I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 291 สงคราม ณ กำแพงเมือง

| Zhan Long | 1378 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดย Kradiz

【เกราะขาอัศวินมังกร】(ระดับจักรพรรดิ)

ประเภท : เกราะหนัก

ค่าพลังป้องกัน: 390

ค่าความแข็งแกร่ง: +51

ค่าความแข็งแรง: +48

ค่าความฉลาด: +45

ผลเพิ่มเติม : เพิ่มพลังป้องกันเวท 19%

ผลเพิ่มเติม : เพิ่มพลังป้องกันกายภาพ10%

ทักษะพิเศษ :【การรักษาแห่งอัศวินมังกร】หลังจากใช้งานจะเพิ่มเลือด 10% ต่อวินาทีเป็นเวลา 7 วินาที ใช้ค่า Rage 60

Level Requirement: 68

……

“ยังไงดีคะ บอส?”

‘มัทฉะ’ถือเกราะขาแห่งอัศวินมังกรไว้พลางหัวเราะ

“มันเป็นของระดับ 68 และบอสยังเป็นคนเดียวในกิลด์เราที่เลเวล 68 นอกจากนี้บอสแค่คนเดียวก็ทำดาเมจไปถึง 85% จากเลือดของบอสอีกด้วย เพราะงั้นเกราะขาอันนี้สมควรเป็นของบอสอยู่แล้ว ทั้งฉันและตังเซ่วต่างเห็นด้วยว่าเราไม่จำเป็นต้องทอดเต๋ากัน นอกจากนี้ คนที่ชนบอสตัวนี้ก็คือฉันกับบอสถ้าบอสไม่รับเอาไว้หละก็ ฉันจะร้องให้หละนะ……”

ผมแทบจะน้ำตาไหลออกมา ผมหยิบเกราะขาอัศวินมังกรออกมาพลางกล่าว

“ขอบคุณมาก มัทฉะ….”

เธอยิ้มพลางเอามือไขว้หลังอย่างน่ารัก และดูไร้เดียงสา

“ไม่เป็นไรค่ะ..”

ผม

“……”

ผมรีบเปลี่ยนกับเกราะขาอันเก่าทันที ทำให้พลังโจมตีของผมลดลงเล็กน้อย แต่ทักษะในการเอาตัวรอดของผมเพิ่มมากขึ้นอีกระดับ โดยเฉพาะทักษะที่เศษ [การรักษาแห่งอัศวินมังกร] ในเวลา 7 วินาที ผมจะสามารถเพิ่มเลือดได้ถึง 70% นี่มันเป็นอุปกรณ์ที่ผมต้องการอย่างแท้จริง เมื่อ[การรักษาแห่งอัศวินมังกร] รวมกับ [โล่แห่งมังกรสีชาด] ทั้งสองทักษะก็กินค่า Rage จนหมดหลอดพอดี และมันยังช่วยให้ผมมีชีวิตรอดได้นานขึ้นด้วย

ผมมองไปยังค่าสถานะพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย

【เซียวเหยาจื่อไจ๋】(อัศวินตรวจการณ์แห่งเมืองมังกร)
Level: 68
พลังโจมตี : 2864 – 3803
พลังป้องกัน : 2407
เลือด: 4955
มานา: 2676
ค่าสเน่ห์: 87
CBN Battle Ranking: 26

……

พลังป้องกันของผมเกิน 2400 ไปแล้ว เทียบได้กับ’พันศาตราฟู่เฉิน’ทีเดียว ตอนนี้ผมก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่า จะมีใครสามารถฆ่าผมในพริบตาได้ เท่าที่เห็นก็ยังไม่มีใคร รวมทั้งตัวผมที่มีพลังโจมตีอันรุนแรงด้วย

พลังป้องกัน 2400 นั้น ก็เพียงพอต่อการประมือกับผู้เล่นระดับสูงอย่างเจี้ยนเฟิงฮานและเหยียนจ้าวอู๋ซวงแล้ว ด้วยทักษะของผม แม้จะต้องต่อการกับพวกนั้นเพียงลำพัง ผมก็ยังมีโอกาศชนะสูงอยู่

และยิ่งไปกว่านั้น ผมยังมีมานาถึง 2676 ตัวชนส่วนมากแล้วนั้น มีมานาไม่ถึง 1000 ด้วยซ้ำ แต่ผมกลับมาเกิน 2000 เสียอีก ทุกอย่างเป็นเพราะอุปกรณ์ที่ดีของผม และด้วย [โลกาสิ้นสูญ] [ดาบเจ็ดดารา] และ [ดาบสายลม] ทำให้ผมเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก สิ่งที่ต้องเตรียมก็แค่ ยารักษาคุณภาพดีหน่อย เท่านั้นเอง เพียงเท่านี้ ผมก็สามารถใช้ทักษะระดับสูงได้อย่างต่อเนื่องแล้ว

“บอสมันตกของอย่างอื่นออกมาด้วยรึเปล่า?”

ผมหันไปถาม’มัทฉะ’

‘มัทฉะ’หัวเราะออกมา

“บอสของระรอกที่ 9 นี้ มันตกของดีทีเดียว มีของถึง 4 ชิ้น และ 3 ชิ้นเป็นของระดับจักรพรรดิ 1 ชิ้นเป็นของระดับม่วง ซึ่งมีรองเท้าหนังระดับจักรพรรดิ หลินเสี่ยวอู่ได้ไป แหวนระดับจักรพรรดิ ที่เพิ่ม ความคล่องตัวและระยะโจมตี หลิวย่งได้ไป และตังเซ่วก็ได้ของระดับม่วงไป และยังมีหินจิตวิญญาณอีกเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่มีใครใช้มัน เพราะมันเป็นของล้ำค่าอย่างมาก อีกอย่างพวกเราก็ยังไม่มีใครมีของดีๆ ที่พอจะกัดฟันใช้มันอีกด้วย”

ผมหัวเราะเบาๆ

“ช่ายย ถูกแล้ว…….รายงานสมาชิกที่ยังเหลือรอดและที่เสียหายไปมาหน่อย”

“ได้ค่ะ”

‘มัทฉะ’เดินตามผมมา ตอนนี้พวกเรากำลังเดินทอดน่องอยู่ใต้กำแพงเมืองอย่างสบายใจ เธอยิ้มขึ้นก่อนจะกล่าวออกมา

“ตอนนี้เรามีผู้เล่นเพียง 347 คนเท่านั้น แต่ทุกคนต่างเป็นผู้เล่นระดับสูง ในระรอกที่ 9 นี้ เราเสียผู้เล่นไปกว่า 400 คน แต่เมื่อเทียบกับกิลด์อื่นอย่าง [Flying Dragon], [Vanguard] และ [Prague] พวกนั้นสูญเสียมากกว่าเราเยอะ ผู้เล่นระดับกลางๆ ต่างตายกันจนหมด ตอนนี้ก็เหลือแค่ผู้เล่นระดับสูงเท่านั้น”

ผมเงยหน้ามองไปยัง [เมืองโบราณ] ก่อนจะหันกลับมายังกำแพงเมือง ยังคงมีคนที่คอยป้องกันอยู่ประปราย อย่างไม่ยอมแพ้ ผมยิ้มพลางกล่าว

“ดูเหมือน [ตราการค้าแห่งพระเจ้า] จะสำคัญมากนะ ดูซิ ไม่มีใครยอมแพ้หรือยอมถอยกันเลย…”

“ใช่คะ อย่างที่ทุกคนรู้ ตราการค้าแห่งพระเจ้านั้นมีค่ามหาศาลมากเลย”

“ฮ่าๆ มันก็ใช่”

……

ตอนนี้ที่ใต้กำแพงเมือง มีผู้เล่นกว่า 20000 คน กำลังตั้งกองกำลังกันอยู่ เพื่อรอมอนสเตอร์ระรอกสุดท้าย ตอนนี้บอสของระรอกสุดท้าย ต้องมีตราการค้าแห่งพระเจ้าอยู่ในกำมือแน่ๆ นี่แหละสิ่งที่เราให้ความสนใจที่สุดในศึกครั้งนี้

หลังจากผ่านไป 30 นาที ประตูหลักก็ยังคงไม่เปิดออก

“หืมมม….เกิดอะไรขึ้น? อย่าบอกว่าระรอกที่ 10 นั้น ไม่มีอยู่หรอกนะคะ?”

‘เย่วชิงเชียน’ถามขึ้น

ผมส่ายหัว

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น มารอดูต่อไปเถอะว่าจะเกิดอะไรขึ้น….”

“ค่ะ….”

แต่ดูเหมือนว่าผู้เล่นจากกิลด์ [Flying Dragon] นั้น จะทนรอไม่ไหวซะแล้ว ‘มังกรทะยาน’โบกไม้เท้าของเขาขึ้นพลางตะโกนออกมา

“นี่มันชักจะนารำคาญเกินไปแล้วนะ อย่าบอกนะว่าตราการค้าแห่งพระเจ้านั้น เป็นเรื่องที่กุขึ้นมาเอง?”

‘ฮวาเชียงอี้หูจิ่ว’กล่าวด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

“หัวหน้ากิลด์อย่าใจร้อนไป พวกเรายังไม่เสร็จสิ้นภารกิจ อีกอย่างประตูทั้งสี่ทิศก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าบอสเกิดออกมา ทุกคนจะต้องรู้ได้ทันที เพราะงั้นอย่ากังวลไป บอสตัวสุดท้ายต้องเป็นระดับ วาลคิรี่อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นต้องใช้เวลาในฆ่าพอสมควร พวกเราเพียงแค่ต้องรอจังหวะดีๆ….เพียงแต่ว่า เรามีคนน้อยเกินไป พวกเราเหลือคนไม่ถึงร้อยด้วยซ้ำ พวกเราจะไปขโมยมันยัง? หรือต่อให้บอสออกมาที่ฝั่งเรา เราก็ไม่มีกำลังพอที่จะไปสู้กับบอสได้หรอก”

ใบหน้าของ’มังกรทะยาน’ดูดุร้ายขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา

……

หลังจากผ่านไปราวๆ 2 นาที ‘มัทฉะ’ก็ทิ้งตัวลงมายังพื้นดิน เธอชี้ไปยังทิศตะวันออกพลางกล่าวออกมา

“บอสดูนั่นซิ….ดูเหมือนเสียงฝีเท้าของสัตว์กำลังใกล้เข้ามาจากตรงนั้น แต่ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น…”

“หืมมม”

ผมมองไปยังทิศนั้นด้วยกันกับทุกคน แต่ก็เห็นเพียงแค่ฝุ่นควันที่ลอยคละคลุ้งกันเท่านั้น ทันใดนั้นกลุ่มของทหายในชุดเกราะก็ปรากฏออกมา ธงของพวกเขาโบกสะบัดไปกับสายลม มันคือสัญลักษณ์แห่งเมืองป้าฮวง ในที่สุดกองทัพของ NPC ประจำเมืองก็ปรากฏออกมา

เบื้องหน้าของทหารเหล่านั้นคือชายที่ดูเหมือนจะเป็นขุนนาง เขาเดินเข้ามาพร้อมกับกุมขวานรบไว้ในมือก่อนจะตะโกนดังลั่น

“กองกำลังที่ 5 ของเมืองป้าฮวงได้รับคำสั่งให้มาโจมตี [เมืองโบราณ] ใครที่ไม่เกี่ยวข้องถอยออกไปซะ”

“บัดซบ….นี่ กองทัพ NPC ของเมืองป้าฮวงจะมาขโมยชัยชนะของเราไปงั้นเหรอ?”

‘หลี่มู่’กล่าวออกมา

“คงงั้น”

ผมพยักหน้า

“อย่าพึ่งเคลื่อนไหว เรามาดูก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันอาจจะเป็นไปได้ว่าระรอกสุดท้ายอาจจะไม่ใช่มอนสเตอร์ บางทีมันอาจจะอยู่ข้างในนั้น บอสอาจจะรอเราอยู่ข้างในกำแพงเมืองก็ได้”

เมื่อเสียงลั่นกลองรบดังขึ้น ที่ประตูด้านทิศตะวันออกของ [เมืองแห่งโบราณ] NPC กว่า 100000 คน กำลังตั้งแนวโจมตีกันอย่างแข็งขัน

ทหารแต่ละคนต่างแบกบันใด และดันรถม้าศึกไปยังกำแพงเมือง แต่ NPC นักธนูบนกำแพงก็ไม่ยอมแพ้ สาดลูกธนูลงมาราวกับห่าฝน ล้างสังหาร NPC ทหารไปหลายคน แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ถอย พวกเขาต่างเดินหน้า เหยียบย่ำศพของเพื่อนที่ตายไปอย่างไม่ย่อท้อ

บนกำแพงเมือง หนึ่งในทหารรักษาการคนหนึ่งหญิบเอาธนูยาวของเขาออกมาพลางตะโกนขึ้น

“เร็ว!!! เรียกกำลังสนับสนุน บ้าเอ้ย!! เมืองป้าฮวงเริ่มจู่โจมแล้ว ดูเหมือนเจ้าเฒ่านั่นจะไม่ได้มีดีแค่หลบอยู่หลังโล่ซะแล้ว พวกมันยังสามารถจู่โจมเราได้ด้วย ส่งมอนสเตอร์ออกไป ฆ่าทุกอย่างที่เคลื่อนไหว เมืองป้าฮวงคือของเรา เมืองหลวงที่แท้จริงคือเมืองโบราณ!!!”

จำนวนของ NPC นักธนูบนกำแพงเมืองเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้กำแพงทิศตะวันออกกลายเป็นทะเลเพลิงไปแล้ว แต่เหล่า NPC ทหารก็ยังคงสร้างบันใดเพื่อจู่โจมกำแพงเมืองอย่างไม่ย่อท้อ

น่าเสียดาย ไม่มีผู้เล่นคนใดสามารถสร้างอุปกรณ์สงครามได้ มีเพียงผู้เล่นจากกิลด์เลเวล 5 เท่านั้น ที่สามารถเรียนรู้ทักษะการสร้างได้ ตอนนี้กิลด์ระดับสูงที่สุดในเมืองป้าฮวงคือระดับ 4 ซึ่งยังคงอีกยาวไกลกว่าจะถึง

……

‘หลี่มู่’ยืนมองไปยังด้านบนพลางกล่าว

“ตอนนี้นักธนูด้านกำแพงทิศเหนือกว่า 80% หายไปหมดแล้ว เอาไงกันดี? พวกเราจะโจมตีเลยมั้ย?”

ผมกัดฟันคิดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น

“อย่าพึ่งใจร้อน พวกเราไม่มีอุปกรณ์ในการจู่โจมกำแพงเมือง พวกเราไม่มีแม้กระทั่งบันใดปีนป่าย เพราะงั้น เราจะปีนกำแพงสูง 50 เมตร ขึ้นไปยังไง?”

“มันก็จริง..”

‘เย่วชิงเชียน’ชี้ไปยังมุมหนึ่งพลางกล่าว

“พี่เซียวเหยา ดูตรงนั้นซิ..”

“หือ?”

เมืองทุกคนหันไปมอง จึงพบว่า NPC ทหารจากเมืองป้าฮวงนั้นเริ่มที่จะหยิบโล่ออกมาป้องกันหัวของตนเอง เป็นดั๋งกำแพงที่คอยป้องกันลูกธนู พวกเขาเริ่มที่จะต่อบันใดปีนป่ายเข้ากับกำแพงเมือง และเริ่มปีนขึ้นไปทีละคน

หนึ่งในแม่ทัพของ NPC ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา สะบัดขวานรบพร้อมกับตะโกนก้อง

“เจ้าพวกนักผจญภัยที่แสนขี้เกียจ ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเจ้าจะได้พิสูจน์ความจงรักภัคดีที่พวกเจ้าเคยให้สัตย์สาบาญกับดินแดนแห่งนี้แล้ว โจมตี!!! เจ้าพวกสัตว์ประหลาดแห่งเมืองโบราณจะต้องถูกกำจัด!! ปกป้องบ้านของพวกเจ้าอย่างองอาจและไม่ถอยหนี!!! ไป!!!”

“ถึงตาเราแล้วใช่มั้ยคะ?”

‘เย่วชิงเชียน’มองมาทางผมพลางถามขึ้น

ผมมองไปยังเหล่า NPC พลางครุ่นคิด สถานการณ์ตอนนี้นั้น เรายังไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้เลย

‘หวางเจี้ยน’กล่าวขึ้น

“พี่น้องเซียวเหยา พวกเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบอสที่อยู่ในเมืองโบราณเป็นแบบไหน บองทีถ้าพวกเราเข้าไปเร็วหน่อย เราอาจจะได้ประโยชน์บางอย่างก็ได้”

ผมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะกล่าวออกมา

“ชั้นกังวลนิดหน่อย…..พวกเรามีคนน้อยเกินไป พวกเรามีคนแค่ 347 คนเท่านั้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เล่นระดับสูง แต่ชั้นก็กลัวว่าพวกเราจะสูญเสียโดยไม่จำเป็น”

‘ไป๋ฉี’ยิ้มออกมา

“หัวหน้ากิลด์ นายอย่ากังวลมากจนเกินไป ตั้งแต่ที่พวกเราเข้าร่วมกับ Zhan Long พวกเราก็เชื่อมั่นในการนำของหัวหน้ากิลด์ อย่ากังวลไปเลย ต่อให้พวกเราต้องถูกบดขยี้ นั่นก็เพราะพวกเรายังแข็งแกร่งไม่พอ ไม่ใช่เพราะคำสั่งของหัวหน้า ชั้นสนับสนุนโจมตีกำแพง ยิ่งพวกเราเข้าใกล้เร็วเท่าไหร่ พวกเราก็ยิ่งมีโอกาสสร้างชื่อให้กับ Zhan Long มากขึ้นเท่านั้น”

ผมกำหมัดแน่นพลางกล่าวออกมา

“โอเคๆ ถ้างั้น พวกเราจะจู่โจมกำแพง อัศวินเอาโล่ของพวกนายออกมาเตรียมไว้ นักดาบและนักรบคลั่ง อยู่แถวสอง หมออยู่แถวสาม นักเวทกับนักธนูอยู่แถวที่สี่ แยกกันใต่กำแพงขึ้นไป ก่อนอื่นเราต้องทลายกำแพงนั่นก่อน แล้วค่อยเคลียร์พื้นที่”

“โอเค!!”

……

ผมกำดาบแห่งจักรพรรดิฉินแน่น พลางนำกองกำลังเดินหน้าเข้าไป ตอนนี้พลังป้องกันของผมมากกว่า 2400 แล้ว เจ๋งกว่าอัศวินและพระส่วนมากเสียอีก อันที่จริงผมเหมาะที่จะเป็นคนกันลูกธนูที่สุดในกิลด์เสียอีก

หลังจากที่เราอยู่ห่างจากกำแพงเมืองราวๆ 100 หลา ‘มัทฉะ’ก็เอ่ยขึ้น

“บอสอย่ารับดาเมจไปคนเดียว ไม่งั้นคุณอาจจะตายได้ แม้ว่าคุณจะมีพลังป้องกันสูงแต่คุณก็ไม่ใช่หวางจื่อเฉิง เอาแบบนี้ดีกว่า บอสกับฉันแบ่งกันคนละครึ่ง เมื่อเป็นแบบนั้น พวกเราจะเดินหน้าได้”

“ได้เลย!!”

‘มัทฉะ’กับผมเดินขนานกันไปในระยะของมือธนู ในเวลาเดียวกัน ฝนธนูก็พุ่งลงมาอย่างต่อเนื่อง พวกเราทั้งสองคนก็ค่อยๆ เคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ ทั่วร่างของพวกเราส่องสว่างอย่างต่อเนื่องด้วยผลของทักษะฮิล

หลังจากที่พวกเราฝ่ามาแล้วนั้น ก็มีผู้เล่นจากเมืองป้าฮวงจำนวนมาก เอาแบบอย่างบ้าง แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ ผมและ’มัทฉะ’สามารถทนรับดาเมจพวกนั้นได้ และไม่ตาย ในขณะที่คนอื่นๆ นั้น ไม่โชคดีเหมือนเรา ความโหดร้ายของการโจมตีของนักธนูนั้นมันรุนแรงมาก!!

ฟุบบบ

ผมรีบเข้าไปที่บันใดไต่ฟ้า ก่อนจะออกแรงปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ระยะทางแค่ 50 เมตรนั้นมันสั้นมาก หลังจากที่ผมขึ้นมาถึงบนกำแพง ผมรีบเรียกใช้ทักษะ [โล่แห่งมังกรสีชาด] ทันที พร้อมๆ กับดาบแห่งจักรพรรดิฉินร่ายรำด้วยพลังอันเต็มเปี่ยมของมัน!!!!!!

 

ที่มา

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments