I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 261 ความขัดแย้งของโล่และหอก

| Zhan Long | 1386 | 2359 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดย SanaKunG เรียบเรียง Kradiz

////////////////////

เสียงของเครื่องจักรดังจนผมสามารถได้ยินได้จากระยะไกล ฮอทางการทหารสามลำ ค่อยๆเข้ามาใกล้ๆ จากนั้นก็หย่อนตัวหน่วยพิเศษและหน่วยแพทย์ลงมา พวกเขาทั้งหมดใช้อาวุธประเภทปืนกึ่งอัตโนมัติเมื่อถึงพื้นก็เข้ากระจายตามพื้นที่อย่างรวดเร็ว

ในขณะเดียวกัน ก็มีชายหนุ่มอายุประมาณ 50 ปีปรากฏตัวขึ้นที่ไหล่ของเขาถูกประดับด้วยดาวสีทอง 2 ดวง นั้นหมายความว่าเขามียศระดับพลโท!! …..

ชายในยศพลโท มองไปรอบๆสนามรบพร้อมกับขมวดคิ้ว เขาเดินเข้าไปที่ศูนย์สั่งการแล้วถามขึ้น

“ใครเป็นคนคุมที่นี่”

‘หวางซิ่น’ หน้าซีด พร้อมกับรีบยืนขึ้นแนะนำตัว

“ผมเอง ผมเป็นหัวหน้าของหน่วยพิเศษชื่อ หวางซิ่น”

“สวัสดี!!”

ชายในยศพลโทยื่นมือเข้าไปจับมือกับ ‘หวางซิ่น’ แล้วพูดขึ้น

“ผมชื่อ ซุนเซียง เป็นนายทหาร ระดับร้อยโทจากค่าย นานกิง ผมถูกส่งมาเข้าร่วมกับภาระกิจพิเศษนี้ และถูกกำชับมาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคืนนี้จะให้สาธารณะชนรู้เรื่องไม่ได้เป็นอันขาด”

“แน่นอนครับท่าน!!”

“เอาหล่ะทีนี้บอกผมหน่อย เกิดอะไรชึ้นที่นี่ ตลอดชีวิตที่ผมทำงานมา ผมไม่เคยเห็นสนามรบที่ไหนเหมือนที่นี่มาก่อนเลย…”

‘ซุนเซียง’ เอามือผสานกันด้านหน้า แล้วเดินไปรอบๆ ‘หวางซิ่น’ เดินตามเขาไปอย่างใกล้ชิด

“ลูกชายของพ่อค้าในเมือง หางโจว ถูกฆ่าวันนี้ และผู้ร้าย ต้องการเงิน 5 ล้าน หยวน เพื่อแลกกับศพของเขา ซึ่งมันเป็นการกระทำที่พยายามยั่วยุพวกเราเป็น อย่างมาก เราจึงส่งหน่วย SWAT 25 คนเข้าไปจัดการ แต่เราไม่แน่ใจว่าคนที่กำลังรอเราอยู่นั้น เป็นคน จริงๆหรือไม่”

“หมายความว่ายังไงเป็นคนจริงๆหรือไม่?”

‘ซุนเซียง’ ถามขึ้น ‘หวางซิ่น’ ตอบ

“พวกเขามีพละกำลังและกำลังกายที่เกินมนุษย์ อีกทั้งตัวของพวกเขายังถูกปกคลุมด้วยเกล็ดปลาซึ่งแม้แต่กระสุนก็ยังไม่สามารถเจาะทะลุไปได้ การเคลื่อนที่ของพวกเขาก็เร็วมาก พวกเขาสามารถฆ่าคนของเราไป 7 คน และอีก 12 คนก็บาดเจ็บหนัก ความเสียหายของเราตอนนี้ถือเป็นหายนะ!!”

“กระสุนเจาะผิวของเขาไม่เข้า?”

‘ซุนเซียง’ ก้มลงต่ำ และ และมองไปที่ผิวของหนึ่งในสัตว์ประหลาด เขาหยิบปืนพกออกมาแล้วยิงไป ที่ผิวหนังของมันเพื่อทดสอบ แล้วก็พบว่ากระสุนไม่สามารถผ่านทะลุผิวหนังไปได้จริงๆ เขาทำหน้าบึ้ง แล้วตะโกนออกไป

“เอาร่างของมันกลับไปที่ฐาน แล้วหาให้ได้ว่า DNA ของมันเป็นอะไร ฐานที่ นานกิง จะป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นกับคนของเราในปฏิบัติการถัดๆไป หวางซิ่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้มันเกิดที่คุณจะควบคุมได้ อย่าโทษตัวเองไปเลย!”

‘หวางซิ่น’ ไม่พูดอะไรต่อ

‘ซุนเซียง’ มองไปที่ร่างของสัตว์ประหลาดอีกครั้ง

“แม้แต่กระสุนก็ยังไม่สามารถทะลุตัวเขาไปได้ แล้ว เราใช้อะไรตัดหัวเขาออกมากันละ รอยตัดนี้เรียบและดูเฉียบคมเป็นอย่างมากแสดงว่ามันจะต้องเกิดจากดาบแน่ๆ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?”

‘หวางซิ่น’ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเบาลง

“หน่วยพิเศษของ หางโจว มีเด็กหนุ่มอยู่คนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ เชี่ยวชาญทางด้านนี้เขามีพละกำลังที่มากจนน่าประหลาดใจ การโจมตีของเขาสามารถโจมตีทะลุเกราะป้องกันของสัตว์ประหลาดนี้ได้”

“โฮ่ เขาเป็นใครกัน?”

ผมเดินออกไปข้างหน้าช้าๆ ในขณะเดียวกันมือซ้ายของผมยังคงประคองตัวของ เสี่ยวเฮย อยู่ และใช้มือขวาของผมทำความเคารพเขา

“หนุ่มน้อย ทั้งหมดนี่นายเป็นคนทำงั้นเหรอ?”

ซุนเซียง ถาม

“ใช่ครับ”

“ไม่เลว…”

‘ซุนเซียง’ ดวงตาส่องประกายด้วยความถูกใจ แล้วพูดต่อ

“ฉันไม่รู้มาก่อนว่า หางโจว มีเสือซุ่มมังกรซ่อนอยู่แบบนี้ อีกทั้งเจ้ายังเยาววัยนักหนุ่มน้อย ถ้าพวกเรามีคนแบบเจ้า มากกว่านี้หละก็ อืม… เราจะกลัวอะไรกันอีก หนุ่มน้อยเจ้าชื่ออะไร? ”

“หลี่เซียวเหยา”

“หือ”

ซุนเซียง สะดุ้ง

“ท่านครับ มีอะไรหรอ?”

“อ่อ เปล่า ไม่มีอะไร”

‘ซุนเซียง’ ส่ายหัว

“มันก็แค่ เพื่อนเก่าของฉันเคยพูดถึงชื่อนี้มาก่อน แต่มันก็ นานมาแล้ว…”

เขาจ้องมองไปยังร่างของทหารที่เสียชีวิตบนพื้น ‘ซุนเซียง’ พูดขึ้นต่อ

“พาพวกเขาออกไป แล้วหาค่าตอบแทนให้พวกเค้า พวกเขาเป็นคนดี และส่งร่างเจ้าสัตว์ประหลาดนี่ไปที่ บ.เทียนซินให้ เขาช่วยเราเรื่อง DNA พวกเขาชำนาญในด้านนี้กว่าเรามาก”

“ครับท่าน!”

5 ทุ่ม ที่ด้านหลังสถานีตำรวจ หางโจว หลังจากนำร่างไร้ชีวิตของหน่วย SWAT ทั้ง 7 คนกลับมา พวกเราหลายๆคนยังคงเศร้าโศกและไม่พอใจในเรื่องที่เกิดขึ้น บาดแผลที่เกิดขึ้นยังคงแสดงให้เห็นอยู่ แต่ยังดีที่มันถูกรักษาและพันด้วยผ้าพันแผลเรียบร้อยแล้ว

แขนของ’หวู่เหล่ย’ถูกตัดออกมาไม่นานเท่าไหร่ ดังนั้นการจะต่อมันใหม่ โอกาสสำเร็จก็ไม่ได้ต่ำมากนัก ร่างของผมเองตอนนี้เต็มไปด้วยรอยข่วน โชคยังดีที่มันไม่ได้ลึกไปถึงกระดูก หรือกล้ามเนื้อของผม อย่างไรก็ตามรอยแผลของมันจะยังคงอยู่ถึงแม้ว่ามันจะหายดีแล้วก็ตาม

“อ่ะ…”

ผมยืดไหล่ออกเล็กน้อย ผมครางเล็กน้อยเมื่อทีมแพทย์ใส่ยาลงในบาดแผลของผม ขณะกำลังทำแผล ‘เฉินปิง’ เงิยหน้าขึ้นแล้วมองมาที่ผม

“มันเจ็บไหม?”

ผมพยักหน้า

“เจ็บ…”

“ไอบ้า…”

‘เฉินปิง’ตาแดง

“นายมันบ้าดีเดือดตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว จนถึงตอนนี้นายก็ยังเป็นไอบ้า อยู่ดี ทำไม ทำไมนายถึงต้องไปดวลกับเจ้านั้นตรงๆ จนทำให้ต้องเจ็บปวดขนาดนี้…”

ผมยิ้ม

“พี่ เฉินปิงถ้าผมไม่ไปอยู่ในแนวหน้า พวกเราทุกๆคนคงจะตายกันหมด การที่ผมได้รับ บาดแผลพวกนี้เพื่อแลกกับชีวิตของคนอื่นๆ ผมควรจะดีใจกับมันสิ”

‘เฉินปิง’ไม่ตอบอะไร และทำแผลของผมต่อ ผมกำหมัดที่มืออีกข้างหนึ่ง แล้วมองไปยังรอยเลือดที่พื้น

“ผมเคยคิดว่าผมแข็งแกร่งพอที่จะปกป้อง ทุกๆ คน แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ผมรู้ว่าผมอ่อนแอขนาดไหน”

ผมทำได้แค่จ้องมองไปที่ ‘หวู่เหล่ย’

“ผมทำให้ทุกๆคนผิดหวัง”

‘เฉินปิง’ยืนขึ้นโอบกอดผม เธอดึงหัวของผมเข้าไปชิดกับหน้าอกของเธอและพูดขึ้น

“เด็กโง่ นาย ไม่ต้องคิดมากเรื่องนี้ ทุกๆคนมีพลังจำกัด นายไม่ใช่ซุปเปอร์แมน นายทำทุกๆอย่างที่นายสามารถทำได้แล้ว นายรู้ไหมว่าทุกๆคนในทีมอยากจะเป็นเหมือนอย่างนาย ถ้าไม่ใช่เพราะมีนายอยู่ พวกเราคงไม่มีใครสามารถต่อสู้กับเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นได้…”

“แต่ เสี่ยวหลาน และคนอื่นๆ ทุกคนตายหมด…”

เมื่อผมคิดถึง ‘เสี่ยวหลาน’ ผมร้องไห้ออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ผมรู้จักสมาชิกในหน่วยทุกคนตั้งแต่ปี 2014 และพวกเขาก็ดูแลผมเหมือนพี่น้อง แต่ตอนนี้ผมได้แต่มองพวกเขาถูกฆ่าอย่างโหดร้าย ถึงแม้ว่าผมจะฆ่าพวกสัตว์ประหลาดพวกนี้มากมายเท่าไหร่ ผมก็ไม่สามารถทำให้เพื่อนๆของผมกลับมามีชีวิตอีกครั้งได้

‘เฉินปิง’ตัวสั่นเล็กน้อย น้ำตาอุ่นๆของเธอไหล่ลงมาที่ไหล่ของผม เธอกอดผมไปร้องไห้ไปด้วย ……

4 โมงเช้า ยังคงไม่มีใครในสถานีตำรวจแห่งนี้นอนหลบลง ทุกคนต่างทำหน้าเฉยเมย เหม่อลอย

“การผ่าชันสูติ ผลออกมาแล้ว!”

‘หวางซิ่น’ วิ่งเข้ามาในห้อง มือของเขาถือเอกสารจำนวนหนึ่งอยู่

“ข้อมูลที่ได้มาบอกได้แม้กระทั่งรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ เอาหล่ะตอนนี้เรารู้ว่าพวกเขามีทั้ง อาจารย์ คนงาน หรือแม้แต่นักปรัชญา ซึ่งมีรายงานว่าพวกเขาหายตัวไปตั้งแต่ 6 เดือนก่อน พวกเขาทุกคนมีสัญลักษณ์ของ Blood Scythes อยู่ที่ตัว แต่มันพึ่งถูกทำขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น DNA ของพวกเขากลายพันธุ์ บางส่วนก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ บางส่วนถูกแทนที่ด้วย DNA ของกิ้งก่า นั้นทำให้พวกมันมีเกล็ดเหมือนปลา”

“เราสาวถึงคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ได้หรือเปล่า?”

ผมถาม

“ไม่ได้”

‘หวางซิ่น’ ส่ายหัว

“พวกคนที่เรากำลังเจออยู่น่ากลัวกว่าที่คิดไว้ 15 ตัวในพวกสัตว์ประหลาดนั้นมีตัวอักษร E ปรากฏอยู่ ขณะที่อีก 2 ตัวมีตัวอักษร D พวกมันทั้งหมดถูกทำให้แข๊งแกร่งขึ้นด้วยยีน ที่ถูกสร้างขึ้น เรื่องนี้ถูกยืดยันจากทั้งห้องแลปของ นานกิง และ หางโจว แต่ว่ายีนของพวกมันค่อนข้างสลับซับซ้อนมาก คงอีกนานกว่าเราจะวิเคราะห์ได้ว่า DNA ของพวกมันเกิดขึ้นจากอะไรและวางส่วนประกอบอย่างไร ดังนั้นในตอนนี้เราทำได้แค่ป้องกันตัวเองให้ดีและปฏิบัติภาระกิจต่อไป ชื่อทางการของพวกกลายพันธุ์พวกนี้ถูกเรียกว่า [Artificials]…”

หลังจากพูดจบ ‘หวางซิ่น’ ก็ถอนหายใจออกมา

“ฉันเชื่อว่าพวก Artificials พวกนี้จะต้องสร้างปัญหาให้เราเป็นอย่างมากในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้ค่ายทหารที่ นานกิง จะส่ง กองกำลังพิเศษระดับสูงมาที่นี่ ผมอาจไม่สามารถโน้มน้าวพวกเขาได้ แต่อย่างหนึ่งที่ผมอยากบอกพวกคุณก็คือปกป้อง หางโจว ไว้ให้ได้จนถึงเลือดหยดสุดท้ายของพวกคุณ!”

ผมพยักหน้า

“ใช่ ปกป้อง หางโจว…”

…..

“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง…”

‘หวางซิ่น’ บ่นขึ้น จากนั้นเราก็หยิบปืนออกมาหนึ่งกระบอก และหยิบเศษของเกล็ดของพวก Artificial ออกมา

“ตอนนี้ บ.เทียนซินได้ผลิตกระสุนขนิดใหม่ขึ้นมาให้กับเรา อย่าเข้าใจผิด กระสุน พวกนี้ถูกทำขึ้นจากนาโนเทคโนโลยี พวกมันสามารถใช้ความร้อนที่เกิดจากการกระแทกหลอมละลาย ตัวมันเข้าไปในชุดเกราะป้องกันได้ การทดลองทางวิทยาศษสตร์พบว่า กระสุนนาโนพวกนี้สามารถทะลุ ผ่านผิวหนังของ Artificial อืม…พวกมันมีโล่ แต่เรามีหอก ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป กรมตำรวจ หางโจว จะเปลี่ยนไปใช้กระสุนนาโนพวกนี้ทั้งหมด ผมไม่เชื่อว่ากองกำลัง หางโจว ของเราจะไม่สามารถ กระชากพวกที่อยู่เบื้องหลังออกมาจากเงามืดไม่ได้!!”

หอกและโล่นั้น ตามตำนานหมายถึงโล่ที่สามารถป้องกันได้ทุกอย่าง กับหอกที่สามารถทะลุได้ ทุกอย่าง หรือในอีกความหมายหนึ่งคือ วัตถุซึ่งเคลื่อนที่ไม่ได้ปะทะกับวัตถุที่ไม่มีทางหยุดยั้งได้

(ตรงนี้ มันเหมือนเป็นสำนวนนะครับ ถ้าไม่แปลจะเข้าใจง่ายกว่า the immovable object versus theunstoppable object :ผู้แปล)

ผมหัวเราะเล็กน้อย

“กัปตันหวาง เมื่อไหร่ที่เราจะได้เคลื่อนพลไปปะทะกับพวก Blood Scythes กันซะทีครับ?”

‘หวางซิ่น’ นิ่งคิดซักพักและพูดขึ้น

“เราต้องรอพวกระดับสูงออกคำสั่งลงมาก่อน ผู้นำของกลุ่ม BloodScythes เป็นคนที่เรารู้จักกันดี บางทีพวกมันอาจจะมีกำลังมากกว่าที่เราคิดไว้ ถ้าเราจะเปิดการโจมตีเราจะต้องกำจัดพวกมันทั้งหมด ในปฏิบัติการครั้งเดียว อย่างไรก็ตามพวกเราต้องคิดถึงแผนระยะยาวและความเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เรายังต้องหาสมาชิกเพิ่มเติมในส่วนที่เราสูญเสียไป ไม่เช่นนั้นการสู้กับพวกสัตว์ประหลาดพวกนั้น คงเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้”

‘หวางซิ่น’ มองไปที่กระสุนนาโนในมือของเขา นิ่งคิดซักพัก

“ตอนนี้เราต้องการนักแม่นปืนระดับสุดยอด…”

เขามองมาที่ผม แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ ผมนิ่งเงียบอยู่ซักพักก่อนจะพูดขึ้น

“อย่ามองมาที่ผม ความสามารถในการยิงปืนของผมยังเป็นรองใครอีกหลายๆคน…”

‘เฉินปิง’ หัวเราะ

“อะไรนะ? นายเป็นคนที่ได้รางวัลยิงปืน ของสถานี หางโจว 2 ปีซ้อน นายกำลัง ทำให้นักแม่นปินของพวกเรารู้สึกแย่รึไง?”

‘หวางซิ่น’ ยิ้ม

“พอแล้ว หลี่เซียวเหยา ยังมีอีกหน้าที่จะต้องทำ ตอนนี้นายกลับไปที่โรงเรียนได้แล้ว อย่าลืมว่าทำไม บ.เทียนซินถึงมอบกระสุนนาโนนี้ให้เรามากมายขนาดนี้สิ มันเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างนายกับพวกเขา ฉันขอประกาศว่า นาย หลี่เซียวเหยา ถูกแต่งตั้งให้เป็น รองหัวหน้าของกรมตำรวจ หางโจว และมีสิทธิในการออกคำสั่งทุกอย่าง”

ผมพยักหน้า และคิดถึงพวก ‘ว่านเอ๋อ’และ ‘ตงเฉิง’ ใน มหาลัยหลิวหัว ผมรู้สึกอบอุ่นอย่าง ช่วยไม่ได้ ผมอยากกลับไปอยู่เคียงข้างพวกเขา และบางทีนั้นก็เป็นสิ่งที่ทำได้ผมก้าวไปข้างหน้า ……

ผมกลับไปยัง มหาลัยหลิวหัว ด้วยแผลที่เต็มตัว ผ่านไปยังหอหญิง

“Ding…” โทรศัพท์ของผมดังขึ้น

ผมมองไปที่หน้าจอก็พบว่าคนที่โทรมาคือ ‘ว่านเอ๋อ’ผมหยิบมันขึ้นมาแล้วพูดขึ้น

“ว่านเอ๋อทำไมเธอถึงตื่นเช้าจัง พระอาทิตย์พึ่งจะขึ้นเอง?”

ว่านเอ๋อตอบผมด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“ฉันนอนไม่หลับ หัวใจฉันรู้สึกว่างเปล่าเพราะว่า นายไม่ได้มาอยู่ข้างๆ…”

ผมชะโงกหัวขึ้นไปด้านบน ก็พบ ‘ว่านเอ๋อ’กำลังยืนอยู่และมองลงมาที่ผม รอยแผลและรอยช้ำต่างๆของผมถึงแม้ว่ามันจะมีเสื้อของผมคลุมมันอยู่ แค่มันก็ยังง่ายต่อการมองเห็นอยู่ดี ในตอนนี้ ผมอยากร้องไห้จริงๆ…

 

(ผู้แปล: ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นนะครับ ผมจะนำไปปรับแก้เนอะ ในส่วนของตอนนี้หากมีประโยคไหนแปลกๆ หรือติดขัด รบกวนก๊อปมาไว้ในเม้นได้เลยนะครับ ผมจะได้เก็บไปปรับแก้ต่อไป ครับผม SanaKunG)

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments