I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 230 คําภีร์เพลิงแห่งม่อฮิส

| Zhan Long | 1336 | 2363 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

TL: เปลี่ยนชื่อเมืองใหม่เน้อTL: KradizQc : rinkiechang

/////////////////////

‘ว่านเอ๋อ’ตาเบิกกว้าง

“ว้าวว ค่าการเติบโตมันสุดยอดไปเลย…..พลังโจมตีมากถึง 8.5 ดาว และค่าสถานะอื่นๆ ยังไม่ได้ดูแย่ด้วย”

‘อวี่จื๋อเฉิงโช่ว’ดูค่าสถานะพลางกล่าว

“จริงๆ มันสุดยอดมาเลยหละ แถมยังเป็นบอสระดับวาลคิรี่อีกด้วย สัตว์เลี้ยงตัวอื่นในระดับเดียวกันไม่มีวันเทียบติดแน่นอน เซียวเหยา ความสามารถของมันเป็นไงบ้างเหรอ”

ผมมองไปยังคำอธิบายของทักษะพลางกล่าว

“[กรงเล็บเพลิง] เป็นทักษะเป้าหมายเดี๋ยว [เกราะเพลิง] เป็นทักษะเพิ่มพลังป้องกัน [เสียงคำรามอันบ้าคลั่ง] เป็นทักษะโจมตีหมู่ด้วยคลื่นเสียง [จู่โจมดื่มโลหิต] เป็นทักษะที่ใช้ได้ครั้งเดียว(ต่อการต่อสู้ 1 ครั้งมั้ง) แต่สามารถดูดกลืนเลือดได้ 100% ของดาเมจที่ทำได้มาเป็นของตัวเอง [ระเบิดเพลิงฉับพลัน] เป็นทักษะที่จะพุ่งไปข้างหน้าและทำดาเมจให้ทุกคนที่ขวางหน้าอยู่”

‘เย่วชิงเชียน’ก้มลงไปลูบหัวของมันอย่างเอ็นดู พลางหัวเราะน่ารัก

“พี่เซียวเหยา สัตว์เลี้ยงของพี่น่ารักมากกกก พี่จะ…พี่จะให้พวกเราเห็นทักษะของมันได้รึเปล่า บอสระดับวาลคิรี่มันต่างจากตัวอื่นจริงๆ แค่ระดับ 1 ก็ปลดล๊อกทุกทักษะแล้ว แถมมีตั้ง 5 ทักษะอีก”

ผมพยักหน้าและสั่งมันในใจโฮกกกกพยัคฆ์ตัวน้อยที่เหมือนกับแมวคำรามออกมาด้วยความโกรธ มันยกหัวขึ้นมาพลางฟาดกรงเล็บลงไปยังพื้นที่ว่างเปล่าเบื้องหน้า แม้มันจะยกขาลงแล้วแต่ร่องรอยของกรงเล็บสีแดงของมันยังคงอยู่บนอากาศนั้น นี่คือทักษะ[กรงเล็บเพลิง] ตามติดมาด้วยเสียงคำรามอีกครั้ง

โล่ที่ดูสวยงามก็ปรากฏรอบร่างของมัน มันคำรามอีกครั้ง คลื่นเสียงก็จู่โจมไปรอบๆ พื้นที่ที่พวกเราอยู่ หลังจากนั้นมันก็ใช้ทักษะ  [จู่โจมดื่มโลหิต] แต่เพราะไม่มีศัตรูผลของการดูดเลือดจึงไม่ปรากฏ มาถึงทักษะสุดท้าย มันกำลังปลดปล่อยทักษะ [ระเบิดเพลิงฉับพลัน]!!โฮกกกกกกมันคำรามด้วยเสียงโกรธๆ ทันใดนั้นนิ้มของมันก็ขยายขนาดขึ้นถึง 3 เท่า

และร่างกายของมันกลายเป็นเปลวเพลิง พร้อมกับพุ่งไปข้างหน้ากว่าสิบเมตร [ระเบิดเพลิงฉับพลัน] ส่งผลให้พื้นที่มันวิ่งผ่านไปยังหลงเหลือเปลวเพลิงอยู่บนหญ้า ส่งผลให้หญ้าถูกเผาไหม้จนดำเป็นตอตะโก ดูเหมือนทักษะนี้จะรุนแรงมากทีเดียว……

“โอ้..”

‘ว่านเอ๋อ’เม้มริมฝีปากของเธอพลางมองมาที่ผมพร้อมกับหัวเราะ

“น่าเสียดายที่มันเป็นสัตว์ที่ผูกกับเจ้าของ ไม่งั้นหละก็ฉันจะยืมมันไปเล่นซักหน่อย”

ผมหัวเราะบางๆ พร้อมกับมองไปที่เธอ

“มันโอเคนะ ถ้าพวกเรามาเก็บระดับด้วยกัน เธอจะได้เห็นพลังจริงๆ ของมันแน่นอน”

“โอเค”

‘อวี่จื๋อเฉิงโช่ว’ถามขึ้น

“เซียวเหยา ตอนนี้สัตว์เลี้ยงตัวนี้ย่อมต้องเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน นายจะอัพค่าสเตตัสของมันยังไงเหรอ?”

ผมคิดซักพักก่อนจะตอบ

“ผมว่าจะอัพค่าความแข็งแกร่ง ผมสามารถเพิ่มพลังป้องกันของมันได้ด้วยทักษะ [เกราะเพลิง] และเพิ่มเลือดมันได้ด้วย [จู่โจมดื่มโลหิต]ถ้ามันมีพลังโจมตีมากพอ ต่อให้มันสู้กับพระหรืออัศวิน ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลเลยละ”

‘ว่านเอ๋อ’พยักหน้า

“ใช่แล้ว นายต้องเก็บระดับให้มันไวๆ ถ้ามันระดับถึง 60 มันจะกลายเป็นกำลังหลักเลยทีเดียว และยังกลายเป็นมาสคอตของ [Zhan Long] อีกด้วย เหมือนกับชื่อของนายที่เป็นจุดเด่นของกิลด์ไง”

‘มัทฉะ’หัวเราะบางๆ

“ใช่แล้ว มีผู้เล่นมากมายอยากเช้ากิลด์ของเรา เพราะชื่อเสียงของบอสเลยแหละ”

ผมก้มลงไปอุ้มเจ้าแมวน้อยขึ้นมา มันถูคางของผมพลางร้อง

“เมี้ยวววว”

ทั้ง’ชิงเชียน’และ’ว่านเอ๋อ’ต่างชอบมันมาก คนหนึ่งยืนด้านซ้าย อีกคนยืนด้านขวา พลางเล่นกับมัน ตอนนี้มันยังเป็นกำลังหลักไม่ได้ แต่ว่าท่าทางของมันก็น่ารักทีเดียว มันเป็นสุดยอดอาวุธในการจีบสาวเลยแหละ แต่ชักจะแย่แล้วแหะ สองสาวนี่เขาเกินลิมิตไปแล้ว……

“ไปจบเควสกับเถอะ”

ผมเดินนำทุกคนไปยังเสาโทเท็มทั้ง 7 ต้น พอถึงผมก็ตะโกนใส่พื้นดินทันที

“ผู้อาวุโสหยุนเฉิน คุณออกมาได้แล้วหละ พวกเราฆ่าเจ้ามังกรนั่นไปแล้ว ไม่มีใครสามารถคุมขังท่านได้อีกแล้ว”

ทันใดนั้นพื้นก็สั่นใหวรุนแรง พร้อมกับมีสัตว์จักรกลที่เหมือนตะขาบพุ่งออกมา และมีชายชรานั่งอยู่บนหลังของมัน ร่างของเขาเป็นกิ่งโปร่งแสง เพราะเขาไม่มีร่างกาย เขามองมายังผมพลางกล่าว

“เจ้าหนุ่ม เจ้าสามารถฆ่ามันได้จริงๆ ข้าจะขอพูดแทนผู้คนจากมอฮิสทั้งหมด ว่าพวกเราขอบคุณเจ้ามากจริงๆ ”

ผมพยักหน้า

“ไม่มีปัญหา ที่จริงยังมีบางอย่างที่ผมยังทำไม่สำเร็จอยู่……มันจะเป็นไปได้ไหมที่ร่างกายของท่านจะสามารถคืนชีพได้?”

“ไม่….”

‘หยุนเฉิน’ยกหัวของเขาขึ้น พลางหัวเราะอย่างผิดหวัง

“พอคิดถึงมันแล้ว มอฮิสของเราเคยกล่าวว่าทุกอย่างจะทำเพื่อความสงบและไม่ปรารถนาสงคราม แต่ด้วยคำสั่งพวกเราต้องจำยอมทำสงครามกับเหล่ามังกร แต่สุดท้ายพวกเราก็ต้องแพ้ อย่างไรก็ตาม ข้าก็ไม่เสียใจหรอกนะ พวกเราต้องสู้แม้จะไม่อยากสู้ก็ตาม เพื่อปกป้องดินแดนแห่งนี้ เมืองมอฮิสของเราจะยอมรับผลที่ตามมาทั้งหมด แม้ผลที่ว่ามันจะเป็นการถูกทำลายล้างก็ตาม”

หลังจากที่เขากล่าว ร่างกายของผู้เฒ่า’หยุนเฉิน’ก็สั่นสะท้าน และสัตว์จักรกลของเขาก็ค่อยๆ ลอกเปลือกของมันอก เขามองมัยผมพลางยิ้มบางๆ

“ไม่ต้องกังวลไป ชีวิตของข้ามาถึงจุดสุดท้ายแล้ว เด็กน้อยเอ๋ย เจ้าช่างเป็นนักดาบที่กล้าหาญนัก แม้แต่เพื่อนเก่าของข้ายังยอมเกิดใหม่เพื่อติดตามเจ้า นั่นหมายความว่าเจ้าได้รับความเชื่อใจจากมันแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าจะมอบสมบัติชิ้นสุดท้ายของเมืองมอฮิสให้แก่เจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะสืบทอดสมบัติและเจตนารมของม่อจื่อต่อไปและเผยแพร่ “Universal Love” ไปทั่วทุกหลแห่ง”

TL Note: ใครที่อยากรู้นะครับไม่รู้ว่าจะแปลว่าไรดีมันเป็นปรัชญาอะไรประมาณนั้น, http://en.wikipedia.org/wiki/Mohism

ฟุบบบบบบ

‘หยุนเฉิน’โบกมือไปมา แล้วโยนหนังสือทักษะสีดำเล่มหนึ่งมาให้ผมบนหน้าปกของมันเขียนว่า “คําภีร์เพลิงแห่งมอฮิส”

มันเขียนด้วยตัวอักษรที่สวยงามทีเดียว

ในที่สุด!!! นี่คือรางวัลสุดท้ายของเควสที่ทำมาเพื่อผม คําภีร์เพลิงแห่งมอฮิส!!!

“เจ้าหนุ่ม ข้าต้องไปแล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะรักษาหัวใจที่บริสุทธิ์ของเจ้าไว้ และไม่หลงผิดไปกับพลังอำนาจซะละ”

เสียงของเขาค่อยๆ เบาลงและเบาลงและหิมะในชั้นสี่นี้ค่อยๆ เข้าปกคลุมร่างของเขาและพาเขาลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ไกลออกไป ไกลออกไป ตะขาบกลก็ร้องออกมาอย่างน่าสงสารแล้วร่างก็สลายกลายเป็นฝุ่นไป ทั้งสองต่างหายไปในเวลาเพียงเสี้ยววินาที เหมือนกับว่าพวกเขาไม่เคยอยู่ตรงนี้มาก่อน

ผมยืนขึ้นและมองไปยังจุดที่ผู้อาวุโส’หยุนเฉิน’เคยอยู่ มือของผมกำคําภีร์เพลิงแห่งมอฮิสไว้แน่น’ว่านเอ๋อ’วางมือบนไหล่ของผมพร้อมกับกระซิบแผ่วเบา

“เป็นคนที่น่าสงสารจริงๆ อาจารย์ของนายพึ่งออกมาได้แต่เขาก็ต้องหายไปตลอดกาล อย่างไรก็ตามเขายังหลงเหลือเทพพยัคฆ์กับคําภีร์เพลิงแห่งมอฮิสไว้ให้นาย รักษามันดีๆละ อย่าลืมเรียนรู้เกี่ยวกับUniversal Love ด้วยและห้ามทำร้ายผู้อื่น….”

‘ตงเฉิงเย่ว’อดที่จะหัวเราคิกคักไม่ได้

“เรียนรู้เกี่ยวกับ Universal Love และห้ามทำร้ายผู้อื่น ถ้านายใช้ทฤษฏีนี้ในการเอาชนะหัวใจสาวๆ หละก็ มีหวังนายถูกคนอื่นคาบไปกินก่อนนะซิ”

ผมใบ้รับประทานไปเลย

“ตงเฉิง เธอคิดบ้าอะไรของเธอ..”

‘ตงเฉิงเย่ว’กอดแขนของ’ว่านเอ๋อ’ทันที

“หืมมม หรือว่ามันไม่จริง?หวางซีเฉิงคนนั้นสนใจว่านเอ๋อจริงๆ นะ”

ตาของ’ว่านเอ๋อ’เบิกกว้างขึ้น

“เงียบไปเลยตงเฉิง!!”

‘มัทฉะ’หัวเราะผสมโรงทันที

“บอสส ทำไมไม่ดูข้อมูลในหนังสือนั่นหละ พวกเราก็อย่างรู้เหมือนกันนะ ของรางวัลหลักของเควสนี้นะ พวกเรายังไม่เคยเห็นมาก่อนเลยด้วย”

ผมพยักหน้า ทันใดนั้นหนังสือมันก็หายไปจากมือของผม แตกออกเป็นเศษเสี้ยวนับล้าน พุ่งเข้าสู่ร่างกายของผม ในขณะเดียวกันผมก็ได้รับทักษะใหม่ถึง 5 ทักษะบทเรียนเทคนิคจักรกลแห่งม่อฮิส

(คําภีร์เพลิงแห่งม่อฮิส)

【พิภพเต่าดำ】 (S) :ร่างรูปลักษณ์ของน้ำใต้ดินขึ้นมา ทักษะประเภทกับดัก; ลดความเร็วของเป้าหมายในขณะที่อยู่ในพิภพเต่าดำ 70% ต้องการระดับ: 50 ใช้การ์ดกองทัพทหารของพระเจ้า 1 ใบต่อครั้ง

【วิญญาณนักรบ】(S) :เรียกทหารออกมาจู่โจมศัตรู ต้องการระดับ: 50 ใช้การ์ดกองทัพทหารของพระเจ้า 2 ใบต่อครั้ง

【เคลื่อนย้ายเจ็ดดารา】(S) :นำผู้เล่นเคลื่อนย้ายจากจุดหนึ่งไปยักอีกจุดหนึ่งในตำแหน่งของเจ็ดดารา(กลุ่มดาวกระบวยนั่นแหละ)ใช้ได้แค่ 100 ครั้ง. ต้องการระดับ: 60 ใช้การ์ดกองทัพทหารของพระเจ้า 3 ใบต่อครั้ง

【หน้าไม้มังกรฟ้า】(SS) : เรียกเครื่องยิงขนาดใหญ่ออกมา มันสามารถยิงได้ต่อเนื่อง พลังโจมตีเป็น 90% ของผู้ใช้ ต้องการระดับ: 80 ใช้การ์ดกองทัพทหารของพระเจ้า 50 ใบต่อครั้ง

【รถถังสายฟ้าทลายโลกา】(SSS) : เรียกเครื่องยิงขนาดใหญ่ออกมา มันสามารถใช้พลังสายฟ้าที่มีพลังทำลายล้างสูงได้ต้องการระดับ: 100ใช้การ์ดกองทัพทหารของพระเจ้า 100 ใบต่อครั้ง.

TL: การ์ดกองทัพทหารของพระเจ้า จะอธิบายตอนหน้า

……ผมมองไปยังทักษะทั้งหมดพลางพึมพำ

“ตอนนี้ผมใช้ได้แค่สามทักษะ”

ว่านเอ๋อตาส่องประกายทันทีพร้อมหัวเราะ

“【พิภพเต่าดำ】เป็นทักษะลดความเร็ว 【วิญญาณนักรบ】เป็นทักษะโจมตีแบบ AOE ส่วน【เคลื่อนย้ายเจ็ดดารา】หืมม เป็นทักษะที่โกงเวอร์จริงๆ มันสามารถหายตัวได้ไม่หยุดถึง 100 ครั้ง ถ้านายใช้สมองหน่อย นายสามารถฆ่าได้ทุกคนแน่นอน ต่อให้เป็นผู้เล่นระดับโปรก็เถอะ”

‘มัทฉะ’หัวเราะเบาๆ

“อันที่จริงทักษะที่โกงจริงๆ มันเป็นสองทักษะหลังมากกว่า มันคืออาวุธสงคราม สามารถใช้มันในก็ป้องกันก็ได้ หึ ทีนี้แหละชื่อของพี่ใหญ่เซี่ยวเหยาจะดังไปทั่วโลกแน่นอน ถ้ามันเป็นทักษะที่โจมตีเป็นกลุ่มขนาดใหญ่นะ ทักษะนี้จะเป็นทักษะหลักของเราเลยทีเดียว ของรางวัลสำหรับเควสระดับ SSS มันช่างสมน้ำสมเนื้อจริงๆ”

‘ตงเฉิงเย่ว’เกราะกุมไม้เท้าของเธอพลางมาคลอเคลียที่ด้านข้างของผม

“ดีหละ ฉันจะติดตามพี่ใหญ่เซี่ยวเหยาตลอดไป!!…”

ผมกัดฟันแน่น

“เอาหละ อตนนี้อย่างพึ่งดีใจไป พวกเรายังต้องกลับไปรายงานเควสอีก ทุกคนออนไลน์มากันนานแล้ว พวกเราจะไม่ไหวกันแล้ว เราต้องนอนเร็วที่สุด”

“โอเคคคค”

กลุ่มของพวกเราปีนออกมาด้านนอกวิหารมังกรด้วยอาการเจ็บปวด ที่ด้านนอก คาลและหลิวซวงกำลังรอพวกเราอยู่ หลิวซวงมองมายังเทพพยัคฆ์ที่ผมอุ้มอยู่พลางยิ้ม

“เยี่ยม เยี่ยมมาก พวกเจ้าทำสำเร็จตามที่ข้าคิดไว้”

‘คาล’ตกตะลึง

“นั่นมัน…..ไม่ใช่ว่ามันเป็นเทพพิทักษ์ของผู้อาวุโสหยุนเฉินหรอกรึ เยี่ยมมากเจ้าเด็กเหลือขอ พวกเจ้ามาไกลถึงขนาดสังหารนักบุญมังกรแห่งเงาได้ ไม่น่าเชื่อจริงๆ”

‘หลิวซวง’ยิ้มด้วยความภูมิใจเต็มเปี่ยม

“ตอนนี้เจ้าเสียใจงั้นเหรอที่ไม่รักษาลูกศิษย์ดีๆแบบนี้ไว้ หืมม ตอนนี้เขาเป็นลูกศิษย์ของข้าแล้ว ในอนาคตเขาจะกลายมาเป็นหนึ่งในอัศวินของเมืองมังกร เขาไม่มีอะไรกับผู้พิทักษ์สุสารแบบเจ้าแล้ว”

“อย่าโม้ให้มันเร็วไปเหอะ”

‘หลิวซวง’จ้องมองไปที่เขาด้วยแววตาเยียบเย็นส่งผลให้คาลต้องรีบก้มหน้าต่ำทันที……

ผมเดินนำหน้าไปพลางกล่าว

“อาจารย์ ท่านจะมอบของรางวัลเควสให้พวกเราได้หรือยัง?”

“อ้อใช่ๆ แน่นอนๆ”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments