I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 258 ชางเฉิง

| Zhan Long | 1422 | 2358 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดย SanaKunG เรียบเรียง Kradiz

/////////////////////////

ผมกลับไปที่สตูดิโออีกครั้งพร้อมกับแขนที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผลกับเสื้อที่มีรอยเลือด ผม เลือกที่จะนั่งลงถัดจาก ‘ว่านเอ๋อ’ และพยายามใช้ร่างของเธอ บังส่วนที่บาดเจ็บของผม การสัมภาษณ์ดำเนินขึ้นอีกครั้ง โดย’เฟยเอ๋อ’ ซึ่งเธอสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ อย่างดีเยี่ยม

ถึงแม้ว่าพึ่งจะเกิดการต่อสู้ที่ด้านนอกห้องสัมภาษณ์ซึ่งพรากชีวิตผู้คนไปหลาย คน แต่เธอยังสามารถทำใจให้สงบอยู่ได้ เธอสามารถดำเนินการสัมภาษณ์ต่อจนเสร็จสมบูรณ์ ……..

ช่วงสายหลังการสัมภาษณ์เสร็จสิ้น ในระหว่างที่พวกเรากำลังดูการตัดต่อ

‘ว่านเอ๋อ’ ขยับริมฝีปากของเธอ

“เสื้อของ หลี่เซียวเหยา มีรอยเลือดอยู่นิดหน่อย แต่มันยังสามารถมองเห็นได้”

‘เฟยเอ๋อ’ หัวเราะ

“อย่ากังวลไปเลย มันเป็นแค่รายละเอียดเล็กน้อย เราสามารถบอกว่ามันเป็น แค่สีของเสื้อที่เขาใส่เท่านั้น”

‘ว่านเอ๋อ’ พยักหน้า

“แบบนั้นก็โอเค!!”

ขณะที่เธอพูดเธอมองผมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวว่าผมจะเป็นอะไรไป เธอจับ ไปที่แขนซ้ายของผมแล้วพาเดินออกไปจากตึก ZGTV เธอขึ้นรถในตำแหน่งคนขับแทนผม ที่ขับรถได้ไม่สะดวกนัก โดยที่ด้านหลังของพวกเราก็มีรถคอยติดตามอยู่ 2 คัน

ซึ่งทั้งคู่ต่าง เป็นคนของ ‘หลินเทียนหนาน’ ตอนนี้เขาสั่งเพิ่มกำลังป้องกันให้มากขึ้นหลังของเกิดเหตุการณ์ เมื่อบ่ายนี้

“ก๊อก ก๊อก…”

‘หวางซิ่น’ เดินเข้ามาที่รถและเคาะหน้าต่าง ผมค่อยๆเปิดหน้าต่างอย่างช้าๆและหัวเราะ

“หวางซิ่น เกิดอะไรขึ้น”

“มันก็…”

‘หวางซิ่น’ ขมวดคิ้วของเขา

“หลี่เซียวเหยา อาการบาดเจ็บของนายมันส่งผลต่อการ เคลื่อนไหวหรือเปล่า”

“ทำไมหรอ?”

“มาที่ออฟฟิศของฉันตอน 6 โมงเย็น”

‘หวางซิ่น’ พูดด้วยสีหน้าซีเรียส

“คืนนี้เราจะออกปฏิบัติภาระกิจกัน ถ้าไม่มีนายเข้าร่วม เราคงจะทำมันไม่สำเร็จ”

“โอเค เข้าใจแล้ว”

“เยี่ยม!!”

รถค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป ‘ว่านเอ๋อ’ เอียงคอมาทางผมแล้วพูดขึ้น

“หวางซิ่น เป็นผู้บังคับบัญชาการของตำรวจไม่ใช่หรือ? ทำไม…ทำไมเขาต้องคุยกับนายเกี่ยวกับเรื่องเมื่อกี้ด้วย”

ผมตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ว่านเอ๋อ ผมกลับไปทำงานให้กรมตำรวจของ หางโจว แล้ว”

“อ่ะ…”

‘ว่านเอ๋อ’ หยุดรถของเธอทันทีแล้วหันมาทางผม ดวงตาของเธอแสดงอาการช๊อคออกมา เธอ กัดริมฝีปากแล้วบ่นพึมพำออกมา

“นี่นายคิดว่านายยังอยู่ในอันตรายไม่พอหรือยังไง? นายยัง จะไปยุ่งกับภาระกิจของพวกตำรวจอีก แล้ว…แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนายหล่ะ? ฉันกับ ตงเฉิง จะทำยังไง? นายรู้บ้างหรือเปล่าว่ามีคนกี่คนที่ต้องการจะฆ่านาย?”

ผมยกหัวขึ้นพาดไว้กับเก้ากี้แล้วค่อยๆตอบ

“ว่านเอ๋อ ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก ผมรู้ว่าผม กำลังทำอะไรอยู่ และรู้ว่าสถานการณ์แบบนั้นมันอันตรายแค่ไหน แต่…ผมก็ไม่อยากเห็นผู้ บริสุทธิ์ต้องตาย ผมไม่อยากเห็นพวกชั่วร้ายซ่อนตัวอยู่ในเงามืดและยิ้มอย่างปกติยินดี ชีวิต ของผมมันก็เหมือนดาบ ผมไม่สามารถละทิ้งหน้าที่เหล่านี้เพื่อประโยชน์ของคุณและ ตงเฉิง ได้”

‘ว่านเอ๋อ’ ตากลายเป็นสีแดง น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากดวงตาของเธอ

“ถ้าวันหนึ่งนายตาย ฉัน จะเกลียดนายไปตลอดกาล”

ผมได้แต่นิ่งเฉย ไม่ได้ตอบโต้อะไรเธออีก

….. เรากลับมายังมหาวิทยาลัย และไปทานข้าวด้วยกันกับ ‘ตงเฉิง’.โดยเธอพยายามถามว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไมแขนของผมถึงบาดเจ็บ แต่ผมกับ’ว่านเอ๋อ’ ก็เงียบไม่ตอบคำถามของเธอ ยิ่ง คนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งดีโดยหลังจากเหตุการณ์ทั้งหมด ‘หลินเทียนหนาน’ และ ‘หวางซิ่น’ ก็เข้ามาจัดการ โดยปล่อยข่าวออกไปว่ามีคนลื่นล้มในห้องน้ำ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ

ซึ่งไม่ว่า สาธารณะชนจะเชื่อหรือไม่นั้นมันไม่สำคัญ หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน ผมกลับเข้าสู่เกมอีกครั้ง ร่างของผมก็กลับมายัง เมือง Fire Stone ด้วยการทำงานอย่างหนักและน่าเบื่อหน่ายในที่สุดวิชาปรุงยาของผมก็เลื่อนขึ้นสู่ ระดับ 8 ผมไม่รู้ว่ามีใครที่ขึ้นถึงระดับนี้แล้วหรือยังแต่ผมไม่ได้รับรางวัลหรือค่าเสน่จากการที่ ขึ้นสู่ระดับ 8 เลย

ซึ่งแปลว่าน่าจะมีคนที่ขึ้นถึงระดับนี้ก่อนผมไปแล้วซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ช่วย ไม่ได้ ตอนนี้เพื่อประโยชน์ต่อตัวผมเองทั้งเสื้อผ้าและระดับเลเวลผมต้องยอมแพ้เรื่องปรุงยา ไปก่อน

5 P.M. แสงสีทองก็ปรากฏขึ้นบนตัวพยัคฆ์น้อยของผม ตอนนี้เลเวลของมันขึ้นเป็น 60 แล้ว ค่าสเตตัสของมันเพิ่มขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ และตอนนี้ผมก็ค่อนข้างจะรู้สึกโอเคเช่นกัน ด้วยเลเวล 65 กับ อีก 74% อย่างไรก็ตามมันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ชื่อของผมขึ้นไปอยู่ในบอร์ดของเมือง เมืองป้าฮวง

เรื่องภายนอกเกิดขึ้นมากมายจนทำให้ผมไม่สามารถโฟกัสไปที่การเล่นเกม Destiny อย่างเดียวได้ไม่เหมือน ‘เจี้ยนเฟิงฮาน’ และ ‘เหยียนจ้าวอู๋ซวง’ อย่างไรก็ดี สัตว์ เลี้ยงและดาบของผมก็ยังเหนือกว่าพวกเขา และอย่างน้อยที่สุดตอนนี้ [Zhang long] ก็มีคนมาเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ

เราต้องการแค่ผู้เล่นระดับสูง ไม่ใช่ใครก็ได้เหมือนกับที่ [Wrath of the Heroes] ทำ มันดีกว่าที่ไม่มีเลยหากมีแล้วมันจะทำให้แย่ลง

“Hou…”

เจ้าเสือน้อยตัวโตขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ได้รับแสงสีทอง ตัวของมันดูดุร้ายมากขึ้น มันคำราม เล็กน้อยก่อนที่จะเอาหัวมานัวเนียกับแขนของผม ตอนนี้ขนาดตัวของมันพอๆกับส่วนสูง ของผมไปแล้ว

แต่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือสเตตัสของมัน เทพพยัคฆ์เพลิงเทวะ

(Valkyrie Tier BOSS Rank) Level: 60

Attack: 2400-3000

Defense: 1800

Health: 4800

Mana: 1560

Attack: ★★★★★★★★☆

Defense: ★★★★★★★

Health: ★★★★★★★☆

Agility: ★★★★★★★

Mana: ★★★★★☆

Skills: 【กรงเล็บเพลิง】【เกราะเพลิง】【พยัคฆ์คำราม】【จู่โจมดื่มโลหิต】【เพลิงเทวะทลายทัพ】

ตอนนี้พลังโจมตีของมันขึ้นไปถึง 3000 แล้ว ซึ่งเมื่อบวกกับพลังซ่อนเร้นจากสัตว์เลี้ยงระดับ บอสวาคีรี่พลังโจมตีของมันตอนนี้น่าจะมากกว่า 5000 หน่วย ดังนั้นพลังโจมตีของมันตอนนี้ ก็ไม่ได้น้อยไปกว่าผมตอนนี้เลย พลังป้องกันของมันตอนนี้คือ 1800 ซึ่งสูงพอจะทำให้มัน รอดชีวิตได้ในสงคราม

ซึ่งพวกนักรบเกราะหนักส่วนมากคงไม่สามารถที่จะโจมตีทะลุการ ป้องกันของมันได้ เลือดและพลังเวทมนต์ของมันก็อยู่ในระดับที่ดี โดยรวมแล้วเจ้าเสือน้อย ของผมมันคือเครื่องจักรสังหารดีๆนี่เอง ตราบใดที่ผมยังสามารถควบคุมเจ้าหนูนี่ เขาจะ สามารถทะลุผ่านสมรภูมิและฆ่าได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ

“Ding!” ‘เย่วชิงเชียน’ ส่งข้อความมาหาผม

“พี่เซียวเหยา ฉันมารายงานความคืบหน้าของ [Zhan Long]”

ผมหัวเราะ

“ว่ามาเลย”

ไม่กี่วินาทีต่อมา ‘เย่วชิงเชียน’ ก็ส่งข้อความยาวเหยียดมาให้ผม

“ตอนนี้กิลของเราอยู่ที่ ระดับ 3 กับอีก 27% แต่อีก 4-7 วันเราน่าจะสามารถขึ้นสู่ระดับ 4 ได้ ตอนนี้เรามีสมาชิก ทั้งหมด 975 คน โดยมีเลเวลเฉลี่ยที่ 59.4 นอกเหนือจากนั้น เมื่อตอนบ่ายเราได้ ฆ่าบอสระดับ ม่วงไป 4 ตัวที่ หุบเขากิเลน และได้ของระดับม่วงมา 5 ชิ้น ระดับทอง 4 ชิ้น โดยหลังจากเรา แบ่งสัดส่วนของคนออกเสร็จแล้วพบว่าตอนนี้มีคนอยู่ในกลุ่ม [Zhan Long] 477 คน และ กลุ่ม [Valiant Bravery] 498 คน โดยเรามีคนทั้งหมด 47 คนที่ติดอันดับ Top 1000 ของ CBN อิอิ ตอนนี้กลุ่มของเราเริ่มที่จะแข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว”

ผมพยักหน้าอย่างพอใจ และพูดขึ้น

“เย่วชิงเชียน เธอช่วยผมหาอัตราการพัฒนาของ[Vanguard], [Flying Dragon], [Prague] และ [Wrath of the Heroes] ให้ผมหน่อย ผมอยากได้ข้อมูลของพวกเขา รวมถึงกิจกรรมทั้งหมดที่พวกเขาทำ เพื่อป้องกันการจู่โจมจากพวกเขา”

‘เย่วชิงเชียน’ หัวเราะ

“อิอิ [Vanguard] ตอนนี้ยังคงอยู่รอบๆ Fire Stone Valley ทาง เหนือ ในขณะที่ [Flying Dragon] อยู่ทางตะวันออก ตอนนี้พวกเขาค่อนข้างเงียบและยังไม่ สร้างปัญหาให้เรา แต่พวกเขาจะต้องวางแผนบางอย่างอยู่แน่นอน สำหรับ [Wrath of the Heroes] มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก พวกเขาเชิญชวนผู้เล่นระดับสูงบางส่วนเข้าสู่กิล Lv 62 Wind Elf Archer Sonata,  Lv 63 Wind Elf Mage Heart of Fire และ Lv 62 Knight Drunken Cold Rain. ทั้งสามคนเข้าร่วมกิลของพวกเขา และได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าทีม ฉีชูป้าหวาง และ หมูน้อย ทำงานอย่างหนักเพื่อควบคุมกิลของพวกเขา”

“เฮๆ”

ผมหัวเราะ

“ปล่อย หลิวอิ้ง กับ พิกกี้ ทำงานของพวกเขาต่อไป ยิ่งมีกิลที่แข็งแกร่ง มากขึ้นในเมือง เมืองป้าฮวง ยิ่งเป็นผลดีสำหรับเราในยามที่ต้องต่อสู้ แล้วนอกจากนี้มี ปัญหาอื่นๆอีกหรือเปล่า”

‘เย่วชิงเชียน’ นิ่งคิดซักพักก็ตอบผม

“มีปัญหาเล็กน้อย ที่เมืองฟ่านชู มีเรื่องเกิดขึ้น นิดหน่อย”

“หือ เกิดอะไรขึ้น?”

“มีไนท์ที่พึ่งข้ามมาจากเมืองเริ่มต้น และกว่านซื้อ Devil Token ไปจนหมด ภายใน 48 ชั่วโมง เขาอัพเลเวลจาก 10 เป็น 60 และเปลี่ยนอาชีพจนเสร็จ ไม่เพียงแค่นั้นเขายังซื้อ หอกระดับจักพรรดิ เลเวล 50 ใน เมืองฟ่านชู และ โล่ระดับจักรพรรดิเลเวล 50 ทั้งสองชิ้นนี้ราคา 320,000 หยวน และ 190,000 หยวน ฉันได้ยินว่า พี่ ตงเฉิง รู้จักคนๆนี้”

ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน

“บ้าเอ้ย ใครเป็นคนที่จ่ายเงินมากขนาดนี้กัน?”

“ไอดีของเขาคือ ชางเฉิง ชื่อในชีวิตจริงของเขาคือ หวางซีเฉิง คนพูดกันว่าเขามีชื่อ ภาษาญี่ปุ่นอีกด้วยแต่ฉันจำมันไม่ได้ พี่ เซียวเหยา คุณรู้จักเขาหรือเปล่า คุณอยากให้เราไป ชวนเขามาเข้า [Zhan Long]ไหม ถ้าคุณต้องการ ฉันสามารถขอคุยกับเขาผ่านเพื่อนของฉัน ได้”

‘เย่วชิงเชียน’ พูดอย่างตื่นเต้น ผมรีบตอบไปทันที

“อย่า ชิงเชียน ฟังผมนะ อยู่ไว้ให้ห่าง ชางเฉิง [Zhan Long] ไม่มี อะไรที่ต้องการจากคนประเภทนี้ ชิงเชียน เอาเขาเข้าไปใน blacklist!!”

‘เย่วชิงเชียน’ เกิดความสงสัย แต่เธอยังคงยอมพยักหน้า

“โอเค ถึงฉันจะไม่รู้ว่าทำไม ฉันจะ ทำตามที่พี่บอก อ่อ ตอนนี้พึ่งมีข่าวมาใหม่ ชางเฉิง พึ่งจะเข้าร่วมกับกิล…”

“[Hero Mound] ใช่ไหม?”

“อ่อ พี่ เซียวเหยา พี่รู้ได้ยังไง”

ฉันไม่แปลกใจ ทำไมฉันจะไม่รู้หล่ะ ‘หวางซีเฉิง’ ต้องการเข้าใกล้ ‘ว่านเอ๋อ’ มากจนถึง ขนาดว่าตั้งชื่อไอดีให้คล้องกับ ชางถง ชางเย่ว และชางเหล่ย ถ้าเขาไม่เข้าร่วมกับ [Hero Mound] แล้วเขาจะไปเข้าร่วมกับกิลไหน

‘ Q-sword’ ไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว ‘หวางซีเฉิง’เป็นคนยังไง เขาคงรู้แค่ว่าหมอนี่แข๊งแกร่ง แต่เขาไม่รู้ว่าตัวเองได้เข้าไปเหยียบกับระเบิดเวลา เข้าให้แล้ว!! …..

ผมมองเวลาก็พบว่าถึงเวลาที่ผมจะต้องออกจากเกมเสียที ผมล๊อคออฟ แล้วรีบทานข้าวกลาง วันก่อนจะออกจากสตูดิโอไป

‘มัทฉะ’ตกใจที่ผมหยิบห่อดาบสีดำสนิทออกมาจากใต้เตียง

“หัวหน้าคะ ห่อสีดำนั้นเอาไว้ทำอะไร?”

ผมหัวเราะ

“อะไรสนุกๆ”

“ฉันขอดูได้ไหม…”

“ไม่”

“หัวหน้าเป็นคนใจแคบจริงๆ…”

ผมวางมือลงไปที่ไล่ของ ‘มัทฉะ’

“เป็นเด็กดีแล้วเฝ้าบ้านด้วย ฉันจะไปละ”

“โอเค เดินทางปลอดภัยคะบอส”

“โอเค”

(ผู้แปล : แปลครั้งแรกนะครับ ไม่รู้จะถูกใจทุกท่านรึเปล่า หากแปลผิดพลาดหรือไม่ตรงใจก็ ขออภัยด้วยนะครับ )

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments