ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปTL : Kradiz
////////////////
[เทพพยัคฆ์เมชาซอล] (ระดับวาลคิรี่) แนะนำ : หนึ่งในผู้พิทักษ์เมืองโมไฮม ปรมาจารย์หยุนเฉิน ท่องไปทั่วโลกและได้พบเข้ากับจิตวิญญาณเทพพยัคฆ์โบราณเขาใช้เวลากว่า 10 ปี ในที่สุดเขาก็สามารถใส่จิตวิญญาณเข้าไปในสัตว์จักรกลของเขา ทำให้มันได้รับพลังของเทพพยัคฆ์ และได้กลายมาเป็นผู้พิทักษ์คนสุดท้ายของเมืองโมไฮมอยุ่เคียงข้างของหยุนเฉิน ……
แม้พยัคฆ์โลหะตัวนี้จะไม่มีเลเวล แต่ระดับของมันเป็นถึงระดับวาลคิรี่ ระดับวาลคิรี่คือระดับที่อยู่ต่อระดับจักรพรรดิ และตอนนี้ในเซิฟเวอร์ยังไม่มีบอสหรือของชิ้นไหนระดับวาลคิรี่เลย แต่พยัคฆ์ตัวนี้ไม่มีระดับบอก เพราะงั้นมันเลยพูดยากว่ามันจะชนะบอสระดับจักรพรรดิตัวนี้รึเปล่า
“บัดซบ”
ฮานมันคำรามพร้อมกับฟาดกรงเล็บใส่ตัวของเทพพยัคฆ์ พร้อมกับตะโกนลั่น
“เจ้าบัดซบหยุนเฉิน แกคิดว่าสัตว์จักรกลของแกเจ๋งมากซินะ งั้นข้าจะส่งเจ้าสัตว์ตัวนี้กับแกลงนรกเอง!! วันนี้แกจะเป็นอิสระจากการคุมขังแล้วเพราะข้าจะฆ่าแกเอง!!!”
“เปรี้ยงงง”
ด้วยเสียงปะทะอันดัง ส่งผลให้เทพพยัคฆ์ส่งเสียงคำรามออกมาพลางถอยหลังกลับ และหูข้างหนึ่งของมันก็ขาดออกไปเรียบร้อย ส่งผลให้มีโลหิตสีแดงไหลออกมา โอ้พระเจ้า พยัคฆ์จักรกลตัวนี้มันมีชีวิต!!
หลังจากที่ถอยกลับ เทพพยัคฆ์ก็สวนกลับด้วยกรงเล็บของมันไปถึงสองครั้ง ในจังหวะเดียวกัน ฮนต้องถอยร่นกลับไปพร้อมกับหลอดเลือดที่ลดลงไปอย่างมาก พลังโจมตีของเทพพยัคฆ์ระดับวาลคิรี่นี่มันยกระดับขึ้นไปอีกขั้นทีเดียว
แค่โจมตีครั้งเดียวก็ทำดาเมจไปถึง 30000 มันมากกว่าที่พวกเราทำได้ไปเยอะจริงๆ
ในขณะที่ผมยืนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ผมก็ฮิลตัวเองแล้วพุ่งเข้าจู่โจมบอสทันที ผมฟาดฟันเข้าที่สีข้างของมันทำดาเมจไป 1000 กว่าๆ แล้วก็ถอยหลังกลับมา ทำให้ฮานมันยิ่งบ้าคลั่งยิ่งขึ้น ด้วยการโจมตีของผมและเทพพยัคฆ์ทำให้มันทำอะไรพวกเราไม่ได้มากนัก
“บัดซบบบ ข้าจะขยี้พวกแกทั้งสองคนซะ”
มันเงยหน้าอันเปี่ยมไปด้วยความพิโรธขึ้น ทันใดนั้นมันก็ปลดปล่อยทักษะ [อาณาเขตเสาน้ำแข็ง] เข้าครอบคลุมร่างของเทพพยัคฆ์ การโจมตีอันต่อเนื่องนั้น ทำให้เทพพยัคฆ์เสียเลือดไปกว่า 70% แบบนี้ไม่ดีแล้วเทพพยัคฆ์ยังเทียบกับเจ้ามังกรนี้ไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือมันต้องตายแน่ๆ
ผมต่อยลงสู่พื้น เรียกใช้ทักษะ [Binding Chain] พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน เข้าจับกุมฮาน ผมแบมือพร้อมกับใช้ทักษะ
[โลกาสิ้นสูญ]!! 1823!
หลังจากที่ผมถอยกลับมา ผมก็ฟาดฟันออกไปด้วยทักษะ [เจ็ดดาบดารา ] 1327!
การโจมตีต่อเนื่องสองครั้งของผม ยิ่งทำให้เจ้าฮานโกรธมากขึ้นไปอีก มันกางปีกออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับพุ่งมาหาผมทันที มันฟาดฟันผมด้วยทักษะ [กรงเล็บทมิฬ]
ผมรีบใช้ทักษะ [โล่แห่งมังกรสีชาด] ทันทีพร้อมรับการโจมตีที่กำลังพุ่งมา เกราะเนบิวล่าและดาบของผมเกือบจะพังทันที ผมรีบใช้ยาฟื้นเลือดอย่างรวดเร็ว แต่เลือดของผมก็ยังเกือบหมดอยู่ดี
ในช่องกลุ่ม ทุกคนต่างตื่นตระหนก ‘ว่านเอ๋อ’
“เกิดอะไรขึ้น!! หลี่เซียวเหยาทำไมเลือดของนายถึงเกือบหมดหลอด”
‘เย่วชิงเชียน’
“พี่เซียวเหยา อย่าตายนะ รอพวกเราก่อน พวกเราจะไปถึงในอีกสิบนาที”
‘มัทฉะ’
“บอส….”
เปรี้ยงงงงง
การโจมตีมาอีกครั้งหนึ่งส่งผลให้ผมต้องร่วงลงสู่หลุมน้ำแข็งอีกครั้ง ผมแทบจะยอมแพ้ ไม่มีทางที่จะสู้กับม่อนแบบนี้โดยไม่มีหมอเลยแหะ หรืต่อให้มีหมออยู่ด้วย ผมก็ยังมองไม่เห็นหนทางจริงๆ ผลกระทบของ [ความพิโรธแห่งมังกร] ยังคงอยู่ เพราะงั้นหมอก็จำเป็นต้องฮิลตัวเองด้วย ไม่ใช่แค่ฮิลผมแค่คนเดียว
“จงยอมรับความตายซะเจ้าหนู”
มันจ้องมองมายังผมด้วยใบหน้าอันน่ากลัวของมัน ปากของมันเปิดกว้างในขณะที่มีเกร็ดน้ำแข็งพุ่งออกมา นี่มันกำลังจะใช้ทักษะ [อาณาจักรน้ำแข็ง](เปลี่ยนชื่อใหม่นะ) นี่มันกำลังจะฆ่าผมที่นี่และเดี๋ยวนี้!!
โฮกกกกก เสียงคำรามของสิงโตดังออกมาพร้อมกับกลุ่มของสายลม พุ่งทะยานลงมาปกป้องผม เส้นผมเหล็กของมันแผ่ขยายออกมาและพุ่งเข้าจู่โจมฮาน มันพุ่งเข้าสู่ปากของเจ้ามังกรและร่างกายของมัน ส่งผลให้มีหยดเลือดไหลรินลงสู่พื้นอย่างมากมาย
เลือดของมันแทบจะแข็งทันทีที่ตกกระทบพื้น เจ้ามังกรมันคำรามด้วยความเจ็บปวด
“เจ้าเศษเหล็ก แกต้องการจะปกป้องมันงั้นเหรอ?”
เทพพยัคฆ์ส่งเสียงคำรามพร้อมกับเงยหน้าจองมองกลับไปโดยที่ไม่เอ่ยปากซักคำ ตอนนี้ความโกรธของฮานพุ่งทะลุสูงขึ้น เมื่อเทพพยัคฆ์ใช้กรงเล็บทะลวงลงสู่พื้นแน่น ปากของมันก็เปิดกว้างขึ้น ปลดปล่อยแรงอัดอากาศที่รุนแรงออกมา ฮานมันต้องการจะกลืนกินเทพพยัคฆ์ด้วยตัวของมันเอง!!
ทันใดนั้นเทพพยัคฆ์ก็คำรามพร้อมกับพุ่งเข้าหาฮาน ด้วยการกลืนเพียงครั้งเดียว เทพพยัคฆ์ก็ถูกกลืนกินจนหมดสิ้น หลังจากนั้นมันก็สะอึกเบาๆ พลางหัวเราะและมองมายังผม
“เจ้าหนู ตอนนี้เจ้าสัตว์จักรกลตัวนั้นกลายเป็นอาหารในกระเพราะของข้าเรียบร้อยแล้ว เจ้าจะมาเป็นรายต่อไปมั้ยละ?”
“ฝันไปเถอะ!!”
ผมกำดาบแน่นด้วยสองมือ พร้อมกับพุ่งสไลน์ไปตามพื้นน้ำแข็ง ก่อนที่จะฟันดาบเข้าสู้ท้องของมัน ผมผ่าชำแหละท้องของมันทำให้เปิดกว้าง เลือดไหลออกมาไม่หยุด ผมสามารถมองเห็นเครื่องในของมันอยู่ไม่ไกล โชคไม่ดีพลังของผมไม่มากพอที่จะผ่ามันออกเป็นสองส่วน
ฉั้ววว ผมดึงดาบออกมา
พลางวิ่งหนีไปยังประตูทางเข้าชั้นสี่ หากต้องการจะฆ่าเจ้ามังกรตัวนี้ ผมต้องไปหาคนอื่นๆ บ้าจริงๆ ตอนนี้มันเหลือเลือดแค่ราวๆ 5% คงจะประมาณ 35000 เอง ถ้าพูดตามจริง แค่ทักษะ [โลกาสิ้นสูญ] และ [เจ็ดดาบดารา] 20 ครั้งก็เพียงพอจะฆ่ามันได้แล้ว
แต่โอกาสที่จะแบบนั้นไม่มีนะซิ แค่โจมตีไปสองครั้ง ผมก็คงโดนมันฆ่าตายแล้วหละ
“เจ้าเด็กเหลือขอ แกคิดจะหนีไปไหน!!!”
มันคำรามลั่นพร้อมกับพุ่งมาหาผมอย่างรวดเร็ว ปีกอันมหึมาของมันพัดพาเศษหิมะเศษน้ำแข็งกระจัดกระจายไปทั่ว เปิดเผยให้เห็นพื้นหญ้าสีเขียวที่อยู่ด้านใต้ ใครจะคิดละว่ามันจะยังมีหญ้าอันอุดมสมบูรณ์อยู่ใต้น้ำแข็งแบบนี้ ในจังหวะนั้นผมชะงักทันที
นี่มัน? ได้โอกาสหละ !! ผมพุ่งเข้าสู้พุ่มหญ้าทันที ทันใดนั้นทักษะ [พลางตัว] ของผมก็ทำงานเข้าสู่สถานะหายตัวทันที
กรรรรรร มันหยุดอยู่ด้านข้างของพุ่มหญ้า มันไม่สามารถตรวจจับได้ว่าผมอยู่ตรงไหน มันไม่เห็นผมจริงๆ!!
“ได้โอกาสหละ..”
ตอนนี้ผมตื่นเต้นมากๆ หญ้านี้เป็นดั่งสิ่งที่ปกป้องผืนดิน แม้แต่น้ำแข็งหรือหิมะก็ไม่สามารถทะลวงมาได้ การหลบที่หญ้านี้ ผมสามารถหลบรอดทักษะ [ความพิโรธแห่งมังกร] ของมันได้ ผมเริ่มมีความหวังแล้ว!
ตอนนี้ผมอาจจะสู้กับมันได้ เจ้าฮานที่อยู่ด้านข้างดูเหมือนมันกำลังกระสับกระส่าย เหมือนมีบางอย่างในตัวมันกำลังดิ้นอยู่….หรือว่า…พยัคฆ์จักรกลตัวนั้น? เป็นดั่งที่คิดจริงๆ พยัคฆ์จักรกลกำลังคลั่งอยู่ภายในท้องของเจ้าฮาน เพราะว่าการรีเจ้นเลือดของมันมีปัญหา
และตอนนี้เลือดของมันก็เหลือเพียงแค่ 5% โอกาสของผมมาแล้ว!!!
หลังจากที่ผมคำนวณระยะทาง เมื่อผมอยู่ห่างจากมันราวๆ 30 เมตร ผมก็กระโดดออกจากหญ้า พร้อมกับยกแขนขึ้นปลดปล่อยทักษะ [โลกาสิ้นสูญ] และตามด้วย [เจ็ดดาบดารา] จากระยะไกล!!!
เปรี้ยง เปรี้ยงงง
1911! 1347!
ฮานคำรามด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับฟาดฟันมายังทิศทางที่ผมอยู่ ผมรีบถอยกลับไปสู่ที่ซ่อนทันที ผมถอยไปกว่าร้อยเมตร หลังจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาแสกนพื้นที่ มันกำลังบินไปทั่วทั้งแมพ แต่ไม่ได้อยู่ในจุดที่ผมอยู่ ถึงแม้ว่า AI ของบอสจะฉลาด แต่มันก็ไม่ฉลาดพอที่จะหาจุดที่ผมอยู่ สุดยอดด ทักษะ [พลางตัว] มันเหมาะกับโอกาสแบบนี้จริงๆ
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เลือดของมันก็ลดเหลือเพียงแค่ 2% แล้วหัวใจของผมเริ่มเต้นแรงขึ้น ผมตื่นเต้นมากๆ แม้ผมจะหลบอยู่ในพุ่มหญ้า ผมก็ไม่ได้หนาวแต่อย่างใด กลับกันผมกับรู้สึกอบอุ่นมากกว่า ในช่องของกลุ่ม ‘อวี่จื่อเฉิงโช่ว’กล่าว
“พวกเรามายังชั้นสี่แล้วเซียวเหยาจื่อไจ๋ แต่ว่า….”
ผม
“แต่อะไร?”
‘อวี่จื่อเฉิงโช่ว’
“แต่ว่า [ความพิโรธแห่งมังกร] มันรุนแรงเกินไป พวกเราเสียเลือด 200 ทุกวินาที เพราะงั้นพวกเราฟื้นชีพพร้อมกันไม่ได้ นายต้องรอก่อนซักพัก หมอสามคน ว่านเอ๋อและมัทฉะจะฟื้นชีพก่อน”
ผมคิดซักพัก
“ถ้ามันไม่ได้จริงๆ เราค่อยมาคุยกันทีหลัง หลังจากที่ผมฆ่ามันก่อนแล้วกัน”
“ห๋า”
‘ว่านเอ๋อ’กล่าวอย่างตกใจ
“นายสามารถฆ่ามันได้ด้วยตัวเองงั้นเหรอ?”
“ใช่ ผมขอเวลาซัก 3-4 นาทีก็พอ”
“ผู้เล่นแค่คนเดียวจะฆ่าบอสที่มีพลังขนาดนั้นได้ยังไง?”
‘เย่วชิงเชียน’กล่าวอย่างร้อนรน ผมส่งจุดที่ผมมองเห็นไปให้ดู และอธิบายทริคให้ฟัง
ทันใดนั้น ‘เย่วชิงเชียน’ก็หัวเราะเข้าใจ
“ทริกนี้มัน….ขี้โกงจริงๆ”
ผมหัวเราะ
“มันจะมีวิธีอื่นอีกรึไง? ที่จะฆ่ามัน เอาหละ รอจนกว่าผมจะฆ่ามันแล้วเราค่อยมาคุยกัน ผมไม่เห็นแก่ตัวที่จะเอาของไว้คนเดียวหรอก”
‘อวี่จื่อเฉิงโช่ว’
“โอเค พวกเราจะรอนาย ถ้าพวกเราไปมันอันตรายมากจริงๆ แค่ปกป้องตัวเองยังลำบากเลย”
“โอเค”
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ หลังจากที่ผมเห็นเลือดของบอสเหลือไม่ถึง 1% หัวใจของผมแทบจะทะลวงออกมา ผมมองไปยังระดับของตัวเอง หากฆ่าม่อนตัวนี้ได้ ผมน่าจะไปถึงระดับ 63 เลยแหะ ค่าประสบการณ์ที่ได้รับคนเดียวมันต้องเยอะมากแน่ๆ แมพของเควสระดับ SSS นี้ มันเป็นดั่งพรจากพระเจ้าให้กับผมเลยหละ
ถึงแม้มันจะเป็นหลังจากที่โดนบอสตบไปก็เถอะ หลังจากผ่านไปราวๆ 3 นาที ในที่สุด มันก็คำรามพร้อมกับล้มลงด้วยทักษะ [โลกาสิ้นสูญ] ของผม ก่อนที่มันจะตายมันก็กล่าวขึ้นว่า
“เจ้าเด็กบัดซบ ข้าไม่ตายง่ายๆ แน่ รอก่อนเถอะ เผ่าพันธุ์มังกรจะมาแก้แค้นเจ้า เจ้าพวกมนุษย์อันต่ำต้อย!! ข้าจะป่นกระดูกของพวกแกไม่ให้เหลือเลยทีเดียว!!!”
ผมยกดาบขึ้นพร้อมกับฟันลงไปที่หัวมัน ทันใดนั้นหัวของมันก็หลุดออกมาร่วงลงสู่พื้น ร่างกายของมันแตกออกเป็นน้ำแข็งกระจัดกระจายลงสู่พื้น พร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆ และก็อย่างที่ผมหวัง แสงสีขาวสว่างรอบตัวของผม และผมก็ขึ้นมาสู่ระดับ 63 กับอีก 11%
ผมเปิดดูอันดับในเมือง ในที่สุดผมก็ขึ้นมาสู่ระดับท๊อปของเมืองจนได้ ‘เจี้ยนเฟิงฮาน’ก็อยู่ระดับเดียวกับผม เขาก็เลเวล 63 เหมือนกัน ที่ไหนกันที่เจ้าบัดซบนั่นฟามเลเวลได้ 2 ระดับ ในคืนเดียวได้แบบนี้ ……
ผมเงยหน้ามองไปยัง หิมะที่ค่อยๆ หยุดลง ผลของทักษะ [ความพิโรธแห่งมังกร] กำลังหายไปเช่นกัน ผมกองอุปกรณ์ไว้ด้วยกัน ไม่นาน 7 สาวงามกับหนึ่งลุงก็ปรากฏขึ้นมา
‘ว่านเอ๋อ’ถือร่มของเธอพลางยิ้มและเดินมา
“ไม่เลวเลย มันมีคนฆ่าบอสระดับจักรพรรดิ เลเวล 65 ด้วยตัวคนเดียวได้อยู่จริงๆ”
‘อวี่จื่อเฉิงโช่ว’พยักหน้าแล้วยิ้ม
“เซียวเหยาจื๋อไจ๋ OP จริงๆ”
‘มัทฉะ’วิ่งนำหน้าออกมาพร้อมกับกอดไหล่ของผมและมองไปรอบๆ
“บอสสส คุณไม่เสียแขนหรือขาเลยเหรออ?”
ผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้
“อย่าพูดถึงมันเลย ไปดูของที่ดรอปจากมันกันดีกว่า”
“ได้เลย ได้เลย”
ที่มา: