I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 211 เข้าสู่วิหารมังกร

| Zhan Long | 1464 | 2363 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

คืนนั้นผมขับรถกลับมหาลัย ‘ว่านเอ๋อ’นั่งด้านข้างผม ในขณะที่’ตงเฉิง’นั่งด้านหลัง ……

“หวางซีเฉิงคนนั้น…..”

ในที่สุดผมก็พูดออกมา ผมไม่สามารถเงียบได้อีก ‘ว่านเอ๋อ’เอียงศรีษะของเธอมองมาที่ผมพร้อมกับดึงเอาเข้มขัดนิรภัยของตัวเองออก เธอยิ้มพลางกล่าว

“มีอะไรงั้นเหรอ? อย่าเก็บมันใส่ใจเลย คิดแค่ว่าเขาเป็นเพียงแค่คนที่เดินผ่านมาก็เท่านั้น”

ผมมองตรงออกไป มองยังแสงไฟตามถนนพลางกล่าว

“แต่ว่าตอนที่ผมมองไปยังเขา สำหรับผมเขาไม่ใช่แค่คนที่ผ่านทางมาแน่ๆ”

‘ตงเฉิงเย่ว’ยิ้ม

“นี่ต้องเป็นศัตรุที่แข็งแกร่งสำหรับเซียวเหยาแน่ๆ แต่ฉันคิดว่าการปรากฏตัวของหวางซีเฉิงเป็นเรื่องที่ดีต่อว่านเอ๋อมากนะ เขาเป็นคนดีพอสมควร เขาทั้งดูหนุ่ม หล่อเหลา และเขายังเป็น CEO ของ บ.ยักษ์ใหญ่อีกด้วย เขารวยมากเลยนะ และเขายังดูสนใจเธอด้วย ว่านเอ๋อ เซียวเหยา พวกเธอต้องระวังตัวดีๆ นะ ถ้านายไม่ระวังหละก็คุณหนูสุดสวยอาจถูกแย่งไปก็ได้นะ”

ผมกลืนน้ำลาย จิตใจของผมยุ่งเหยิงพอสมควร

“ว่านเอ๋อ….”

‘ว่านเอ๋อ’ตีเบาๆ เข้าที่แขนของผม

“เจ้าโง่ อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระของตงเฉิงซิ เธอแค่พยายามทำให้นายเป็นกังวลเท่านั้นเอง สำหรับหวางซีเฉิงก็ช่างมันเถอะ ฉันไม่อยากให้เขาเข้ามาวุ่นวายทำให้ชีวิตที่เป็นอยุ่ของเราตอนนี้เปลี่ยนไปหรอกนะ ฉันอยากให้พวกเราสามคน เป็นเหมือนเดิม เล่นเกม ไปเรียน กิน พูดคุย เป็นแบบนี้ตลอดไป นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดในชีวิต”

ผมพยักหน้า

“อ่าหะ ผมจะพยายามรักษามันไว้ให้ได้ตลอดไป ว่านเอ๋อ…..”

“จริงๆแล้ว สิ่งที่ฉันกลัวมากที่สุดคือ….”

‘ว่านเอ๋อ’เหล่มองมายังผมอย่างลังเล ผมเหยียบเบรกเบาๆ รถค่อยๆ หยุดอยู่ตรงไฟแดง ผมหันไปยังเธอ

“อะไรที่เธอกลัวที่สุดงั้นเหรอ ว่านเอ๋อ?”

‘ว่านเอ๋อ’กัดรีมฝีปากสีแดงน่ารักของเธอเล็กน้อย

“พ่อของฉันเขาเป็นนักธุรกิจที่เยี่ยมมากๆ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็บ้ามากเช่นกัน เขาคิดว่าทุกสิ่งบนโลกใบนี้เขาสามารถควบคุมมันได้ เขาคิดว่าทุกสิ่งที่เขามอบให้ฉันมันดีทุกอย่าง แต่เขากลับลืมไปว่าฉันก็เป็นคนเหมือนกัน เป็นมนูษยะรรมดาที่มีความรู้สึกนึกคิด ฉันกลัวว่าเขาจะบักคับให้ฉันไปเป็นของหวางเฉิง ทุกครั้งที่ฉันคิดถึงมัน มันทำให้ฉันปวดหัว หลี่เซียวเหยา นายเป็นคนมั่นคงและไม่กลัวอะไร ถ้าวันไหนที่พ่อของฉันตัดสินใจยกเลิกข้อตกลงกับนายเพราะปัญหากับหวางเฉิง ฉันควรจะทำยังไงดี “

ผมมองไปยังสีหน้าของเธอ ผมอดที่จะยิ้มไม่ได้

“อย่ากังวลไป ผมไม่เป็นไรหรอก แม้พ่อของเธอยกเลิกสัญญากับผม ผมก็จะยังเป็นเพื่อนของคุณอยู่ แม้แต่เขาก็หยุดผมไม่ได้หรอกนะ”

“แต่ว่าฉันกลัว……”

‘ว่านเอ๋อ’กัดริมฝีปากสีแดงของเธอพร้อมกับมองออกไปด้านนอก ราวกับเธอตกอยู่ในภวังค์ ‘ตงเฉิงเย่ว’เอนมาพิงหลังเบาะของผม เธอกระพริบตาเล็กๆของเธอพลางกล่าว

“ฉันได้ยินมาว่าพ่อของว่านเอ๋อ สามารถสั่งการกองทัพได้ส่วนหนึ่ง และเขายังมีความสามารถพอตัวแถมยังมีทหารกล้าอยู่มากมาย นอกจากนี้เขายังได้เรียนรู้ ทักษะและแผนการรบมากมายหลังจากที่เขากลับมาจากอเมริกา มันจะเป็นการดีกว่านะที่นายจะไม่ไปท้าทายเขา ดูจากบุคลิกของเขาแล้วเขากล้าแม้แต่……”

“ฆ่าผม?”

ผมมองไปยังเธอพร้อมกับถาม พลางหัวเราะเบาๆ ‘ตงเฉิงเย่ว’พยักหน้าเงียบๆ

“ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องจริง สมัยเด็กฉันเจอมาหลายครั้งแล้ว….”

ผมหายใจเข้าลึกๆพลางจ้องมองไปยังเข้มบอกระดับน้ำมัน พลางเงิยหน้ามองไปยัง’ว่านเอ๋อ’ เธอก็มองมายังผมด้วยดวงตาคู่งามนั้นเหมือนกันเหมือนอยากจะพูดอะไรซักอย่าง แต่เธอก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา หลังจากนั้นผมก็พูดขึ้น

“เธอไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ ว่านเอ๋อ ผมเป็นเพื่อนของคุณ ผมไม่รุ้ว่าตั้งแต่ตอนไหน แต่ตอนนี้เธอกับตงเฉิงก็เป็นเหมือนส่วนหนึ่งในชีวิตของผม แม้พ่อของเธอต้องการจะฆ่าผม ผมก็ไม่ยอมแพ้หรอก อีกอย่าง…”

ผมส่งพลังปราณไปยังหมัด ทำให้เกิดเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในรถ ผมยิ้มบางๆ

“อีกอย่าง ผมฆ่าได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? สไนเปอร์กับทหารผ่านศึกของพ่อเธอ อย่างมากก็ชนะได้แค่พวกอันธพาลแค่นั้นแหละ ถ้าหากเขาต้องการชีวิตของผมแล้วหละก็ พวกเขาต้องเตรียมใจที่จะตายมาให้ดี”

‘ว่านเอ๋อ’อดหัวเราะออกมาไม่ได้

“โอเคๆ อย่าพูดเรื่องซีเรียสแบบนี้เลย พ่อของฉันไม่ใช่คนสุดโต่งแบบนั้น หลังจากที่ฉันกลับถึงหอเดี๋ยวฉันจะโทรหาเขาเอง เขาจะไม่ทำอะไรใจร้อนหรอก”

“อ่าหะ นั่นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว โชคดีนะว่านเอ๋อ”

“นายก็เหมือนกัน……”

‘ตงเฉิงเย่ว’กระพริบตา

“หลังจากกลับแล้วพวกเราจะทำอะไรกันดี?”

ผมคิดซักเล็กน้อย

“จัดเตรียมน้ำยาฟื้นพลัง และไอเท็มอื่นๆ ให้พร้อม พรุ่งนี้ 11 โมงเช้าพวกเราจะมาเจอกันที่เมืองป้าฮวง เที่ยงพวกเราจะได้เดินทางไปทำเควสวิหารมังกรกัน อ้อใช่กินข้าวกันตอนสิบโมงเป็นไง”

“โอเค!”

หลังจากที่มาถึงมหาลัย พวกเราก็กลับไปนอนและตื่นขึ้นมาอีกที 8 โมงเช้าเพื่อไปเรียน หลังจากนั้นพวกเราก็ไปหาอะไรเบาๆ รองท้อง ผมไม่ได้ดื่มน้ำมากนักเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าห้องน้ำ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รุ้ว่าเราจะออนไลน์ กันนานเท่าไหร่ เมื่อผมล๊อกอินเข้ามาก่อน 11 โมง

‘ว่านเอ๋อ’และ’ตงเฉิง’ก็เดินทางอย่างเร่งรีบมายังเมืองป้าฮวง นักฆ่ามีความคล่องตัวสูงและเอลฟ์สายลมก็สามารถบินได้ ดังนั้นพวกเธอควรจะมาถึงที่นี่ในอีกหนึ่งชั่วโมง

“ฟุบบบ”

หลังจากล๊อกอินเข้ามาผมก็มุ่งตรงไปซ่อมอุปกรณ์ และซื้อของใช้ที่จำเป็นต่างๆ ผมมุ่งตรงไปยังสะพานทางทิศเหนือของเมืองป้าฮวง ผมยินพิงรางสะพานสึกพักก็มีกลุ่มคนปรากฏขึ้น ‘มันฉะ’ ‘เป็ดที่รัก’ ‘เย่วชิงเชียน’ ‘หลิวย่ง’และ ‘วูบลู’ ทุกคนมุ่งตรงมายังผมที่เป็นเจ้าของเควส

“พี่เซียวเหยา….”

‘เย่วชิงเชียน’กล่าวอย่างยินดี เดินเดินมาหาผมพร้อมกับกล่าวอย่างมีความสุข

“เควสระดับ SSS หนูไม่เคยทำมาก่อนเลยคะ เควสที่ยากที่สุดที่หนูเคยทำคือเควสระดับ S เอง แถมหนูยังตายไปตั้งสองครั้ง สำหรับเควสระดับ SSS หนูคิดว่าหนูต้องตายจนร้องให้เลยแน่ๆ…..”

ผมตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“ทำใจให้สบาย ตอนนี้เรามีมัทฉะกับพี่เป็นตัวชนนะ เพราะงั้นก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เธอกับชางถ่งแค่หาจังหวะหยุดทักษะของบอสก็พอ หลังจากนั้นก็แค่รอของดรอป”

“โอเค!!”

ตอนนี้’มัทฉะ’ระดับ 54 แล้ว เธอถือดาบยาวไว้พลางกล่าว

“บอส ฉันพยายามที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว แต่……แต่ฉันก็ได้แค่ระดับ 54 กับอีก 72% อีกนิดเดียวฉันก็จะใช้หอกแก้ววิญญาณมังกรได้แล้วเชียว ฉันต้องเอามันไปด้วยมั้ย “

ผมรีบพยักหน้าทันที

“แน่นอน ครั้งนี้เธอต้องเป็นตัวชนกับผม ถ้าพลังโจมตีเธอไม่สูงพอ เธอก็เป็นตัวชนไม่ได้หรอกนะ อ้อ แล้วตอนนี้พลังป้องกันของเธอเท่าไหร่แล้วละ? โล่ของเธอค่อนข้างโหดใช่มะ?”

‘มันฮะ’มองไปยังค่าสถานะของเธอพลางกล่าว

“ตอนนี้ฉันมีเลือด 3500 พลังป้องกัน 1900 พลังโจมตี 1750 เอง บอสคะ….ค่าสถานะเท่านี้พอที่จะเครียร์เควสระดับ SSS รึเปล่า?”

ที่ด้านข้างผม ‘เบ่วชิงเชียน’ประหลาดใจ

“ว้าววว เป็นเลือดที่เยอะและพลังป้องกันที่สูงจริงๆ มันน่าจะพอแล้วหละ …..แถมพลังโจมตีก็สูงมากพอตัวเลย”

ผมพยักหน้า

“ใช่ ถ้าเปลี่ยนเป็นหอกแก้ววิญญาณมังกรละก็ พลังโจมตีของเธอต้องถึง 2000 แน่ๆ พอบวกกับโบนัทต่างๆ พลังโจมตีของเธออย่างต่ำต้อง 2400 เลยหละ มันพอที่จะสู้กับบอสแล้วหละ หรืออย่างน้อยเธอก็จะสามารถยั่วยุบอสได้”

‘มัทฺฉะ’หัวเราะคิกคักพลางพยักหน้า

“โอเคค เยี่ยมเลยย ฉันกลัวว่าจะเป็นตัวถ่วงของทีมจริงๆ”

“มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง?”

“อิอิ…”

ในขณะเดียวกัน ‘วูบลู’ก็เดินตรงเข้ามา เธอบุ้ยปากก่อนจะกล่าว

“สุดหล่อจื่อไจ๋ โชคไม่ดีจริงๆ ที่เควสนี้กำหนดคนสูงสุดไว้แค่ 9 คน ไม่งั้นละก็ฉันจะพาน๊อทเรดเยท(Not Red Yet) มาด้วย วันนี้เธอคงต้องไปเก็บระดับกับพวกหื่นกามนั่นซักที่ละนะ”

ผมตกใจเมื่อผมมองไปเห็นสัญลักษณ์กิลด์ของเธอ

ID: Who’s Blue Lv 54

Silver Healer Main

City: Ba Huang City

Guild: [Crimson Contract]

Position: Team Leader ……

 

“Who’s Blue(วูบลู) เธอเข้าร่วมกับ [Crimson Contract] ตอนไหนงั้นเหรอ?”

ผมถาม

“ตอนเช้านี่เอง หลังจากที่หานเปยซง ขอร้องเราเมื่อนานมาแล้ว พวกเราไม่มีทางเลือกเลยต้องเข้าร่วม [Crimson Contract] อย่างไรก็ตาม กิลด์เก่าของเราไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ พี่เซียวเหยาไม่ทราบว่า Zhan Long ยังต้องการคนเพิ่มรึเปล่า?”

ผมส่ายศรีษะ พร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น

“ตอนนี้พวกเราเต็มแล้ว พวกเธอสองคนก็อยุ่ต่อเถอะ หัวหน้ากิลด์หานเป่ยซงก็นับว่าเป็นคนดีนะ แม้จะน่าเวทนานิดหน่อย แต่กิลด์นี้ก็ไม่ได้แย่นะ เธอจะคิดว่ามันเป็นบ้านของเธอก็ได้”

“โอค…”

ไม่นานหลังจากนั้น เวลา 11:20 สามสาวงามก็ปรากฏตัวขึ้นที่เมืองป้าฮวง ‘หลินว่านเอ๋อ’ ‘ตงเฉิงเย่ว’ และ ‘อวี่จื่อเฉิงโช่ว’ ในที่สุดพวกเธอก็มาถึง และพวกเราก็รวมกันครบ 9 คนเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่แชร์เควสให้ทุกคน ในขณะนั้นทุกคนต่างตื่นเต้น และเบิกบานใจกันทั่วหน้า

ในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นกับตาตัวเอง ว่าผมมีเควสระดับ SSS จริงๆ ไม่ได้โกหก

“ไปกันเถอะ ตรงสู่เมืองมังกรกัน”

ผมกล่าว ‘หลินว่านเอ๋อ’พยักหน้าอย่างมีความสุข

“โอเค พุ่งสู่ระดับ 70 ในพริบตากันเถอะ!!!”

ผมมองไปยังระดับของเธอ โอ้ เธอระดับ 60 แล้วจริงๆ และยังได้รับคราสสามมาด้วย บนหัวไหล่ของเธอมีสัญลักษ์กำลังส่องแสงอยู่ ด้วยผลพวงจากโบนัด ทักษะของเธอต้องระดับ 8 หมดแล้วแน่ๆ ……

หลังจากเดินทางกว่า หนึ่งชั่วโมง พวกเราก็มาถึงยังด้านใต้ของเมืองมังกร ที่แห่งนั้นมีเพียงเชือกแค่เส้นเดียวพาดลงมา ผมดึงทดสอบมันอย่างแรง พร้อมกับยิ้มกล่าว

“ระบบขนส่งสาธารณของเมืองมังกร มันแข็งแกร่งใช้ได้…”

“เฮ้ออออ….มันไม่มีลีฟต์งั้นเหรอ? ทำไมถึงต้องมาใช้ระบบโบราณแบบนี้ด้วย”

‘อวี่จื่อเฉิงโช่ว’เบิกตาจ้องมองไปยังเชือกเส้น ผมอดที่จะหัวเราะขบขันไม่ได้

“อย่าไปชอบอะไรง่ายๆ เลย โอเค้? รีบขึ้นไปเถอะ เควสกำลังจะเริ่มแล้ว”

“อ่าหะ!”

หลังจากเร่งรีบปีนขึ้นไปได้ไม่นาน พวกเราก็มาถึงยังข้างบน พวกเราเดินตามความเย็นไปยังทิศตะวันออก ในที่สุดพวกเราก็เข้าสู่สุสารมังกร ‘หลินว่านเอ๋อ’และ’เย่วชิงเชียน’ต่างสั่นระริกด้วยลมหนาว แต่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมหลังจากที่เข้าสู่สุสารมังกร ด้วยการนำของผมกลุ่มของพวกเราก็เข้าสู่สุสารมังกรลึกเข้าไป ในที่สุดพวกเราก็มองเห็นแสงรีบหลี่ที่สุดปลายของถ้ำ นั่นต้องเป็นหินเงาแน่ๆ ในที่สุดพวกเราก็มาถึงแล้ว  ……

“ในที่สุดพวกเราก็มาถึงซักที…..”

“ชู่วววว”

“ตริงงงง!” ระบบแจ้งเตือน : คุณเข้าสู่แผนที่ – วิหารมังกร รายละเอียดแผนที่ : ในอดีตการ มีการคงอยู่ของเทคนิคลึกลับที่แพร่หลายในหมู่ผู้คนทางทิศตะวันออก โมไฮส เพลิงเผาพลานดินแดน โมไฮสเป็นปรมาจารณ์ด้านการสร้างเครื่องประดับ ศิลปะของเขาถูกขัดเกลามาจากรุ่นสู่รุ่น แม้แต่มังกรขนาดยักษ์ก็ต้องสังเวยให้กับมัน ผ่านไปนานหลายร้อยปี มังกรมากมายหลายตัวต่างต้องเซ่นสังเวยให้กับมัน

ถูกสังหารโดยเทคนิคลับ จนในที่สุดเทพมังกรหินภูเขาไฟก็ได้ปรากฏตัวขึ้น มันเต็มไปด้วยความพิโรธ มันต้องการให้กลุ่มโมไฮสทั้งหมดตายให้สิ้น มันเรียกมังกรกว่าสิบล้านตัวออกมาจากท้องฟ้าพุ่งเข้าจู่โจมเมืองโมไฮส เพียงกระพริบตา ดินแดนว่างเปล่าก็ถูกปกคลุมไปด้วยเขม่าสีดำจากร่างไร้วิญญาณของเหล่าโมไฮส  ในส่วนลึกที่สุดคือที่คุมขังของเขาหัวหน้าผู้พิทักษ์แห่งเมืองโมไฮสผู้อาวุโสหยุนเฉิน

เผ่ามังกรหลักๆ ทั้งสี่ต่างส่งพลังของพวกเขาเพือปกป้องและป้องกันสุสารแห่งนี้ หลังจากที่เทพมังกรหินภูเขาไฟตายลง พลังของเขาไม่ได้หายไป ยังคงหลงเหลืออยู่ในส่วนลึกของถ้ำแห่งนี้ ถ้ำแห่งนี้นั้นเป็นหลุ่มฝังศพของเหล่ามังกรระดับสูง มันจึงถูกเปลี่ยนชื่อเป็นวิหารมังกร

ในยุคนี้เทคนิคของโมไฮสได้สูญหายไปนานแล้ว ตามตำนานกล่าวไว้ว่า ใครก็ตามที่หาญกล้ารับภารกิจช่วยเหลือผู้เฒ่าหยุนเฉินจากวิหารมังกร จะได้รับเทคนึคที่แท้จริงและหนังสือรับรองจากเขา

หลังจากที่สำเร็จเควสผู้ที่รับเควสจะได้รับ [คัมภีร์เปลวเพลิงแห่งโมไฮส] หนังสือที่สูญหายไปหลายยุค

 

แป๊ะ !! ผมตบมือเสียงดัง ร่างกายของผมแล่นไปทั่วด้วยพลังงานมหาศาล

“[คัมภีร์เปลวเพลิงแห่งโมไฮส]….ผมต้องการมันนน”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments