I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 229 เทพพยัคฆ์เพลิงเทวะ

| Zhan Long | 1607 | 2358 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

TL: Kradiz Qc : rinkiechang

//////////////////

เศษน้ำแข็งจำนวนมากปกคลุมพื้นหญ้า ในเศษเหล่านั้นมีของสามสิ่งที่กำลังเปล่งแสงอยู่ ชิ้นแรกคือแหวนที่กำลังเปล่งแสงสีส้มออกมา ชิ้นที่สองคือรองเท้าที่แผ่ออร่าแห่งความเย็นออกมา ชิ้นสุดท้ายคือเศษดาบที่แตกหัก มันดูไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าไหร่ แต่อีกสองอันเป็นถึงระดับจักรพรรดิ ผมกำแหวนไว้ในมือพลางส่องดูค่าสถานะของมัน

【แหวนจิตวิญญาณแห่งน้ำแข็ง】 (ระดับจักรพรรดิ)

Magic: +51

Endurance: +49

Agility: +45

Extra: เพิ่มพลังโจมตีเวทย์ 8%

Extra: เพิ่มเลือดสูงสุด 400.

Required Level: 63

ผมกำแหวนพลางหัวเราะ

“แหวนนักเวทย์ระดับจักรพรรดิ…นับว่าเป็นแหวนระดับสูงของนักเวทย์จริงๆ อีกอย่างพวกเรามีนักเวทย์แค่คนเดียวเพราะงั้นก็คงเป็นของเธอ”

‘อวี่จื๋อเฉิงโช่ว’หัวเราะ

“ยินดีด้วยนะตงเฉิง!!”

‘ตงเฉิงเย่ว’แก้มแดงตั้งแต่หูจรดหู

“ขอบคุณนะทุกคน ขอบคุณนะเซียวเหยาฉันจะรักนายจนกว่าจะตายเลยยย”

ผม

“…”

หลังจากที่ผมมอบแหวนให้กับ’ตงเฉิง’ผมก็หยิบรองเท้าขึ้นมาดูต่อ มันส่งออร่าแห่งความเย็นออกมา ทันทีที่เห็นค่าสถานะของมันทุกคนตกตะลึกกันไปหมด ฮานใจดีจริงๆ ที่ให้ของระดับจักรพรรดิถึงสองชิ้น

【รองเท้ามารเหมันต์】 (ระดับจักรพรรดิ)

Type: เกราะหนัง

Defense: 220

Agility: +50

Endurance: +48

Strength: +44

Extra: เพิ่มพลังโจมตีกายภาพ 5%

Extra: เพิ่มพลังป้องกันเวทย์ 17%

Extra: เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ 5%

Required Level: 63

หลังจากที่ผมเห็นค่าสถานะของมันถึงกับต้องร้องออกมา

“รองเท้าอันนี้มันแข็งแกร่งจริงๆ ด้วยโบนัทเอ็ฟเฟกถึงสามค่า นอกจากนี้มันยังบวกความเร็วและความเร็วการเคลื่อนที่ มันเป็นรองเท้าระดับจักรพรรดิที่ให้ค่าสถานะที่สูงจริงๆ”

‘มัทฉะ’หัวเราะ

“พวกเรามีสายความเร็วสามคน ว่านเอ๋อ เย่วชิงเชียนและหลิวย่ง พวกเขาต้องทอยเต๋ากันมะ?”

‘ว่านเอ๋อ’หัวเราเบาๆ พลางกดผ่าน

“ฉันได้ร่มมาแล้ว มันจะไม่แฟร์กับคนอื่นนะถ้าฉันทอยอีกน่ะ ให้ลุงหลิวย่งกับชิงเชียนเถอะ”

‘หลิวย่ง’ถอนหายใจ

“ผมระดับแค่ 58 อีกนานกว่าจะใช้ได้”

หลังจาดพูดเสร็จ’หลิวย่ง’ก็กดผ่าน ปล่อยให้’ชิงเชียน’เขินอยู่คนเดียว เธอกระพริบตาอันใหญ่โตของเธอพลางกล่าว

“งั้น…..งั้นฉันก็ไม่ต้องทอยใช่มั้ย?”

ผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้พลางโยนรองเท้าไปให้เธอ

“พี่ไม่ต้องการหรอกนะ เพราะงั้นรองเท้าอันนี้เป็นของเธอ อีกอย่างระดับ 63 ก็อยู่ไม่ไกลจากเธอเท่าไหร่ด้วย”

‘ชิงเชียน’หน้าแดงเข้มทันที

“พี่เซียวเหยา ให้ฉันจริงๆ เหรอ”

ผมพยักหน้า ‘ว่านเอ๋อ’ที่อยู่ข้างๆ ก็หัวเราะเช่นกัน

“เอามันไปเถอะ ไม่งั้นการเข้ามายังวิหารมังกรแห่งนี้มันจะไม่มีประโยชน์กับเธอเลยนะถ้าเธอไม่ได้อะไรดีๆ กลับไป อ้อใช่ เซียวเหยา มันยังมีของชิ้นที่สามนิ รีบไปดูกันเถอะ”

“เข้าใจแล้ว”

ผมก้มลงไปเก็บเศษดาบขึ้นมา ใบดาบของมันถูกปกคลุมไปด้วย สนิมมานานหลายปี เหมือนจะใช้กันมานานแล้วผมรีบเปิดดูข้อมูลทันที

【ดาบจิตวิญญาณโบราณ】: เศษเสี้ยวของดาบที่ถูกผนึกไว้ มันมีจิตวิญญาณอยู่ภายใน สักวันมันจะตื่นขึ้นมา หลอมรวมหินแร่เข้ากับมันเพื่ออาวุธระดับเทพชิ้นใหม่!! เปอร์เซ็นการตื่น: 0%

“นี่มัน…..”

ผมกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่และมองกลับไปยังกลุ่มสาวๆ

“นี่มันไอเท็มอะไรกันเนี้ย”

‘ว่านเอ๋อ’รีบดึงมือมาคว้าดาบไปพร้อมกับยัดมันลงกระเป๋าของผม

“ใครสนกันละ นายเป็นนักดาบเพียงหนึ่งเดียว เพราะงั้นมันควรเป็นของนาย มันจะใช้ได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับโชคของนายแล้วล่ะ”

ผมรู้ว่า’ว่านเอ๋อ’พยายามจะช่วยผม เธอสนใจดาบเล่มนี้มาก เพราะถ้ามันได้รับการหลอมแล้วละก็ มันต้องกลายมาเป็นดาบระดับเทพแน่ๆ พวกเรามาดูกันต่อว่ามีอะไรตกออกมาอีก มันมีหินจิตวิญญาณ 12 ชิ้น ด้วยความโชคดีของผม ผมได้มาถึง 3 ชิ้น และนอกจากนี้ผมยังมองเห็นอะไรส่งแสงออกมาจากหญ้าด้วย

มันคือหนังสือสีส้มที่กำลังเปล่งแสงอยู่ ผมหยิบมันขึ้นมาดูทันที ดูเหมือนมันจะเป็นทักษะเกี่ยวกับไฟละนะ ทุกคนต่างอย่างรู้อยากเห็น ตงเฉิงเย่วตาเบิกกว้างอย่างอยากรู้

“มันจะเป็นทักษะแบบไหนกันนะ?”

‘ว่านเอ๋อ’ยิ้มเล็กน้อย

“ขอให้เป็นทักษะของนักฆ่าแบบ AOE เถอะ..”

‘หลิวย่ง’กำหมัดแน่น

“ชั้นหวังว่ามันจะเป็น อภิมหาโคตะระสุดยอดทักษะแบบ AOE ของมือปืนนะ เอาแบบปืนใหญ่เลเซอร์อะไรแบบนั้น….หรืออะไรที่เหมือนไอออนแคนน่อนก็ได้”

TL : ประมาณนี้

ผมมองไปยังเขาพลางกล่าว

“Destiny เป็นเกมที่เน้นในยุคของการใช้อาวุธแบบโบราณ และปืนธรรมดา แต่นายกลับอยากได้ไออ้อนแคนน่อนอ่ะนะ งั้นเอาเป็นเราจะให้เรือรบนาย แล้วนายก็ล่องเรือไปยังเซิฟเวอร์อเมริกา แล้วก็ถล่มเมืองกะโหลกเหล็กเป็นไง พอใจมั้ย?”

‘หลิวย่ง’ตาแดงก่ำ

“ไม่จำเป็น ผู้เล่นอเมริกา แข็งแกร่งมาก…ฉันรู้ความสามารถของตัวเองดี”

‘มัทฉะ’ขบริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธอพลางถาม

“ขอโทษนะคะเหล่านักรบหนุ่ม พวกเราจะได้ดูหนังสือทักษะกันรึยังเอ๋ย ก่อนที่จะฝันหวานกันไปมากกว่านี้”

ผมหัวเราะเบาๆ พลางหยิบมันขึ้นมาดูคำอธิบาย มันเป็นทักษะแบบ AOE จริงๆ แต่พวกเราก็ต้องผิดหวังกับมัน

【หอกแมกม่า】(ระดับ S): เรียกพลังเพลิงขึ้นมา เพื่อใช้หอกแมกม่าจู่โจมในระยะ 20*20 ความแรงขึ้นอยู่กับพลังเวทย์ของผู้ใช้ ต้องการคลาส : นักเวทย์ ต้องการระดับ : 60 ใช้ค่าเสน่ห์ 2 เพื่อเรียน ……

ผมกล่าวพลางถือหนังสือไว้ในมือ

“ยินดีด้วยตงเฉิง ดูเหมือนตงเฉิงจะรับทรัพย์นะนี่ ได้ทั้งแหวนได้ทั้งหนังสือทักษะระดับ S เลยแฮะ เรียนมันแล้วโชว์ให้พวกเราดูซิว่ามันเจ๋งขนาดไหน”

“ได้เลย”

เธอเริ่มเรียนมันทันที และหนังสือก็หายไป เธอชูไม้เท้าของเธอขึ้นพลางร่ายเวทย์อยู่ 2 วินาที ก่อนที่พื้นที่ขนาด 20 หลาเบื้องหน้าเราจะกลายเป็นทะเลเพลิง หอกสีเพลิงพุ่งออกมาจากพื้นดิน ดาเมจที่ทำได้คงไม่ต่ำแน่ๆ

“เยี่ยมไปเลย..”

‘ว่านเอ๋อ’แสดงออกอย่างดีใจ พลางบ่นพึมพำ

“นี่มันเป็นทักษะที่มีประโยชน์มากจริงๆ ตอนที่ฉันรวมกลุ่มเก็บระดับกับตงเฉิง”

‘ตงเฉิงเย่ว’ทุบอกของเธอ

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง”

‘มัทฉะ’แสดงออกอย่างเสียใจ

“น่าเสียดายจริงๆ คุณตงเฉิงอยู่กิลด์ [Hero Mound] ถ้าเธออยู่ [Zhan Long] ล่ะก็ พวก [Flying Dragon] คงไม่กล้าหาเรื่องเราแน่ๆ”

‘ว่านเอ๋อ’ตกใจ

“นี่มังกรทะยานยังกล้าท้าทายพวกเธออยู่อีกเหรอ?”

ผมพยักหน้า

“ใช่ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวหรอกนะ พวกเราสู้กันเล็กน้อยในแผนที่เก็บระดับ นอกจากนี้ก็มีสู้กันอีกในการต่อสู้ พวกนั้นคงมีความแค้นกับเรามาก อีกอย่างมังกรทะยานยังอยากกลายเป็นกิลด์อันดับหนึ่งแห่งเมืองป้าฮวง เพราะงั้นเขาต้องการจะถอนรากถอนโคนกิลด์ใหญ่อย่าง[Vanguard] และ [Prague] ความทะเยอทะยานของมังกรทะยานเขาสูงมากจริงๆ”

ผมวางมือทั้งสองข้างลงบนไหล่ของ’ว่านเอ๋อ’และ’ตงเฉิง’ พร้อมกับถาม

“พวกเธอจะมาเข้ากิลด์ผมเมื่อไหร่เหรอ? พวกเธอปล่อยให้ผมรอนานแล้วนะ พวกเธออยากเห็นพวกเขาถูก [Flying Dragon] รังแกก่อนที่จะมาเข้างั้นเหรอ?”

‘ว่านเอ๋อ’มองผมด้วยแววตาขอโทษ

“เชื่อฉันเถอะฉันพูดแล้วว่าจะเข้าร่วมกับนาย แต่พวกเรายังมีสัญญากับเหวิ่นเจี้ยนอยู่ พวกเรายังออกจาก [Hero Mound] ไม่ได้ อย่างน้อยเราก็ต้องอยู่จนถึงเดือนหน้า รอก่อนนะ 20 วัน อีกแค่ 20 วันพวกเราก็จะไปอยู่ด้วย”

ผมพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

“โอเคๆ 20 วันก็ 20 วัน”

ในขณะนั้นเอง’เย่วชิงเชียน’ย่ำไปบนพื้นหญ้าและพบเจอบางอย่าง

“พี่เซียวเหยาดูนี่ซิ บอสดรอปของบางอย่างอีกนะ”

หลังจากพูดเสร็จเธอก็ก้มลงไปเก็บมันขึ้นมา มันคือลูกทรงกลมที่มีเปลวเพลิงล้อมรอบ

“ว้าวว มันดูเจ๋งดีแฮะ”

“มันคืออะไรงั้นเหรอชิงเชียน”

ทุกคนต่างตื่นเต้น ‘ชิงเชียน’สัมผัสไปบนก้อนทรงกลม ทำให้ตัวอักษรโผล่ออกมา ส่งผลให้ทุกคนอยู่ในอาการตื่นตะลึง

【ไข่สัตว์เลี้ยงของเทพพยัคฆ์เพลิงเทวะ】 (สัตว์เลี้ยงระดับวาลคิรี่ คลาสบอส): ยังไม่ฟักตัว, ผูกติดกับผู้เล่นเซียวเหยาจื่อไจ๋ ……

“สัตว์…….เลี้ยงง..ระดับบอส..วาล..วาลคิรี่!!!”

ทุกคนต่างตื่นตกใจ ‘ว่านเอ๋อ’มองมายังผมพร้อมกับยิ้มตื่นเต้น

“ฉันไม่ได้ดูผิดไปใช่มั้ย? นายได้สัตว์เลี้ยงระดับวาลคิรี่แถมมันยังเป็นระดับบอสอีกต่างหาก”

ผมนิ่งค้าง

“ทำไม….ทำไมมันถึงผูกติดอยู่กับผม?”

‘อวี่จื๋อเฉิงโช่ว’กล่าว

“มีบางอย่างเกิดขึ้นก่อนพวกเราจะมารึเปล่า?”

ผมบอกพวกเธอเกี่ยวกับสัตว์จักรกล

หลังจากนั้น’อวี่จื๋อเฉิงโช่ว’ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

“งั้นมันก็ไม่แปลกแล้วล่ะ ฉันคิดว่าเจ้าพยัคฆ์จักรกลตัวนั้นคงยอมรับนายเป็นเจ้านายของมันในการต่อสู้นั้น หลังจากนั้นมันก็ถูกย่อยให้กลายเป็นไข่โดยมังกรเหมันต์ตัวนั้น เพราะงั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมไข่ที่ยังไม่ฟักถึงได้ยอมรับเจ้าของก่อนที่มันจะเกิด บางทีเลือดของนายอาจจะไปโดนมันตอนที่สู้กันก็ได้”

หลังจากพูดจบ ‘อวี่จื๋อเฉิงโช่ว’ก็จับไหล่ของผม

“เด็กน้อย นายได้รับของที่มีค่าจากความหายนะมาเลยนะ”

‘เย่วชิงเชียน’ส่งมันมาให้กับผม

“หนูไม่สามารถฟักมันได้ ดังนั้นพี่เซียวเหยาทำไมไม่ลองฟักมันดูล่ะ?”

“Pa!”

ไข่หล่นมาสู่มือของผม มันมีพลังงานความร้อนที่ร้อนมาก ตอนนี้ผมตื่นเต้นมากๆ มันไม่น่าเชื่อจริงๆ สัตว์เลี้ยงระดับวาลคีรี่ชั้นบอส มันเป็นของผมงั้นเหรอ? ผม…ผมตื่นเต้นมากจริงๆ ตกลง!! ฟักมันเลย!!

“ชู่วว”

เปลวเพลิงพุ่งออกมาจากเปลือกของมัน ในจังหวะต่อมา ก็มีขาเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยขนกะเทาะเปลือกออกมา พยัคฆ์สีทองตัวอ้วนกลมก็โผล่ออกมาจากในไข่ มันล้มลุกคลุกคลานมายังเท้าของผม พลางเอาหัวที่เต็มไปด้วยขนฟูฟ่องถูกับรองเท้าของผมพลางร้องออกมา

“เมี้ยวว~~เมี้ยววว~~”

ทุกคนต่างตกตะลึก ‘เย่วชิงเชียน’กล่าวถามออกมาอย่างประหลาดใจ

“พี่เซียวเหยา นี่ใช่เทพพยัคฆ์เพลิงเทวะจริงรึเปล่า แน่ใจนะว่าไม่ใช่ แมวเพลิงเทวะน่ะ?”

ผมนิ่งค้างไปอีกครั้ง

“มันน่าจะเป็นเทพพยัคฆ์นะ….”

‘ว่านเอ๋อ’หัวเราะ

“ใครจะสนใจล่ะว่ามันจะเป็นแมวหรือเป็นพยัคฆ์ รีบดูค่าสถานะของมันกันเถอะ”

“โอเค!!”

ผมรีบเปิดหน้าต่างสัตว์เลี้ยงขึ้นมา มันทำให้ผมต้องสะพรึงทันที หลังจากที่ผมส่งค่าสถานะให้ในกลุ่ม ทุกคนถึงกับติดสตั้นทันที

【เทพพยัคฆ์เพลิงเทวะ】(สัตว์เลี้ยงระดับวาลคิรี่ คลาสบอส) Level: 1

Attack: ★★★★★★★★☆ 8.5

Defense: ★★★★★★★

Health: ★★★★★★★☆

Agility: ★★★★★★★

Magic: ★★★★★☆

Skills:【กรงเล็บเพลิง】【เกราะเพลิง】【เสียงคำรามอันบ้าคลั่ง】【จู่โจมดื่มโลหิต】【ระเบิดเพลิงฉับพลัน】

Excellency Rating:100%

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments