใกล้จะตายแล้ว เขาฟันนักธนูคนหนึ่งด้วยขวานขณะที่ร่างกายของเขาเริ่มทอแสงสีแดงไปทั้งตัว กระโจนขึ้นไปด้วยทักษะ [Savage Jump Slash] โดยหมายหัวมือดาบคนหนึ่งเอาไว้ จากนั้นลากขวานออกไปขณะที่ล่าถอย

“เป็ดที่รัก ช่วยรักษาที…”

‘เป็ดที่รัก’พยักหน้ารับทราบอย่างเงียบๆ ไม้เท้าของเธอยกขึ้นร่ายเวทย์ [Heal] ใส่บนร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลของ’โอลด์เค’ ……

‘มังกรทะยาย’ตัวสั่นระริกด้วยความโกรธ

“แก เซี่ยวเหยา จื่อไจ๋ เป็นแกที่สร้างปัญหาตลอด แกและซ่านหลงของแก ไอ้บัดซบ แกต้องสู้กับฟลายอิ้งดราก้อนไปจนตายกันไปข้าง ฟลายอิ้งดราก้อน วินด์เอลฟ์ นักเวทย์ มือธนู และมือปืนทุกคนเล็งที่เซี่ยวเหยาจื่อไจ๋ ฆ่ามันให้ได้ไม่ว่าจะต้องเสียอะไร ผู้เล่นอาชีพเกราะหนักทุกคน จับตายเซี่ยวเหยาจื่อไจ๋ เจาะเกราะฆ่ามันให้ได้”

ผมมองไปด้านหลังผมอย่างเยือกเย็น ตะโกนก้อง

“ฟ๊อกซ์ เตรียมยิง”

“รับทราบ”

ผมตะลุยไปข้างหน้า ไม่สนใจจะล่าถอยแล้ว กระแทกนักรบคลั่งที่อยู่ใกล้คนหนึ่งกระเด็นออกไปในเวลาเดียวกับที่ผู้เล่นฟลายอิ้งดราก้อนทั้งหมดพุ่งเป้ามาที่ผม ผมรู้สึกตกใจนิดๆ แต่ผมก็เรียกใช้ทักษะเกราะมังกรสีชาด [Shield of the Crimson Dragon] มังกรสีแดงชาดเลื้อยพันรอบตัวผมเป็นรูปร่างของเกราะป้องกันได้เป็นเวลา 7 วินาที และต้องใช้แต้มของพลังโทสะถึง 40 แต้ม

แต่เพราะเช่นนั้น ผมจึงมีพลังป้องกันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

“เผียะ เผียะ เผียะ”

ลูกธนูและเวทย์โจมตีจำนวนนับไม่ถ้วนแตกกระจายใส่ผม สร้างความเสียหายให้ผมน้อยตั้งแต่ 40 ไปจนเสียหายมาก แต่เสียหายมากยังไม่ก็ยังต่ำ แค่ 300 แต้ม พลังป้องกันและความต้านทานต่อพลังเวทย์ของเกราะมังกรสีชาด  [Shield of the Crimson Dragon] ช่างทรงพลังอย่างมาก

แม่ทัพ’หลี่มู่’มองที่ผมโดยไม่มีความเกรงกลัวแม้แต่น้อย

“ฮีลเลอร์ รักษาเซี่ยวเหยา”

แสงของทักษะ [Heal] ล้อมรอบผมในขณะเดียวกันผมก็ร่ายเวทย์รักษาตัวเองไปพร้อมกัน ผมประเมินตำแหน่งของพวกนั้น แล้วตะโดน

“ฟ๊อกซ์ เล็งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 25 องศา และยิงไปที่ 35 องศา”

ผมได้ยินเสียงของมือปืน 8 คนปล่อยทักษะยิงถล่ม [Bombardment] ด้านหลังของผม  บนท้องฟ้าสว่างไสวราวกับจุดพลุ เมื่อมือธนูวินด์เอลฟ์ 3 คน และนักเวทย์วินด์เอลฟ์ 3 คน ถูกยิงร่วง

“ระยำ”

สีหน้าของ’มังกรทะยาน’เปลี่ยนเป็นสีม่วง

“วินด์เอลฟ์ ถอยด่วน อย่าไปเสี่ยงชีวิตเสียเปล่า”

ผมสั่ง เบบี้ โบโบ้ให้บินตรงไป มันสังหารนักธนูได้คนหนึ่ง แต่หลังจากนั้น เบบี่โบโบ้ก็โดนรุมยิงตายหลังจากฆ่านักธนูนั่นแล้ว ถือว่าคุ้ม ……

“แคร้ง”

‘หลี่มู่’กระแทกเกราะของพระคนหนึ่งด้วยทักษะ [combo] โดยไม่ชะงักสักเลยสักอึดใจ  เขาเรียกใช้ทักษะ[Absolute Authority] สังหารพระคนนั้นที่ยืนขวางอยู่แนวหน้า ‘หวังเจี้ยน’ที่จับตามองไปด้วยกัน กระซิบผ่านทางช่องสื่อสาร

“บอส มีผู้เล่นคนหนึ่งหายไป..”

“ใคร”

‘หลี่มู่’ถาม

“ดรั๊งเคินสเปียร์”

“หา”

‘หลี่มู่’หันกลับไปทางด้านหลัง

“ให้มือลอบสังหารคนหนึ่งไปลาดตระเวน”

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัวดังลั่นเมื่อ มือลอบสังหารของ [Valiant Bravery] สองคนถูกสังหารไปจากด้านหลังเพราะผู้เล่นของกิลด์ฟลายอิ้งดราก้อนกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้าเล่นงานจากทางด้านหลัง

‘ดรั๊งเคินสเปียร์’กำลังนำการโจมตีด้วยสีหน้ากล้าหาญใส่แนวหลังของกิลด์ [Valiant Bravery] เขาหลบหลีกธนูที่ยิงด้วยทักษะ[Scatter Shots] อย่างง่ายดาย เขากระแทกเท้าลงพื้น น้ำพุเดือด [Scorching Spring] ก็ปะทุขึ้นจากพื้นใส่ฝูงคน

ในเวลาเดียวกัน เขาก็เรียกใช้ทักษะ หอกเหล็กทะลวงแทง [Iron Spear Thrust] สังหารสมาชิกของกิลด์ [Valiant Bravery] ไปถึง 7 คน

“บุกไปข้างหน้า ฆ่าให้หมด”

‘ดรั๊งเคินสเปียร์’ คำรามลั่น ใจผมหนาวสะท้านเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น

“มัทฉะ สกัดดรั๊งเคินสเปียร์ อย่าให้เข้ามาได้”

“ซ่า ซ่า”

อัศวินปีศาจตัวน้อยของเราแกว่งดาบของเธอพร้อมกับพลังที่เพิ่มขึ้นพรวดพุ่งลอดไปข้างหน้า

“บรึ้มมมม”

ทักษะ [Phantom Ray Slash] ของเธอกวาดผ่านกลุ่มคนออกไป แม้ว่าความเสียหายไม่สูงนัก แต่มันก็เล่นงานไปหลายคน ‘ดรั๊งเคินสเปียร์’ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น แต่หอกวิญญาณบริสุทธิ์ของเขาได้พูดแทนเขาทั้งหมดแล้ว  โดยแทง’มัทฉะ’ไปที่ไหล่พร้อมเสียงดัง

“ฉึก”

เลือดสาดกระจายออกมาในขณะที่พลังโจมตีดัน’มัทฉะ’ให้ถอยออกไปพร้อมกับส่งเสียงร้องทั้งน้ำตา  เธอใช้ทักษะสะท้อน [reflect] พยายามโจมตีดรั๊งเคินสเปียร์ก่อนที่จะพ้นรัศมีการโจมตี

แต่โชคไม่ดีที่’ดรั๊งเคินสเปียร์’หลบหลีกไปอย่างง่ายดาย มีตัวหนังสือ

“พลาด”

ลอยขึ้น

“วิ๊งงง”

เกราะสีทองสามอันล้อมรอบมัทฉะเมื่อเธอเรียกใช้ทักษะ [Phantom Holy Shield].

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments