ตอนที่แล้วตอนต่อไปTL By KGG QC By rinkiechang
///////////////////
ณ โรงอาหารที่ 2 ของมหาลัยหลิวหัว ข้าวเย็นวันนี้นั้นเป็นซุบไก่ใส่เห็ด ซุปปลาเงิน แล้วก็ ผัดเปรี้ยวหวานไก่ เบื้องหน้าของผมตอนนี้นั้นมีถ้วยที่อดีตเคยมีข้าวอยู่ในนั้น 3 ถ้วย และถ้วยที่ 4 กำลังจะไปเป็นรายต่อไป ซึ่งจุดมุ่งหมายของข้าวพวกนั้น ก็คือท้องของผมนั่นเอง ‘ตงเฉิงย่วย’มองมาที่ผม เธอขมวดคิ้วแล้วพูดว่า
“ว่านเอ๋อ ฉันรู้สึกว่าในอนาคตข้างหน้านี้…. แม้แต่เราสองคนร่วมมือกัน ก็ไม่สามารถเลี้ยงเจ้าหมูอ้วนหลี่เซียวเหยาคนนี้ไหวนะ เธอคิดแบบนั้นไหม?”
“ถ้าถึงเวลานั้น….”
‘ว่านเอ๋อ’ยิ้มหวาน
“ถ้าเราต้องจนถึงขนาดนั้น ฉันก็คงจะกลับไปร้องเพลงแหละ แบบนั้นก็น่าจะพอเลี้ยงหมอนี่ไหว….”
ผมหยิบแก้วน้ำดื่มขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ๆแล้วพูดตอบกลับไปว่า
“ไม่จำเป็นหรอกครับ ผมดูแลตัวเองได้ แฮะๆ รายได้จากแผนที่ Dragon Temple นั้นพอที่จะเลี้ยงผมได้ครึ่งปีเลยนา”
“น่าเสียดายนะ ด้วยเลเวลของนายแล้ว นายอย่าฝันเลยว่าจะได้เป็นอันดับ 1 ของเมืองป้าฮวง…”
‘ตงเฉิงย่วย’พูดด้วยน้ำเสียงแค้นเล็กๆ
“หลังจากที่เก็บเลเวลอย่างเมามันกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว นายยังไม่ได้เป็นอันดับ 1 เลย บางทีฉันคิดว่ามันคงจะเป็นแค่เพียงฝันลมๆ แล้งๆ แหละนะ….”
ผมขัดเธอว่า
“ตอนนี้ เจี้ยนเฟิงหาน เป็นอันดับ 1 ใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว หมอนั่นเลเวลตั้ง 65 เลยนะ บ้าไปแล้วชัดๆ!”
‘หลินว่านเอ๋อ’หยิบมือถือขึ้นมาปลดล๊อคด้วยนิ้วของเธอ ก่อนจะหันมาหาผมแล้วยิ้มให้ แล้วพูดว่า
“ดูจากข้อมูลที่เชื่อถือได้ เมื่อ 72 ชั่วโมงก่อนที่เจี้ยนเฟิงหานหายตัวไป ฉันไม่รู้ว่าเขาไปไหนจนถึงวันนี้ที่เขา SimpleFallen WolfFuchen แล้วก็ Goodbye-Tear ได้ทำภารกิจระดับ SS เป็นภารกิจช่วยเหลือ เจ้าหญิง ชวยหลิน ซึ่งเธอเป็นเจ้าหญิงจากเมืองเทียนหลินที่หายสาบสูญไป ทราบกันว่าเธอถูกขังอยู่แถวๆ Ice Ridge Mountain ราชาหลัวเล่ยนั้นส่งพวกขุนนางไปช่วย เจี้ยนเฟิงหานก็นำลูกทีมของเขาไปช่วยด้วยเช่นกัน และเขาก็ได้กำจัดบอสของเควสนั้น ทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์มาก ส่งผลให้เลเวลของเขานั้นเพิ่มขึ้นไว และยิ่งไปกว่านั้น รวมไปถึงอุปกรณ์สวมใส่ด้วย อุปกรณ์ที่มีระดับมากกว่าระดับม่วงตอนนี้ปรากฏขึ้นมาแล้ว….”
“ว่าไงนะ?”
ผมตกใจมาก
“เธอไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม? อาวุธระดับ Emperor ดรอปแล้วหรอ?”
“ใช่แล้ว!”
‘หลินว่านเอ๋อ’พยักหน้า ก่อนจะมองไปที่ค่าสถานะของอาวุธนั้น หลังจากนั้นเธอก็ยื่นมาให้ผมดู มันเป็นดาบสองคมหรูหรา ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ของมัน สถานะของมันก็สุดยอดไปเลยเช่นเดียวกัน
【ดาบเพลิงเมฆา】(อาวุธ Superior ระดับ Emperor) พลังโจมตี : 935-1350 ……
“บ้าไปแล้ว….”
ผมขมวดคิ้ว
“พลังโจมตีสูงอะไรแบบนี้ เจ้าบ้าเจี้ยนเฟิงหาน มันจะดวงดีเกินไปแล้ว!”
‘หลินว่านเอ๋อ’ยิ้ม
“ดังนั้นตอนนี้ ดาบ ฝนเยือกแข็งของนายก็ถูกแซงหน้าไปแล้ว ไม่เพียงแค่นั้น ลูกทีมของเจี้ยนเฟิงหานเองก็ได้รับขวานระดับ Emperor เช่นเดียวกันนะ ค่าสถานะของมันก็แซง Haunted Twin Blade Battle Axe ไปเรียบร้อย แล้วก็ตกไปอยู่ในเมืองของ Fallen Wolf เช่นเดียวกัน หลังจากที่พวกเขาผ่านเควสระดับ SS มาได้แล้ว ตอนนี้พวกระดับสูงของ Vanguard ก็น่ากลัวมากขึ้นกว่าเดิมแล้วล่ะ…”
‘ตงเฉิงย่วย’ยิ้มให้ผม
“เป็นไงล่ะ? นี่ถือเป็นคำท้ารึเปล่าคะ คุณหัวหน้ากิลด์?”
ผมตอบกลับไปแบบหงุดหงิดเล็กน้อย
“ไม่เลย ต่อให้พวกนั้นจะแข็งแกร่งก็ไม่เกี่ยวอะไรกับ [Zhan Long] เนื่องด้วยว่า เป้าหมายของเรานั้นคือการเก็บเลเวล ตอนนี้พวกเราเพียงแค่ต้องหลีกเลี่ยงการขัดแย้งกับพวกเขาไปก่อน และยังไงตอนนี้ มันก็ยังมีกิลด์[Prague] อยู่ ดังนั้นพวก [Vanguard] จะทำอะไร ก็ต้องระวังอยู่ดี แน่นอนว่าเจี้ยนเฟิงหานก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมายุ่งกับกิลด์ของเราอยู่แล้ว ต่อให้เขาทำ มันก็เป็นแค่การเหวี่ยงแหพังๆจับปลาตายเท่านั้นแหละ นี่เป็นแค่เกมนะ ไม่มีทางทำให้ [Zhan Long] เจ็บปวดได้หรอกน่า”
“อืม พูดได้ดี….”
‘หลินว่านเอ๋อ’ยิ้ม
“แล้วคืนนี้นายตั้งใจจะทำอะไรล่ะ?”
ผมคิดอยู่ครู่ก่อนจะตอบกลับไปว่า
“ผมจะหาที่เก็บเลเวลดีๆ เพื่อเก็บเลเวล ตอนนี้ผมต้องเก็บเลเวล เสือเพลิงเทพของผมให้ถึงเลเวล 50+ ก่อน แบบนั้นแล้วมันถึงจะมีพลังเพียงพอ เนื่องจากว่ามันมีค่า Stamina เยอะ แล้วตอนนี้ โบโบ้ของผมก็ตกยุคไปแล้ว บางทีผมคงจะหาเวลาขายมันไปล่ะนะ เพราะมันเองก็ยังพอมีค่าอยู่ดี…”
‘ว่านเอ๋อ’ได้ยินแล้วตอบกลับว่า
“อืม พลังโจมตีของ Bee Overlord นั้นก็แข็งแกร่ง แน่นอนว่าผู้ที่เป็น Healers นั้นต้องการหาสัตว์เลี้ยงแบบนี้อยู่ ฉันเชื่อว่าต้องขายได้ดีแน่ๆเลยล่ะ”
‘ว่านเอ๋อ’พูดต่อ
“แล้วก็นะ พูดถึงอาวุธ ฉันว่านายควรจะพาวิธีใช้ดาบ Ancient Spirit ให้ได้นะ เพราะฉันมีความรู้สึกว่า เจ้านี่มันระดับเทพแน่ๆ และแน่นอนว่าเทพกว่าดาบเพลิงเมฆาของเจี้ยนเฟิงหานด้วย….”
ผมหัวเราะแล้วตอบกลับไปว่า
“เข้าใจแล้วครับ เข้าใจแล้ว ถ้าคุณหนูพูดถึงขนาดนี้แล้ว มันต้องเทพแน่ๆครับ”
ในคืนนั้น ผมส่งหญิงสาวทั้งสองกลับหอพักของพวกเธอ จากนั้นผมก็เดินกลับหอของผม
“เอาล่ะ! ได้เวลาเก็บเลเวลสัตว์เลี้ยงตัวใหม่แล้ว!”
“ฟุ้บ!”
หลังจากที่กลับเข้าเกม ผมก็มอบ ‘Void Fan’ ให้กับ ‘Fox’ เพื่อให้เขาเอาไปขาย ส่วนเงินที่ได้มาก็แบ่งไปยังหัวหน้าทีมแต่ละหน่วย และก่อนที่ผมจะออกเดินทาง ผมก็จัดเตรียมยาให้เรียบร้อย วันนี้ผมตั้งใจจะไปยังที่ปกติของผม Firestone Canyon นั่นเอง เพราะว่าที่นั่นเป็นที่ ที่มีมอนสเตอร์เลเวลสูงที่สุดอยู่ เหมาะสมแล้วที่จะฝึกเสือน้อยของผม
อัญเชิญ! แสงสีขาวลักษณะฟองผุดขึ้นมา หลังจากนั้นก็มีเสียงครางของเสือออกมาพร้อมกับตัวของมันที่ดูนุ่มนิ่มปรากฏขึ้นใจกลางของวงเวทย์อัญเชิญ มันกระโดดมาที่ขาของผมแล้วเอาหัวของมันมาคลอเคลีย
ผมก้มลงอุ้มมันขึ้นมาแล้วเดินออกจากเมือง เมื่อผมเดินมาถึงป่าป้าฮวง ผมก็หยิบดาบของผมขึ้นมา และแน่นอนว่า ไม่มี มอนสเตอร์ตัวไหนที่จะต้านทานพลังของผมได้ แน่นอนว่าผมจัดการพวกมอนสเตอร์ที่ขวางทางทิ้งจนหมด เมื่อผมเดินทางมาถึงยัง Firestone Canyon แล้ว เจ้าเสือน้อยของผมก็มีเลเวลอยู่ที่ 24 เลเวลมันขึ้นไวมากๆ
แถมร่างกายมันก็โตขึ้นเรื่อยๆด้วย จากขนาดเล็กเท่าลูกฟุตบอล ตอนนี้ใหญ่ประมาณ 1 เมตรได้แล้ว ทำให้ความน่ารักมันลดลงไป 50% ถึงอย่างนั้น ความเท่ของมันก็เพิ่มขึ้นมา 50% ด้วย และนั่นแหละ คือสิ่งที่ผมต้องการ
ใครล่ะ มันจะต้องการหวังพึ่งความน่ารักในการฆ่าศัตรูกันเล่า เจ้าราชาสัตว์แบบนี้ มันเหมาะแก่รูปลักษณ์ที่น่าเกรงขามอยู่แล้ว ผมเปิดค่าสถานะของมันขึ้นมาดู ผมแอบตกใจเล็กน้อย ค่าการเจริญเติบโตของมันเหนือกว่าโบโบ้มาก พลังโจมตีของมันตอนนี้แซงโบโบ้ไปแล้ว
【เสือเพลิงเทพ】(บอสระดับวาลคิรี่) เลเวล: 24
พลังโจมตี: 960-1200
พลังป้องกัน: 720
HP: 1920 MP: 624
สกิล:【กรงเล็บเพลิง】【เกราะเพลิง】【เสียงคำรามดุร้าย】【ดูดเลือด】【ระเบิดพลังไฟ】
ดูจากค่าพลังแบบนี้แล้ว ถ้ามันถึงเลเวล 60 เจ้านี่น่าจะมีพลังโจมตีราวๆ 3000 แล้วก็พลังป้องกันประมาณ 1800 ได้ ค่า HP น่าจะประมาณ 5000 แล้วก็เป็นถึงสัตว์เลี้ยงระดับบอสวาลคิรี่แล้ว มันน่าจะมีค่าสถานะแซงผมไปได้เลยด้วยซ้ำ ไม่แปลกใจเลยที่สัตว์เลี้ยงระดับสูงถึงได้ขายกันแพงในตลาด หลังจากคำนวณแล้ว ผมก็ได้ตัวแปรของการเติบโตของ เสือเพลิงเทพของผม ซึ่งก็น่าจะประมาณนี้….
พลังโจมตี = เลเวล * 20 * (1+100%) ถึงเลเวล * 25 * (1+100%)
พลังป้องกัน = เลเวล * 15 * (1+100%)
HP = เลเวล * 40 * (1+100%)
MP = เลเวล * 13 * (1+100%)
ด้วยความที่มันมีค่าพรสวรรค์อยู่ที่ 100% จึงเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก ดูเหมือนว่าสัตว์เลี้ยงที่มาจากไข่น่าจะมีค่าพรสวรรค์ราวๆ 90%-100% คาดการณ์เองนะและโชคของผมก็ดีมาก ผมได้รับค่า 100% แถมยังมีอีก 5 สกิล และผมคิดว่าเมื่อมันเติบโตเป็นวัยรุ่นแล้ว มันน่าจะแข็งแกร่งถึงขั้นสู้ด้วยตัวเองได้แล้ว และผมคิดว่ามันน่าจะเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เลเวล 50 ล่ะนะ ……
เมื่อผมมาถึงที่ Firestone Canyon แล้ว ผมก็เริ่มจัดการพวกมอนสเตอร์ที่ผมเห็น เพื่อช่วยเพิ่มเลเวลของเสือน้อยของผม และมันก็ถึงเลเวล 37 ประมาณ 2 ทุ่มพอดี ตอนนี้ความฝันของผมก็ใกล้เข้ามาทุกที ระหว่างที่ผมเดินทางเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆนั้น ผมก็เห็นกลุ่มคน มองไกลๆแล้วผมก็เห็นสัญลักษณ์ของกิลด์หลายกิลด์อยู่ที่แขนของเขา ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะเถียงอะไรกันอยู่ล่ะมั้งนะ?
“ฉัวะ!”
ผมกระโดดลงไปยังพุ่มไม้ สกิล[Camouflage] ทำงานโดยอัตโนมัติ ผมเรียกเสือน้อยของผมกลับ เพราะสิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้คือ ต้องทราบสถานการณ์ก่อน พื้นที่แห่งนี้นั้นดูจะเต็มไปด้วยผู้คน ผมมองไปยังแผนที่ก็ได้รู้ว่า ป่าแห่งนี้นั้นเป็นสวนขอบของภูเขาโบราณที่มีชื่อว่า ‘Arctic Fox Forest’ และมันก็ไม่ห่างจากกลุ่มผู้เล่นเท่าไรนัก ประมาณ 100 เมตรได้
ตอนนี้ผมก็ยังคงยืนนิ่งในพุ่มไม้เพื่อมองดูสถานการณ์ต่อไป กลุ่มคนตอนนี้นั้นแบ่งเป็นสองฝั่ง ฝั่งแรกคือกลุ่มของพวกกิลด์[Vanguard] ประกอบไปด้วย ‘Fallen Wolf’ ที่กำลังถือขวานคู่ใจเล่มใหม่ของเขา ขวานนั่นเปล่งแสงสีส้มออกมา เขาเหวี่ยงมือแล้วพูดว่า
“เมื่อตอนต้นอาทิตย์ที่แล้ว พวกเรา [Vanguard] นั้นได้มาเก็บเลเวลที่ Arctic Fox Forest ดังนั้นไม่ว่าพวกแกจะพูดยังไง พวกแกก็ไม่รอดอยู่ดี”
อีกด้านหนึ่งเป็น Berserker เลเวล 60 ที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นคลาส 3 แล้ว เขาถือขวานสีม่วง ข้อความบนหัวของเขาน่าจับตามองมาก
‘Misty Clouds’ Lv 60 Golden Berserker เมือง :เมืองป้าฮวง กิลด์: Misty Palace ตำแหน่ง : หัวหน้ากิลด์ ……
“พลั่ก!”
ขวานของ ‘Misty Cloud’ ได้ถูกปักลงไปบนพื้น เขามองไปยัง ‘Fallen Wolf’ แล้วพูดว่า
“แบบนี้หมายความว่า คนที่มาถึงที่นี่ก่อนจะได้สิทธิก่อนงั้นหรือ? ถ้าเช่นนั้นแล้ว ที่แผนที่ Firestone Canyon แห่งนี้ก็น่าจะเป็นของ เซียวเหยาจื้อไจ้สิ? เพราะข้าได้ยินมาว่าเขาเป็นคนพบที่แห่งนี้ก่อน ใช่หรือไม่?”
‘Fallen Wolf ‘ กัดฟันแน่น
“ท่านพี่ Misty Cloud ทำไมถึงพูดแบบนี้กันเล่า พี่ตั้งใจจะยืนยันที่จะขวางทาง [Vanguard] งั้นหรือ? ไม่ใช่ว่ากิลด์ของพี่เพิ่งตั้งขึ้นไม่กี่วันก่อนหน้านี้หรอ? ลูกกิลด์ของพี่เองก็ยังไม่มีประสบการณ์การต่อสู้เลยนา แถมยังมีสมาชิกไม่ถึง 1000 แบบนี้แล้วยังจะกล้าพาคนไม่กี่ร้อยมาตายด้วยกันอย่างนั้นหรือ? ถ้างั้นก็เข้ามาเลย ผมจะแสดงให้ดูว่านรกที่แท้จริงมันเป็นยังไง!”
‘Misty Cloud’ ไม่ได้ตอบโต้ไปอย่างฉุนเฉียว แต่กลับเยาะเย้ยว่า
“ขอโทษนะ? ข้าน่ะเพิ่งแจ้งให้หัวหน้ากิลด์[Ruined Bones] และ [Wind of Battle] ให้ทราบ และในอีก 20 นาทีข้างหน้า พวกเขาจะพาคนมาช่วยเราที่นี่ นั่นก็เพราะว่า ข้าได้ชวนพวกเขามายังแผนที่ Arctic Fox Forest เพื่อล่าอยู่แล้ว… เจ้าหนู Fallen Wolf เจ้าคิดสินะว่า กลุ่มคนเพียงแค่ 400 คนจะเพียงพอน่ะ? [Vanguard] อาจจะไม่ใช่กิลด์เล่นๆ แต่เจ้าคิดว่าจะสามารถรังแกกิลด์ที่เพิ่งสร้างใหม่ได้ง่ายๆงั้นหรือ?”
‘Fallen Wolf’ หัวเราะแล้วตอบกลับไปว่า
“ถ้างั้นจะเอาแบบนี้ใช่ไหม? ถ้ามีคนในเมืองป้าฮวงโง่พอที่จะมายั่วยุพวกเรา ก็เตรียมพร้อมที่จะเจอสงครามได้เลย พี่ Misty Cloud หวังว่าพี่จะไม่เสียใจกับการกระทำครั้งนี้ภายหลังนะ ผมขอตัวกลับไปบอกเจี้ยนเฟิงหานก่อนก็แล้วกัน กลุ่มคน 5000 คน ระดับสุดยอดของกิลด์จะมาที่นี่ในครึ่งชั่วโมง ให้ผมแนะนำ พวกพี่ควรจะระดมพลแล้วหนีหัวซุกเข้าป่าไปนะ เพราะผมไม่อยากให้สีของแม่น้ำเปลี่ยนเป็นสีเลือดน่ะ เพราะที่แห่งนี้นั้นไร้ค่าไม่คู่ควรต่อการที่จะมีเลือดปนเปื้อน ว่างั้นไหม?”
“ที่แห่งนี้ไม่คู่ควรงั้นรึ?”
‘Misty Cloud’ หัวเราะ
“เจ้าหนู Fallen Wolf เจ้าคิดว่าคนอื่นนั้นโง่หรอ? ที่แห่งนี้อาจจะไร้ค่าไม่คู่ควร แต่ว่าเหมืองในใจกลางของแผนที่นั้นมีคุณค่านับไม่ถ้วน ที่เหมืองนั้นมี Blood Gold เป็นแร่ระดับสูงที่ใช้สร้างอาวุธและลูกธนูระดับสูง และแน่นอนว่าผู้มีมันครอบครองนั้น จะสามารถควบคุมการรบได้ เจ้าคิดเหรอไงว่าพวกเราไม่รู้ถึงเรื่องนี้น่ะ?”
สีหน้าของ ‘Fallen Wolf’ เปลี่ยนไป
“ถ้างั้นก็ไม่มีทางที่จะจบเรื่องนี้โดยสันติแล้วสินะ ถ้างั้นเตรียมใจไว้ได้เลย ในอีกครึ่งชั่วโมง ที่แห่งนี้จะเป็นสมรภูมิรบ!”
ที่มา: