I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 207 สังหารมังกรปฐพี

| Zhan Long | 1474 | 2363 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดยคุณ WildFox

//////////////////

‘หลิวชวง’ถือจดหมายไว้ในมือเป็นเวลานานถึงได้ยกจดหมายฉบับนั้นขึ้นมาอ่าน  หลังจากอ่านจบ ‘หลิวซวง’ก็พึมพำอะไรบางอย่าง แล้วจึงค่อยๆยกเกราะหนักของเธอขึ้นมาสวมอย่างช้าๆ แต่เผอิญสวมพลาดไปโดนบาดแผลของเธอเข้า ทำให้เธอต้องกัดฟันข่มความเจ็บปวดนั้นไว้

ผมยืนนิ่งอยู่และถามว่า

“การที่คนแคระทมิฬบุกเข้าโจมตีป้อมมังกร เป็นเพราะผมไปสังหารเจ้าชายของคนแคระทมิฬใช่ไหมครับ?”

‘หลิวชวง’กระตุกยิ้มพลางหันมาทางผมแล้วพูดขึ้นว่า

“เจ้าคิดผิดแล้ว คนแคระทมิฬนั้นต้องการจะครองเมืองปาฮวง จิ่วหลีและฝานซูมาโดยตลอด พวกคนแคระทมิฬเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่สนใจเกียรติยศและศักดิ์ศรี เป็นพวกชอบทำนาบนหลังคน การสงครามระหว่างพวกคนแคระทมิฬและป้อมมังกรมันขึ้นอยู่กับเวลา เป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก”

ผมกำหมัดแน่นพลางถามว่า

“คนที่ทำร้ายท่านเป็นใคร?”

‘หลิวชวง’ชะงักไปเล็กน้อยแล้วมองมาที่ชั้น ตาคู่งามเลื่อนลงมองไปยังบาดแผลที่หัวไหล่และพูดว่า

“แม่ทัพเอกของราชาคนแคระทมิฬ เฮยหลงเหยียน ผู้มีพลังเทียบเคียงระดับพระเจ้าทั้งยังครอบครองขวานรบในตำนานที่ชื่อว่า ‘ทลายสิบทิศ’ แม้แต่ดาบของราชาโหลวหลินก็ไม่อาจเทียบเคียงพลังการโจมตีอันแข็งแกร่งของขวานนี้ โชคยังดีที่เรายังได้รับความช่วยเหลือจากท่านบรรพกษัตริย์หรันหมิ่น ถ้าไม่ได้ท่านช่วยไว้ ข้าคงไม่เพียงแค่บาดเจ็บเท่านั้น แม้แต่ชีวิตของข้าก็คงมิอาจรักษาไว้ได้”

ผมเม้มปากกระชับดาบประกายวสันต์ที่อยู่บนหลังพลางตอบอย่างสุขุมว่า

“ท่านหลิวชวง หากครั้งหน้าที่พวกคนแคระทมิฬโจมตีป้อมมังกรอีก โปรดเรียกหาผมด้วย ไม่ว่าท่านจะพูดอย่างไรก็แล้วแต่ ผมก็จะเป็นหนึ่งในเหล่านักรบของป้อมมังกร”

“เฮ้อ…”

‘หลิวชวง’จ้องมาด้วยสายตาที่ยากจะเข้าใจ แล้วก็อมยิ้ม เธอยืนขึ้นและเดินมาทางผมแล้วพูดว่า

“เจ้าหนู เจ้ายังมีพลังไม่พอที่จะนับว่าเป็นนักรบของป้อมมังกรหรอกนะ อย่าเอาชีวิตมาทิ้งเสียเปล่าๆเลย ไม่ต้องถึงขั้น แม่ทัพเฮยหลงเหยียนหรอก แค่หัวหมู่กองธงเล็กๆของพวกคนแคระทมิฬก็ฆ่าเจ้าได้ง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ อีกอย่างข้ายังไม่อยากเห็นเจ้าตายแบบง่ายดายอย่างนั้น…”

ผมสายตาว่างเปล่า พลางคอตก

‘หลิวชวง’ยิ้มให้กำลังใจพลางพูดว่า

“พวกที่กล้าเข้ามายังห้องของข้า นับว่ามีไม่มาก ข้าไม่ได้สังหารเจ้า นั่นเป็นเพราะว่าข้ามองเห็นคุณค่าในตัวของเจ้า เจ้าพอเข้าใจที่ข้าพูดไหม?”

ผมยืนนิ่งเงียบงัน ‘หลิวชวง’กล่าวต่อไปว่า

“เจ้าคาร์ล ไอแก่เหลี่ยมจัดนั่นต้องการให้ข้าพาเจ้าไปสังหารมังกรปฐพีซอมบี้นั่น มันได้บอกเจ้าหรือไม่ว่าจะให้เจ้าทำสิ่งใดเป็นการต่อไป?”

ผมผงกศีรษะแล้วกล่าวว่า

“อาจารย์คาร์ล สัญญากับผมว่าเมื่อใดก็ตามที่ผมสามารถฆ่ามังกรปฐพีซอมบี้ตัวนั้นลงได้ เขาจะให้ผมไปสำรวจขุมพลังปริศนาโบราณภายในสุสานมังกรครับ แต่ผมไม่ทราบว่าพลังนั่นมันคืออะไรกันแน่…”

“ขุมพลังปริศนาโบราณภายในสุสานมังกรอย่างนั้นเรอะ?”

‘พลันหลิวชวง’ก็กำหมัดแน่นใบหน้าวงรีสวยนั้นเต็มไปด้วยความเย็นเยียบ เธอพึมพำเสียงต่ำๆอะไรบางอย่างออกมาแล้วพูดว่า

“คาร์ลเจ้าแก่กะโหลกกะลา นี่มันต้องการให้เจ้าฆ่าตัวตายรึไง?! ฮึ่ม ขุมพลังปริศนาโบราณบ้าบออะไรมันก็แค่สิ่งที่ยังหาใครพิสูจน์ไม่ได้ มันจะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร? เจ้ารู้ไหมขนาดเทพกระบี่ยังพาตัวเองไปจบชีวิตที่นั่น และเจ้ายังคิดที่จะท้าทายสิ่งนั้นอีกน่ะรึ ?!”

ผมตกตะลึงตัวแข็งทื่อถามว่า

“ท่านหลิวชวง ตกลงขุมพลังปริศนาโบราณภายในสุสานมังกรคือสิ่งใดกันแน่?”

‘หลิวชวง’ยืนนิ่งเงียบงันไปสองสามวินาทีพลันหันมาที่ผมแล้วพูดว่า

“เจ้าหนู นับตั้งแต่วันที่เจ้าเข้าร่วมกับป้อมมังกร เจ้าก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในพวกพ้องของข้า เพราะเหตุนั้นข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเดินไปสู่ความตาย ฮึ่ม..ถึงแม้เจ้าแก่หนังเหี่ยวคาร์ลตั้งใจจะทำร้ายเจ้าหรือไม่ก็ตามที ข้าจะไม่ปล่อยให้มันรอดไปได้เพราะเรื่องนี้หรอก! ข้า หลิวชวงผู้นี้จะเป็นคนเดียวที่จะตัดสินว่าคนของข้า จะอยู่หรือจะตาย!”

ผมคิดอยู่ครู่หนึ่งพลางถามว่า

“ตกลงท่านจะพาผมไปสังหารมังกรปฐพีได้ไหมครับ….?”

“นี่เจ้าคิดจะสู้กับมันจริงๆเหรอนี่? “

‘หลิวชวง’มองมาทางผมอย่างตกตะลึง ก่อนจะพูดต่อไปว่า

“ในบรรดาสายพันธุ์มังกรทั้งหลาย มังกรปฐพีนั่นน่ะ ถึงแม้จะพอพูดได้ว่ามันอ่อนแอที่สุด ถึงกระนั้นมันก็ยังสามารถพ่นไฟ ถ้าเจ้าทำพลาดแม้เพียงครั้งเดียว เจ้าได้ไหม้เกรียมเป็นตอตะโกแน่นอน แล้วเจ้าจะทำอย่างไร?”

ผมชักดาบประกายวสันต์ขึ้นมาหัวเราะแล้วพูดว่า

“ท่านโปรดวางใจเถอะ ผมคงไม่ถูกย่างง่ายๆ อย่างนั้นหรอก ผมหาใช่เด็กน้อยที่ไม่มีวันรู้จักโตที่ ต้องคอยหลบอยู่ข้างหลังคนอื่นตลอดไป รอให้คนอื่นปกป้องผมอยู่ฝ่ายเดียว วันหนึ่งข้างหน้า! ผมจะต้องเติบโตและแข็งแรงพอที่จะปกป้องท่านได้อย่างแน่นอน ท่านหลิวชวง!”

“นั่นมัน….”

‘หลิวชวง’จ้องมองผมอย่างเงียบงัน ในที่สุดก็เผยรอยยิ้มที่มุมปากพร้อมเสียงหัวเราะพูดว่า

“เอาเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปสังหารมังกรปฐพีซอมบี้ตัวนั้นเอง และให้เจ้าแน่ใจได้เลยว่าถ้าเจ้าตกอยู่ในอันตรายแล้วล่ะก็ ข้าจะเข้าไปช่วยเจ้าออกมาทันทีโดยไม่มีข้อแม้”

“ตกลงครับ…”

“ติ๊ง!” ประกาศจากระบบ : คุณได้รับเควสระดับ S [สังหารมังกรปฐพี]! คำอธิบายเควส : ติดตามหลิวชวงไปยังบริเวณที่จองจำมังกรปฐพีซอมบี้และสังหารมันด้วยตัวคุณเอง คุณจะได้รับรางวัลอย่างมากมายหากทำสำเร็จ โปรดจำไว้ว่า คุณต้องเป็นคนสังหารมังกรปฐพีซอมบี้ด้วยตัวของคุณเอง มิเช่นนั้นคุณจะสูญเสียโอกาสที่จะได้รับเควสต่อเนื่อง

“พั่บ พั่บ พั่บ…”

เสียงของรองเท้ารุ่งอรุณม่วงของผมย่ำไปบนก้อนหินที่หนาวเย็นเหล่านั้น ผมติดตาม’หลิวชวง’อย่างกระชั้นชิดเข้าไปยังส่วนที่ลึกของป้อมมังกร หลังจากผ่านจุดตรวจรักษาการณ์สองสามด่าน สถานที่จองจำก็ปรากฏให้เห็นในที่สุด!

“ท่านหัวหน้า !”

ยามรักษาการณ์ที่สวมชุดของคุกปฐพียกมือขึ้นขวางอกทำความเคารพตามระเบียบของป้อมมังกร ‘หลิวงชวง’พยักหน้าเล็กน้อยพลางสั่งว่า

“ทหารยาม มอบกุญแจคุกมังกรปฐพีมาให้ข้าหน่อย!”

“ท่านหัวหน้า ท่านจะ…..?”

“เอามันมา อย่าถามให้มากความ!”

“ขอรับ!”

หลังจากรับกุญแจสีดำมะเมื่อมมาจากยามรักษาการณ์แล้ว ‘หลิวชวง’ก็หันมายิ้มให้ผมพร้อมพูดว่า

“เอาล่ะ ไปกันเถอะ!”

หลังจากเดินอ้อมคุกไปทางด้านหนึ่ง พวกเราก็มาถึง ส่วนของคุกปฐพี ที่อยู่ทางทิศใต้สุด และที่สุดของทางเดิน ผมได้ยินเสียงคำรามเบาๆของสัตว์อสูรชนิดหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เสียงคำรามของมังกรหรือว่าเป็นเพราะมังกรปฐพีมันอยู่ระดับต่ำสุดของมังกร เสียงคำรามเลยเป็นอย่างนั้น?

ด้านหน้าทางขวามือมีประตูเหล็กกล้าหนาและหนักอยู่ เสียงของสัตว์ร้ายคำรามดังก้องมาจากหลังประตู ‘หลิวชวง’นำกุญแจออกมาไขอย่างช้าๆ ทันทีที่เสียง

“แกร๊ก”

ดังขึ้นประตูก็ได้ถูกปลดล็อคแล้วเธอหันมามองที่ผม พลางยิ้มเล็กน้อยพูดเตือนว่า

“นับแต่นี้จงระวังตัวไว้…”

“ระวังตัวจากอะไรครับ”

“แค่…ระวังตัวไว้…”

ทันทีที่เธอพูดจบ ‘หลิวชวง’ก็พลันเปิดประตูคุกเข้าไปและนั่นทำให้ความร้อนจากลมหายใจมังกรพุ่งอัดกระแทกเข้ากับใบหน้าของผม ตามมาด้วยเสียงคำรามของเจ้ามังกรปฐพีตัวนั้น พริบตาต่อมาลมหายใจของมังกรที่ลุกเป็นเปลวไฟก็พุ่งตรงมาที่ผม เมื่อผมรู้ตัวว่าไม่อาจที่จะหลบไฟที่พ่นจากมังกรได้แน่แล้ว

‘หลิวชวง’พลันปิดประตูคุกลงทันทีเหลือเล็ดลอดมาเพียงแสงสีแดงเข้มของเปลวไฟที่มองเห็นได้จากช่องว่างระหว่างประตูคุกกับพื้นดิน ซึ่งเปลวไฟได้หลอมละลายน้ำแข็งที่เกาะตามพื้นจะหมดสิ้น ผมตาค้างตัวแข็งทื่อ ให้ตายสิเจ้ามังกรปฐพีตัวนี้ดูท่าจะของจริงแฮะ….

‘หลิวชวง’แหงนหน้ามามองที่ผมพลางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและถามว่า

“ไงล่ะเจ้าหนู ยังคิดจะสู้กับมังกรปฐพีอยู่อีกไหม?”

ผมทำใจดีสู้มังกรพลางกำด้ามดาบของตัวเองแน่นพร้อมตอบกลับไปว่า

“ครับ!”

“ถ้าเช่นนั้น ข้าจะช่วยเจ้าสักเล็กน้อย…”

เมื่อพูดจบ’หลิวชวง’ก็พลันเปิดประตูคุกขึ้นอีกครั้ง พาร่างไปยืนจังก้าต่อหน้าเจ้ามังกรปฐพีนั่นยิ้มถากถางแล้วเอ่ยว่า

“ว่าไง เจ้ามังกรความดันต่ำเอ๋ย….”

“โฮกก!”

เจ้ามังกรปฐพีคำรามลั่น พลันพ่นไฟใส่อีกครั้งทันที!

‘หลิวชวง’ยืนนิ่งไม่ไหวติงเยือกเย็นปานน้ำแข็ง พลันพ่นลมหายใจเล็กน้อยลมปราณก็ก่อเกิดขึ้นรอบตัวกลายเป็นม่านพลังลมปกป้องร่างเธอไว้อย่างหมดจด

“เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ”

เสียงของโล่พลัง สะท้อนลูกไฟจากลมหายใจของมังกรนั้นกลับไปจนหมดสิ้น  ตามมาด้วยเสียงเจ้ามังกรคำรามอีกครั้งด้วยความหงุดหงิดต่อลูกไฟของมัน แล้ว’หลิวซวง’เธอก็พลันปิดประตูลงทันที! ไม่กี่อึดใจต่อมา เธอเปิดประตูคุกอีกครั้งแล้วก็ยั่วยุล่อให้เจ้ามังกรพ่นไฟใส่เธออีกครั้ง และแน่นอนเธอสะท้อนมันกลับไปและทำซ้ำอย่างนั้นต่อไปอีกเจ็ดครั้งด้วยกัน!

“ตึ้ง!” เสียงของประตูคุกปิดลง

‘หลิวชวง’พลันเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงพูดว่า

“เจ้า…คงเห็นแล้วใช่ไหม เจ้ามังกรปฐพีนั่นมันพ่นไฟไปทั้งหมดเจ็ดครั้งแล้ว ด้วยอายุ 717 ปีของมังกรปฐพี มันจึงพ่นไฟได้ 7 ครั้งตามขีดจำกัดอายุของมัน ตอนนี้พลังมังกรของมันกำลังถดถอยและไม่สามารถพ่นไฟได้อีกราวหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้แหละเจ้าจงเข้าไปและสังหารมังกรที่ไม่สามารถพ่นไฟได้แล้วตัวนั้น

ถ้าเจ้าสังหารมันได้บางทีข้าอาจทบทวนอีกครั้งเรื่องที่เจ้าอยากจะไปสำรวจขุมพลังปริศนาแห่งสุสานมังกร ยังไงเสีย ปริศนานั่นก็ต้องได้รับการคลี่คลายอยู่ดี…”

ผมผงกศรีษะ

“ปึ่ง!”

‘หลิวชวง’เปิดประตูคุกขึ้นอีกครั้งในขณะที่ผมเรียก โบโบน้อย ออกมาและสืบเท้าพุ่งตัวผ่านประตูคุกเข้าไป ภายในนั้นควันสีเขียวบดบังสายตามองอะไรแทบไม่เห็น ต้องรอให้ผ่านไปชั่วครู่จนควันเขียวนั้นจางลงไปเล็กน้อย ทำให้มองเห็นเจ้ามังกรร่างเขื่องตัวนั้นคลานอยู่ที่พื้นเบื้องหน้า มันดูคล้ายกับกิ้งก่ายักษ์ที่มีหัวคล้ายกับมังกรที่น่าขนลุก ลำตัวด้านซ้ายของมันเหลือแต่กระดูกที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงที่แลบออกมาพร้อมด้วยดวงตากลวงโบ๋ที่มีเปลวเพลิงอยู่ภายใน หางที่ยาวของมันสะบัดไปมา

ขณะที่มันคลานและมองมาทางที่ผมยืนอยู่พร้อมคำรามขู่เสียงต่ำ

[มังกรปฐพีซอมบี้ – เจสซี่](บอสระดับม่วง) เลเวล : 62

พลังโจมตี : 1700-2075

พลังป้องกัน : 1650

พลังชีวิต : 200000

สกิล : [มังกรพ่นไฟ] [โจมตีต่อเนื่องสามครั้ง] [หางทิ่มทะลวง]

คำอธิบาย : เจสซี่ มังกรรุ่นเยาว์ที่เลี้ยงไว้ในป้อมมังกร หลังจากอยู่อย่างสบายมานาน 700 ปีในหุบเขาศิลาเพลิงก่อนที่จะมีภัยธรรมชาติทำให้มันถูกอุกกาบาตจากท้องฟ้าพุ่งลงมาชนตาย และถูกนำมาฝังไว้ที่สุสานมังกรเป็นเวลานาน มันถูกปลุกชีพขึ้นอีกครั้งด้วยเนโครแมนเซอผู้ชั่วร้าย มันหลงลืมสิ้นถึงเกียรติภูมิของมังกรตอนนี้ภายในใจของมันมีแต่เพียงความชิงชังและกระหายเลือดเท่านั้น

ดูจากสเตตัสของบอสแล้ว ผมลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ค่าพลังโจมตีของมัน 2075 ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเมื่อเทียบกับบอสระดับจักรพรรดิ์เลเวล 62 จักรพรรดิ์เซียนเป่ยแล้วเจ้ามังกือนี่ดูกระจอกไปเยอะเลย ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ผมเลเวล 58 แล้วดังนั้นค่าความต่างของเลเวลจึงไม่เป็นปัญหา

พลังโจมตีของผมก็มากกว่า ในขณะที่พลังป้องกันน่าจะมากกว่านิดหน่อยไม่ก็พอๆกัน ผมชนะมันได้แน่!

พลันทุบพื้นเสียงดัง

“ตึ้ง!”เรียกใช้สกิล[โซ่พันธนาการ]

ซึ่งปรากฏขึ้นพันร่างของเจ้ามังกรปฐพีอย่างว่องไว ชูดาบประกายวสันต์ขึ้นทะยานไปด้านหน้าพร้อมกับสัญลักษณ์ดาวหกแฉกใช้ออกด้วยสกิลโจมตีต่อเนื่องเลเวล 6[Combo]!

“873 !”

“842 !”

“869 !”

“881 !”

ตัวเลขค่าความเสียหายพุ่งขึ้นเป็นสายจากร่างบอส ตามด้วยสกิล[หนึ่งเทียบพัน](Strength of a Thousand Men)เสริมด้วยการโจมตีของ เจ้าโบโบน้อยแค่เพียงอึดใจเดียว พวกเราก็เรียกค่าความเสียหายได้มากกว่า 8000 หน่วย

มองเห็นหลอดเลือดของบอสลดไปทันทีไม่น้อยกว่า 4%  ค่าความเสียหายทรงพลังขนาดนี้เป็นเพราะสกิลของผมเลเวลสูงขึ้น เชื่อว่าผมสามารถจัดการบอสระดับม่วงที่มีเลเวลพอๆกันกับผมได้โดยลำพังอย่างไม่มีปัญหาใดๆแน่นอน

แต่ถ้าเป็นบอสระดับจักรพรรดิ์เลเวลเท่าๆชั้นละก็สงสัยได้นอนนับรากต้นไม้ก่อนแหงมๆ แต่ตอนนี้ช่างมันก่อน!

“โฮกก โฮกกกก…”

เจ้ามังกรปฐพีผีดิบคำรามอย่างโกรธแค้นพยายามจะสลัดให้หลุดจากสกิล[โซ่พันธนาการ] ทันใดนั้นมันก็ใช้กรงเล็บของมัน

“ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ”

มันตะปบโจมตีอย่างบ้าคลั่งจากสามทิศทาง!

“641 !”

“712 !”

“774 !”

ผมรีบใช้สกิลรักษาตัวเอง[Heal]พร้อมทั้งดื่มน้ำยาเพิ่มเลือดระดับ 6 เพื่อรักษาชีวิตไว้และหันกลับไปสู้ต่อ ท่องในใจไว้ว่า สู้ศึกครั้งนี้เพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อจะได้สู้ศึกต่อไปในวันข้างหน้า!

ผ่านไปได้อีกสักครู่ร่างของเจ้ามังกรปฐพีก็สะท้านขึ้นและตัวของมันก็เต็มไปด้วยบาดแผลกว้างจากความเสียหายที่ผมได้สร้างไว้ดูต่างหน้าให้กับมัน ทันใดนั้นหางที่เรียวแหลมของมันก็สะบัดไหวพร้อมทั้งส่องแสง ต้องเป็นสกิล[หางทิ่มทะลวง]แน่นอน หางที่มีแต่กระดูกของมันราวกับคมหอกพร้อมกับเสียง

“ฟุ่บ”

กระแสลมแรงพุ่งมาทางผม ด้วยความเร็วระดับนี้ ผมไม่มีทางหลบได้อย่างแน่นอน!

“1538 !”

ผมรีบร่ายสกิลรักษาอีกครั้ง หัวใจเต้นโครมครามนึกขอบคุณสวรรค์ในใจที่การโจมตีเมื่อกี้ของบอสไม่ติดคริติคอล จะยังไงก็ตามการโจมตีของบอสระดับม่วงก็ทรงพลังและไม่ใช่อะไรที่จะล้อเล่นได้…

ตอนนี้ด้านนอกของประตูคุกนั้น ‘หลิวชวง’ยืนเงียบขรึมจ้องมองดูการต่อสู้ที่เกิดขึ้นด้านในสองมือแกร่งของเธอนั้นกำแน่นขณะที่ดวงตาก็ฉายแววกังวลอย่างปิดไม่มิด หลังจากสิบห้านาทีของการสู้กับบอสที่ตื่นเต้นผ่านไป

พลังชีวิตของบอสก็ลดลงไปประมาณ 10% ถึงแม้ว่าค่าการฟื้นฟูของบอสก็อยู่ในอัตราสูงแต่ก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีที่สร้างค่าความเสียหายสูงระดับนี้ได้ การต่อสู้กำลังจะจบลงในอีกไม่นานนี้!

“ฮูมมมม โฮกกกก…”

ความแค้นสุมอกทำให้เจ้ามังกรปฐพีนั้นคำรามอย่างไม่หยุด ทันใดนั้นหางของมันก็ชูตั้งขึ้นอีกครั้ง มันจะใช้สกิล[หางทิ่มทะลวง]โจมตีอีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย!

ผมพยายามเต็มที่ ตั้งใจจะหลบให้ได้ กลั้นลมหายใจแล้วคำนวนองศาที่มันจะโจมตีลงมา ทันใดก็กระโดดสุดตัว พลันตัวหนังสือคำว่า MISS ตัวเบ้อเริ่มปรากฏขึ้นบอกให้รู้ว่าผมหลบพ้น

ในขณะเดียวกันเสียงดัง “ตูม” ก็ดังขึ้น

เพราะหางอันทรงพลังของมันพลาดไปโดนกำแพงด้านหลัง! สายลมเย็นยะเยือกกรูเข้ามาในคุกที่ขังเจ้ามังกร ให้ตายสิ! เหวสูงกว่าร้อยเมตรอยู่ข้างนอกนั่น!

สูงขนาดที่ว่าผมสามารถมองเห็นป่าของเมืองปาฮวงได้เลยจากที่ตรงนี้!

“โฮกกกก!”

เจ้ามังกรปฐพีคำรามลั่น ดูมันลิงโลดอย่างกับไอหื่นเจอสาวสวยหลังจากถูกคุมขังมานานยังไงยังงั้น

มันพุ่งกระโจนไปด้านหน้าทางกำแพงที่เป็นช่องอยู่นั้น!

เฮ้ย! เจสซี่มันตั้งใจจะแหกคุกนี่หว่า!  Zhan Long พิชิตมังกร

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments