I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 286 ศรดาวตก

| Zhan Long | 1327 | 2358 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดย WildFox

ผู้เล่นอื่นๆ ที่ล้อมอยู่รอบๆ ก็เฮโลเข้ามายังกลุ่มของพวกเราซึ่งอยู่ใกล้กับบอสมากที่สุด ตัวบอสเต่ามังกรเองก็สัมผัสได้ถึงความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามาหา มันจึงชูหัวขึ้นพร้อมคำรามก้อง

ฉับพลันพื้นดินทั่วบริเวณรอบๆตัวบอสก็ปกคลุมไปด้วยคมจากน้ำแข็งที่โผล่พรวดขึ้นมาจากพื้นดินส่งให้เกิดเสียงดัง

“ฉึก ฉึก ฉึก”

ระงมไปทั่วทุกทิศทาง เป็นดังที่คาดไว้จริงๆ เจ้าเต่าประหลาดตัวนี้ยังซ่อนไม้ตายอันแข็งแกร่งเอาไว้ใช้ตอนที่ชีวิตมันกำลังเข้าใกล้สู่ความตายจริงๆซะด้วย ทั้งผม แม่ทัพ’หลี่มู่’ ‘เปียวเมี่ยวหยุนเหยี่ยน’ และคนอื่นๆต่างก็พากันสกัดการโจมตีจากคมน้ำแข็งและรีบเร่งพาร่างตัวเองไปด้านหน้า

เพื่อลดระยะห่างจากเจ้าบอสเต่ามังกรกับตัวเองให้ได้มากที่สุด!

“โจมตี!”

ทางด้านข้าง กลุ่มกองกำลังกลุ่มหนึ่งกำลังโอบล้อมเข้ามาทางพวกเรา พวกมันคือหน่วยสิบสามอินทรีย์ของกิลด์[Vanguard]ที่นำทีมมาโดย’ตั้วลั่วฉางหลาง'(Fallen Wolf) ซึ่งเค้าก็ไม่รอช้ายกขวานเงื้อขึ้นแล้วจามลงมายังร่างของ’เปียวเมี่ยวหยุนเหยี่ยน’ทันทีเรียกค่าความเสียหายไปได้ 1700 หน่วย

“แก…ตายซะเถอะ!”

หัวหน้ากิลด์หนุ่มแห่ง [Misty Palace] คำรามด้วยความคลั่งแค้น เขาก้มตัวลงแล้วโอบมือทั้งสองข้างที่เอวของฉางหลาง พลันตะโกนสั่งการว่า

“เหลิ่งจิ้ง(Cold Eyes)จังหวะนี้แหละยิงมันด้วย[ศรแยกหยุดยั้ง]เลย!”

ลูกธนูคมกริบเย็นยะเยียบก็พุ่งจากแหล่งที่ไม่สามารถระบุได้เข้าปักอกของ’ตั้วลั่วฉางหลาง’เข้าเต็มรัก ทำให้เขาติดสถานะมึนงงทันที นักธนูมือฉมังนามว่า ‘เหลิ่งจิ้ง’ นี้มีเลเวล 63 และเป็นรองหัวหน้าของกิลด์[Misty Palace] ดูเหมือนว่าเขาจะมีอุปกรณ์ที่เป็นระดับจักรพรรดิ์อย่างน้อยก็หนึ่งชิ้น และเป็นไปได้สูงว่าน่าจะเป็นธนูในมือเขานั่นเอง!

“ย้ากกก!”

‘เปียวเมี่ยวหยุนเหยี่ยน’ไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอยไปลงมือโจมตีต่อเนื่องทันที ด้วยการเงื้อขวานรบคู่ใจขึ้นสุดแขนและจามลงตรงไปที่ร่างของตั้วลั่วฉางหลางทันที

ซึ่งฉางหลางก็หมดหนทางที่จะหลบหลีกได้ ได้แต่รีบคว้าเอาน้ำยาเพิ่มพลังชีวิตขึ้นมา ช่างน่าเสียดายคมขวานของเปียวเมี่ยวหยุนเหยี่ยนได้เดินทางมาถึงศีรษะของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!

“เปรี้ยง!” 2218 ! ดับสนิทในดอกเดียว

หนึ่งในผู้อาวุโสของกิลด์ [Vanguard] ก็ถูกสังหารด้วยประการฉะนี้! ทางด้านหน้า แม่ทัพ’เหยี่ยนเจา’,’เจี้ยนเฟิงหาน’และคนอื่นๆก็เริ่มลงมือโจมตีเจ้าบอสเต่ามังกรกันแล้ว!

“ย่าห์!”

‘เจี้ยนเฟิงหาน’เรียกใช้สกิล [ทะลวงตัดเมฆา]โดยเล็งผ่านผู้เล่นจำนวนหนึ่งของกิลด์[Zhan Long] ส่งผลให้หลอดเลือดของแม่ทัพ’หลี่มู่’ แม่ทัพ’หวังเจี้ยน’และ’หรันหมิ่น’หดหายไปทันที ทำให้แม่ทัพ’หลี่มู่’ตะโกนอย่างเดือดดาลว่า

“เจี้ยนเฟิงหาน แกนี่มันหน้าด้านจริงๆ ฉวยโอกาสนี้หวังลอบสังหารพวกเราด้วยใช่ไหม หา?!”

ผมสั่งการทันที

“บุกเข้าไปจัดการบอสเลย!”

“จัดไป!”

แม่ทัพ’หวังเจี้ยน’,แม่ทัพ’หลี่มู่’และผม สามนักดาบผู้ผ่านการเลื่อนขั้นอาชีพระดับสามมาแล้ว พร้อมใจกันใช้สกิล[ฟันพริบตา]เข้าทะลวงแนวรับหน่วยสิบสามอินทรีย์ของกิลด์[Vanguard]ทันที

ส่วน’หรันหมิ่น’ก็เรียกใช้สกิล[คมโหดกระโดดตื้บ]กระโจนเข้าใส่บอสเต่าจนทำให้มันร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดเพราะหลอดเลือดของมันเหลืออยู่อีกเพียง 3% เท่านั้น ผมพาร่างถลันไปหน้าสุดก่อนที่จะโจมตีเพียวๆ ด้วยดาบในมือเข้าใส่บอสเต่า และด้วยพลังโจมตีที่สูงลิบทำให้ร่างของบอสเต่าไถลไปจากเดิมกว่าครึ่งเมตร

ก่อนที่ดาบจักรพรรดิ์ฉินในมือของผมจะเงื้อขึ้นและใช้ออกด้วยการโจมตีต่อเนื่องจากสกิล[หนึ่งเทียบพัน]และ[โจมตีต่อเนื่อง]! ตัวเลขความเสียหายปรากฏขึ้นเป็นสายราวน้ำพุ ทำให้บอสเหลือหลอดเลือดเพียง 1%ใกล้จะตายเต็มทีและจังหวะนี้แหละ! ฝ่ามือของผมข้างหนึ่งกางทาบลงบนกระดองเต่า

เงาดาบสามเงาก็ปรากฏขึ้นรอบตัวของบอสเต่าก่อนจะพุ่งเข้าทิ่มแทงผ่านกระดอง ก่อให้เกิดค่าความเสียหายอย่างหนักแก่มัน พร้อมๆกับเสียงประกาศจากระบบที่คุ้นหูก็ลอยมาให้ได้ยิน 5184 !

มันเป็นการโจมตีที่ติดคริติคอล ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถสังหารเจ้าเต่ามังกรลงได้ เพราะค่าพลังป้องกันของบอสนั้นมันมากกว่าของ ชางเฉิงอย่างแน่นอน! พร้อมๆกับเสียงร้องอย่างโหยหวนจากบอสด้วยความเจ็บปวดก่อนตายของบอสระรอกที่เจ็ด ผมก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกพร้อมทั้งฟังเสียงประกาศจากระบบ

“ติ๊ง” [ประกาศจากระบบ] ขอแสดงความยินดี ผู้เล่นเซียวเหยาจื้อไจ้ ทำการสังหารบอสตัวที่เจ็ดของ [เมืองโบราณ]

แห่ง[เมืองป้าฮวง] ลงได้ ได้รับรางวัล : ค่าสเน่ห์ +7 ค่าประสบการณ์ +70% ตำราสกิลระดับ SS [ศรดาวตก]!

………………………….

ไม่มีแม้แต่เวลาจะมาชื่นชมกับของรางวัลที่ได้ ผมตวัดดาบเรียกใช้สกิล[ดาบเจ็ดดารา]เข้าใส่กลุ่มคนที่อยู่ด้านหน้าผมทันที มีคนคิดไม่ซื่อโดยพยายามจะลูทไอเทมของผม!

“เปรี้ยง!”

สองในสิบสามจากหน่วยอินทรีย์ของ[Vanguard]โดนสังหารทันทีด้วยฝีมือของผม จังหวะเดียวกันนั้นเองผมก็ทะยานร่างไปด้านหน้าเพื่อเก็บไอเทมจากร่างของบอสเต่ามังกร แหวนสีแดงราวโลหิตพร้อมประกายแดงสดใสติดมือผมมา พร้อมกับที่ไหล่ของผมสัมผัสถึงความเจ็บปวดจากการโจมตีอันหนักหน่วง

และก็เป็น’เจี้ยนเฟิงหาน’นั่นเองที่โจมตีเข้าใส่ผมจนกระแทกร่างผมออกไปแล้วคว้าเอาชุดเกราะอันหนึ่งติดมือขึ้นมาจากซากร่างของบอส แม่ทัพ’เหยี่ยนเจา’ใช้สกิลโจมตีต่อเนื่องส่วนตัว[ฟาดฟันไร้จำกัด]เข้าใส่ร่างของบอสเต่าเพื่อเปิดทางให้ตัวเองฉกเอาหอกที่ส่องประกายแวววาวติดมือไปหนึ่งชิ้น!

พอปล่อยให้พวกนี้ทำตามใจตัวเองหน่อยก็ชักจะเหลิงกัน! ดาบจักรพรรดิ์ฉินถูกตวัดด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับส่งสกิล[คมวายุ]เข้าใส่เป้าหมายซึ่งก็คือก้านคอของเจี้ยนเฟิงหานนั่นเอง! 4121 !

หลอดเลือดของ’เจี้ยนเฟิงหาน’หายวับไปกับตาจากเต็มหลอดเข้าสู่สภาพวิกฤติทันที ใบหน้าของเขาซีดขาวราวเถ้าถ่านก่อนจะสวนกลับด้วยสกิล[คมเขี้ยวหมาป่าทมิฬ]ขณะที่กำลังล่าถอย 2761 !

“มันเจ็บนะเว้ยเฮ้ย!”

ร่างของผมสะท้านด้วยแรงจากการโจมตี พลันก็มีนักดาบนายหนึ่งพุ่งร่างมาจากทางที่มั่นของกิลด์[Prague] ใช่ใครที่ไหนเขาคือผู้อาวุโสของกิลด์นามไก้ซื่ออิงสงนั่นเอง เขาอาศัยจะหวะผมถลำเพราะแรงโจมตีแทงสวนเข้ามาด้วยดาบของเขาผ่านร่างของผมไป!

1772 !

หนอย…เจ้าขยะนี่อยากได้ชีวิตผมอย่างนั้นเรอะ!?

ผมรีบร่ายสกิล[รักษา]ใส่ตัวเองพลางกระดกน้ำยาพลังชีวิตระดับ 8 จังหวะนั้นก็คว้าเอาการ์ดกองทัพสวรรค์ออกมาเรียกใช้สกิล[เงาพญาเต่าดำ]ทันที ใบหน้าของไก้ซื่ออิงสงก็ปรากฏความตื่นตระหนกสุดขีด พร้อมทั้งพยายามตะเกียกตะกายหนีสุดชีวิตหลังจากลอบสังหารผมไม่สำเร็จ ตะโกนก้องว่า

“คุ้มกันด้วย!”

ผมยกฝ่ามือขึ้นแล้วยิ้มเหี้ยมเกรียม

“แก…รนหาที่ตายเองนะ!”

[โลกาสิ้นสูญ]! 4763 ! ฮิตเดียวจบ

เพราะไก้ซื่ออิงสงมีพลังชีวิตแค่เกือบ 4000 เท่านั้นไม่มีทางรับมือกับสกิล [โลกาสิ้นสูญ] ของผมได้อย่างแน่นอน! ชั่วเวลานั้นเองผมก็ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของดาบจักรพรรดิ์ฉินในมือ ที่สามารถทำให้ผมควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด แม้กระทั่งตอนนี้ผมอยู่ต่อหน้าเหล่าบรรดาผู้เล่นระดับท๊อปที่รายล้อมอยู่ก็ตาม ผมก็ยังถือว่าถือไพ่เหนือกว่าใครทั้งหมด!

……………….

ผมรีบล่าถอยกลับเข้าสู่เขตการป้องกันของกิลด์[Zhan Long] ‘เจี้ยนเฟิงหาน’และแม่ทัพเหยี่ยนเจาจ้องมองมายังพวกผมที่เข้าสู่การอารักขาของพันธมิตรของ[Zhan Long] อันประกอบด้วย[Ruined Bones],[Misty Palace]และ[Winds of Battle]

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า…..”

พลันแม่ทัพ’เหยี่ยนเจา’ก็ระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นทั้งที่มือยังถือหอกเล่มนั้นอยู่และกล่าวว่า

“เอาน่าๆอย่าซีเรียสไปเลย กะอิแค่บอสตัวครึ่งตัวเอง เนอะ เจี้ยนเฟิงหานไหนลองยิ้มให้ชั้นกับเซียวเหยาจื้อไจ้หน่อยเป็นไร”

‘เจี้ยนเฟิงหาน’กระตุกมุมปากขึ้นนิดหนึ่งก่อนจะพูดว่า

“มันก็ไม่มีอะไรมากมายหรอกนะ แค่นี้กิลด์[Vanguard]ของชั้นยอมให้ก็ได้ หลังจากการโจมตีระรอกที่เจ็ดผ่านไปก็ยังเหลือบอสอีกตั้งสามตัว แต่พูดก็พูดเถอะนะ [Zhan Long]ตอนนี้ก็เหลือผู้เล่นประมาณ 1000 เท่านั้น ส่วน [Prague] เองก็เหลืออยู่ราวๆ 3000ได้ละมั้ง ในขณะที่[Vanguard] ของชั้นยังเหลือกำลังพลถึงอีกกว่า 8000 ชั้นอยากจะรู้จริงๆว่าใครจะได้เป็นคนหัวเราะคนสุดท้าย….”

ผมอดที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกไปมั่งไม่ได้และพูดว่า

“จำนวนน่ะมันก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น ดูอย่างกิลด์[Flying Dragon] นั่นปะไร ขนาดพากันมาตั้ง 5000 กว่าตอนนี้ก็เหลือไม่ถึง 1000 เพียงแค่การโจมตีระรอกที่หกเท่านั้นเอง มีคนเยอะไม่ได้มีความหมายอะไรหรอก เจี้ยนเฟิงหาน นายน่าจะรักษากำลังคนทั้ง 8000 ให้ดีล่ะอย่าให้ตายซะหมด ก่อนที่จะหมดอีกสามระรอกที่เหลือนั่น…”

‘เจี้ยนเฟิงหาน’ขบกรามแน่นก่อนจะตอบว่า

“ขอบใจที่บอก ชั้นจะไม่ลืมแน่!”

‘เจี๋ยนเจี่ยนตันตัน’ยกไม้เท้าของเธอขึ้นและพูดว่า

“อาหาน อย่ามัวพูดอยู่ให้เสียเวลาเลย กลับไปประตูทิศใต้กันเถอะ การโจมตีระรอกที่แปดของพวกมอนสเตอร์ใกล้จะมาถึงแล้ว อย่ามัวโอ้เอ้อยู่กับเซียวเหยาจื้อไจ้และแม่ทัพเหยี่ยนเจาเลย ยังไงซะค่ายที่มั่นของพวกเขาก็ใกล้กันมากกว่าของพวกเรา…”

‘เจี้ยนเฟิงหาน’พยักหน้าเห็นด้วย ………………..

‘มัตฉะ’พาร่างของเธอเดินเข้ามาหาพร้อมด้วยหอกที่มีคราบเลือดในมือของเธอ พร้อมส่งรอยยิ้มและพูดว่า

“หัวหน้าคะหัวหน้าไหนลองดูสิคะว่าหัวหน้าได้อะไรติดมือมาบ้าง?”

ผมนำแหวนวงนั้นที่หยิบมาได้จากร่างของบอสขึ้นมาดูก็พบว่ามันเป็นแหวนที่มีรูปร่างคล้ายดาบโบราณสีแดงราวโลหิต เมื่อผมทำการวาดมือผ่านเพื่อดูสเตตัสของมัน ความตกตะลึงก็ปรากฏแก่สายตาของทุกคน

【แหวนวิญญาณโลหิต】(ระดับจักรพรรดิ์)

ค่าความแข็งแกร่ง : + 50

ค่ากำลังกาย : + 48

ค่าความฉลาด : + 45

ค่าสเตตัสพิเศษ : เพิ่มค่าพลังชีวิตสูงสุดอีก 1200

ค่าสเตตัสพิเศษ : เพิ่มค่าพลังป้องกันอีก 200

ค่าสเตตัสพิเศษ : เพิ่มความต้านทานเวทย์อีก 18%

ความสามารถพิเศษ: ดูดชีพ , เปลี่ยนค่าพลังโจมตีที่ทำได้ 10% ฟื้นคืนค่าพลังชีวิต

ต้องการเลเวล : 67

…………….

“ฟัก แฟง แตงโม….”

แม่ทัพ’หลี่มู่’รำพึงด้วยดวงตาที่เบิกกว้างพร้อมกล่าวต่อไปอีกว่า

“แหวนระดับจักรพรรดิ์….สเตตัสแบบนี้มันไม่โกงไปหน่อยเรอะ? นอกจากจะเพิ่มตั้งหลายค่าแล้วยังมีออฟดูดชีพอีก 10% ด้วย…”

แม่ทัพหวังเจี้ยนยิ้ม

“แหวนวงนี้เปรียบได้กับสมบัติล้ำค่าที่ใครๆก็ต่างถวิลหา สหายเซียวเหยา ถ้านายคิดจะขายแหวนวงนี้ให้กับ เวิ่นเจี้ยนหรือว่าเจี้ยนเฟิงหานล่ะก็ น่าจะได้ราคาราวๆหนึ่งแสนRMBแน่ๆ เชื่อชั้นไหมล่ะ?”

ด้วยเสียง “กริ้ก” ผมก็สวมแหวนวิญญาณโลหิตบนมือข้างซ้ายเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับหัวเราะและเอ่ยว่า

“มีออฟดูดชีพตั้ง 10% ชั้นก็ชอบเหมือนกันนะ เรื่องอะไรจะเอาไปขายให้สองคนนั้นด้วยล่ะ? อีกอย่างกิลด์[Zhan Long]ของพวกเราก็หาใช่กิลด์ขัดสนเรื่องเงินทอง เพราะงั้นทำตัวเองให้แข็งแกร่งก่อนดีกว่า!”

“อืมม!”

ผมตรวจดูค่าสเตตัสของตัวเองแล้ว ขอบอกเลยว่าแหวนวงนี้สร้างความแตกต่างให้ผมอีกมากเลย!

【เซียวเหยาจื้อไจ้】(ผู้เฝ้ามองแห่งป้อมมังกร) เลเวล : 67

พลังโจมตี   : 2846-3782

พลังป้องกัน : 2236

พลังชีวิต : 4845

มานา : 2306

ค่าสเน่ห์ : 87

อันดับ CBN : 26

……………….

พลังป้องกันมากกว่า 2200 และพลังชีวิตเกือบ 5000 หน่วย ช่างเป็นการผสานกันที่ลงตัวของค่าพลัง หลังจากทำการ PK มามากขนาดนี้อันดับผู้เล่นของผมก็ขยับขึ้นมาอีก 1 ตำแหน่งจาก 27 มาเป็น 26 ไม่อยากจะคิดเลยว่าอันดับสูงๆไปกว่านี้จะยากเย็นสักเพียงไหน ผมอยากจะรู้เหมือนกันว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักเท่าใดกว่าที่ผมจะขึ้นเป็น 1 ใน 10 อันดับสูงสุดของเซิฟเวอร์จีนได้

ยิ่งไปกว่านั้นพวกที่อยู่ในสิบอันดับตอนนี้ล้วนเป็นพวกระดับตำนานทั้งนั้น หลังจากเสร็จเรื่องแหวนผมก็หยิบเอาตำราสกิลสีแดงออกมาจากช่องเก็บไอเทมของผม เมื่อโบกมือเหนือตำราเล่มนั้นก็ทำเอาบรรดานักธนูทั้งหลายต่างพากันตกตะลึง

【ศรดาวตก】(ระดับ SS) : หลังจากรวบรวมพลังจากฟากฟ้าเข้าสู่อาวุธธนู สร้างดาวตกเข้าโจมตีเป้าหมายด้านหน้าผู้ใช้ในระยะ 100 เมตรทำความเสียหายอย่างหนักหน่วงหากดาวตกกระทบกับพื้นดิน

ต้องการอาชีพ : นักธนู

เลเวลที่ต้องการ : 60

ต้องมีค่าความแข็งแกร่ง 200

ใช้ค่าสเน่ห์ 3 แต้มในการเรียนสกิล

…………….

ผมถือตำราแล้วหันมาถาม’หลินเสี่ยวอู่’ว่า

“เสียวอู่ เธอมีคุณสมบัติครบตามที่ตำราต้องการไหม? มีค่าความแข็งแกร่งถึง 200 หรือเปล่า? ถ้ามีครบละก็งั้นตำราเล่มนี้เป็นของเธอ”

‘หลินเสียวอู่’ยิ้มสดใสและตอบว่า

“ด้วยเกาทัณฑ์คนจรที่เพิ่มค่าความแข็งแกร่งให้อีก 45 หน่วยและฉันก็แบ่งแต้มลงค่าความแข็งแกร่งทุกครั้งที่เลเวลอัพ โดยลงไป 1 แต้มทุกครั้งถ้ารวมกับค่าสเตตัสที่ได้จากชุดเกราะทั้งหมดของฉัน ก็ขาดไปแค่ 3 แต้มเท่านั้นเองค่ะ แต่ว่าตอนนี้ฉันก็มีค่าประสบการณ์ 99% แล้วถ้าฉันเลเวลอัพแล้วนำแต้มไปลงค่าความแข็งแกร่งอีก 3 แต้มทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหาใดๆค่ะ”

“โอเค ถ้าเช่นนั้น….รับไป”

“ขอบคุณค่ะ หัวหน้า!”

“ได้ตำราไปแล้วอย่าออกจากกิลด์นะ….”

“ไม่หรอกค่ะ ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น…..”

“โอเค…..”

สุดท้ายแล้ว’หลินเสียวอู่’ก็อดรนทนรอไม่ไหวจนเธอเลเวลอัพด้วยการขอยืมเกราะแขนมาจาก’หลิวย่ง’เพื่อเพิ่มค่าความแข็งแกร่งและก็กดเรียนสกิล หลังจากคืนเกราะแขนไปและกลับมาใส่ชุดเกราะของเธอแล้ว ก็ไม่รอช้าลองขึ้นสายเกาทัณฑ์คนจรของเธอและเล็งไปยังกำแพงเมืองเบื้องหน้าทันที

แสงสว่างจากคันศรก็เปล่งขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียง “ฟุ่บ”

ลำแสงก็ลากเป็นทางยาวราว 100 เมตรตรงเข้าสู่กำแพงเมือง

“ตู้มมม!”

ลูกศรที่สว่างราวกับแสงจากดาวตกก็พุ่งกระทบกำแพงเมือง สร้างความเสียหายทิ้งไว้ตรงที่บริเวณมันตกกระทบ สกิลนี้ช่างทรงพลังไม่ใช่เล่น แถมยังมีระยะโจมตีที่ค่อนข้างไกลทีเดียว

ดูเหมือนว่าพลังโจมตีของกิลด์[Zhan Long]ของเราจะเพิ่มระดับขึ้นมาอีกขั้นแล้ว และด้วยเหตุผลนี้เอง ‘หลินเสียวอู่’ ก็ขึ้นแท่นรับตำแหน่งมือธนูอันดับหนึ่งของกิลด์[Zhan Long]ด้วยประการฉะนี้

………………

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments