I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 279 ต้านสวรรค์

| Zhan Long | 1317 | 2359 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดย WildFox

“หัวหน้าคะ…..”

การโจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัวของผีดิบตัวหนึ่งทำให้มัตฉะถึงกับถอยร่นลงมาสองสามก้าว เธอยกโล่ขึ้นกำบังด้านหน้าและหันกลับมาร้องบอกผมอย่างรวดเร็วว่า

“เรียกสัตว์เลี้ยงของหัวหน้าออกมาเถอะค่ะ ไม่งั้นฉันว่าเราคงจะต้านเจ้าพวกนี้เอาไว้ไม่อยู่แน่!”

“จัดให้!”

ผมก้มตัวลงเล็กน้อยก่อนจะพุ่งทะยานไปด้านหน้าแล้วตวัดดาบขึ้นใช้ออกด้วยสกิล[ดาบเจ็ดดารา] ก่อนที่จะแอบเรียกพยัคฆ์เทพเพลิงเทวะออกมาไล่สังหารศัตรูที่อยู่ด้านหลัง เมื่อมันปรากฏตัวเจ้าพยัคฆ์ที่ย่ำลงไปบนเปลวไฟทั้งตะปบทั้งพุ่งชนพวกผีดิบกองกอยจนพวกมันล้มลงไปวัดพื้น

แม้ว่าพลังโจมตีของเจ้าพวกกองกอยนี้มันจะสูงเอาเรื่อง แต่พลังป้องกันและพลังชีวิตของพวกมันกลับดูด้อยไปทันทีเมื่อเทียบกับพลังโจมตีของผมและเจ้าพยัคฆ์ ซึ่งเราทั้งคู่กำลังไล่ฟาดฟันใส่พวกมันราวกับฟันหยวกกล้วย

“ตุ้บ..” การ์ดใบหนึ่งได้ดรอปลงมา

ดูเหมือนว่าจะเป็นการ์ดผีดิบใบแรกที่ดรอปมาท่ามกลางการต่อสู้นี้ ผมหยิบมันขึ้นมาสำรวจและพบว่า มันมีคุณสมบัติในการทำให้เป้าหมายที่โจมตีติดพิษ 5% นี่มันเหมาะสำหรับเอาไว้ใช้ในการรบที่ยืดเยื้อ ผมส่งการ์ดใบนั้นตรงไปให้กับหลิวย่ง สำหรับสายโจมตีไกลด้วยปืนยาวแล้ว ความเร็วในการโจมตีของเขาย่อมทำให้โอกาสในการติดพิษเพิ่มมากขึ้นกว่าอาชีพอื่นๆเป็นแน่ …………….

แล้วพวกเราก็ใช้ยุทธวิธีเดิมๆ แถวหน้าซึ่งประกอบไปด้วยผม แม่ทัพหลี่มู่ แม่ทัพหวังเจี้ยน มัตฉะและคนอื่นๆ พวกเราทั้งหมดจำต้องตรึงการโจมตีให้อยู่ในระยะไม่เกิน 3-5 เมตรเพื่อให้บรรดาฮีลเลอร์ของกิลด์ [Zhan Long] ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและเจ้าพวกกำแพงเนื้อเดินได้อย่างพวกผมจะได้โจมตีอย่างไม่ติดขัดต่อเนื่อง

เป็นแนวป้องกันรับการโจมตีจากพวกผีดิบกองกอยเหล่านั้น อย่างไรก็ตามห่างออกไปอีกด้านหนึ่ง สมาชิกของ [Flying Dragon] หาได้โชคดีแบบพวกเราไม่ ‘ฮวาเชียงอี้หูจิ่ว'(Drunken Spear)และ’เลี่ยหู่'(พยัคฆ์ทมิฬ)ที่ประจำตำแนวต้านรับทั้งซ้ายขวาของกิลด์ไม่สามารถที่จะต้านทานการบุกเข้าจู่โจมของพวกผีดิบเอาไว้ได้

ผู้เล่นจำนวนมากเสียชีวิตในการต่อสู้ราวใบไม้ร่วง เมื่อมองไปยังฝั่งตรงข้ามอีกด้าน ก็พบผู้เล่นอีกจำนวนไม่น้อยที่หนีการล่าสังหารหมู่ของผีดิบไปหลบอยู่บริเวณนั้น ส่งผลให้แนวต้านรับทั้งหมดที่ประจำที่ประตูด้านทิศเหนือถูกตีวงล้อมเข้ามาอีกมากกว่า 3% ยิ่งทำให้การรับมือกับพวกผีดิบยากยิ่งขึ้นไปอีก

ประมาณ 40 นาทีต่อมา กลุ่มของ’แม่ทัพหลี่มู่’ก็นำกำลังไปไล่ล่าสังหารพวกผีดิบที่กระโดดดึ๋งๆอยู่ในทุ่งกว้าง ขณะที่ผมเองก็นำกำลังในส่วนของกิลด์หลักตั้งรับและรักษาแนวไว้ ไม่ให้พวกผีดิบที่มันกระจายตัวเข้ามาตลบหลังได้ กิจกรรม[เมืองโบราณ]ได้กลายสมรภูมิเลือดซึ่งเต็มไปด้วยมอนสเตอร์จำนวนมหาศาล ที่ทำให้เราไม่มีเวลาหยุดมือเลยแม้แต่นิดเดียว!

“ย่าห์!”

ยามใดที่ผมใช้สกิล[ดาบเจ็ดดารา]ออกไป หลอดค่าประสบการณ์ผมก็เพิ่มขึ้นราวกับติดจรวด ผมแอบเหลือบมองที่ข้อมูลตัวละครซึ่งมันบอกว่าอยู่ที่เลเวล 66 กับค่าประสบการณ์อีก 47% ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ผมน่าจะอัพเป็นเลเวล 67 ในการต่อสู้ระลอกที่หกเป็นแน่ ค่าประสบการณ์ที่ได้จากมอนสเตอร์ในกิจกรรม[เมืองโบราณ]นี่ช่างมากมายกว่าที่คาดไว้ซะอีก แน่ล่ะเพราะเอฟเฟกต์[ฆ่าสังเวยเลือด]จากดาบจักพรรดิ์ฉินเป็นส่วนสำคัญที่สุด

ซึ่งตอนนี้มันแสดงผลอยู่ที่เพิ่มพลังโจมตีอาวุธอีก 87% ทำให้ผมสามารถก้าวล้ำหน้าใครๆทั้งหมดภายในกิจกรรมนี้ ……………..

หลังจากนั้นไปราวสิบนาที ‘แม่ทัพหวังเจี้ยน’ก็วิ่งชูดาบมาแต่ไกลตะโกนบอกผมว่า

“สหายเซียวเหยา ห่างจากเราไปราว 500เมตรทางประตูทิศตะวันตก มีบอสกำลังจะเกิดที่นั่นตัวหนึ่ง สั่งให้พวกเราไปฉกบอสมาดีไหม?”

“จัดไปอย่าให้เสีย!”

ผมเก็บดาบเข้าฝักแล้วสั่งการด้วยน้ำเสียงกังวานว่า

“ทีมล่าสังหารบอสตามชั้นมาพวกเราจะไปที่ประตูทิศตะวันตกของเมืองและลากบอสมาจัดการเสีย แม่ทัพหลี่มู่นายเป็นคนสั่งการต่อที่นี่เพื่อรอสนับสนุนพวกเรา จับตาดูกิลด์[Flying Dragon]ไว้ด้วยพวกมันอาจจะเข้ามาลอบโจมตี เฟยหลงไจ้เทียน(มังกรทะยาน)มันไม่ใช่พวกที่เชื่อถืออะไรได้มันอาจจะแอบลอบโจมตีเราได้ทุกเมื่อ”

‘แม่ทัพหลี่มู่’พยักหน้า

“รับทราบ!”

สิ้นเสียงสั่งการเหล่าผู้เล่นที่ได้คัดสรรไว้แล้ว ก็กระชับอาวุธคู่มือพุ่งทะยานไปโดยมีผมเป็นคนนำไปอยู่หน้าสุด พร้อมกับร่างของพยัคฆ์เทพเพลิงเทวะขนาบข้างไปพร้อมกับคำรามด้วยเสียงที่น่ายำเกรง พวกเราวิ่งเลียบแนวยิงของ NPC มือธนูบนกำแพงเมืองไป ตัดผ่านหน้ากองกำลังทุกกลุ่มที่มาจากเมืองป้าฮวงโดยที่ไม่มีแม้ซักคนที่กล้าคิดจะมาขัดขวางพวกเรา ที่ไหล่ของสมาชิกทุกคนของกิลด์ [Zhan Long]

ล้วนมีสัญญลักษณ์เป็นรูปศีรษะมังกรผยองซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งเกียรติยศของกิลด์ [Zhan Long]นั่นเอง เพราะพวกเราคือคนที่จัดการเขย่าชื่อเสียงของ [Vanguard] ด้วยความแข็งแกร่งของเรา และเผชิญหน้าท้าทายอย่างตรงไปตรงมากับ [Hero’s Mound] ผู้ที่กล้ามาหาเรื่องพวกเราก่อนโดยไม่กลัวเกรง

ผ่านไปเพียงไม่กี่นาที กลุ่มของพวกเราประมาณร้อยกว่าชีวิตก็มาถึงยังกำแพงด้านทิศตะวันตก ห่างออกไปอีกด้านหนึ่งมองเห็นกลุ่มแสงที่กำลังอัดบีบรวมตัวกันซึ่งเป็นสัญญาณบอกว่ากำลังจะมีบอสเกิดขึ้นที่จุดบริเวณนั้น และแล้วร่างขนาดสูง 3 เมตรแต่แลผอมชะลูดดูไม่เหมาะกับคำว่ายักษ์ใหญ่ซักเท่าไหร่ก็ปรากฏขึ้น

ก่อนจะเผยให้เห็นเป็นผีดิบกองกอยขนาดมหึมาที่สวมเกราะแทนชุดขุนนางและถือดาบไว้ในมือทั้งสองข้าง มันคือ ราชาซากศพเยือกแข็ง มีหิมะโปรยปรายอยู่รอบๆตัวมันทำให้ผู้ที่พบเห็นยิ่งรู้สึกทวีความหนาวเหน็บขึ้นไปอีก มันเป็นบอสระดับ 70 ที่ดูจะตึงมือไม่น้อยทีเดียว ร่างของบอสยืนอยู่ใต้เงาของกำแพงเมืองห่างไปเพียง 70 เมตรโดยประมาณ

อาจจะเป็นเพราะด้วยเหตุนั้นทำให้ไม่มีใครซักคนจากผู้เล่นพวกที่เข้าร่วมกิจกรรมกล้าบุ่มบ่ามเข้าไปลากบอสออกมาเพราะว่าเกรงอำนาจการยิงจาก NPC ที่อยู่บนกำแพงเมือง ทำได้แต่เพียงมองตาปริบๆอยู่อย่างนั้นจากที่ไกลๆ ดาบจักรพรรดิ์ฉินในมือผมสั่นสะท้านก่อนผมจะสั่งการเสียงก้องว่า

“ชั้นจะเข้าไปก่อนคนแรก พวกนายรอสนับสนุนอยู่ตรงนี้แหละ!”

พลันพาร่างทะยานเข้าหาบอสเมื่อได้ระยะก็สะบัดมือใช้ออกด้วยสกิล[โลกาสิ้นสูญ]ทันที!

3217! ด้วยความแรงจากการโจมตีระดับนี้

แม้จะเป็นถึงบอสระดับจักรพรรดิ์ก็อดรนทนไม่ได้ เจ้าราชาซากศพเยือกแข็งก็กรีดร้องด้วยความแค้นและพุ่งตรงเข้ามาหาผม แถมเปล่งวาจาสาปแช่งผมอีกว่า

“แก….เจ้าเด็กเมื่อวานซืน ข้าจะให้แกลิ้มรสคมดาบของข้าที่จะผ่าแกออกเป็นสองซีก แกจะได้รับรู้ว่ารสชาดความกลัวนั้นเป็นเช่นใด…..”

ผมเผ่นกลับมาตั้งนานแล้วไม่รอให้มันได้ทันพูดจบ ถึงผมจะบ้าบิ่นขนาดไหนก็ไม่มีทางที่จะบ้าขนาดไปโซโล่บอสจักรพรรดิ์เลเวล 70 คนเดียวหรอก ถึงแม้ว่าพลังโจมตีของผมจะเพิ่มขึ้นมากมายขนาดไหนแต่พลังป้องกันของผมก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาถ้าดวลกับบอสมีหวังซี้แหงแก๋!

“พี่เซียวเหยาคะ ทางนี้ค่ะ!”

ไกลออกไป ‘เยว่ชิงเฉียน’กำลังยืนโบกมือด้วยแขนที่ขาวผ่อง ตรงนั้นที่ที่พวกเรากิลด์ [Zhan Long] กำลังรอผมอยู่ ทันใดนั้น ก็มีกลุ่มคนพาร่างออกมาจากฝูงชนที่อยู่บริเวณนั้น!

“เปรี้ยง!” หลังเสียงการโจมตีที่หนักหน่วง

ร่างของนักธนูคนหนึ่งของกิลด์ [Zhan Long] ถึงกับถอยไปสองสามก้าวเพราะใครคนหนึ่งพุ่งตัวอย่างรวดเร็วเข้ามาและฟาดเข้าที่นักธนูคนนั้นด้วยขวานรบ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นดูน่ากลัวก่อนจะหัวเราะและเอ่ยขึ้นว่า

“พวกแกกล้ามาแย่งบอสไปจากพวกเรากิลด์ [Mass Burial] งั้นเหรอ? นี่พวกกิลด์ [Zhan Long] บ้าบิ่นขนาดนี้รนหาตายกันรึไง? พี่น้องทั้งหลาย บุกเข้าขยี้ ไอ้พวกไม่รู้จักเจียมบอดี้แค่ร้อยกว่าคนนี้ให้สิ้นซาก!”

บุคคลที่มาหาใช่ใครอื่น เขาคือหัวหน้ากิลด์ [Mass Burial] ที่ชื่อว่า ‘เหว่ยปี้ผิงฝาน'(Not Ordinary)ด้วยใบหน้าอันแสนจะเป็นเอกลักษณ์ นับตั้งแต่การประกาศศักดาของกิลด์ [Zhan Long] ได้เริ่มขึ้น เขาก็แสดงตัวว่าเป็นฝั่งตรงข้ามกับพวกเรามาโดยตลอด อีกทั้ง [Mass Burial] เองก็เป็นพันธมิตรของสาขาย่อยที่หนึ่งกิลด์ [Hero’s Mound] แถมยังมีลับลมคมในอะไรบางอย่างกับ ‘หวังจื้อเฉิง’ อีกด้วย

…………………

“ตั้งแนวป้องกัน!”

เสียงตะโกนของ’แม่ทันหวังเจี้ยน’พร้อมกับดาบที่ชูสูงขึ้น

“พวก [Mass Burial] ทุกคนมันมีสกิลพาสซีฟติดตัวสองสกิล [ฝ่าวงล้อม] กับ [คลุ้มคลั่ง] ทุกคนระวังตัวด้วย!”

ผมตั้งดาบจักรพรรดิ์ฉินขึ้นขวางหน้าไว้พลางวิ่งถอยหลังแล้ว ตะโกนสั่งการว่า

“หลินเสียวอู่ เธอยิงบอสจากไกลๆแล้วทำดาเมจดึงมันไปจากที่นี่ ตรงไปยังจุดที่พวกกิลด์เราตั้งรับอยู่ ชิงเฉียน แม่ทัพหวังเจี้ยนสั่งยกเลิกแนวป้องกันแล้วพาคนตามชั้นมา พวกเราจะกวาดเอาขยะ [Mass Burial] ไปทิ้งและแสดงฝีมือให้พวกมันได้เห็นว่า แถวนี้ใครคุม!”

จากนั้นผมก็เปลี่ยนสเตปเป็นพุ่งตัวไปด้านหน้า ก่อนจะตวัดดาบลงใช้ออกออกด้วยสกิล[ดาบเจ็ดดารา]เข้าใส่กลุ่มผู้เล่นของกิลด์ [Mass Burial] ตัวเลขค่าความเสียหายก็ลอยขึ้นมาเป็นสายอย่างน่าดูชม

4193 !

4427 !

4717 !

…………….

ฉับพลัน กองกำลังของนักดาบและอัศวินจำนวนมากก็ถูกกำจัดในพริบตา ผู้เล่นของกิลด์ [Mass Burial] ส่วนใหญ่ก็เป็นสายประชิดสวมเกราะหนัก ซึ่งตามธรรมดาแล้วย่อมคิดว่าค่าพลังป้องกันสูงคงไม่เป็นอะไร แต่ที่พวกเขาคาดไม่ถึงก็คือพลังป้องกันของพวกเขากลับถูกมองข้ามไปราวกับใส่เสื้อกล้ามออกมารบ ด้วยพลังการโจมตีของผมนั่นเอง

อย่าว่าแต่พวกนี้เลยขนาดตัว ‘หวังจื้อเฉิง’เอง ยังไม่สามารถตั้งรับการโจมตีจากพลังโจมตีเมื่อผลของสกิล[ฆ่าสังเวยเลือด]ทำงานได้เลย คิดว่าพวกเขามีเกราะที่แข็งแกร่งกว่างั้นเรอะ?

“ชิบ…..”

ใบหน้าของ’เหว่ยปี้ผิงฝาน’ขาวซีด

“นั่นมันพลังโจมตีแบบไหนกันวะนั่น? เซียวเหยาจื้อไจ้มันยังเป็นคนหรือเปล่าเนี่ยะ? อย่าได้กลัวมันพี่น้องทั้งหลาย! บุกเข้าไป! ยัดสกิล[คมอัคคี]รัวๆ สับมันเป็นชิ้นๆให้ได้!”

ผมยังพุ่งเข้าใส่ต่อไป หวดซ้ายป่ายขวาด้วยดาบคู่ใจพร้อมๆกับหลบหลีกสกิล [คมอัคคี] จากขวานรบของฝั่งตรงข้ามเป็นระยะๆ เมื่อมาถึงกลางวงผมก็ก้มตัวลงแล้วขยับดาบตัดขวางรอบตัว ในขณะที่ในฝ่ามือทั้งสองก็เรียกใช้การ์ดกองทัพสวรรค์ ส่งผลให้สกิล [กลืนวิญญาณทัพ] ทำงานก่อให้เกิดเมฆสีแดงราวโลหิตขึ้นบนท้องฟ้า

ก่อนจะโปรยปรายลงมาเป็นฝนดาบ ที่มีค่าพลังโจมตีสูงกว่า 4000 หน่วย สกิลโจมตีจากคัมภีร์ม่อจื้อห้าบทนั้น ก็อ้างอิงพลังโจมตีจากพลังโจมตีของตัวละครผมเช่นกัน เพราะฉะนั้นยิ่งสกิล [ฆ่าสังเวยเลือด] มีระดับที่สูงเท่าใดพลังโจมตีจากการใช้สกิลของคัมภีร์ม่อจื้อยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น!

“โฮกกก…”

เสียงของพยัคฆ์เทพเพลิงเทวะกระโจนโลดโผนออกไป ตามด้วยเปลวไฟทำให้ผู้เล่นฝั่ง [Mass Burial] ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ข้างกายผม ยังมี ‘แม่ทัพหวังเจี้ยน’ ‘เยว่ชิงเฉียน’ ‘ซ่งหาน’ ‘มัตฉะ’และคนอื่นๆช่วยกันโจมตีอย่างเป็นระบบ ชั่วพริบตาเดียวก็สร้างความวอดวายให้กับสมาชิกของกิลด์ [Mass Burial] กว่า 200 ชีวิตที่มิอาจแม้จะแค่ต้านทานการโจมตีที่รุนแรงเอาไว้ได้!

เมื่อผมหันกลับไปมองด้านหลังก็พบว่า ‘หลินเสียวอู่’กำลังวิ่งตรงไปที่จุดรวมพลของกิลด์ [Zhan Long] พร้อมด้วยบอสที่วิ่งตามไปติดๆ ‘แม่ทัพหลี่มู่’ก็ได้สั่งการให้กำลังเสริมจำนวนมากสนับสนุนเธอทันที ซึ่งถ้าไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันใดๆบอสตัวนี้ก็น่าจะเป็นของเราแน่นอน!

“สังหารเหว่ยปี้ผิงฝานได้ ถึงจะถือว่างานนี้ปิดจ๊อบได้สวยงามนะคะ!”

‘เยว่ชิงเฉียน’พิมพ์ข้อความขึ้นมาในช่องกลุ่มสนทนา ผมพยักหน้าทันที

“ชิงเฉียน สตันมันให้พี่หน่อย เดี๋ยวพี่จบงานเอง!!”

“เจ้าค่ะ!”

ด้วยการใช้สกิล[ระบำเทพ]ร่างของ’เยว่ชิงเฉียน’ก็พุ่งทะยานไปราวภูติพราย มีดสั้นของเธอสะท้อนแสงก่อนจะเสียบเข้าที่หน้าอกของเหว่ยปี้ผิงฝานเข้าเต็มที่ สตันเขาไม่ให้ขยับไปไหนได้! ผมระเบิดเสียงหัวเราะชอบใจก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นเล็งตรงไป และปิดจ๊อบด้วยสกิลโจมตีระไกลอย่าง [โลกาสิ้นสูญ]!

“เปรี้ยง!”

คมดาบจากสกิลทะลวงผ่านร่างของ’เหว่ยปี้ผิงฝาน’ ก่อนที่ร่างจะค่อยๆรูดลงกองกับพื้น สกิลขี้โกงติดตัวอย่าง[ฝ่าวงล้อม]และ[คุ้มคลั่ง]ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาไว้ได้ ตัวเลขค่าความเสียหายขนาดใหญ่ลอยขึ้นบนศีรษะของเขา จนถึงตอนที่เขาเสียชีวิตแล้วนี่ เจ้าตัวเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมตัวเองถึงได้ตายง่ายดายและรวดเร็วถึงปานนี้

5257 !

………

ผมสะบัดดาบคู่ใจอีกครั้งก่อนจะใช้ออกด้วยสกิล[ดาบเจ็ดดารา] เข้าใส่ผู้เล่นของกิลด์ [Mass Burial] ซึ่งตอนนี้หมดกำลังใจที่จะสู้ต่อแล้วเพราะเห็นจำนวนฝ่ายตนที่สูญเสียไปในชั่วพริบตาเดียว ก่อนจะหันหลังกลับและตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า

“พวกเราถอย อย่ามามัวเสียเวลากับคนพวกนี้อยู่เลย!”

สมาชิกกิลด์ [Zhan Long] ทยอยถอยออกจากการต่อสู้ทีละคน โดยที่หามีฝั่งตรงข้ามตามมาแม้แต่คนเดียว หัวหน้ากิลด์ของพวกเขาเสียชีวิตไปแล้ว แม้ใบหน้าของ’เซียนเฉว่เตา'(Bloody Blade)และคนอื่นๆจะแดงก่ำเต็มไปด้วยความโกรธแค้นแต่ก็ไม่มีกะใจที่จะทำการต่อสู้อีกต่อไป

ผมเหลือบมองดูที่เลเวลสกิล[ฆ่าสังเวยเลือด]ของดาบจักรพรรดิ์ฉินอีกครั้ง และแน่นอนว่ามันเพิ่มขึ้นอีกแล้วตอนนี้อยู่ที่ 127% เป็นพลังที่ไร้ขีดจำกัดจริงๆ!

……………

ภายในพื้นที่ควบคุมของกิลด์ [Zhan Long] ราชาซากศพเยือกแข็งส่งเสียงคำรามอยู่อย่างต่อเนื่อง ทุกการโจมตีของมันแฝงไว้ด้วยเอฟเฟกต์[ทะลวงน้ำแข็ง] บรรดาอัศวินและสายอาชีพม๊องค์ของพวกเราถูกแทงครั้งแล้วครั้งเล่าได้แต่กัดฟันข่มความเจ็บปวดไว้โดยไม่ปริปาก แถมเจ้าราชาซากศพเยือกแข็งยังมีสกิลโจมตีระยะไกลด้วยอีกต่างหาก

ซึ่งทำให้อย่างน้อยสิบชีวิตของผู้เล่นกิลด์ [Zhan Long] ต้องเสียชีวิตไปเพราะสกิลนี้ ‘แม่ทัพหลี่มู่’ซึ่งเหลือบมาเห็นการกลับมาของพวกผม รีบยกดาบชูขึ้นพลางตะโกนสั่งการรวดเร็วว่า

“พวกที่อยู่ข้างหน้า ถอยออกได้แล้ว ให้หัวหน้ากับมัตฉะเข้ามาแท้งค์ต่อเลย ขยายรัศมีวงออกไปหน่อย อย่าเข้าไปตายโดยไม่จำเป็น หรันหมิ่น นายนำกำลังหน่วยที่สามออกไปลาดตระเวนรอบๆ ป้องกันการลอบโจมตีของศัตรูที่จะเข้ามาทำอันตรายสมาชิกกิลด์ของเรา!”

“ฉั่วะ!”

ผมไม่รอช้ารีบแทรกตัวเข้าไปแทนตำแหน่งของอัศวินคนหนึ่งที่ตายไปเพราะบอสโจมตี และด้วยดาบจักรพรรดิ์ฉินในมือผมก็ใช้สกิล[หนึ่งเทียบพัน]เข้าโจมตีบอสและก็เรียกเอาค่าความสนใจทั้งหมดมาอยู่ที่ผมในเวลาอันรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น ทุกการโจมตีของผมเฉือนเอาเนื้อบอสบางส่วนออกมาเรียกเสียงเชียร์จากสมาชิกกิลด์ [Zhan Long] ที่อยู่รอบๆออกมาได้อย่างตื่นเต้น

‘เป็ดที่รัก’และเหล่าฮีลเลอร์คนอื่นๆก็รีบเปลี่ยนเป้าหมายมาลอคที่ตัวผม ‘หลินเสียวอู่’และ’เสวี่ยเฉิงเชียนหยาง’ก็นำทีมสายโจมตีระยะไกลเข้าทำดาเมจทันที ประมาณการณ์ว่าเหล่าฮีลเลอร์เกือบ 40+ ชีวิตกำลังลอคสกิล[รักษา]ของพวกเขาพร้อมอยู่ที่ผม

และด้วยพลังป้องกัน 2000 พร้อมกับพลังชีวิตอีก 4000 กว่าหน่วย ต่อให้ผมอยากตายตอนนี้ก็คงทำได้ยากเพราะเลเวลที่สูงอีกทั้งค่าความต้านทานต่างๆที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่บอสมันจะจัดการฆ่าผมให้ตาย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

เวลาเดินทางผ่านไปอย่างเชื่องช้า ถึงแม้ว่าผมกำลังทำการต่อสู้กับบอสอยู่ก็ตาม แต่ผมก็ให้ความสำคัญต่อทุกการเคลื่อนไหวรอบๆ เพราะทั้งกิลด์[Prague],[Vanguard]และ[Wrath of the Heroes]ก็ส่งคนมาเฝ้าดูสถานการณ์ทั้งนั้น แต่ไม่มีใครทำอะไรตุกติก คนของ[Zhan Long] ทั้ง1000+ชีวิตก็ล้อมบอสเอาไว้อย่างมั่นคง

สำหรับตอนนี้แล้วไม่มีใครที่คิดจะโขมยบอสไปจากเรา การเป็นศัตรูกับกิลด์ [Zhan Long] ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่ก็ไม่มีใครคิดจะทำ แต่ก็ยกเว้นกิลด์อย่าง [Mass Burial]

……………

ผ่านไปอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 9 นาทีหลอดเลือดของบอสก็เหลืออยู่เพียงเล็กน้อย ก่อนที่ดาบจักรพรรดิ์ฉินจะส่องแสงส่วางกว่าที่เคยและหวดลงปลิดชีพบอสตัวนี้ลงด้วยการโจมตีสุดท้าย

“ติ๊ง!” ประกาศจากระบบ : ขอแสดงความยินดีด้วย ผู้เล่น เซียวเหยาจื้อไจ้

สังหารบอสตัวที่ห้า ของ[เมืองโบราณ]แห่ง[เมืองป้าฮวง]สำเร็จ

ได้รับค่าสเน่ห์+5ค่าประสบการณ์ 50% และตำราสกิลระดับ S [ต้านสวรรค์]!

………………

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments