I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 214 ไซโคลนสลาตัน

| Zhan Long | 1468 | 2337 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดยคุณ WildFox

/////////////////////////

[คมพายุผ่า]: คือการที่ร่างเงาของมังกรวายุรวบรวมพลังเพื่อสร้างลมพายุที่มีรูปร่างคล้ายคมขวานขนาดยักษ์พ่นออกไปโจมตีเป็นเส้นตรง นอกจากเรื่องพลังโจมตีที่ไม่อาจประมาทได้แล้ว ยังไม่รวมถึงสกิลนี้โจมตีด้วยพลังโจมตีเวทย์พื้นฐาน

ซึ่งมีเพียง ‘ว่านเอ๋อ’และผมเท่านั้นที่พอจะยืนทนรับการโจมตีเวทย์ที่ทรงพลังอย่างนี้ไหว ถ้าเป็นคนอื่นในปาร์ตี้ละก็ คงจะหนีไม่พ้นโดนสังหารทันที

“แก๊ง!”

สะเก็ดไฟจากดาบที่ตัดผ่านเกล็ดมังกรอันเป็นเสมือนชุดเกราะประจำตัวของมัน ผมพยายามกำหนดตำแหน่งในการโจมตีไปที่บริเวณรอบๆคอของเจ้ามังกรซึ่งเป็นบริเวณที่เกล็ดมังกรนั้นต้องขยับไปมาเมื่อมันเคลื่อนไหวทำให้เห็นช่องน้อยๆ ในการโจมตีมากขึ้นทีละนิดๆ

จนในที่สุด ผมก็สามารถเรียกโลหิตจากเจ้ามังกรตัวนี้ได้ และเมื่อโจมตีลงไปที่จุดนั้นครั้งใดก็สามารถเห็นค่าความเสียหายเพิ่มมากขึ้นอีกถึง 40% ทำให้ความเร็วในการลดเลือดบอสนั้นเพิ่มขึ้นอีกอย่างมาก!

“เซียวเหยา ระวัง! เจ้าบอสนี่มันจะใช้สกิลสุดท้ายแล้ว…”

‘ตงเฉิงเยว่’ ตะโกนบอกพลางโจมตีด้วยสกิล [หัตถ์อัสนี]แล้วรีบเคลื่อนที่เพื่อจะหนีให้พ้นจากสกิล[คมพายุผ่า] ของบอส

“มันคงจะแปลกเกินไปล่ะถ้า[ไซโคลนสลาตัน]สกิลสุดท้ายของบอสไม่ใช่การโจมตีแบบ AOE เดี๋ยวถ้าบอสคิดจะใช้สกิลนี้นะ เซียวเหยานายควรจะใช้สกิล[โจมตีต่อเนื่อง] เพื่อยื้อเวลาการร่ายสกิลของบอสเอาไว้ซักสองสามวินาทีก็ยังดี ให้ ‘ว่านเอ๋อ’กับ’ชิงเฉียน’ พยายามหยุดสกิลบอสด้วยการใช้สกิล [เจาะสกัด]ซึ่งมันน่าจะมีอัตราความสำเร็จทำให้บอสติดสถานะสตันได้สูง เพราะเลเวลของบอสและพวกเราไม่ห่างกันมากเกินไป เป็นการดีที่สุดที่เราจะสกัดไม่ให้บอสออกสกิลได้”

‘ว่านเอ๋อ’พยักหน้า

“ตกลง…”

บนหลังของมังกรวายุ ทั้ง’ว่านเอ๋อ’และ’เยว่ชิงเฉียน’พริ้วกายพร้อมกับสะบัดมีดสั้นในมือของพวกเธอ

“ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!”

พวกเธอทั้งสองช่วยกันลดเลือดบอสอย่างสนุกมือ ความเร็วการโจมตีของนักฆ่าที่มีเลเวลสูงๆนั้นเป็นอะไรที่ไม่ควรจะล้อเล่นด้วย และด้วยไอเทมสวมใส่ที่ยอดเยี่ยมอาชีพนักฆ่าจึงสามารถโจมตีทะลุค่าป้องกันของบอสได้ง่ายดายอีกทั้งยังมีความเร็วในการโจมตีที่สูงอีก ค่าความเสียหายที่ทำได้คงห่างจากผมที่เป็นนักรบเกราะหนักเน้นค่าโจมตีอย่างเดียวไม่กี่สิบแต้มเท่านั้นเอง …………

“ตูมมม!”

ศีรษะขนาดใหญ่ของเจ้ามังกรวายุยกสูงขึ้นเมื่อมันจะปล่อยสกิล[คมพายุผ่า]อีกครั้ง!

ผมเห็นมันตั้งท่าแบบนั้นก็รีบฉีกตัวหลบไปทางด้านข้างเพื่อจะดึงให้บอสหันตามมาโจมตี ด้วยการมีค่าเรียกความสนใจอยู่ถึง 70% เป้าหมายอันดับแรกของบอสมันก็หนีไม่พ้นที่จะเป็นผมนี่เอง พลันก็รู้สึกราวกับร่างกายจะฉีกขาด พร้อมกับสายลมแกร่งรูปขวานผ่าร่างผ่านไปยังก้อนหินใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง ส่งผลให้ก้อนหินรับเคราะห์นั้นแตกกระจุยเป็นเศษเล็กเศษน้อยทันที

“ดึงหลบได้สวย ฮิฮิ….”

‘ตงเฉิงเยว่’หัวเราะชอบใจ ยังไม่ทันที่เสียงหัวเราะของเธอจะหายไป เจ้ามังกรลมบ้าหมูก็เริ่มชูคอขึ้นพร้อมกับเสียงคำรามที่ต่างไปจากเดิม สะบัดปีกของมันพร้อมทั้งขยายออกไปสุดความกว้าง สายลมกรรโชกเริ่มก่อตัวรอบๆพวกเรา ผมสัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบจากสันหลังรีบตะโกนทันทีว่า

“นี่แหละมั๊ง? ท่าที่สามของมันรีบสกัดไม่ให้มันร่ายจบเร็ว!”

แสงสีขาวส่องมาจากใต้เท้าของผม เมื่อใช้ออกด้วยสกิล[หนึ่งเทียบพัน]เพื่อโจมตีต้นขาของมังกรแต่นั่นไม่เพียงพอที่จะทำให้มันหยุดร่ายสกิลได้ ! บนหลังของมังกร ‘เยว่ชิงเฉียน’และ’ว่านเอ๋อ’แข่งกันวิ่งไปทางหัวมังกรพร้อมมีดสั้นในมือของพวกเธอ

“ฉึ่ก ฉึ่ก!”

พวกเธอปักมีดสั้นลงบนศีรษะของเจ้ามังกรมิดด้ามด้วยสกิล[เจาะสกัด] ในเวลาเดียวกัน !

“MISS !”

“1279 !”

การโจมตีของ’เยว่ชิงเฉียน’พลาด แต่สกิล[เจาะสกัด]ที่ใช้ออกโดย’ว่านเอ๋อ’นั้นเข้าเป้าจั๋งหนับ บอสมังกรลมเลยติดสตันงัวเงียไปมาทำให้สกิล[ไซโคลนสลาตัน]โดนยกเลิกสำเร็จก่อนที่มันจะถูกใช้ออกไปโดยปริยาย!

‘ตงเฉิงเยว่’หัวเราะชอบใจพูดว่า

“แจ่มเลย ว่านเอ๋อ บอสมันติดสตันแล้ว!”

‘ว่านเอ๋อ’สะบัดมีดสั้นโจมตีไปอีกครั้งเมื่อเห็นโอกาสแล้วก็รีบถอยกลับมาในพริบตาราวหายตัวได้ ยิ้มสบายใจพูดว่า

“เผอิญฉันดวงดีเท่านั้นเอง!”

‘เยว่ชิงเฉียน’ทำแก้มป่องพูดว่า

“ก็มีดสั้นคมแดงเพลิงของพี่ช่างถงอ่ะเป็นอาวุธระดับจักรพรรดิ์นี่นา อัตราการโจมตีสำเร็จก็มากกว่าของหนูน่ะสิ ดูมีดสั้นของหนูสิแค่ระดับม่วงก๊อกก๋อยเอง หนูจะไปเทียบได้ไงล่ะ…”

จากทางด้านหลังผมค่อนข้างไกลออกไป ‘หยิ่วจื้อเฉิงโซ่ว’ทำการรักษาผมไปพลางพูดว่า

“เมื่ออยู่หน้าประตูบ้านของตระกูลมั่งคั่งเนื้อราคาแพงก็ดูไร้ค่าขณะที่ชาวบ้านจนๆต้องทนหนาวและอดข้าวตายกลางทางคนหนึ่งก็มีของระดับจักพรรดิ์ส่วนอีกคนก็มีของระดับม่วงยังไม่วายจะบ่นว่าของตัวเองไม่ดีอีก นังหนูสองคนนี่ไม่รู้เหรอไงว่ายังมีผู้เล่นอีกไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ยังใช้ไอเทมระดับเงินหรือไม่ก็ระดับทองแดงอยู่เลย ไม่ต้องฝันถึงขั้นระดับทองด้วยซ้ำ! บางคนมีไอเทมระดับม่วงติดตัวชิ้นเดียวยังรู้สึกว่าตัวเองเก่งขั้นเทพแล้วในสนามรบ มีดสั้นคมแดงเพลิงของว่านเอ๋อนี่มันสุดแสนที่จะไฮโซเกินไปจริงๆ…..”

(TL : สำนวนจีนแปลว่าของที่มีก็ดีแต่ก็ชอบเอาไปเปรียบกับของที่ดีกว่าจนทำให้รู้สึกว่าของที่มีนั้นด้อยค่า)

‘ว่านเอ๋อ’อดหัวเราะไม่ได้พลางแย้งว่า

“จ้า….เข้าใจแล้วพี่หญิงเฉิงโซ่วผู้แร้นแค้น พี่ก็ไม่มีอะไรเลยแค่ไม้เท้าสำหรับฮีลเลอร์ไอเทมระดับม่วงเลเวล 51 ธรรมด๊าธรรมดาอันเดียว เจ๊ก็ใช้แต่ของหรูๆทั้งนั้นอ่ะอย่าว่าฉันคนเดียวสิ….”

‘หยิ่วจื้อเฉิงโซ่ว’ขำพลางตอบว่า

“ไอโหย๋ว เดี๋ยวนี้เถียงคำไม่ตกฟากนะเรา เอาเถอะยังไงซะ เซียวเหยาจื้อไจ้อยู่ที่นี่ต้องแอบหนุนหลังเธอใช่ไหมถึงกล้าต่อปากต่อคำกับเจ้เนี่ย หือ? …. เจ้ขอผ่านก็ได้ ไม่ออกความเห็นดีกว่า เจ้ไม่อยากใจร้ายกับพวกเธอหรอกนะ ยังไงซะกลุ่มของพวกเธอนี่ก็แข็งแกร่งกันทุกคนโดยเฉพาะเซียวเหยาจื้อไจ้ ว่านเอ๋อ เยว่ชิงเฉียนแล้วก็ช่างเยว่ เจ้เชื่อว่าพวกเธอสามารถควบคุมการใช้สกิลและการแท้งค์ได้มีประสิทธภาพระดับปรมาจารย์ของเซิฟเลยนะเนี่ย…”

มีดสั้นของ’ว่านเอ๋อ’เสียบลงไปที่ขาขวาของบอสเมื่อถอนออกเธอก็พริ้วกายไปอีกข้างเพื่อหลบสกิล[คมพายุผ่า]เธอหยุดหัวเราะจนหอบตัวโยนแล้วพูดว่า

“ฮิฮิ…ถ้าฝีมือพวกฉันไม่แน่จริง พวกฉันไม่กล้ารับทำเควสระดับ SSS หรอกน่าเจ้”

‘หยิ่วจื้อเฉิงโซ่ว’ผงกศีรษะเห็นด้วยแล้วยุต่อว่า

“เอาเลย.. รีบๆจัดการเจ้ามังกรลมบ้าหมูนี่ซักที ! เจ้มีลางสังหรณ์ว่าบอสตัวต่อไปจะดรอปไอเทมระดับจักรพรรดิ์ล่ะ….โฮ่ โฮ่ พวกเธอนี่ก็ดีกับเจ้นะ ที่เรียกเจ้มาเข้าปาร์ตี้ด้วยอีกครั้งเนี่ย แถมยังพามายังแผนที่สวยๆมอนโหดๆแบบนี้ เจ้รักตายเลย! นี่ถ้าอันที่จริงเจ้ไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณหัวหน้ากิลด์ [Emerald Porcelain] มากมายละก็ เจ้ก็ว่าจะมาอยู่กับ[Zhan Long]เป็นส่วนหนึ่งของกิลด์เซียวเหยาจื้อไจ้ละนะ…”

ผมตวัดดาบมากันกรงเล็บมังกรแล้วผลักออกไปพลางพูดว่า

“มาเลยครับ [Zhan Long]เรายินดีต้อนรับเจ้ใหญ่เฉิงโซ่วทุกเมื่อเลยครับ…”

‘ว่านเอ๋อ’ยิ้มเจ้าเล่ห์พูดว่า

“นายลืมที่เจ้พูดไปเถอะ พี่หญิงเฉิงโซ่วกับหัวหน้ากิลด์[Emerald Porcelain] น่ะเค้าเป็นแฟนกันมา 7ปีแล้วไม่มีทางที่เจ้จะออกจากกิลด์[Emerald Porcelain] หรอก….”

“ครับสุดแท้แต่เจ้เลยครับ…”

ผมหัวเราะ

“งั้นฮีลเลอร์หมายเลขหนึ่งของ[Zhan Long]เราก็ยังคงเป็นเป็ดที่รักต่อปาย….”

‘เป็ดที่รัก’ทำหน้าตูมแล้วพูดว่า

“อ๋อ…นี่ถ้าเจ้มาจริงๆฉันต้องกลายเป็นแค่ตัวสำรองใช่ไหม หัวหน้าคะ?”

“โอ๋ๆ ๆ ไม่งอนนะจ้ะ ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก มันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องเลยถ้าจะมาเปรียบเทียบฮีลเลอร์ว่าใครเก่งกว่าใครตอนที่กำลังต่อสู้ไม่ว่ากับคนหรือกับมอนสเตอร์ ใครบ้างล่ะที่ไม่อยากได้ฮีลจากฮีลเลอร์? แฮ่ะๆ”

“ที่หัวหน้าพูดมาพอฟังได้หน่อย ฮิฮิ….”

ผ่านไปยังไม่ถึงสามนาทีดีตั้งแต่บอสส่งเสียงคำรามเพื่อใช้สกิลมันก็ตั้งท่าจะใช้[ไซโคลนสลาตัน]อีกครั้ง!

ผมลนลานรีบใช้สกิล[โจมตีต่อเนื่อง]เพื่อขัดขวางการใช้สกิล โชคไม่เข้าข้างเพราะหลังจากระดมรัวสกิลโจมตีใส่บอสมาเป็นเวลาพอสมควร สกิลที่ว่ายังขาดคูลดาวน์อยู่อีกสี่วินาที!

“ว่านเอ๋อ !ชิงเฉียน ! ลงมือเลยเร็วเข้า !”

ผมรีบสั่งการจากด้านล่าง ทั้งสองสาวเร่งสุดฝีเท้าเพื่อไปยังศีรษะมังกรและปล่อยสกิล[เจาะสกัด]ออกไปได้ แต่ช่างน่าเสียดายตัวหนังสือตัวโตขึ้นคำว่า MISS

ถึงสองครั้งบนหัวเจ้ามังกรนั้น การขัดจังหวะสกิลรอบนี้ของเราล้มเหลว!

“งานงอกแว้ว!”

‘มัตชะ’รีบพุ่งตัวไปด้านหน้าพร้อมกับหอกในมือ ตะโกนบอกเสียงดังว่า

“ทุกคนถอยออกมาค่ะ!”

“ฮูมมมม กร๊าซซซซซซ!”

พื้นดินรอบๆเริ่มสั่นสะเทือนด้วยแรงลมของการก่อตัวจากพายุไซโคลนขนาดยักษ์ สายลมแกร่งพัดกรรโชกใส่พวกเราราวกับคมมีดเฉือดเฉือนร่าง ความเจ็บปวดปานกระดูกจะป่นเป็นผุยผงเข้าครอบงำเมื่อผมรับเอาการโจมตีที่ซัดมาโดยพายุนั้นถึงสามครั้ง ค่าความเสียหายก็โหดร้ายเหลือจะทน

“1717 !”

“1637 !”

“1736 !”

ผมรีบกระดกยาเพิ่มพลังชีวิตทันที แม้ว่าจะบาดเจ็บอย่างหนักก็ตามแต่ยังไม่ถึงกับตาย ส่วน’ว่านเอ๋อ’รีบถอยพลางกางร่มเหล็กประจำตัวขึ้น

“ปึ้ก ปึ้ก ปึ้ก”

เสียงของร่มกางต้านแรงลมพายุที่โจมตีใส่ทั้งสามฮิตนั้น ผมจัดการพุ่งร่างแทรกเข้าไปร่ายสกิล[รักษา]ให้เธอทำให้เธอรอดเงื้อมมือมัจจุราชมาได้อย่างหวุดหวิด มีเพียงนักฆ่าทีมีไอเทมสวมใส่ชั้นดีและมีพลังชีวิตมากกว่า 2500หน่วยนั้นถึงจะรอดชีวิตมาได้และ’ว่านเอ๋อ’ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ส่วนอีกด้านหนึ่ง ‘มัตชะ’พร้อมด้วยโล่ทองของเธอพาร่างตัวเองไปด้านหน้าและคว้าตัวของ’เยว่ชิงเฉียน’มากอดไว้ ทั้งสองคนกอดกันแน่นพร้อมทั้งคุกเข่ารอรับชะตากรรมที่จะเกิด แต่’มัตชะ’ยกโล่ของเธอขึ้นพลางหลับตาร่ายสกิล[โล่ศักดิ์สิทธิ์มายา]ทันที!

โล่พลังสีทองที่เกิดจากสกิลทั้งสามก็กางออกคลุมร่างของเธอและเยว่ชิงเฉียนผู้ที่อยู่ในรัศมีป้องกันเอาไว้ โล่งอกไปที พวกเธอทั้งสองไม่ต้องปลิวไปทัวร์สวรรค์เพราะสกิล[ไซโคลนสลาตัน]ของบอส

หลังจากเสียงพายุสงบบอกให้รู้ว่าผลของสกิลผ่านไปแล้ว มัตชะก็ค่อยๆเงยศีรษะขึ้นพร้อมมองไปที่’เยว่ชิงเฉียน’หัวเราะขำพูดว่า

“โชคเข้าข้าง ฉันทำได้แฮะ…..”

ใบหน้าของ’เยว่ชิงเฉียน’ยังเต็มไปด้วยความตกใจพูดว่า

“จะ . .จะ..เจ้มัตชะ…ขอบคุณสวรรค์ที่เจ้ช่วยหนูไว้!”

“ฮูมมมม!”

ศีรษะขนาดใหญ่ของเจ้ามังกรก็พลันชูขึ้นสูงอีกครั้ง เป็นสกิล[คมพายุผ่า]อย่างไม่ต้องสงสัย! ให้ตายสิ จังหวะรุกโจมตีของเจ้ามังกรลมบ้าหมูนี่ร้ายเหลือกินจริงๆ! ห่างออกไป กลุ่มของสมาชิกในปาร์ตี้ที่ไม่ได้เข้าประจัญบานก็พากันฉีกหลบไปด้านข้าง จังหวะของพวกเขาช่างพอเหมาะพอเจาะเสียจริง

‘หยิ่วจื้อเฉิงโซ่ว’ที่คอยระวังการโจมตีจากบอสอยู่แล้วรีบถลันร่างเข้ามาใช้สกิลรักษาผมในพริบตา

+1574 ! พลังรักษานี้แรงดีแท้ และด้วยการรักษาที่ตามมาอีกครั้งพลังชีวิตของชั้นก็มากกว่า 2000 หน่วยเพียงพอที่จะยืนรับ[คมพายุผ่า]ได้อย่างไม่กลัวเกรง!

“ตูมมม!”

สายลมที่บีบอัดตัวเป็นรูปขวานยักษ์ผ่าผ่านร่างผมไปกระแทกเข้ากับกลุ่มก้อนหินด้านหลัง แต่ผมไม่มีเวลาสนใจ ตั้งหน้าตั้งตาโจมตีต่อไปอย่างไม่หยุด!

หลังจากนั้นมาจังหวะเข้าโจมตีบอสก็ค่อยๆเข้าที่เข้าทาง สกิล[ไซโคลนสลาตัน]ของบอสอีกสองสามครั้งถูกสกัดไว้ได้จากสองสาว มหกรรมละเลงเลือดบอสก็เป็นไปอย่างราบรื่น ภายใน 12 นาทีต่อมาพลังชีวิตของบอสก็เข้าใกล้จุดวิกฤติเต็มที่! ………

“ลองเดาดูกันไหมคะ ว่าบอสจะดรอปอะไรบ้าง?”

‘เยว่ชิงเฉียน’ ชวนคุยพลางแทงมีดสั้นของเธอไปบนหลังของลำคอมังกรก่อนที่จะเด้งตัวถอยฉากหลบออกมา

“ดรอปไอเทมระดับม่วงแน่นอนอยู่แล้วแหละ”

ผมคิดนิดหนึ่งแล้วจึงพูดต่อว่า

“แต่ในแผนที่ระดับ SSS นี่อัตราการดรอปของจากบอสก็น่าจะเพิ่มมากกว่าเดิมนะ”

‘หลินว่านเอ๋อ’เสริมว่า

“ก็คงงั้นแหละ แต่ฉันอยากให้มันดรอปเป็นตำราสกิลระดับ S หรืออย่างอื่นมากกว่านะ ฉันว่าตำราสกิลระดับ S น่ะคุ้มกว่าไอเทมสวมใส่เป็นไหนๆ เพราะว่าตามหลักแล้วสกิลที่ได้จากตำราน่ะเป็นของติดตัวผู้เล่นถาวรไปตลอดส่วนไอเทมสวมใส่นั้นใส่ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนออกอีก ของสวมใส่ที่ต่ำกว่าเลเวล 100 เนี่ยะยังไงก็ต้องเปลี่ยนเป็นของอื่นที่ดีกว่าไม่ช้าก็เร็ว”

“ครับผมก็คิดแบบนั้น โอ๊ะ !เลือดมันเหลือแค่ 4% แล้ว ทุกคนตั้งใจกันหน่อย”

ผมตวัดดาบเป็นแนวขวางเฉือนลึกเข้าไปยังลำคอของเจ้าบอสมังกร นี่ขนาดเป็นแค่ร่างเงาของมังกรวายุซึ่งเป็นหนึ่งในสี่มังกรใต้อาณัตของเทพมังกรกาฬเท่านั้นนะ ถ้าเป็นมังกรวายุตัวจริงละก็ พวกเราน่าจะไม่รอดจากการโจมตีตั้งแต่รอบแรกแล้วก็เป็นได้!

รอบนี้เราไม่ได้ตกลงกันจะให้ใครเป็นคนลาสบอส ดังนั้นพวกเราทุกคนจึงเร่งทำดาเมจมากเท่าที่เราจะทำได้เพื่อจะได้ฆ่าบอสให้ไวที่สุด! ในที่สุดหลังจากเสียงคำรามอันโหยหวนของมัน ร่างเงาของมังกรวายุก็พลันระเบิดกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อยระยิบระยับล่องลอยในอากาศ ขณะที่เบื้องล่างมีกองของไอเทมดรอปรวมกันอยู่! ……….

“แว่บ!”

‘หลิวย่ง’และ’เสยเจียหลันเหยียน’เลเวลอัพทั้งคู่ ชั้นก้าวไปด้านหน้าพร้อมดาบคู่ใจตรงไปยังกองของไอเทมที่ดรอปอยู่ สายตาเหลือบไปที่ไอเทมที่ดรอปอยู่นั้นเล็กน้อยพลางพูดขึ้นว่า

“ในฐานะหัวหน้าปาร์ตี้ ชั้นจะเป็นคนแบ่งไอเทมเอง พวกเราโอเคกันไหม?”

‘มัตชะ’กับ’ว่านเอ๋อ’พยักหน้าเล็กน้อย

“ตามใจหัวหน้าเลยค่ะ แต่รีบหน่อยก็ดีนะคะ….”

ผมก้มตัวลงไปเพื่อเก็บไอเทมเหล่านั้นขึ้นมา ซึ่งเป็นไอเทมสวมใส่ทั้งสามชิ้น เสียดายที่ไม่มีอะไรที่สูงไปกว่าระดับม่วงดรอปมาเลย-

[ไม้เท้าเฮอริเคน] :เลเวล 58 ไม้เท้าระดับม่วง

พลังโจมตีเวทย์ 740-875

เพิ่มพลังโจมตีเวทย์ +8%

ความต้านทาน +38

พลังเวทย์+39

[สร้อยคอเมตตา]: เลเวล 58 สายสร้อยระดับม่วง

ความต้านทาน+40

พลังเวทย์+37

เพิ่มประสิทธิภาพการรักษา+128

[มีดสั้นไฟนรก]:เลเวล 58 มีดสั้นระดับทอง

พลังโจมตี 540-750

ความต้านทาน+35

ความว่องไว+34

อย่างที่เคย พวกเราโยนเต๋าเพื่อตัดสินว่าใครจะได้ไอเทมไป ผลออกมาว่า

[ไม้เท้าเฮอริเคน]เป็นของ’ตงเฉิงเยว่’โดยไม่มีคำถามเพราะว่าเธอเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ต้องการไม้เท้าแบบเพิ่มพลังโจมตีเวทย์

[สร้อยคอเมตตา]ทอยแต้มได้โดย ‘หยิ่วจื้อเฉิงโซ่ว’ ส่วน’เสยเจียหลันเหยียน’นั้นเลเวลยังน้อยไปนิดหนึ่งถ้าจะมอบไอเทมชิ้นนี้ให้เธอ

ที่เหลือคือมีดสั้นระดับทองนั้นทุกคนลงความเห็นว่ายกให้คนที่โดนบอสบอกรักมากที่สุด ผมเลยเก็บมันไว้ในช่องเก็บของ หลังจากกลับเมืองคงเอาไปขายได้ซักร้อยสองร้อยหยวน ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนยังไงมันก็เงินละนะ มันออกจะน่าผิดหวังอยู่สักหน่อยที่บอสไม่ได้ดรอปตำราสกิลเลย

แม้แต่หินวิญญาณเอาไว้อัพเกรดยังไม่มี! มีแค่บัตรอภัยโทษไม่กี่ใบ ซึ่งพวกเราก็ทำได้แต่ถอนหายใจด้วยความเซ็ง

ไม่กี่นาทีถัดมาผมก็มายืนอยู่ที่สุดปลายของหน้าผามองไปรอบๆ โซ่ที่จะพาพวกเราไปยังพื้นที่ต่อไปพาดตัวลงไปท่ามกลางทะเลหมู่ดาวนั้น ท่าทางรอบนี้พวกเราคงต้องโหนตัวลงไปใช้เวลานานกว่าตอนแรกมากกว่าจะถึงชั้นต่อไป

ผมสูดลมหายใจลึกๆเรียกกำลังใจขึ้นมาพลางยิ้มและพูดว่า

“ไปกันเถอะพวกเรา มุ่งหน้าสู่ชั้นที่สอง ผมอยากเลเวลอัพเต็มที่แล้ว !”

ทุกคนพยักหน้าพร้อมใจกันตอบว่า

“โอเค!”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments