ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปแปลโดยคุณ WildFox
//////////////
โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ชั้นรีบไล่ตามเจ้ามังกรตัวแสบไปทันที ในจังหวะที่เจ้ามังกรปฐพีจะกระโดดออกจากช่องกำแพงคุกที่พังลงมานั้นชั้นก็คว้าหางของมันได้อย่างทันท่วงที รีดเค้นพลังทุกส่วนของร่างกายดึงเจ้าเจสซี่ไว้ให้ได้
ความว่องไวของนักดาบไม่ได้มีไว้แค่โชว์ทำเท่ห์เท่านั้นเมื่อรวมกับค่าพลังความแข็งแกร่งของชั้นที่มีอย่างมากมาย เจ้ามังกรปฐพีที่ฝันหวานถึงอิสระภาพขณะลอยอยู่กลางอากาศด้วยแรงกระโดดของมันก็ไม่อาจทำอะไรได้นอกจากโดนชั้นกระชากเหวี่ยงกลับเข้าคุกทันที!
สายตาพลันเหลือบไปเห็นเสาหินขนาดเขื่องต้นหนึ่งชั้นวิ่งวนเสาต้นนั้นสองรอบพร้อมทั้งลากหางเจ้าเจสซี่ไปด้วยทำให้หางของมันพันอยู่กับเสาหินนั่นเอง พลันนึกอะไรได้จึงหยิบเอาหอกระดับเงินเลเวล 55 ที่ยังขายไม่ออกปัก “ฉึก”ลงไปที่หางของมัน
และด้วยการที่มันไม่สามารถเคลื่อนไหวหางของมันได้อีกเจ้ามังกรปฐพีผีดิบนี้ก็จะไม่สามารถใช้สกิล[หางทิ่มทะลวง]อีกต่อไป
นี่ถ้ามันไม่คิดหนีชั้นก็คงไม่มีโอกาสทำแบบนี้กับมัน! ที่ประตูคุกหลิวชวงหัวเราะชอบใจเสียงดังพูดว่า
“ฮิฮิ แจ๋วไปเลยเจ้าหนู!”
น้อยครั้งนักที่จะเห็นรอยยิ้มอันงดงามของ’หลิวชวง’
ชั่วพริบตา ชั้นก็พลันพุ่งตัวไปด้านหน้าตรงหัวของเจ้ามังกรปฐพี แล้วก็จัดหนักให้มันอย่างไม่หยุดพัก ใช้เวลาไปเกือบสองนาทีกว่าจะจัดการมันลงได้!
“ฮะ…..ฮูมมมมม…”
ด้วยเสียงร้องอย่างเจ็บปวด สุดท้ายมังกรปฐพีก็ลาโลกนี้อย่างเป็นทางการ เปลวไฟจากวิญญาณของมันมอดลงและสลายเป็นสายลม การตายของมันมอบผลตอบแทนเป็นกองไอเทมที่ดรอปอยู่ที่พื้นและค่าประสบการณ์จนทำให้ชั้นเลเวลอัพ
ที่กองไอเทมบนพื้นนั้น มีสร้อยเส้นหนึ่งกับผ้าคลุมสีแดงปานเลือดที่มีประกายสีม่วงจางๆปกคลุมอยู่! ดูจะเป็นไอเทมที่ดีไม่น้อยที่แน่ๆน่าจะเป็นไอเทมระดับม่วงแน่นอน! เมื่อหยิบผ้าคลุมผืนนั้นขึ้นมาส่องดูสเตตัสของมันแล้ว ชั้นก็ต้องประหลาดใจ!
[ผ้าคลุมสิ้นศรัทธา](ไอเทมระดับม่วง)
พลังป้องกัน : 270
ความแข็งแกร่ง : +40
ความต้านทาน : +37
ความสามารถพิเศษ : เพิ่มพลังป้องกันผู้สวมใส่อีก 125 หน่วย
ความสามารถพิเศษ : เพิ่มพลังป้องกันเวทย์ผู้สวมใส่อีก 14%
เลเวลที่สวมใส่ได้ : 55
เมื่อดูที่ผ้าคลุมเพลิงน้ำแข็งอันเก่าของชั้นที่เป็นไอเทมระดับทองเลเวล 39 คิดว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้วที่จะเปลี่ยนสักที เมื่อเอาผ้าคลุมอันเก่าออกและสวมใส่ผ้าคลุมสิ้นศรัทธาอันใหม่ของชั้นเข้าไป
นอกจากจะเพิ่มค่าสเตตัสที่ได้จากการเลเวลอัพแล้วยังรู้สึกว่าค่าพลังป้องกันทั่วร่างนั้นเพิ่มขึ้นอย่างท่วมท้น
[เซียวเหยาจื้อไจ้](ผู้เฝ้าสุสานป้อมมังกร) เลเวล : 59
พลังโจมตี : 1707 – 2186
พลังป้องกัน : 1840
HP : 3484 MP : 1366
ค่าสเน่ห์ : 45
ผ้าคลุมสิ้นศรัทธานี่มันเพิ่มค่าพลังป้องกันเยอะมากจริงๆ! ตอนนี้พลังป้องกันชั้นเพิ่มมาเป็น 1840 หน่วย! พลังป้องกันขนาดนี้ทำเอาพวกอาชีพพระและอัศวินต้องร้องด้วยความอิจฉาแน่เลย!
หลังจากนั้น ชั้นก็หยิบไอเทมชิ้นที่สองสายสร้อยที่ดรอปได้ขึ้นมาตรวจสอบ แย่แฮะ สุดท้ายมันก็เป็นแค่ไอเทมระดับเงินซึ่งคงเอาไปทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าเอาไปขายแลกเงินได้พอค่าสุกี้ซักครึ่งหม้อละมั้ง….
ขณะที่เก็บเงิน 7 G ขึ้นมาจากพื้น ก็พลางนึกได้ว่าไม่เห็นมีบัตรอภัยโทษหรือหินวิญญาณดรอปมั่งเลยเจ้าบอสตัวนี้ขี้ตืดชะมัด!
แต่ก็อุตส่าห์ดรอปผ้าคลุมใหม่มาให้ชั้นแล้วก็ถือว่ายังพอคุ้มค่าเหนื่อยบ้างละนะ ในตอนที่ยืนขึ้นเพื่อที่จะเดินกลับไปหา’หลิวชวง’นั้นเอง พลันสายตาก็กระทบเข้ากับอะไรบางอย่างที่มีประกายสีฟ้าๆซึ่งสะท้อนมาเข้าตาชั้นจากทางหางของเจ้ามังกรปฐพี นั่นอะไรน่ะ? ดูเหมือน….จะมีอะไรบางอย่างที่เป็นโลหะอยู่ตรงนั้นใช่มะ?
เอามือแหวกซากมังกรเสียงดัง “แคว่ก”
ชั้นก็จับเจ้าสิ่งนั้นไว้ในมือต้องใช้แรงเกือบทั้งหมดที่มีค่อยๆดึงเอาส่วนที่เป็นโลหะนั้นซึ่งส่องประกายคล้ายกับเป็นผลึกแก้วออกมา
“ครึ่กกกก ครึ่กกก”
ร่างของมังกรปฐพีสั่นไปมาเมื่อชั้นพยายามใช้แรงทั้งหมดดึงเอาสิ่งนั้นออกมาแทบจะต้องคลานสี่ขาด้วยซ้ำ ค่อยๆดึงอย่างช้าๆจนกระทั่งเจ้าโลหะชิ้นนั้นใกล้จะหลุดจากส่วนที่เป็นกระดูกสันหลังของเจ้ามังกรออกมา ตั้งท่าจะดึงให้หลุดในทีเดียวแล้ว “แคว่กกก!”
ในที่สุดมันก็หลุดออกมาจากซากมังกรปฐพีทำให้ซากของมันนั้นเละไปกับพื้น และเมื่อชั้นมองไปที่มือที่จับเจ้าสิ่งนั้นอยู่ก็มีแสงสะท้อนของโลหะแสดงให้เห็นว่ามันเป็นหอกเล่มหนึ่ง เมื่อชั้นตรวจดูสเตตัสของมันก็…. แสนจะตื่นเต้น!
[หอกผลึกวิญญาณมังกร](ไอเทมระดับม่วง – ชั้นยอด)
พลังโจมตี : 810 – 1070
ความแข็งแกร่ง : +40
ความต้านทาน : +38
ความสามารถพิเศษ : เพิ่มพลังโจมตีของผู้สวมใส่อีก 8%
ความสามารถพิเศษ : มีโอกาส 5% ไม่สนใจพลังป้องกันของเป้าหมาย 100%
เลเวลที่สวมใส่ได้ : 55
คำอธิบาย : ในอดีตกาล ณ สถานที่เป็นที่ฝังร่างของมังกรปฐพีมีพลังวิญญาณจากสวรรค์และปฐพีได้ผสานรวมเข้ากับกระดูกของมังกร ครั้นเมื่อมังกรปฐีถูกปลุกชีพขึ้นมา วิญญาณเหล่านั้นจึงหลอมรวมกลายเป็นอาวุธวิญญาณโดยอัตโนมัติ ทว่าโขคร้ายที่อาวุธนี้อาจจะต้องถูกซ่อนไปตลอดกาลภายใต้ร่างของโครงกระดูกมังกร หากแต่ด้วยความไม่ตั้งใจผู้เล่น เซียวเหยาจื้อไจ้ ใช้กำลังทำลายโครงกระดูกนั้นเสีย ทำให้หอกผลึกวิญญาณมังกรปรากฏโฉมอีกครั้ง
ตอนที่อ่านคำอธิบายของไอเทมชิ้นนี้ชั้นอ้าปากค้างเพราะมีชื่อของชั้นอยู่ในคำอธิบายไอเทมด้วย! เจ๋งสาดดด! และยิ่งไปกว่านั้น นี่มันเป็นไอเทมระดับชั้นยอด ด้วยค่าพลังโจมตีของมันทำให้มีดสั้นไอเทมระดับจักรพรรดิ์ของ’หลินว่านเอ๋อ’ยังต้องอายเมื่อเปรียบเทียบกัน!
บันทึกจากผู้ประพันธ์ : ถ้าสเตตัสอื่นๆเท่ากันหมด อาวุธในระดับเดียวกันจะเรียงกันตามนี้ : ขวาน หอกสองมือ ดาบใหญ่ ดาบหรือกระบี่ มีดสั้น
TL : หอกหรือแหลนของอัศวินก็จัดเข้าในประเภทหอกสองมือ
ชั้นเปิดหน้าต่างรายชื่อเพื่อนขึ้นมาเพื่อดูเลเวลของ ‘มัตชะ’ โอ้ว เธอเลเวล 53 แล้ว! ภายใต้การช่วยเหลือของ’หลิวย่ง’ ‘หรันหมิ่น’และคนอื่นๆ เลเวลของ’มัตชะ’ก็ใกล้ที่จะตามพวกเราทันละ
อัศวินมายาของกิลด์[Zhan Long]คือ ‘มัตชะ’ ดังนั้นเพื่อความเหมาะสมเธอควรจะต้องเปลี่ยนไปใช้อาวุธให้เหมาะกับอาชีพของเธอ
“ กรึ่ก…”
ชั้นเอาหอกผลึกวิญญาณมังกรเก็บไว้ในช่องเก็บของแล้วรู้สึกปลื้มใจขณะยืนขึ้น เดินกลับมาหา’หลิวชวง’ชั้นยิ้มให้เธอและพูดว่า
“ท่านหญิงหลิวชวง ผมผ่านการทดสอบไหมครับ?”
‘หลิวชวง’พยักหน้าพลางตอบว่า
“อื้ม เจ้าทำดีมากเจ้าหนู….. ข้าคิดไว้ไม่มีผิด เจ้าเหมาะสมที่จะเป็นนักดาบของป้อมมังกรอย่างไม่ต้องสงสัย ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องมีอนาคตที่รุ่งโรจน์ สักวันเจ้าจะช่วยป้อมมังกรของเราให้ยิ่งใหญ่ด้วยพลังที่กล้าแกร่งของเจ้า !”
“ฮ่าฮ่า งั้นขั้นต่อไปของเราคือ?”
“พวกเราจะกลับไปหา คาร์ล กันเจ้าเฒ่าเจ้าเลห์นั่น ข้าอยากจะรู้ว่ามันจะแก้ตัวยังไงกับข้าทีนี้…..”
“ครับ!”
ชั้นตาม’หลิวชวง’ที่เดินนำออกจากคุกจนเข้าเขตของป้อมมังกร เมื่อมองลงไปที่ทะเลหิมะขาวโพลน ชั้นอดไม่ได้ที่ต้องถอนหายใจถึงเวลาที่ต้องไต่ลัดเลาะไปตามเทือกเขาและช่องผาอีกไกลโขกว่าจะถึงป้อมมังกร “หมับ !”
‘หลิวชวง’จับแขนชั้นไว้พลางถามว่า
“เจ้าพร้อมรึยัง?”
“พะ..พร้อมอะไรครับ?”
“ไม่มีอะไร….”
สิ้นเสียงลงชั่วครู่’หลิวชวง’ก็พาชั้นกระโดดลงมา เราตกลงมาจากความสูงหลายร้อยเมตรพร้อมทั้งสายลมหนาวเหน็บปะทะร่างและเสียงหวีดหวิวดังก้องในหู และเพราะความเร็วขนาดนั้นชั้นแทบจะลืมตาไม่ขึ้นกลับกัน ‘หลิวชวง’ยังลืมตาโตคู่งามนั้นพร้อมกับมีหิมะเกาะเล็กน้อยที่คิ้วของเธอ
พลังปราณของเธอคล้ายเป็นเกราะป้องกันลมเย็นเยียบนั้นขณะที่ชั้นตัวสั่นทั้งที่ใส่ชุดเต็มที่แต่เธอไม่ได้ใส่อะไรมากมายเลย ด้วยการกระโดดนั้น เราก็ข้ามผ่านระยะทางหลายร้อยเมตรได้ด้วยการกระโดดอีกไม่กี่ครั้ง ความแข็งแกร่งของ’หลิวชวง’สุดที่จะเกินความคาดหมายของชั้น
ด้วยการโดดลงอีกไม่กี่ครั้งเธอก็พาชั้นมาถึงสุสานมังกรซึ่งห่างไปไม่ไกลสามารถมองเห็นกระท่อมหินของ’คาร์ล’ได้ ‘หลิวชวง’ปล่อยมือจากแขนชั้นแล้วเอามือไขว้หลังไว้เดินตรงไปที่กระท่อมของ’คาร์ล’และพูดว่า
“คาร์ล นี่ข้าเอง หลิวชวง โปรดออกมาเถอะ!”
“ครืดด …..”
ประตูของกระท่อมหินเปิดออก และ’คาร์ล’ก็ออกพาร่างออกมาบนรถเข็น สายตาเย็นชามองมาที่’หลิวชวง’และก็มองมาที่ชั้น ก่อนจะยิ้มแปลกๆพูดขึ้นว่า
“โฮ่ นั่นมันท่านหลิวชวงจากป้อมมังกรไม่ใช่เรอะ! ลมอะไรหอบพาเอาท่านมายังที่กันดารและแสนจะรกร้างแห่งนี้ได้”
ประกายความโกรธเล็ดลอดจากสายตาของ’หลิวชวง’ครู่หนึ่งก่อนพูดว่า
“คาร์ล! เจ้าก็รู้ว่า คนคนนี้เป็นหนึ่งในอาณัตของข้า นั่นเลยเป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าสั่งให้เค้าไปท้าทายปริศนาของสุสานมังกรใช่ไหม? เจ้ายังเกลียดข้าอยู่ใช่หรือไม่?”
ร่างของ’คาร์ล’สั่นเทิ้ม
“ท่านหลิวชวง ทำไมท่านถึงกล่าวเช่นนั้นล่ะ?”
‘หลิวชวง’กล่าวเสียงเรียบ
“ความเกลียดชังของเจ้าที่มีต่อข้านั้น ข้าเข้าใจดี แต่เจ้าต้องจำไว้นะคาร์ลว่าบุตรชายของเจ้านั้นสละชีพในสงครามกับพวกป่าเถื่อน หาใช่ข้าเป็นผู้ลงมือไม่!”
ความโกรธแผ่ซ่านออกมาจากสายตาของ’คาร์ล’อย่างไม่ปิดบังยกมือขึ้นชี้หน้า’หลิวชวง’แล้วตะโกนว่า
“เหลวไหล! หลิวชวง เจ้าก็รู้ว่า คาร์เตอร์เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของข้า และเจ้าก็รู้ว่าหัวหน้าของไอพวกป่าเถื่อนนั้นมันแข็งแกร่งปานนักรบของเทพ แต่เจ้าก็ยังส่งลูกชายที่น่าสงสารของข้าพร้อมกับทหารออกไปเผชิญหน้าพวกมัน และในคืนนั้นเองหัวของคาร์เตอร์ที่ถูกเสียบไว้ที่ปลายหอกได้ถูกส่งกลับมา! นี่เป็นสิ่งที่เจ้าต้องการใช่ไหม? ข้ารู้ว่าเจ้ากับโหลวหลินทั้งคู่รวมหัวกันวางแผนเพื่อสิ่งนี้ เพราะเจ้าสองคนอิจฉาในความสามารถของคาร์เตอร์ อิจฉาในพรสวรรค์ของเค้าที่สามารถเป็นนักรบที่เก่งกาจได้ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี!”
‘หลิวชวง’สูดลมหายใจลึกไม่กล่าวโต้ตอบแต่อย่างใด กลับกันเธอคุกเข่าลงข้างหนึ่งสายตาจับจ้องอยู่ที่’คาร์ล’และพูดว่า
“คาร์ล ข้าเข้าใจในความรู้สึกสูญเสียคาร์เตอร์ของเจ้าแต่ถึงอย่างไรภารกิจก็ต้องดำเนินต่อไป นี่เป็นคำสั่งจากท่านโหลวหลิน เป็นเพราะทหารกลุ่มของคาร์เตอร์ต้านทานการโจมตีของพวกป่าเถื่อนจากทางด้านหน้าไว้ พวกเราที่เหลือจึงสามารถลอบเข้าไปโจมตีพวกมันในตอนกลางคืนทำให้สังหารพวกป่าเถื่อนได้เป็นจำนวนมาก โปรดรับฟังข้าเถอะ ว่าท่านจักรพรรดิ์โหลวหลินทำลงไปเพื่อป้อมมังกรของเราเท่านั้นไม่ได้มีส่วนใดเป็นเรื่องส่วนตัวแม้แต่น้อย!”
‘คาร์ล’ตะโกนกลับอย่างแค้นเคืองว่า
“ไร้สาระ! พวกเจ้าเพียงต้องการชีวิตคาร์เตอร์ ข้าไม่เคยลืมสีหน้าของเค้าก่อนที่จะตาย!”
“แช้ง!”
‘หลิวชวง’ยกมือขึ้นพร้อมดาบในมือยกสูงขึ้นพาดไว้ที่ลำคอขาวของตัวเอง ‘หลิวงชวง’มองไปที่’คาร์ล’และพูดด้วยน้ำเสียงไม่เปลี่ยนแปลงว่า
“ถ้าแม้นว่ามันจะชดเชยด้วยชีวิตของข้าได้ ข้าไม่เสียใจสักนิดหากชีวิตข้าเพื่อองค์จักรพรรดิ์ …. คาร์ล เมื่อข้าตายไปแล้ว ข้าประสงค์ให้เจ้าลืมความแค้นระหว่างเราเสีย เจ้าอย่าใช้ชีวิตที่เหลือของเจ้าด้วยความเกลียดชังเลย”
“เจ้า !!”
‘คาร์ล’ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธแต่ก็ไม่สามารถหาคำพูดใดกล่าวออกไปได้ ชั้นรีบเดินไปด้านหน้าจับที่ด้ามดาบของ’หลิวชวง’ไว้แน่น ความเย็นยะเยือกจากด้ามดาบแทรกซึมเข้าสู่แขนของชั้น นี่ต้องไม่ใช้ดาบธรรมดาแน่นอน!
กำกระชับด้ามดาบไว้แน่นพยายามไม่ให้คมดาบนั้นสัมผัสลำคอของ’หลิวชวง’ได้และพูดด้วยเสียงทุ้มว่า
“ท่านหญิงหลิวชวง ท่านเพียงแต่ทำตามคำสั่งเท่านั้น หาได้สมควรละทิ้งชีวิตด้วยเรื่องเพียงเท่านี้ไม่ ท่านเคยพูดไว้มิใช่หรือ ว่าผมเป็นคนของท่าน? ถ้าหากท่านตายที่นี่ตอนนี้ ใครกันเล่าที่ผมจะพึ่งพิงได้ในป้อมมังกร?”
‘หลิวชวง’แหงนหน้ามองมาที่ชั้นอย่างโง่งมพูดช้าๆว่า
“ข้า………ข้าขอโทษ…..”
เมื่อเห็นเหตุการณืเป็นเช่นนั้น ‘คาร์ล’พลันพ่นลมหายใจพูดว่า
“หึ … ถ้างั้นมันก็ต้องลงเอยแบบนี้……”
‘หลิวชวง’หันไปมองกล่าวว่า
“แบบไหน?”
‘คาร์ล’ตวัดสายตามามองที่ชั้น พูดว่า
“ในเมื่อเจ้าว่ามันเป็นคนของเจ้างั้นก็ให้มันเป็นตัวแทนของเจ้าในเรื่องนี้ ให้เจ้าหนูนี่เข้าไปผจญในส่วนลึกของสุสานมังกรและก็ยอมรับชะตาที่จะเกิดขึ้นต่อมัน! ถ้ามันรอดมาได้ ข้า คาร์ลผู้นี้ จะไม่นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นอีก และถ้าหากมันตายข้างในนั้น ข้าจะคิดว่าได้ฝังมันไปเป็นเพื่อนกับลูกชายของข้าคาร์เตอร์ที่ตายไป แบบนี้เจ้าว่ายังไง?”
“ไม่มีทาง!”
ดวงตาของ’หลิวชวง’เต็มไปด้วยความโกรธพูดอย่างตื่นตระหนกว่า
“คาร์ล เจ้าทำเกินไปแล้วนะ เจ้าจะให้เจ้าหนูนี่ซึ่งยังเยาว์ ไปรับความเสี่ยงอย่างนั้นนะรึ อย่าลืมนะว่าเค้าก็เป็นลูกศิษย์ของเจ้าด้วย….”
“หึ ! ……”
‘คาร์ล’พ่นลมหายใจก่อนพูดว่า
“ในตอนนั้น คาร์เตอร์ของข้าก็ยังเยาว์ในตอนที่เค้าจากข้าไป ไอหนูนี่ไม่ใช่ลูกศิษย์ของข้า ตลอดชีวิตของข้ามีแต่คาร์เตอร์เท่านั้นที่ข้ายอมรับเป็นศิษย์!”
ชั้นตะลึงไปครู่หนึ่งพลันก็มีเสียงสัญญาณจากระบบแจ้งว่า
“ติ๊ง!”
ประกาศจากระบบ : โปรดทราบ! คุณถูกขับจากสำนักโดยอาจารย์ คุณจะสูญเสียฉายา ‘ผู้เฝ้าสุสานแห่งป้อมมังกร’!
“หา…..อะไรนะ!”
ชั้นร้องเสียงหลงขณะที่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่พูดว่า
“ถ้างั้นตั้งแต่นี้ไปใครจะเป็นอาจารย์ผมล่ะ? ผม…..เอ่อ ผมต้องทำยังไงละนี่?”
จากด้านหลังเสียงของ’หลิวชวง’ดังขึ้นเบาๆปลอบว่า
“ไม่ต้องกังวลไป ถ้าเจ้าสามารถรอดจากส่วนลึกของสุสานมังกรมาได้อย่างเป็นๆ อาจารย์ของเจ้าคือตัวข้าเอง เจ้าจะได้รับการถ่ายทอดฝีมือจากข้าคนนี้….”
ที่มา: