I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 199 ศึกแรกของ Zhan Long

| Zhan Long | 1487 | 2364 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดยคุณ WildFox

************************

“ชิงเฉียน สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”

ชั้นถามเมื่อสืบเท้าเข้าไปหาพร้อมรอยยิ้มบาง ‘เยว่ชิงเฉียน’กระพริบตาคู่สวยพร้อมรายงานว่า

“ตอนนี้มีพวก[Wrath of the Heroes]ประมาณ 200 อยู่รอบๆนี้ พวกเขาคือพวกที่โดนเราฆ่าตายอย่างน้อยคนละหนึ่งรอบซึ่งกำลังวิ่งกลับมาหาศพตัวเองที่บริเวณนี้ค่ะ นอกจากนี้ รู้สึกว่าหัวหน้ากิลด์[Warth of the Heroes] ซีฉุ่ป้าหวางกำลังคลั่งเต็มที่ ถึงกับบังคับให้เคลื่อนกำลังพลทั้งหมดของ[Wrath of the Heroes]มาถล่มหุบเขากิเลนพฤกษาเพื่อหมายที่จะทำลายล้าง[Zhan Long] กิลด์ที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ของพวกเราค่ะ . . .”

ผมแยกเขี้ยว ชักดาบประกายวสันต์ออกมาพลางหัวเราะแล้วกล่าวว่า

“ให้พวกมันเข้ามา ตอนนี้  ที่นี่เรามีคนของเราอยู่เท่าไหร่?”

“ประมาณ 150 คนค่ะ มัตชะตอนนี้บัญชาการกำลังพลจากค่ายZhan Long ส่วนแม่ทัพหลี่มู่รับผิดชอบกำลังพลจากค่ายValiant Bravery ซึ่งตอนนี้กำลังกระจายกันเก็บเลเวลอยู่ค่ะ”

“เอาล่ะ!”

ผมเปิดช่องสนทนากิลด์ขึ้นมาพร้อมสั่งไปว่า

“ซงฮาน”(Little Wolf)

“ครับผม พี่เซียวเหยา?”

‘ซ่งหาน’ตอบกลับ ชั้นอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมสั่งไปว่า

“ส่งนักฆ่า 10 คนพร้อมด้วย นักธนูเอล์ฟสายลมประมาณ 10 คนออกไปลาดตระเวนในหุบเขากิเลนพฤกษา แล้วรีบกลับมารายงานทันทีถ้ามีข่าวอะไรของพวก[Wrath of the Heroes]เพื่อที่เราจะได้ป้องกันพวกมันเข้ามาลอบโจมตี”

“รับทราบ เข้าใจแล้วครับ”

แม่ทัพ’หลี่มู่’พลางถามว่า

“เซียวเหยา ไม่ทราบว่ามีเรื่องบาดหมางอันใดกับซีฉู่ป้าหวางมานาน จนทำให้เขาเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ได้”

ชั้นตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่ต่างกันว่า

“เอาจริงๆเลยนะ ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน. . .”

‘มัทชะ’หัวเราะแฮะๆเบาๆพร้อมกล่าวว่า

“ตามที่ฉันรู้มา ซีฉู่ป้าหวางและหัวหน้าเป็นนักศึกษาสถาบันเดียวกัน ซีฉู่ป้าหวางไล่ตามจีบนักฆ่าสุดสวยอันดับหนึ่งของเมืองฟานซู ซ่างถง แต่ว่าหัวหน้านั้นเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของซ่างถง เพราะแบบนั้นหัวหน้าเลยกลายเป็นเหมือนบังเกอร์บังลูกปืนใหญ่ของซีฉู่ป้าหวางให้ซ่างถงทุกวัน. . .”

ผมรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยกล่าวว่า

“เรื่องมันไม่ได้ดราม่าอย่างที่เธอคิดหรอกนะ. . .บางทีมันอาจจะเป็นเพราะชั้นเคยไปฉกเอาอาวุธไอเทมระดับดำที่ชื่อว่า ดาบคมหนาม(Bramble Thorn Sword). . .อีกอย่างนึง ชั้นก็ไม่ได้โดนซีฉู่ปาหวางข่มขู่ทุกวันหรอกนะเพียงแต่ว่าเขาชอบยกพวกมาทีละเป็นโขยง. . .”

‘หลินเสี่ยวอู่’หัวเราะแฮะๆพูดว่า

“หัวหน้า วางใจเถอะ วันนี้ย่อมไม่เหมือนเมื่อวานนี้ เพราะตอนนี้มีนักรบผู้กล้าถึง 300 คนจาก[Zhan Long] ซึ่งถึงแม้[Wrath of the Heroes]จะสู้กับพวกเราด้วยกำลังพลทั้งหมดก็ตาม พวกเราก็จะยังช่วยหัวหน้าล้างแค้นให้จงได้. . .”

ผม

“. . .”

‘หรันหมิ่น’กำมือทั้งสองแล้วประสานกันพลางกล่าวว่า

“ไม่ว่าจะอะไรก็ตามเถอะ [Wrath of the Heroes]จะเป็นกิลด์แรกที่กำลังจะชนกับพวกเราหลังจากพวกเราเพิ่งตั้งกิลด์ เพราะฉะนั้นวันนี้พวกเราจะถล่มพวกมันให้เละไม่ว่ายังไงก็ตาม!” แม่ทัพหวางเจี้ยนเสริมว่า “ถูกแล้ว วันนี้เราจะถล่ม[Wrath of the Heroes]!”

ทุกคนต่างพลุ่งพล่านไปด้วยความตื่นเต้น พวกเขาแต่ละคนเป็นผู้ที่มีเลเวลค่อนข้างสูงพร้อมด้วยไอเทมสวมใส่ชั้นดีจึงเปนเรื่องธรรมดามากที่พวกเขาจะไม่ใช่พวกชอบสันติวิธี แหละด้วยศึกใหญ่ที่กำลังจะมาถึง ทุกคนจึงต่างเร่าร้อนไปด้วยความกระหายเลือด . .

. . . . ในหุบเขากิเลนพฤกษานั้นมีมอนสเตอร์มากมายหลายประเภทซึ่งมีเลเวลประมาณ 50 -65 ยิ่งพวกเราเข้าไปลึกเท่าไหร่มอนเสอร์ยิ่งเลเวลสูงขึ้นไปตามนั้น มีมอนสเตอร์ธรรมดาเลเวล 70 อาศัยอยู่ใกล้ๆกับก้นหุบเขาซึ่งผู้เล่นระดับทั่วไปตอนนี้ยากที่จะทำการต่อสู้ด้วย หากแต่ว่าด้วยกลุ่มของผู้เล่นเลเวลประมาณ50+ หลายๆคน มอนเตอร์เลเวล 70 ก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินไปกว่าจะจัดการได้

ส่วนมอนสเตอร์ระดับสูงเลเวล 70 นั้นมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ด้วยการเขื่อฟังคำสั่ง ทุกคนในกิลด์ต่างเก็บเลเวลกันต่อไปแต่พวกเขาไม่ได้กระจายตัวกันมากนัก เราแบ่งคนเป็นกลุ่มๆละประมาณ เกือบ100 คน กำลังพลทั้ง 4 กลุ่มก็ทำการไล่สังหารมอนสเตอร์ในหุบเขา และด้วยอัตราการสังหารมอนสเตอร์ของแต่ละกลุ่มนั้นสูงมากทำให้อัตราการเพิ่มของค่าประสบการณ์กิลด์เพิ่มขึ้นจนแทบจะมองแถบประสบการณ์ของกิลด์ขยับได้ด้วยตาเปล่า

“นี่ แน่ะ!”

หลังจากฟันฉับที่แขนของมอนสเตอร์จนขาด ‘เยว่ชิงเฉียน’ก็พริ้วกายมายืนข้างชั้นปล่อยให้นักดาบสองนายจัดการกับเจ้ามอนสเตอร์ตัวนั้นไป เธอหัวเราะเล็กน้อยแล้วรายงานว่า

“พี่เซียวเหยาคะ เรามีเวลาอย่างมากแค่ 30 นาทีก่อนที่ ซีฉู่ป้าหวางจะเคลื่อนไหว ตอนนี้มีพวก[Wrath of the Heroes]ราวๆ 500 อยู่ที่ข้างหน้าผาเหนือหุบเขา ดูเหมือน ซีฉู่ป้าหวางจะยังไม่ค่อยมั่นใจนัก สงสัยเขาต้องการรวบรวมคนให้ได้อย่างน้อย 1000 คนก่อนถึงจะเริ่มเปิดฉากการโจมตีพวกเราค่ะ. . .”

ผมพยักหน้าพร้อมกับพูดเสียงต่ำลงเล็กน้อย

“[Wrath of the Heroes]. . .”

‘เยว่ชิงเฉียน’กระพริบตาแล้วถามว่า

“หัวหน้า คิดแผนจะสู้ยังไงคะ?”

ผมหันมองไปยังที่ห่างไกลแล้วตอบว่า

“แบ่งกำลังของเราครึ่งหนึ่งเพื่อโจมตีด้านหน้าและป้องกันการรุมโจมตีจากโดยรอบของหน้าผา แล้วแบ่งกำลังอีกส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีจากด้านข้างเพื่อก่อกวนรูปขบวนของ[Wrath of the Heroes]ด้วยวิธีนี้การรบของเราจะง่ายขึ้น พวกเราจำเป็นจะต้องใช้ฝีมือที่เหนือกว่าในการต่อกรกับจำนวนที่มากกว่า พวกเราส่วนใหญ่เลเวลเฉลี่ยประมาณ 52 ในขณะที่พวกของ[Wrath of the Heroes]เลเวลส่วนใหญ่ยังไม่ถึง 49 ด้วยซ้ำ นั่นหมายความว่าพวกเราทุกคนส่วนใหญ่มีสกิลเลเวล 6 ส่วนพวกมันส่วนมากใช้ได้แค่สกิลเลเวล 5 เท่านั้น. . .”

“อื้อ อื้อ . . . ยังมีเทคนิคพิเศษอะไรอีกไหมคะ?”

“สำหรับเรื่องนี้ เธอควรถามจากมัตชะนะ. . .”

จากบนท้องฟ้า เงาร่างสวยงามร่อนผ่านหน้าไป ‘มัตชะ’ จะร่อนลงบนพื้นด้านหน้าแต่พลาดไปด้วยความเอ๋อของเธอจนทำให้ต้องซอยเท้ายิกๆเพื่อจะประคองตัวไว้แต่ก็ไม่ค่อยจะได้ผลจนกระทั่งเธอต้องใช้ดาบของเธอปักลงไปบนพื้นถึงจะทำให้หยุดได้สำเร็จ เธอหันมามองอย่างอายๆ ยิ้มให้แล้วจึงตอบว่า

“ง่ายมากค่ะ เราจะใช้ข้อได้เปรียบเรื่องเลเวลของเราให้มากที่สุด ให้พวกสายอาชีพอัศวินและพระเป็นปราการด้านหน้าแล้วให้ หูหลี่(Fox)เป็นคนนำพลปืนประมาณ 30 อยู่ด้านหลัง เมื่อมีคำสั่งให้ยิงก็ให้ทุกคนระดมยิงไปด้านหน้า นี่จะทำให้สังหารเจ้าพวกนั้นไปได้ไม่น้อยทีเดียว เมื่อยิงแล้วย้ายมุมเพื่อที่จะรอคำสั่งยิงในครั้งต่อไป ฉันรับรองว่า[Wrath of the Heroes]จะทนการโจมตีแบบนี้ได้ไม่นาน”

ผมพยักหน้าเห็นด้วยแล้วเสริมว่า

“อีกอย่าง ให้รันมิน(Old K)เป็นคนนำกลุ่มของนักรบคลั่งและพวกนักดาบเพื่อโจมตีจากด้านข้าง ด้วยการใช้สกิล[คมวายุหมุน](Whirlwind Blade)เปิดทาง พวก[Wrath of the Heroes]ต้องร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่นอน วันนี้แหละพวกเราจะทำให้พวกมันรู้ซึ้งถึงความแตกต่างระหว่างเรากับพวกมัน!”

‘มัตชะ’เม้มปากของเธอดวงตามีแววกังวลเล็กน้อยพลางว่า

“การโจมตีของรันมินก็น่าจะใช้ได้อยู่ละนะ ฉันแค่กลัวว่า. . .กลัวว่าเค้าจะไม่ทันคิดแล้วก็จะตายในทันทีที่โจมตีออกไป แล้วรูปขบวนการรบฝั่งเราจะลดลงถ้ามันเกิดเหตุแบบนั้นอ้ะนะ. . . . “

ผมได้แต่ถอนหายใจพร้อมพูดว่า

“ ผมก็กลัวว่ามันจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน . . . .”

‘เยว่ชิงเฉียน’กระแอมเล็กน้อยแล้วพูดว่า

“ อะแฮ่มพวกพี่สองคนนี่ใจร้ายจริงๆเลย. . . .”

. . . . . .. ทางด้านหนึ่ง  แม่ทัพ’หลี่มู่’ถือดาบของเขาแล้วเข้ามารายงานว่า

“รายงานล่าสุด พวก[Wrath of the heroes]ตอนนี้ประมาณ 600 คนรวมตัวกันอยู่รอบนอกของหุบเขา พวกมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่มีทีท่าว่าจะหยุด พวกมันน่าจะเข้าโจมตีได้ทุกเวลา!”

‘มัตชะ’ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยแล้วพูดว่า

“ แค่ 600 คน มันไม่น่าจะยังพอสำหรับโชว์ครั้งนี้นะคะ ซีฉู่ป้าหวางก็ไม่ใช่พวกไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนั้น เขาน่านะรวบรวมคนให้ได้อย่างน้อย 1000 คนก่อนที่จะบุกเข้าโจมตีเราอย่างซึ่งๆหน้า รอต่อไป เราจะเริ่มแปรขบวนรบเมื่อพวกเขารวมคนได้ประมาณ 900 คน !”

“โอเค”

ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ แม่ทัพ’หวังเจี้ยน’ก็กระซิบมาว่า

“หัวหน้ากิลด์เซียวเหยา ตอนนี้พวก[Wrath of the Heroes]รวบรวมคนได้กว่า 900แล้ว !”

ทันทีนั้นเองผมก็ยกแขนทั้งสองขึ้นตะโกนสั่งการ

“นักรบแถวหน้าเข้าประจำตำแหน่งรบเตรียมแนวป้องกัน ! รันมิน แม่ทัพหลี่มู่ แม่ทัพหวังเจี้ยน พวกนายทั้งสามจงนำทหารโจมตีฝ่ายเราให้ดี เคลื่อนพลไปทางทิศใต้ ระวังอย่าทำให้ศัตรูรู้ตัวเสียก่อน!”

“รับทราบ!”

. . . . . . . . . . . ในหุบเขา กำลัง 300คนของเราแปรขบวนรบเป็นแถวหน้ากระดาน โดยมีพวกอัศวินและพระอยู่แถวแรก แถวที่สองเป็นมือธนูและนักเวทย์ แถวที่สามเป็นพลปืนส่วนแถวสุดท้ายคือบรรดาฮีลเลอร์ทั้งหลาย คนอื่นๆนอกจากชั้นที่เป็นอาชีพสายนักดาบหรือนักรบคลั่งถูกส่งให้ไปประจำตำแหน่งอื่นภายใต้การนำของ ค่ายValiant Bravery

ที่จุดอื่น เหล่า’เค’อยู่ที่นี่เพื่อช่วยชั้น เราสองคนมีหน้าที่ตั้งแนวป้องกันที่นี่ ขณะที่หน้าที่ไล่ล่าสังหารและทลายแนวป้องกันของฝั่งศัตรูอยู่ในมือของพวกเราที่เหลือ

“แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก”

เสียงกังวาลของชุดเกราะหนักและโล่ที่กระทบกันกระหึ่มไปทั่ว พวกอัศวินและพระของ[Zhan Long]แต่ละคนสวมใส่เกราะหนักและโล่ล้วนดูเข้มแข็งและน่าเกรงขาม มัตชะก็ถือโล่ซึ่งเป็นไอเทมระดับจักรพรรดิ์ยืนอยู่ข้างๆชั้น เธอยิ้มมุมปากพลางพูดว่า

“หัวหน้าคะ ฉันเลเวล 51แล้ว แบบนี้พอจะนับเข้าเป็นกำลังหลักของกิลด์ได้รึยังคะ?”

“แน่นอนสิ ใครบอกเธอไม่นับว่าเป็นกำลังหลักล่ะ”

ผมหัวเราะเสียงลั่น มัตชะขยับปีกของเธอพร้อมยืนอย่างมั่นคง เต็มไปด้วยความมั่นใจพร้อมพูดว่า

“เอาล่ะ งั้นคราวนี้ฉันจะสู้เคียงบ่าคียงไหล่กับหัวหน้า โปรดปกป้องฉันให้ดีด้วยนะคะ. . .”

“เธอเป็นอัศวินนะ มัตชะ เธอควรจะปกป้องชั้นสิไหงกลับกันล่ะ”

“แต่หัวหน้าเป็นหัวหน้าของฉันนี่คะ”

“เอ่อ. . .โอเคที่เธอว่ามามันก็ถูก. . . .”

‘เยว่ชิงเฉียน’แอบซุ่มอยู่ในพุ่มไม้ใกล้ๆซึ่งคอยนำการโจมตีของเหล่าบรรดาอาชีพสายนักฆ่า เตรียมตัวที่จะลอบโจมตี เธอหัวเราะคิกคิกแจ้งเตือนว่า

“พี่เซียวเหยาคะ พวกมันเริ่มโจมตีแล้วค่ะ มาจากทางด้านหน้าเลย. . .”

“เอาล่ะ ทุกคนระวังตัวด้วย รอโอกาสหาจังหวะก่อนที่จะลงมือ!”

“รับทราบ!”

. . . . . . . . . บนเนินขอบหุบเขา ‘ซีฉู่ป้าหวาง’ปรากฎกายพร้อมด้วยดาบในมือ นักฆ่าสาวงาม’เอียนสั่วเฟิงเยว่'(Ageless Beauty)ยืนอยู่เคียงข้างซึ่งเธอมีเลเวล 52 แล้ว ทั่วร่างของเธอเรืองรองไปด้วยแสงสีม่วง บางทีอาจเพราะเธอสวมใส่ไอเทมระดับม่วงเป็นจำนวนมาก

‘หลิวอิง'(ชื่อนอกเกมส์ของ ซีฉู่ป้าหวาง)ต้องไม่ใช่คนที่เงินขาดมืออย่างแน่นอน ถึงจะสามารถให้ผู้หญิงของเขาสวมใส่ไอเทมระดับนี้  เท่าที่ดูคุณภาพของไอเทมที่’เอียนสั่วเฟิงเยว่’สวมใส่นั้นน่าจะพอๆกับ 70%ของไอเทมสวมใส่ของ’ว่านเอ๋อ’

อย่างไรก็ตามถ้าเทียบกันด้านประสิทธิภาพในการต่อสู้แล้ว  ‘เอียนสั่วเฟิงเยว่’ไม่น่าจะถึง 30%ของ’ว่านเอ๋อ’ด้วยซ้ำ บางทีการมองแค่ปราดเดียวก็ทำให้รู้ว่าใครแข็งแกร่งอย่างแท้จริงหรือว่าเพียงสวยแต่รูปจูบไม่หอมได้ ‘ว่านเอ๋อ’นั้นสามารถเทียบชั้นกับ’เจี้ยนเฟิงหาน’ซึ่งเป็นผู้เล่นระดับโลกได้

แต่สำหรับ’เอียนสั่วเฟิงเยว่’ชั้นคิดว่าแค่สามกระบวนท่าเธอก็คงจะตายละ

“แช้ง!”

‘ซีฉู่ปาหวาง’พลันชูดาบขึ้นใบหน้าเต็มไปด้วยความขมขื่นพร้อมตะโกนว่า

“นี่ไงล่ะพวกที่มันกล้ามาแหยมพวกเรา ล้อเลียนเกียรติยศของ[Wrath of the Heroes]ครั้งแล้วครั้งเล่า! พี่น้องทั้งหลาย พวกเราคือผู้พิชิต เราจะไม่ยอมให้ใครรอดตัวไปได้ง่ายๆอย่างแน่นอน  ตามชั้นมาตะลุยไปข้างหน้า เราจะทลายแนวป้องกันของพวกมันในอึดใจ ให้พวกที่มีตรา[Zhan Long]บนไหล่มันสูญสิ้น โดยไม่รอดไปแม้แต่คนเดียว!”

ผู้คนต่างพากันขู่คำรามและทะยานลงมาจากเนินขอบหุบเขา กองกำลังร่วมร้อยคนมีจำนวนถึงสิบกลุ่มช่างดูมากมายเหลือเกิน  [Wrath of the Heroes]เป็นกิลด์ที่ก่อตั้งด้วยพลังของRMB(หน่วยเงินของจีน)จริงๆ มีเงินก็มีบริวาร ณ จุดนี้ไม่ต้องสงสัยกับคำกล่าวนี้เลย . . . . . . . . . . .

“ชิ้ง!”

เสียงของดาบประกายวสันต์เมื่อถูกชักออกมา  ผมยืนอยู่แถวหน้าจ้องมองพวกมันด้วยสายตาเย็นเยียบพร้อมตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า

“อย่าหุนหันออกไปทุกคน  พวกเราจะตั้งรับอยู่ที่นี่ก่อน  แนวหน้าทั้งหมดคอยระวังพลังชีวิตของตนเองใช้น้ำยาเพิ่มพลังชีวิตถ้าจำเป็น ฮีลเลอร์ทั้งหลายใช้เวทย์รักษาหมู่! เตรียมตัวรับศึก  สังหารศัตรูตรงหน้า ให้ชื่อของ[Zhan Long]เกรียงไกรชั่วนานใต้ดวงตะวัน!”

แนวรบชักดาบออกจากฝักของตนไล่เรียงกันไป ดูเหมือนว่าพลังใจจะเต็มเปี่ยมและพร้อมสู้ศึกเต็มที่  ทุกคนจ้องเขม็งไปเบื้องหน้าตรงที่กองทัพกิ๊กก๊อกกำลังเข้ามา  สำหรับพวกเราแล้ว[Wrath of the Herose]แทบไม่ต่างอะไรกับก้อนกรวดเม็ดทรายเท่านั้นเอง! .

. . . . . . . ด้วยการโบกมือของชั้น  การ์ดอภัยโทษก็ได้ถูกใช้งานแล้วเพราะชั้นไม่ต้องการติดสถานะผู้เล่นบ้าคลั่งมันจะทำให้ลำบากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ชั้นเป็นหัวหน้ากิลด์แล้วก็ควรที่จะรักษาชีวิตของตัวเองให้ดีไม่เสี่ยงบุกเดี่ยวโดยไม่จำเป็นเพราะถ้าชั้นตายขบวนรบก็เหมือนกับโดนโจมตีอย่างสาหัสไปด้วย!

ที่แนวหลัง ‘หลิวย่ง’เป็นผู้นำพลปืนทั้งหลายที่ยืนกันอยู่เป็นกระจุก เมื่อศัตรูเข้ามาหาเราซึ่งอยู่ในระยะยิง เขาก็สั่งการอย่างว่องไว

“ยกปืนขึ้นประทับ ตั้งศูนย์เล็งเปิดฟลอร์ที่เจ้านักรบคลั่งเลเวล 53 คนนั้นก่อนเลย – ทุกคนเล็ง. . . ยิง!!”

“ปัง ปัง ปัง. . .”

กลุ่มควันกระจายฟุ้งพร้อมกับเสียงคำสั่งและเสียงยิงปืน นักรบคลั่งคนนั้นแม้จะไม่ได้มีเลเวลที่ต่ำทราม ก็ยังเกิดบาดแผลฉกรรจ์และตามาด้วยเสียง

”พลั่ก”

เขาก็ล้มลงที่พื้นพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายขาดห้วงไปทันที. . . . . . . . . . ..

“โอ้โห. . . .”

‘เยว่ชิงเฉียน’ขมวดคิ้วอุทาน

“นี่. . .นี่มันพลังโจมตีที่ทรงพลังจากการยิงอะไรกันเนี่ยะ  สุดยอดเทคนิคโจมตีพื้นฐานเลย. . .”

‘หลิวย่ง’รีบสั่งเล็งลอคเป้าหมายต่อไปเพื่อจะระดมยิงอีกครั้ง  พลปืนมากกว่า 30คนส่งลูกตะกั่วไปหาเป้าหมายคนเดียวกันช่างได้ผลอย่างยิ่ง  ทันทีที่พลปืนพร้อมเหนี่ยวไกอีกครั้ง อีกหนึ่งชีวิตก็ต้องดับลง โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจะสวมเกราะหนัก เสื้อหนังหรือว่าชุดผ้าคลุมก็ตาม!

“พวกมันมากันแล้ว!”

‘มัตชะ’คำรามในลำคอ ที่แถวหน้าสุด แสงจากสกิลคมดาบอัคคี(Frame Blade)และคมดาบน้ำแข็ง(Ice Blade)สว่างจ้าจนตาแทบบอด แนวโจมตีแรกของกิลด์[Wrath of the Heroes]เกือบจะถึงตัวพวกเราในไม่กี่อึดใจแล้ว!

ผมพุ่งพรวดไปด้านหน้าราวสองเมตรจนทำให้เกิดอักษรว่า

“MISS”

ขึ้นบนหัวจากการหลบสกิลคมดาบอัคคีมาได้

จากนั้นชั้นก็กวัดแกว่งดาบของชั้นเพื่อจะปล่อยสกิลคมดาบวายุ(Wind Blade) ออกมาผ่าร่างนักรบคลั่งเลเวล 47 คนนหนึ่งตาย  พลิกข้อมือวาดดาบผ่านลำคอของนักดาบอีกคน เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว

และด้วยการโจมตีแบบธรรมดาผสานกับสกิลคมดาบน้ำแข็งกล้า(Fierce Ice Blade) ชั้นก็เก็บได้อีกหนึ่งชีวิต!

“ปึ้ก!”

นักรบคลั่งคนหนึ่งเกือบจะผ่าอกชั้นได้แต่พลาดไปนิด ขวานรบของเขาฟันที่ไหล่ของผมแทน แต่แปลกแฮะไม่ยักกะเจ็บเท่าไหร่! . . .

. .. . . . .

“ฆ่า!”

‘มัตชะ’สั่งการทันที ศึกแรกของ[Zhan Long]หลังจากเราตั้งกิลด์ได้เริ่มขึ้นบัดนี้แล้ว!

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments