I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 203 สงบศึก

| Zhan Long | 1542 | 2357 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดยคุณ WildFox

////////////////////////////////

เวลาสี่ทุ่ม ขณะที่กลุ่มของเรากำลังเดินไปตามถนนสายหลักในมหาลัย ผมอดที่จะชมภาพประทับใจนั้นไม่ได้’หลินว่านเอ๋อ’งดงามด้วยผิวที่ขาวผ่องกับเสื้อเชิ้ตธรรมดาๆถูกขับเน้นด้วยแสงไฟจากดวงไฟตามถนนในมือก็ถือกระเป๋าตังค์มุ้งมิ้งของเธอ ‘ตงเฉิงเยว่’ส่งสายตากังวลมาที่ผมพลางถามว่า

“ นี่เซียวเหยา นายวางแผนจะคุยกับหลิวอิงที่โรงอาหารที่สามจริงๆเหรอ?”

ผมเหยียดแขนบิดขี้เกียจผงกศรีษะรับว่า

“อื้ม”

‘หลินว่านเอ๋อ’ขยับริมฝีปากแดงพูดว่า

“ตอนนี้เรื่องที่กิลด์[Zhan Long]ปะทะกับกิลด์[Wrath of the Heroes]ในหุบเขากิเลนพฤกษากำลังเป็นที่กล่าวถึงในเกมส์ จากที่ฉันพอจะรู้นิสัยส่วนตัวของหลิ่วอิงมาเค้าจะไม่มาหาเรื่องเธอในมหาลัยเหรอ?”

ผมส่ายศรีษะตอบว่า

“เค้าจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนครับ !”

“ไหงนายแน่ใจแบบนั้นล่ะ?”

“เพราะว่าจริงๆแล้วหลิ่วอิงเป็นคนฉลาดคนหนึ่งครับ จากเรื่องที่เกิดขึ้นล่าสุดเค้ารู้แล้วว่าคนของเค้าไม่สามารถเทียบกับผมได้ เพราะฉะนั้นการพบกันนอกเกมส์ครั้งนี้ เค้าต้องหาทางเจรจาหาทางยุติเรื่องบาดหมางระหว่าง[Zhan Long] กับ [Wrath of the Heroes]แน่นอนครับ”

“ก็ดี ฉันหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น”

ผมมองไปที่คุณหนูสุดสวยพลางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะพูดกลับไปว่า

“วางใจเถอะครับ ว่านเอ๋อ ผมสามารถปกป้องคุณทั้งสองได้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ในสายตาของผมแล้วพวกของหลิ่วอิงมีพลังแค่ระดับห้าเท่านั้นทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ”

‘ว่านเอ๋อ’หันกลับมาสบตาด้วยดวงตาคู่งามพร้อมเสียงหัวเราะให้ผมพูดว่า

“แล้วแต่นายเถอะ แต่อย่าลืมว่านอกจากความปลอดภัยของฉันสองคนแล้วพวกเรากำลังจะไปหาอะไรทานกันเพราะงั้นห้ามตีกันเข้าใจไหม”

“ครับผม!”

ที่โรงอาหารที่สามบนชั้นที่สองของอาคาร ผมพา’ว่านเอ๋อ’และ’ตงเฉิง’ไปชั้นบน ด้านในตรงส่วนที่ใช้รับประทานอาหารกลุ่มคนประมาณเจ็ดคนนั่งอยู่ตรงนั้น ที่สะดุดตาที่สุดเห็นจะไม่พ้นบุรุษผู้สวมใส่ชุดยี่ห้ออาร์มานี่ซึ่งก็คือหลิ่วอิงที่นั่งสีหน้าหมองคล้ำอยู่นั่นเอง

พวกเราเลือกนั่งที่โต๊ะริมหน้าต่าง หลังจากสองสาวนั่งแล้วผมจึงยกมือขึ้นเพื่อเรียกบริกร

“น้องๆ สั่งอาหารหน่อยครับ!”

พนักงานสาวคนหนึ่งเดินถือเมนูมาทางพวกเราเพื่อรับรายการ ผมสั่งผัดอะไรไปสองสามอย่างแล้วก็คืนเมนูให้กับพนักงานไป

“ครืดดดด ครืดดด”

‘หลิ่วอิง’กับพวกลุกขึ้นพร้อมทั้งเดินช้าๆมาทางพวกเรา พนักงานบริการสัมผัสได้ถึงสถานการณ์บางอย่างรีบเก็บเมนูแล้วก่อนหันหลังไปกล่าวขึ้นว่า

“กรุณารอซักครู่นะคะ ดิฉันจะไปนำอาหารตามรายการที่สั่งมาค่ะ”

วิ่งจู๊ดไปทันที

“ปัง!”

‘หลิ่วอิง’นั่งลงที่โต๊ะข้างๆเรา ดวงตาฉายแววไร้อารมณ์จ้องมาที่ผมพูดว่า

“หลี่เซียวเหยา อะไรกัน?นายไม่คิดจะพูดอะไรสักหน่อยรึไง? ถึงแม้ตอนนี้พวกของนายที่หุบเขากิเลนพฤกษายังตั้งแคมป์เฝ้าศพสมาชิก[Wrath of the Heroes]ฝั่งชั้นที่นอนอยู่กว่าสามร้อยคนอยู่อีก นายคิดว่ามันน่าสนุกรึไง? ไม่มีใครไปเก็บเลเวลได้ในตอนนี้ ท้ายที่สุดผลดีก็ไปตกอยู่กับพวก[Vanguard] [Flying Dragon] และก็ [Prague] ไอ้พวกขาใหญ่พวกนั้น…”

ผมโบกมือช้าๆและตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“ไม่เห็นจะเป็นปัญหาตรงไหน มีเพียงสมาชิกของ Zhan Long แค่ 40% ที่เฝ้าศพพวกนายอยู่ตอนนี้ พวกที่เหลือกำลังเก็บเลเวลอยู่ตามปกติไม่มีผลต่อความเร็วในการเก็บเลเวลกิลด์หรือของส่วนบุคคลในกิลด์แม้แต่น้อย”

‘หลิ่วอิง’ทุบกำปั้นลงบนโต๊ะตะโกนเสียงแสบหูว่า

“หลี่เซียวเหยา! นายจะเอายังไงหา?”

ผมหันไปมองหน้า’หลิ่งอิง’เล็กน้อยตอบไปว่า

“มันไม่ใช่ว่าชั้นต้องการอะไรเป็นนายต่างหากซีฉู่ปาหวางที่ต้องการอะไร พวกเรา [Zhan Long] แค่กำลังเก็บเลเวลในหุบเขากิเลนพฤกษา ไม่ใช่เพราะพวกนายหรอกเรอะ กิลด์[Wrath of the Heroes]ของพวกนายเริ่มโจมตียุแหย่พวกเราก่อน ไม่ใช่เพราะนายหรอกเรอะหลิวอิงที่พาคนกว่า1300มาเพื่อต้องการขับไล่เราออกจากหุบเขา และเมื่อสถานการณ์มันเป็นไปแบบนั้น ช่วยไม่ได้นายก็ต้องรับผลที่เกิดจากการกระทำของนาย”

“บัดซบ!”

‘หลิวอิง’ถลึงตาจ้องมองมาที่ผมประมาณว่าถ้ามันหลุดออกมาได้คงพุ่งออกมาแล้ว ดูเหมือนว่าเค้าแทบจะกินผมทั้งเป็นอยู่แล้ว ติดที่ว่าผมก็พับแขนเสื้อขึ้นเพื่อบ่งบอกว่าผมก็ไม่ได้กลัวที่จะต้องฟาดปากกับมันซักนิดเดียว อันที่จริงผมว่าผมดีใจด้วยซ้ำถ้าได้จัดฟันใหม่ให้ไอพวกบ้องตื้นแบบพวกมัน

“โอเค!”

‘หลิ่วอิง’กัดฟันข่มความโกรธแล้วพูดว่า

“เรื่องนี้ต้องยุติลงไม่ว่ายังไงก็ตาม…..[Wrath of the Heroes]ของพวกเราหัวร้อนไปหน่อย ชั้นจะขอรับผิดชอบเอง เราไม่น่าพยายามไปขับไล่พวกนายหรือใช้กำลังบังคับต่อสู้กับพวกนายถึงสามครั้งในพื้นที่เก็บเลเวล ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ชั้นขออภัยต่อพวกนาย!”

สิ้นคำ’หลิ่วอิง’ก็เอาขวดไวน์ขึ้นมาพร้อมกับรินลงไปสองถ้วย หนึ่งในนั้นส่งมาให้ผมพลางพูดว่า

“ให้ไวน์นี้เป็นตัวแทน ผมหลิ่วอิง ขอโทษต่อนาย หลี่เซียวเหยา นับจากวันนี้เป็นต้นไปเราจะไม่ยุ่งเรื่องของกันและกันอีก”

ผมพ่นลมหายใจออกจมูกพลางพูดว่า

“นายเคยสาดไวน์ใส่หน้าชั้นมาก่อน….”

หลิ่วอิงโกรธจนหน้าเขียวพูดว่า

“อะไรนะ?นายอยากจะสาดไวน์ใส่ชั้นรึไง หา ?นายกล้าลืมไปแล้วเรอะว่าชั้นเป็นใคร !”

“นี่มันกริยาของคนที่มาขอโทษงั้นเหรอ?”

‘หลิ่วอิง’บดกรามแทบละเอียดสะบัดเสื้อเอาลมพัดหน้าอกเพื่อระบายความโกรธ ค่อยๆหลับตากล่าวช้าๆว่า

“เอาล่ะ นายสาดไวน์ใส่ผมก็ได้ ฮึ่ม  ตอนที่ชั้นสาดไวน์ใส่หน้านายวันนั้นน่าจะนึกว่ามันต้องมีวันแบบนี้ซักวันละนะ”

ผมพลิกแขนเพียวเล็กน้อยไวน์แดงในถ้วยก็พุ่งไปราวคมดาบตามมาด้วยเสียง “แปะ!” กระจายเต็มใบหน้าของ’หลิ่วอิง’

‘หลิ่วอิง’เบิ่งตากว้างพลางถุยไวน์ที่เข้าปาก เสื้ออาร์มานี่สีขาวของเค้าเลอะไปด้วยคราบสีแดงของไวน์ดูเค้าจะไม่สนใจด้วยซ้ำกลับยิ้มพลางพูดว่า

“ฮึ่ย  ชั้นคิดว่าชั้นรู้สึกยอมรับนายได้ตะหงิดๆละ นายกล้ากระทั่งสาดไวน์ใส่ชั้นเลย”

ผมตอบอย่างไม่ยี่หระว่า

“นายคิดว่านายเป็นใคร ทำไมชั้นจะไม่กล้า”

‘หลิ่วอิง’ชูถ้วยขึ้นกระดกรวดเดียวหมดพร้อมกล่าวว่า

“ให้ไวน์ถ้วยนี้เป็นเหมือนเครื่องหมายของความบาดหมางและความขัดแย้งระหว่างเราที่ลืมไปจนหมดสิ้น ชั้นยอมรับนะว่าตอนแรกชั้นเหม็นขี้หน้านายมาก นั่นก็เป็นเพราะว่าชั้นต้องการที่จะ. . . .”

ขณะที่พูดเค้าเหลือบสายตาไปมองผ่านทาง’หลินว่านเอ๋อ’ ทันใดนั้น’ว่านเอ๋อ’ก็ส่งสายตาถมึงทึงกลับมาให้แต่ก็ยังไม่พูดอะไรออกมา ด้วยความรู้สึกหน้าชาเล็กน้อย’หลิ่วอิง’ฝืนกระแอมแล้วพูดต่อไปว่า

“เรื่องจริงก็คือ ตั้งแต่หลินว่านเอ๋อเข้ามาในมหาลัยชั้นก็หลงสเน่ห์ของเธอแล้วแม้ตอนนี้ชั้นก้ยังรู้สึกเหมือนเดิมมันเป็นธรรมชาติของชั้นที่จะต้องคว้าสาวงามที่ชั้นหมายปองมาให้ได้ แต่กลับหลินว่านเอ๋อเธอไม่แม้แต่จะรับรู้ว่าชั้นมีตัวตนด้วยซ้ำนั่นมันทำให้เหนือความคาดหมายมากไปหน่อย”

มุมปากของ’หลิวว่านเอ๋อ’เผยอขึ้นพร้อมเผยให้เห็นรอยยิ้มอันสดใสขณะที่เธอร่วมสนทนาด้วย

“นายมันประเภทที่จีบได้แต่สก๊อยเกิร์ลเท่านั้นแหละ. . .”

‘หลิ่วอิง’หัวเราะยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน

“ก็นะ ชั้นพอจะเข้าใจอยู่หรอกว่าหลินว่านเอ๋อไม่เคยมองชั้นอยู่ในระดับเดียวกับเธอ แต่ว่าชั้นไม่เคยคิดถึงขั้นที่ว่าเธอจะลงมาขั้นเดียวกับหลี่เซียวเหยา….”

‘หลินว่านเอ๋อ’แก้มแดงไปด้วยเลืดฝาดกำมือแน่นพูดว่า

“นายพูดว่าอะไรนะ?! หลี่เซียวเหยา ….เค้าเป็นยังไง?”

‘หลิ่วอิง’ได้ทีตอกกลับว่า

“เธอก็รู้ หมอนี่ไม่มีเงินแถมยังไม่มีสเน่ห์แบบผม เค้าทำตัวเองให้เดือดร้อนด้วยการไปขวางขาใหญ่ในเมืองปาฮวงและแม้แต่ตอนที่ผมเอาไวน์สาดหน้าเค้าก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรซักคำ ผมเลยคิดเองว่าเธอคงไม่มีวันจะเป็นไปได้กับคนอย่างเค้า แต่ที่ไหนได้กลายเป็นว่าเธอคอยช่วยเหลือเค้าอยู่ตลอด…..ดูเหมือนว่าสาวงามที่สุดของมหาลัยหลิ่วหัวเราจะหลงรักหลี่เซียวเหยาละมั้ง!”

แก้มของ’ว่านเอ๋อ’แดงหนักเข้าไปอีกรีบเถียงทันทีว่า

“หุบปาก! หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

ผมจ้องไปที่’หลิ่วอิง’พูดว่า

“หุบตูดของนายเด๋วนี้ ไม่งั้นผมจะสั่งให้เยว่ชิงเฉียนเฝ้าศพพวกนายไปอีกสามวันสามคืน!”

‘หลิ่วอิง’หันมาขอโทษขอโพยผมว่า

“ยะ..อย่าทำแบบนั้นเลยคิดซะว่าชั้นไม่ได้พูดอะไรออกไปก็แล้วกัน”

ในตอนนั้นเองร่างของคนผุ้หนึ่งก็กำลังเดินขึ้นมาจากชั้นล่าง คือ’สวีเยว่’นั่นเองเธอดูอายุมากกว่า 20ปีและเป้นรุ่นพี่ปีสองที่มาพร้อมกับเมคอัพหนาเตอะเมื่อมาถึงโต๊ะเธอมองผ่านๆไปยัง’หลินว่านเอ๋อ’และ’ตงเฉิงเยว่’ด้วยสายตาแปลกๆ แล้วก็เข้าไปเกาะแขน’หลิ่วอิง’พลางถามว่า

“ตะเอง เมื่อไหร่เราจะไปบาร์ซูเหอซะทีล่ะ?”

*(ชื่อนอกเกมส์ของAgeless Bueaty)

‘หลิ่วอิง’ยิ้มเอาใจพลางโอบแขนตัวเองไปที่สะโพกของ’สวีเยว่’พูดว่า

“เดี๋ยวก่อนสิ เธอไม่เห้นเรอะว่าผมกำลังตกลงอยู่กับหัวหน้ากิลด์[Zhan Long]น่ะ?”

‘สวีเยว่’แทบจะเลื้อยไปตามแขนของหลิ่วอิงพูดเสียงหวานว่า

“ฮิฮิ งั้นเค้าจะรอ”

ผมมองไปที่คนทั้งคู่พลางกระซิบว่า

“มารยาทคนเราเดี๋ยวนี้หดหายไปทุกทีละนะครับ”

‘หลินว่านเอ๋อ’ตอบกลับด้วยเสียงเบาว่า

“นายหมายถึงพวกคนที่นายกำลังคุยด้วยนะ”

‘ตงเฉิงเยว่’พลางแอบขำและพูดว่า

“คงเพราะนายกับหลิ่วอิงมาจากคนละโลกกันละมั้ง”

ผมไม่ได้ตอบกลับไป ‘หลิ่วอิง’ที่ได้ยินมาตลอดหัวเราะแล้วพูดว่า

“สาวน้อยตงเฉิงเยว่พูดถูกแล้ว ผมกับหลี่เซียวเหยามาจากคนละโลกกัน แต่ถึงกระนั้นก็ไม่น่าเป็นอุปสรรคในการที่เราจะเป็นเพื่อนกัน ใช่ไหม?”

ผมขัดขึ้นว่า

“นายพูดอะไรของนาย หรือว่านายเกิดกลัวขึ้นมาหลังจากโดนซะน่วมที่หุบเขากิเลนพฤกษาตอนนี้เลยพยายามสันติเพราะว่าแพ้อ้ะนะ . . .”

เสียงกัดฟันของ’หลิ่วอิง’ดังจนเกือบชัด

“เชอะ จะพูดยังไงก็ตามแต่นายเถอะ ผมจะคิดว่าเราเป็นเพื่อนกันแล้ว”

‘หลิ่วอิง’พูดต่อไปขณะที่มือของเค้ายังอยู่บนสะโพกของ’สวีเยว่’ว่า

“หลี่เซียวเหยา ผมไม่รู้หรอกนะว่านายจะเป็นคนแบบไหนแต่ผมบอกได้เลยว่าผมเป็นคนยังไง ผมเป็นคนที่เห็นโลกนี้มามากในสายตาของผมไม่มีอะไรที่เงินแก้ไขไม่ได้ อีกอย่างหน้าตาผมก็ไม่ได้ขี้เหร่เพราะงั้นสาวๆก็มีไม่ขาดแคลนตราบใดที่ผมหลิ่วอิงคนนี้ ต้องการหญิงคนไหนก็ตามผมได้เธอมาครองตามใจเสมอ อีกอย่างนะ ผู้หญิงน่ะ. . ..”

‘หลิ่วอิง’ยิ้มพราย

“ผู้หญิงน่ะเป็นสิ่งที่เต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย…. พวกเธอรู้สึกเหงา ไร้ค่าและไร้เหตุผล สาวๆบางคนต้องการเป็นที่รักพร้อมกับสิ่งอื่นด้วย และผมหลิ่วอิงคนนี้เป็นผู้โชคดีเพราะสาวๆที่อยู่เคียงข้างผมจะเป็นของผมไปนานเท่านาน ผมไม่เล่นกับอารมณ์ อารมณ์คืออะไรนะเหรอ? เรามันก็แค่มนุษย์ธรรมดาใครจะไปกล้าต้านทาน!”

ผมผงกศรีษะเห็นด้วย ดวงตาของ’หลินว่านเอ๋อ’ทั้งคู่จ้องมาที่ผมถามว่า

“นายเข้าใจที่เค้าพล่ามมาด้วยเรอะ”

ผมยิ้มพรายตอบกลับว่า

“คนที่ไม่ได้ชิมเนื้อหมูก็ไม่ได้แปลว่าเค้าจะไม่รู้จักว่าหมูหน้าตาเป็นอย่างไรหรอกนะครับ?”

TL : เป็นสำนวนหมายความว่าแม้บุคคลจะไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องนั้นมาก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะไม่เข้าใจในสิ่งนั้น

‘ตงเฉิงเยว่’จ้องเป๋งไปที่’สวีเยว่’ด้วยดวงตาท้าทายยิ้มแล้วถามว่า

“สวีเยว่ ตามที่หลิ่วอิงพูด เธอจะเป็นของเค้าไปนานเท่านานจริงเรอะ?”

‘สวีเยว่’ยังอยู่ในอ้อมแขนของ’หลิ่วอิง’ไม่ตอบคำถาม ดวงตาของเธอประกายไปอย่างไร้อารมณ์เธอพาใบหน้าไปใกล้กับแก้มของ’หลิ่วอิง’บรรจงจุมพิตเป็นการยืนยันคำตอบ

ในตอนนั้นเอง’หลิ่วอิง’ก็กระแอมพลางเอามือออกจากสวีเยว่พูดเป็นงานเป็นการว่า

“หลี่เซียวเหยา ตอนนี้เราคุยกันจบแล้ว จากนี้ไป [Zhan Long]และ[Wrath of the Heroes]จะไปทางใครทางมัน เรื่องการต่อสู้จะยุติได้รึยัง?”

ผมพยักหน้าพูดว่า

“ก็นะ ดูจากอันดับกิลด์ของ[Zhan Long]แล้ว ไม่มีเหตุผลซักข้อที่ผมต้องมาเสียเวลากับ[Wrath of the Heroes] ผมจะบอกกับเยว่ชิงเฉียนและสั่งให้เธอเลิกเฝ้าศพของพวกนาย พวกนายจะต้องออกจากหุบเขากิเลนพฤกษาทันทีเพราะต่อไปที่นี่คือฐานทัพหลักของเรา และต้องสัญญาว่าจะไม่เข้ามาหาเรื่องพวกเราก่อนไม่อย่างนั้นกิลด์[Zhan Long]ของผมจะให้พวกนายชดใช้คืนเป็นหลายเท่า!”

‘หลิ่วอิง’ตอบรับด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า

“ผมเข้าใจแล้ว งั้นเราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่ไหม?”

ผมอดหัวเราะไม่ได้ก่อนจะเอาแขนกอดอกแล้วพูดกับ’หลิ่วอิง’ว่า

“นายก็รู้ว่าเรามาจากคนละโลกและไม่ได้ถูกลิขิตมาให้เพื่อนกัน ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมหวังว่าต่อไปเราจะไม่เป็นศัตรูต่อกัน หลิ่วอิง ผมไม่เชื่อคำพูดของนายในวันนี้แม้ว่านายจะเชื่อมันก็ตาม นับจากวันนี้เป็นต้นไป [Zhan Long]กับ [Wrath of the Heroes]จะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน แต่ถ้าเมื่อไหร่ [Wrath of the Heroes]พยายามที่จะท้าทาย[Zhan Long]อีก ขอให้นายรู้ไว้เลยว่า ผมจะตามล่าและฆ่านายเป็นคนแรก ผมรู้ว่านายก็รู้ดีว่าผมมีศักยภาพพอที่จะลบกิลด์ของนายออกจากเมืองปาฮวงได้!”

‘หลิ่วอิง’สุดลมหายใจหนักหน่วงก้มศรีษะยอมรับแล้วว่า

“เออเข้าใจแล้ว แต่ว่านะ คืนนี้มีบาร์เปิดใหม่ชื่อซูเหอ พวกนายอยากไปเที่ยวด้วยกันไหม?”

ผม

“….”

‘หลินว่านเอ๋อ’

“….”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments